"ผัก" ของที่ควรกินแต่เจ้าตัวน้อยมองเป็นศัตรู
ศัตรูเต็งหนึ่งในใจหนูๆ ส่วนใหญ่เห็นจะเป็นผักนี่ล่ะ แต่แหม..ผัก หรือก็มีประโยชน์ไม่ใช่น้อยจะให้แม่วางเฉยปล่อยเลยคงไม่ได้ แต่ครั้นจะให้เปิดศึกบนโต๊ะ อาหารกับลูกทุกมื้อๆ ก็คงไม่ไหวอีกเหมือนกัน แล้วทีนี้จะทำไงดีล่ะเนี่ย
มีไม่น้อยหรอกค่ะที่ตอนเป็นเบบี๋ไม่ว่าผัก แบบไหนที่แม่ปรุงให้ก็กินได้หม่ำดี แต่พอวิ่งได้ รู้จักเลือกรู้จักสั่นหัวปฏิเสธเป็นเท่านั้นแหละ ไม่ว่าจะผักหน้าไหนก็ทำเมินไป เสียอย่างนั้น แล้วก็มีไม่น้อยอีกเหมือนกันที่
* ถูกเคี่ยวเข็ญบังคังให้กินผักทั้งๆ ที่หนูยังไม่พร้อมจะรับอาหารแบบนี้
* ไม่ถูกโฉลกกับกลิ่นของผักบางชนิด เช่น คะน้า ต้นหอม บล็อกโคลี เป็นต้น พอได้ลองไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็เหมารวมเอาซะเลยว่าถ้าเป็นผักฉันขอบาย
* รู้สึกไม่ชอบอกชอบใจกับกากใยของผักที่ถูกลิ้นแล้วทำให้รู้สึกสากๆ
* ไม่ได้รับการฝึกฝนให้หัดเคี้ยว หัดกินอาหารตามขั้นพัฒนาการของร่างกาย พอ โตมาจะให้เคี้ยวอะไรเป็นชิ้นเป็นอันอย่างผักเนี่ยไม่ไหวมั้ง
* ไม่กินผักเพราะไม่เห็นมีใครในบ้านเขากินกันนี่ แสดงว่ามันคงไม่อร่อยมั้ง
มาลบเสียงยี้กัน
* ตำราของคุณแม่บางคนบอกว่าให้เริ่มที่ผักชนิดไม่มีกลิ่นฉุนก่อน แต่จาก ประสบการณ์ของคุณแม่บางท่านก็บอกว่าให้เริ่มที่ผักมีกลิ่นฉุนก่อน เพราะตอนเล็กๆ ยังไม่ รู้จักเปรียบเทียบกินไปอีกหน่อยก็ชิน แม่ที่มีลูกเล็กจะใช้แบบไหนก็ลองเลือกดูแล้วกัน แต่อย่า ลืมว่าผักของลูกต้องเปื่อยนิ่มนะคะ และอย่าปล่อยให้ช่วงขวบปีแรกผ่านไปโดยที่คุณไม่ได้ฝึก เรื่องกินอาหารให้แกเลย เดี๋ยวจะมานั่งกลุ้มใจเอาตอนโตเพราะฝึกยากกว่ากันเยอะ
* หันไปพึ่งผลไม้ผู้ช่วยตัวสำคัญของคุณแม่ เพราะเด็กๆ ต้องชอบรสหวานของผล ไม้อยู่แล้วล่ะ เลือกเอาชนิดที่เขาชอบ ที่สำคัญอย่าคั้นแต่น้ำให้กินเท่านั้นนะ ไม่อย่างนั้นก็ ได้แต่วิตามิน ใยอาหารก็ไม่ได้ค่ะ
* ใช้ตำราเมนูซ่อนรูปพลิกแพลงเจ้าผักศัตรูตัวดีของลูกให้หลากหลายทั้งหน้าตา สีสัน จะชุบแป้งทอด ยัดไส้ ก็น่าลองนะคะ
