เด็กป่วยต้องการพลังงานจากอาหารมาช่วยฟื้นตัวจากอาการป่วยไข้ หากลูกได้รับอาหารบำรุงที่เหมาะสม แน่นอนว่าจะช่วยให้หายจากอาการไม่สบายได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อเด็กป่วยสภาพร่างกายและจิตใจจะเปลี่ยนแปลงไปจากปกติ อาจจะอ่อนเพลีย กินอาหารได้น้อยลง หรือไม่อยากกินอะไรเลย ร้องไห้ งอแง ซึม ช่วงที่ลูกป่วยนี้จึงต้องจัดเตรียมอาหารสำหรับลูกเป็นพิเศษ และต้องคอยเอาใจใส่ให้ลูกกินอาหารให้เพียงพอเพื่อฟื้นฟูร่างกาย
ขอแนะนำอาหารที่เหมาะกับการป่วยแต่ละอย่างสำหรับเด็กตั้งแต่วัย 1-3 ปี
ซุปไก่แก้หวัด
โรคหวัดเป็นโรคยอดฮิตในเด็กเลยก็ว่าได้ ถึงจะไม่ใช่โรคร้ายแรงแต่ต้องเอาใจใส่ในการดูแลรักษาพอสมควร เมื่อเป็นหวัดเด็กมักจะกินอาหารได้น้อยลง อ่อนเพลีย การรักษาโรคหวัดที่ดีที่สุดก็คือ พักผ่อนให้มากๆ กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะๆ ควรจะเป็นน้ำอุ่น จะช่วยบรรเทาอาการคั่งของทางเดินหายใจได้ดี ช่วยให้ชุ่มคอ และการสูดไอน้ำเข้าทางจมูกยังช่วยทำให้อาการคัดจมูกลดลง จะเป็นน้ำมะนาว น้ำมะตูมหรือน้ำผลไม้อุ่นๆก็ได้ ไม่ควรดื่มน้ำเย็น เพราะความเย็นจะทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายชะลอตัวลง ได้
อาหารที่บรรเทาโรคหวัดและโรคทางเดินหายใจได้อีกอย่างหนึ่งคือซุปไก่ ไม่ใช่ซุปไก่สกัดราคาแพงที่วางขายตามท้องตลาด แต่เป็นซุปไก่ธรรมดาที่คุณแม่สามารถทำเองได้ ในซุปไก่มีกรดอะมิโนตัวหนึ่งที่ทำหน้าที่คล้ายยาที่ช่วยในการรักษาอาการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ สามารถลดอาการไอ และเจ็บหน้าอกจากโรคหวัดได้
ในเด็กโตหน่อยอาจเติมหอม กระเทียมสับละเอียด และพริกไทยลงไปในซุปไก่ด้วยก็ได้ เพราะหอม กระเทียมก็มีสรรพคุณในการบรรเทาอาการหวัด ได้ และการกินซุปไก่เพื่อบรรเทาอาการหวัดนั้นควรตักจิบทีละช้อนช้าๆ
เด็กที่เป็นหวัดมักเบื่ออาหารนอกจากซุปไก่แล้ว ควรจะให้ลูกดื่มน้ำเต้าหู้ น้ำแกง น้ำผลไม้มากๆ เพื่อทำให้น้ำมูกไม่เหนียวข้น และช่วยให้เด็กสดชื่น
ลูกเป็นไข้มักเบื่ออาหาร
เด็กที่เป็นไข้มักจะเบื่ออาหาร บางครั้งยังอาจจะมีอาการอาเจียน หรือปวดท้องร่วมด้วย ทำให้กินอาหารและน้ำได้น้อยลง ซึ่งการขาดน้ำและอาหารยิ่งจะทำให้เด็กอ่อนเพลียและมีไข้สูงยิ่งขึ้น พ่อแม่จึงควรพยายามให้ลูกดื่มน้ำหรือของเหลวอื่นๆ เพิ่มให้มากขึ้น เพื่อป้องกันเซลล์ของร่างกายขาดน้ำและเพื่อช่วยลดไข้ด้วย เช่น ให้ดื่มน้ำหวาน น้ำผลไม้ น้ำแกง ซุป นม หรือน้ำเต้าหู้
