เลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เพื่อลูกน้อยมีพัฒนาการสมวัยอย่างมีความสุข
สภาพอากาศและมลพิษต่างๆ ที่อยู่รอบตัว เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดปัญหา ผด ผื่น คัน ทำให้ลูกน้อย ไม่สบายตัวได้ง่าย พ่อแม่จึงต้องใส่ใจเลือกผลิตภัณฑ์ที่มั่นใจได้ว่าปลอดภัยไร้สารตกค้าง เพื่อสุขภาพที่ดีและการเรียนรู้ไม่มีสะดุดของลูกน้อย
เพราะการเรียนรู้อย่างมีศักยภาพในทุกๆ วันของลูก เริ่มต้นที่การใส่ใจดูแลของพ่อแม่ โดยเฉพาะการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับลูกน้อยยิ่งเป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้ เช่นเดียวกับคุณบีม-วาทิน และคุณออย-สริน วงศ์สุรไกร ที่ให้ความสำคัญกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มั่นใจได้ว่าปลอดภัยไร้สารตกค้าง เช่น แป้งที่ผลิตจากแป้งข้าวเจ้าธรรมชาติ ปราศจากทัลคัม ที่ดีทั้งต่อลูกน้อยและความสบายใจของคุณพ่อคุณแม่
เลือกผลิตภัณฑ์ที่มั่นใจว่าปลอดภัยกับลูกน้อย
“เราให้ความสำคัญกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กับลูกมากๆ ซึ่งกับ
น้องเนวี่-ภูวภัทร วงศ์สุรไกร ลูกชายคนโตวัย 2 ขวบ เราก็ต้องแน่ใจว่าน้องเนวี่ใช้จริงแล้วดี ไม่แพ้ ไม่ทำให้เขาไม่สบาย เช่น การเลือกขวดนม อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในห้องน้ำ โดยเฉพาะแป้งทาตัว เราเลือกแป้งที่ใช้แป้งข้าวเจ้าเป็นส่วนประกอบหลัก ไม่มีสารทัลคัม จึงมั่นใจได้ถึงความ ปลอยภัยแน่นอน
“เนื่องจากเราทำผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ผ่านการคิดค้นวิจัยเอง ผลิตเอง รวมถึงได้ทดลองใช้เองด้วย จึงกล้าใช้กับลูก เพราะมั่นใจได้ว่าปลอดภัย ซึ่งจริงๆ คุณหมอจะไม่แนะนำให้ใช้แป้งเด็ก เพราะแป้งเด็กทั่วไปมีส่วนผสมของสารทัลคัม แต่พอเราทำของเราเอง ก็จะรู้ว่าไม่มีสารตกค้าง และต้องใช้ให้ถูกวิธี ในปริมาณที่เหมาะสม ทาในจุดที่จำเป็นเท่านั้น โอกาสที่หกเลอะเทอะ หรือลูกจะสูดดมเข้าไปก็น้อยมาก
ทุกวันนี้เนวี่ก็ยังใช้อยู่ โดยเฉพาะแป้งแบบตลับที่ใช้ทาสะดวกมากขึ้น ทำให้เกิดความฟุ้งน้อยกว่า ที่สำคัญไม่มีน้ำหอมด้วย เหมาะมากเพราะน้องเนวี่เป็นคนชอบทำกิจกรรม เคลื่อนไหวร่างกายอยู่ตลอด จึงมีเหงื่อออกง่าย พอเราทาให้ เขาก็สบายตัวมากขึ้น เล่นได้เต็มที่ไม่มีสะดุด นอนหลับสนิทตอนกลางคืน มีส่วนช่วยให้น้องเนวี่มีพัฒนาการที่ดีขึ้นด้วย”
พัฒนาการดี เริ่มต้นที่ความใส่ใจจากพ่อแม่
