กระทรวงสาธารณสุขแนะให้เด็กวัยเรียนกินไข่วันละ 1 ฟอง ควบคู่กับการดื่มนม 2 แก้วต่อวัน ร่วมกับอาหารหลัก 5 หมู่ จะช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโต กระตุ้นระบบประสาทและสมอง เนื่องจากไข่เป็นแหล่งโปรตีนที่มีคุณภาพสูง หาได้ง่าย และเหมาะสมสำหรับทุกเพศ ทุกวัย เป็นแหล่งของแร่ธาตุและวิตามิน อย่างธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ วิตามินบี 1 บี 2 บี 6 บี 12 วิตามินอี วิตามินดี โฟเลต เลซิธิน ลูทีน ซีแซนทีนและโคลีน ที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย
ไข่ไก่ 1 ฟอง ให้พลังงาน 80 กิโลแคลอรี และมีโปรตีนที่มีคุณภาพดีที่สุด มีประสิทธิภาพในการดูดซึมสูงกว่าอาหารชนิดอื่น ซึ่งมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย 9 ชนิด ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตและการทำงานของระบบประสาท กระตุ้นการทำงานของสมอง เสริมสมาธิและความจำ โดยเฉพาะเด็กวัยเรียนควรได้กินไข่ทุกวัน ควบคู่กับการดื่มนมวันละ 2 แก้ว และควรออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน วันละ 60 นาที หรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน เพื่อให้เด็กเจริญเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย ให้คำแนะนำว่าเด็กแต่ละวัยจะบริโภคไข่ในปริมาณที่ต่างกัน
นอกจากนี้ควรเลี่ยงการกินไข่ดิบ เพราะอาจปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ และไข่ขาวที่ไม่สุกจะขัดขวางการดูดซึมไบโอติน ซึ่งเป็นวิตามินบีชนิดหนึ่งในลำไส้ ทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมวิตามินบีชนิดนั้นไปใช้ประโยชน์ได้ และควรกินในรูปแบบไข่ต้ม ไข่ตุ๋น จะมีปริมาณไขมันน้อยกว่าไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ลูกเขย หรืออาจกินเป็นสลัดไข่ ยำไข่ เพราะจะทำให้ได้สารอาหารที่มีประโยชน์จากไข่ และได้ใยอาหาร วิตามินและแร่ธาตุจากผัก ส่วนอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงคือ ขนมปังไข่ดาวใส่เบคอนหรือไส้กรอก เพราะจะได้รับปริมาณไขมันสูงมากจากเบคอน น้ำมันที่ใช้ทอดและเนยที่ทาขนมปัง
ที่มา : ThaiPBS