* ขอเมนูสลัด เมนูชนิดนี้จะช่วยให้คุณแม่จัดผักให้ลูกทานได้หลากหลาย โดยอาจ จะเริ่มจากผักชนิดที่ลูกชอบก่อนแล้วค่อยผสมผักชนิดอื่นๆ ลงไป โดยที่มีผลไม้หรือถั่วต่างๆ ผสมไปช่วยเพิ่มสีสันและรสชาติด้วย
* ขนมกรุบกรอบประเภทข้าวเกรียบผักก็พอได้ แต่ก็ได้วิตามินไม่เต็มที่เท่ากับ ผัก ผลไม้สดหรอกค่ะ
* เปิดแปลงสวนครัวเล็กๆ ไว้หลังบ้าน ให้โอกาสลูกเป็นเกษตรกรตัวน้อย เลือกผักที่ปลูกง่าย เช่น ถั่วงอก ผักบุ้ง กวางตุ้ง ตำลึง ต้นหอม เป็นต้น เป็นแรงจูงใจ ให้ลูกอยากทดลองกินผักฝีมือตัวเอง แล้วยังลดโอกาสเสี่ยงกับสารพิษที่ติดมากับผักซื้อจาก ตลาดด้วย
* ปรุงรสชาติอาหารในจานหนูได้แล้ว เด็กๆ วัยพ้นขวบไปแล้วคุณแม่สามารถใช้ ซอส เครื่องปรุง ปรุงอาหารของลูกให้มีรสมีชาติได้แล้ว และอย่าลืมจัดหน้าตาอาหาร อุปกรณ์จาน ชาม ช้อนที่ใช้ให้เชิญชวนด้วยล่ะ
* กินให้เห็นเป็นตัวอย่าง วิธีนี้ต้องอาศัยเวลา บวกกับคำชักชวนบ้าง แต่ไม่บังคับ คะยั้นคะยอเดี๋ยวจะไปกันใหญ่ และอย่าลืมว่าลูกไม่จำเป็นต้องกินผักให้ได้ทุกอย่าง แค่พอกิน ได้ก็ชื่นใจแล้ว
* รับลูกมือตัวเล็กเข้าครัวด้วยสักคน จะให้เด็ดผัก ล้างผักก็ได้ แล้วพอขึ้นโต๊ะ อย่าลืมป้อนลูกยอให้ใจพองและอยากกินด้วยนะคะ "พ่อจานนี้ฝีมือน้องตาลนะ" ส่วนคุณพ่อ และคนอื่นๆ ก็ผสมโรงกระตือรือร้นกับจานนี้ร่วมด้วยอีกแรง ลองแผนนี้ดูนะคะ
* เปลี่ยนบรรยากาศบนโต๊ะให้สดสวยชวนกินด้วยเมนูจากดอกไม้ อันนี้คงพอได้ ยินกันมาบ้างนะคะ ว่าดอกไม้หลายชนิดในบ้านเราสามารถเอามาทำเป็นอาหารได้ และ ความสดสวยของดอกไม้น่าจะเป็นเมนูแปลกตาพอที่จะช่วยลดอคติ "เกลียดผัก" ในใจลูกลง ได้บ้าง แต่ก่อนที่จะเลือกเอาดอกไม้มาปรุงอาหารควรเลือกกันหน่อยค่ะว่า ดอกไหนกินได้ ไม่เป็นอันตรายและต้องนึกถึงความสะอาดเป็นสำคัญด้วย ดอกไม้ที่กินได้ส่วนใหญ่เป็น ดอกไม้ของไทยเรานี่ล่ะ เช่น ดอกขจร ดอกโสน ดอกแค ดอกพวงชมพู ดอกกระเจียว ดอกฟักทอง เป็นต้น ส่วนจะผัด ทอด ลวก จิ้มหรือแกงจืดก็ได้ทั้งนั้น
ลองหยิบไปใช้ดูอาจจะใช้ได้ผลสักแผนก็ได้น่า