ส่วนอาหารอื่นๆ ควรเป็นอาหารอ่อน หรืออาหารเหลวๆ เคี้ยวง่าย ย่อยง่าย เป็นอาหารที่มีน้ำเพียงพอ เพื่อช่วยให้ร่างกายย่อยและดูดซึมสารอาหารไปใช้ได้เร็วขึ้น ควรเป็นอาหารที่มีกากใยน้อย เพื่อไม่ให้ทำความระคายเคืองแก่ระบบทางเดินอาหารด้วย เช่น โจ๊กเละๆ ที่ไม่ข้นมาก หรือข้าวต้ม ใส่เนื้อสัตว์บดละเอียด เช่น หมูบด ไก่บด เป็นต้น หรือถ้าจะให้อาหารปกติก็อาจจะเป็นข้าวกับแกงจืด
แต่ปัญหาก็คือ เด็กที่เป็นไข้มักจะปฏิเสธอาหารทุกชนิด ดังนั้นจึงไม่ควรจะคะยั้นคะยอให้ลูกกิน แต่ควรจะป้อนหรือให้เด็กค่อยๆ กินช้าๆ ได้ และให้ครั้งละน้อยๆ แต่บ่อยครั้งจะดีกว่า
อาหารระบายท้องสำหรับลูกท้องผูก
การป้องกันท้องผูกในเด็กเล็กก็คือ ให้ดื่มน้ำนมแม่ หรือชงนมในอัตราส่วนที่พอเหมาะ ไม่ชงข้นเกินไป ให้ดื่มน้ำผลไม้ หัดให้เด็กกินผัก ผลไม้มากๆ ถ้าลูกมีอาการท้องผูกมากๆ อาจจะให้ดื่มน้ำลูกพรุน เพราะมีสรรพคุณในการระบายได้ดี
ในเด็กโตควรให้เกินอาหารที่กระตุ้นให้กล้ามเนื้อผนังลำไส้ใหญ่ทำงาน ได้แก่อาหารที่มีกากใยมาก เช่น ผัก ผลไม้สด ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีต เป็นต้น
ลูกท้องเสียงดอาหารดีไหม
อาการท้องเสียทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่ไปอย่างรวดเร็ว ในระยะที่มีอาการท้องเสียเฉียบพลัน ต้องให้เด็กนอนพักผ่อนให้เต็มที่ ถ้าเด็กสูญเสียน้ำมากควรให้เด็กดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำและเกลือแร่ของร่างกาย งดอาหารแข็ง อาหารรสจัด และอาหารที่มีกาก เมื่ออาการท้องเสียทุเลาจึงให้อาการเหลวใส อาหารเหลวข้น หรืออาหารอ่อนย่อยง่าย เช่น น้ำข้าวใส่เกลือ ซุปใส ข้าวต้ม โจ๊ก หรือให้น้ำหวาน ในเด็กที่ท้องเสียไม่ควรงดอาหารเพราะจะทำให้เด็กขาดอาหารและอ่อนเพลีย
สำหรับน้ำเกลือแร่ที่จะให้ทดแทนน้ำนั้นให้ผสมผงน้ำตาลเกลือแร่ขององค์การเภสัชกรรมกับน้ำสุก ให้ดื่มต่างน้ำบ่อยๆ ครั้งละ 1-2 ถ้วย หรือจะใช้น้ำเกลือผสมเองก็ได้ โดยใช้น้ำสุก 1 ขวด (ขนาดขวดแม่โขงกลม หรือขวดน้ำปลา) ผสมน้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ และเกลือป่น 1/2 ช้อนชา หรือน้ำข้าวต้มใส่เกลือ (ใส่เกลือ 1/2 ช้อนชา ลงในน้ำข้าว 1 ขวด)
ในเด็กเล็กควรงดให้นมผสมสัก 2-4 ชั่วโมง แล้วค่อยเริ่มให้นมผสมได้ตามปกติ ส่วนในเด็กที่กินนมแม่ให้กินนมแม่ได้ตามปกติ
หลังป่วยเด็กก็ควรได้รับอาหารที่ให้มีพลังงานสูง เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ แป้งและน้ำตาล เพื่อฟื้นฟูร่างกายที่อ่อนแอจากการสูญเสียน้ำและเกลือแร่