แม้จะรู้ว่าอาการซนเป็นธรรมชาติของเด็กๆ แต่ช่วงล็อคดาวน์แบบนี้พ่อแม่จะรับมือกับจอมซนยังไง มาดูกันค่ะ
พ่อแม่อยู่บ้านช่วงนี้อาจเห็นลูกกระโดดโลดเต้นทั้งวัน สงสารลูกเถอะค่ะ โรงเรียนก็ไม่ได้ไป เพื่อนก็ไม่ได้เจอ จะออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านก็น่ากลัวโควิด 19 ไม่น้อย ลูกอยู่ไม่นิ่งซนเหมือนลิง ถึงจะเป็นพัฒนาการตามวัย แต่ความปลอดภัยลูกก็สำคัญ พลัดตกหกล้มมาอาจเจ็บตัวได้ มาลองดู 5 วิธีรับมือลูกจอมซนกัน
เป็นวิธีที่ได้ผลดีในเด็กเล็ก เพราะเด็กยังมีความสนใจ หรือสมาธิค่อนข้างสั้น จึงสามารถใช้วิธีเบี่ยงเบนให้เด็กหันไปสนใจอย่างอื่นแทน เพื่อหยุดพฤติกรรมที่ไม่ต้องการได้ เช่น หากเด็กกำลังเล่นของที่แตกหัก ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้ อาจชวนให้เด็กเล่นอย่างอื่นแทน
เพราะว่าชอบซน วิ่งเล่น พูดไม่ฟัง ดังนั้นหากิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานเยอะๆ ให้ทำไปเลยค่ะ เผื่อจะได้เผาผลาญพลังงานออกไปในช่วงวัยนี้ เช่น เล่นปีนป่าย ปีนต้นไม้ ปั่นจักรยานรอบๆ บ้าน เล่นกระบะทรายให้ลูกได้ใช้พลังงานเยอะๆ ในทางที่เหมาะสม
เทคนิคนี้เป็นเทคนิคจากคุณแม่ต่างชาติที่ลูกชอบกระโดดบนโซฟามากๆ คุณแม่ใช้วีธีการปรับเงิน ถ้ากระโดดจะโดนปรับ 1 เหรียญ ซึ่งคุณแม่บอกว่าได้ผลมาก ยิ่งช่วงนี้ไม่ได้ไปโรงเรียน ลูกไม่มีค่าขนมก็ต้องประหยัดอดออมกันหน่อยละ
ในการปรับพฤติกรรมของเด็กซน บางครั้งอาจต้องมีการลงโทษกันบ้าง แต่วิธีลงโทษนั้นมีหลายแบบค่ะ การที่เราทำข้อตกลงกับลูกไว้ บอกเขาว่าถ้าหนูทำตามนี้ได้ หนูจะได้รางวัล ถ้าหนูทำตามนี้ไม่ได้ แม่จะงดรางวัล การงดรางวัลหรืองดทำกิจกรรม ที่เขาชอบถือเป็นการทำโทษแบบหนึ่งค่ะ ไม่แนะนำให้ลงโทษ โดยใช้ความรุนแรงหรือต่อว่าเขาให้อับอาย แต่เราควรจะใช้วิธีทำโทษแบบ positive มากกว่า เมื่อทำดีก็ได้รางวัล ทำไม่ดีก็ไม่ได้ แล้วคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ต้องใส่อารามร์อะไรกับลูก เขาเองจะเรียนรู้ว่าเมื่อเขาทำดีก็จะได้ดี เมื่อทำไม่ดีก็จะไม่ได้สิ่งที่เขาต้องการค่ะ
เด็กอยู่บ้านนานย่อมรู้สึกเบื่อเป็นปกติอยู่แล้ว พ่อแม่ลองเปิดยูทูปแล้วหากิจกรรมการทดลองง่ายๆ ที่ใช้อุปกรณ์ในบ้านมาทดลองทำกับลูกดูค่ะ ช่วยเบี่ยงเบนความสนใจและลดความซนของลูกได้ด้วย
ที่สำคัญอยู่บ้านกับลูกต้องสร้างวินัยให้เขาด้วย ให้กิน นอน เล่น เป็นเวลา พ่อแม่เองก็เช่นกัน ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูก รวมถึงต้องไม่แก้ปัญหาด้วยการยื่นมือถือให้ลูกค่ะ เพราะถ้าเรายื่นไปให้เขาเมื่อไหร่ หนทางที่เขาจะกลับมาวิ่งเล่นกับพ่อแม่นั้นก็จะน้อยลงทันที สุดท้ายวิธีรับมือกันเด็กซนที่สำคัญที่สุด คือ พ่อแม่เองต้องอดทน อย่าใช้อารมณ์กับลูก การปรับพฤติกรรมจะสำเร็จได้ต้องอยู่บนพื้นฐานความสัมพันธ์ที่ดีค่ะ