หัดกุหลาบ หรือ ส่าไข้เป็นลักษณะโรคที่มักเกิดกับเด็กเล็กมาก โดยเมื่อป่วยจะมีอาการไข้สูงในช่วง 3-5 วันแรก หลังจากนั้นไข้ลดลงและมีผื่นแดง (ส่า) ขึ้นตามตัวแทน
ส่าไข้เป็นลักษณะโรคที่มักเกิดกับเด็กเล็กมาก โดยเมื่อป่วยจะมีอาการไข้สูงในช่วง 3-5 วันแรก หลังจากนั้นไข้ลดลงและมีผื่นแดง (ส่า) ขึ้นตามตัวแทน พบได้บ่อยในเด็กช่วง 6-24 เดือน
ส่าไข้เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง Human Herpesvirus Type 6 (HHV 6) โรคนี้มีชื่อทางการแพทย์ว่า Roseolar Infantum (หัดดอกกุหลาบ) หรือ Exantham Subitum หรือ Sixth Disease ซึ่งสามารถติดต่อผ่านทางน้ำลาย เช่น ไอ จาม หลายกรณีที่เด็กติดจากผู้ใหญ่ที่มีเชื้อไวรัสอยู่แต่ไม่แสดงอาการ
อาการของส่าไข้เป็นแล้วก็สามารถหายได้เองในไม่กี่วัน แต่ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่ต้องอดทนและดูแลลูกในช่วงมีไข้ไม่ให้มีอาการลุกลาม ควรปรึกษาคุณหมอหากอาการไม่ดีขึ้น หรือหากมีอาการชัก ควรรีบพาลูกไปตรวจรักษาทันที
ผื่นจะเกิดขึ้นหลังวันที่ไข้ลดประมาณวันที่ 3-5 นั้น คุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องทายา ทาแป้ง หรือถูแรงเพื่อให้ผื่นหายเร็วๆ อาจจะทำให้ผิวบางๆ ของลูกอักเสบ ควรเช็ดตัวอย่างเบามือเช่นเคยค่ะ
ผื่นจากส่าไข้จะไม่ทำให้ลูกน้อยคันแต่อย่างใด แต่หากลูกคันอาจจะเกิดจากสาเหตุอื่น ซึ่งควรพบคุณหมอจะดีกว่า หากดูแลเกิน 3-5 วัน ไข้ยังไม่ลด อาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ มีอาการชัก อาเจียน หายใจหอบ ควรปรึกษาแพทย์เช่นกันค่ะ
เพราะโรคนี้เป็นเองหายเอง เพียงแต่ระหว่างที่เป็นคุณพ่อคุณแม่ต้องดูแลลูกน้อยอย่างดี เพราะอาจจะเกิดอาการแทรกซ้อนเกิดขึ้น เช่น อาการชักเพราะไข้สูงเกิดนั้นเองค่ะ
หากลูกน้อยเป็นโรคหัด ในวันที่ 4 ของอาการไข้ ลูกน้อยจะมีผื่นขึ้น มีอาการไอที่รุนแรงมากกว่า โดยผื่นจะเริ่มขึ้นบริเวณหน้าก่อน ลามมาตามตัวไปจนถึงขา เมื่อผื่นถึงขาแล้วไข้จึงจะลด และหลังผื่นหายอาจจะมีรอยดำจางๆ ขณะที่ส่าไข้จะไม่เหลือรอยจางใดๆ ที่ผิวลูกน้อย ลักษณะตุ่มหนองหรือตุ่มใส คืออาการของโรคอีสุกอีใส และหากมีตุ่มหนองก็ควรรีบพบคุณหมอ เพราอาจจะเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดรุนแรง ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ค่ะ