“ตอนนี้เนวี่เริ่มไปโรงเรียนแล้ว สังเกตเห็นเลยว่าเขาปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้ง่าย อาจเป็นเพราะเราเลี้ยงเนวี่ให้เจอกับคนหลากหลาย พาไปเที่ยวนอกบ้านบ่อยๆ เขาก็เลยได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ได้คำศัพท์เพิ่มเติม ซึ่งการส่งเสริมพัฒนาการลูก เราเริ่มจากเรื่องที่ลูกสนใจก่อน เท่าที่สังเกตเวลาที่เนวี่ได้ออกไปเรียนรู้หรือเวลาที่พาไปท่องเที่ยวหาประสบการณ์ใหม่ๆ เขาก็จะแอคทีฟมากขึ้น อารมณ์ดี ช่างพูดคุย ช่างซักถาม มีพัฒนาการที่ดีขึ้นจนเห็นได้ชัด
เป็นเพราะเราเป็นแบบอย่างให้เขาด้วย เช่น เรื่องกิน พ่อแม่ไม่กินหวาน กินอาหารหลากหลาย เขาก็ได้เราไปเต็มๆ กลายเป็นเด็กไม่ติดหวาน ไม่ค่อยกินน้ำหวาน ไม่ชอบกินลูกอม และกินได้หลากหลายเหมือนเรา นอกจากการดูแลและฝึกวินัยในชีวิตประจำวัน อย่างการฝึกให้เข้าห้องน้ำ การแต่งตัวและถอดรองเท้าเอง การเล่านิทานก็ช่วยเสริมพัฒนาการและฝึกวินัยได้ไปในตัวได้เหมือนกัน พอเขาโตขึ้นเราก็เพิ่มความซับซ้อนของเรื่องราวและเติมคำศัพท์ใหม่ๆ เข้าไปได้มากขึ้นด้วย”
พร้อมต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัว
“ตอนนี้ท้อง 37 สัปดาห์แล้ว ซึ่งท้องสองเราก็ยังรู้สึกตื่นเต้นกัน เพราะได้ลูกสาวสมใจ และพยายามดูแลตัวเอง เน้นกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลี่ยงของหวาน คอยปรึกษาคุณหมอตลอดว่ากินอะไรได้บ้าง ทำอะไรได้บ้าง หลังคลอดจะได้แข็งแรงไวๆ ไม่ต้องมานั่งลดน้ำหนัก มาท้องนี้หลายอย่างเราจัดการได้ดีขึ้น รู้ว่าขั้นตอนไหนต้องทำอะไร รู้ว่าต้องเพิ่มต้องลดอะไร เหลือแต่ของที่จำเป็นจริงๆ
ส่วนน้องเนวี่เราก็คุยกับเขาตลอดว่ากำลังมีน้องแล้วนะ หรืออ่านหนังสือนิทานเกี่ยวกับพี่น้อง เกี่ยวกับครอบครัวให้เขาฟัง ตอนนี้เนวี่รู้แล้วว่าน้องชื่ออะไร เขาสามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้าง พยายามให้เขามีส่วนร่วม รู้สึกถึงความเป็นพี่ที่ต้องปกป้องดูแลน้อง เหมือนกับเราก็ใช้โอกาสนี้ฝึกวินัยน้องเนวี่ไปในตัว เช่น ตอนไม่ยอมกินข้าว เราก็บอกว่า เนวี่เป็นพี่แล้วนะ ต้องกินข้าวนะ เขาก็จะทำตาม”
ใส่ใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดวันนี้ ดีต่อสุขภาพลูกระยะยาว
“เพราะ 3 ขวบปีแรกสำคัญที่สุด เราสองคนจึงอยากให้เวลากับลูกมากๆ ซึ่งโชคดีที่เราทำธุรกิจส่วนตัว ก็จะมีเวลาอยู่กับลูกได้มาก ใช้โอกาสนี้ที่จะใกล้ชิดเขา เพราะเมื่อเวลาผ่านไปเราย้อนกลับไม่ได้แล้ว
วัยนี้จึงเป็นช่วงที่เราต้องดูแลไม่ให้เขาเจ็บป่วยง่าย เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มั่นใจได้ว่าดีและปลอดภัยต่อลูกจริงๆ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทุกด้านให้เขาอย่างเต็มที่ เพราะถ้าลูกไม่ป่วย ร่างกายแข็งแรง มีความสุข ก็มีแรงเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้มากทำให้ครอบครัวเรามีความสุข และพร้อมต้อนรับสมาชิกใหม่อย่างมั่นใจมากขึ้น”