ปัจจุบันทุกๆ บ้านมักจะเอาเทคโนโลยีเข้ามาเลี้ยงลูก หรือตามใจลูกปล่อยให้ดูทีวีทั้งวัน แต่ทราบหรือไม่ว่ามีผลต่อพัฒนาการของลูกอย่างมากหากไม่กำหนดเวลาดูให้เหมาะสม เพราะเด็กในวัยต่ำกว่า 3 ขวบ ไม่ควรเล่นหรือดูสื่อเหล่านี้เด็ดขาด มาดูผลเสียที่ตามมากันค่ะ
เด็กขาดพัฒนาการการด้านการสื่อสาร แท็บเล็ตและทีวี เป็นการสื่อสารทางเดียว ทำให้เด็กขาดพัฒนาการการด้านการสื่อสาร และความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงส่งผลให้เด็กพูดช้าและพูดไม่ชัด
มีส่วนทำลายสมอง การที่เด็กๆ จ้องมองจอภาพเป็นเวลานานมีส่วนทำลายสมอง และทำให้ประสิทธิภาพเรื่องความจำถดถอยลง เด็กจะไอคิวต่ำไม่ได้มาตฐาน
ความสามารถในการสื่อสารจะลดลง หรือพัฒนาการทางสมองช้านั่นเอง เด็กที่ไม่เล่นแท็บเล็ต ไม่ดูทีวี เด็กเหล่านี้จะชอบสังเกตสิ่งรอบข้างและทำกิจกรรมกับครอบครัวดังนั้นจึงมีไอคิวสูงมากกว่าเด็กที่ชอบอยู่กับหน้าจอ
ร่างกายไม่แข็งแรง เด็กจะเคลื่อนไหวไม่คล่องแคล่ว เหนื่อยง่าย เพราะนั่งนิ่งๆ เป็นเวลานาน ขาดการเคลื่อนไหวออกกำลังกายตามที่ควรจะเป็น หรืออีกแบบคือจะกลายเป็นเด็กขี้เกียจ
ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เพราะเด็กเริ่มแยกแยะโลกของอินเทอร์เน็ต กับความจริงไม่ได้ เด็กมักจะหงุดหงิดง่าย ใจร้อน รอคอยไม่เป็น
ขาดทักษะการสื่อสารและเข้าสังคม เหมือนที่ใครๆ พูดว่าสังคมก้มหน้านั่นแหละ แต่ในเด็กจะเป็นมากกว่าเพราะเด็กไม่รู้ว่าอะไรเหมาะสม พ่อกับแม่ต้องคอยควบคุม หากปล่อยให้อยู่หน้าจอจนเคยชินแบบนี้ เด็กจะไม่มีสังคมไม่คุยกับใครเลย
ขาดสมาธิ เด็กจะไม่มีใจจดจ่อกับกิจกรรมอะไรที่ต้องใช้สมาธิ หรือสมองในการแก้ปัญหา เพราะเคยเจอแต่หน้าจอที่แสดงสีสันสดใส เคลื่อนไหวได้รวดเร็วทันใจ อาจจะกลายเป็นเด็กสมาธิสั้นไปเลยก็ได้
สำหรับเด็ก วัย 3 ขวบขึ้นไป สามารถเล่นหรือดูได้ แต่ต้องจำกัดเวลาในการเล่น รวมแล้วไม่ควรเกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อป้องกันไม่ให้มีปัญหาทางพัฒนาการตามมาค่ะ