หลายบ้านเดินป้อนข้าวทั่วบ้าน ในสนาม ที่สนามเด็กเล่น เราพบเห็นเป็นประจำ ไม่มีอะไรรีบและถ้าจะอ้างว่าก็ไม่เห็นมีอะไรเสียหาย ก็น่าจะใช่ เหตุเพราะโลกเป็นเช่นนั้นเอง
คือโลกที่มีงานรอให้ทุกคนเมื่อเรียนจบหรือเป็นผู้ใหญ่ งานส่วนมากไม่ซับซ้อน งานในออฟฟิศ โรงงานหรือในภาคเกษตรกรรม มีลักษณะการทำงานเป็นขั้นเป็นตอนเหมือนสายพานในโรงงาน แม้แต่งานวิชาชีพ เช่น แพทย์ พยาบาล วิศวกรรม สถาปัตยกรรม ฯลฯ ทำไปตามสายพานมาตรฐาน ผลงานก็จะดีได้ง่ายๆ
โลกเปลี่ยนไปแล้ว ตำรามิได้มีเพียงตำรามาตรฐาน มีความรู้นอกเหนือมาตรฐานคือถูกบ้างผิดบ้างอยู่ทั่วไปในอินเทอร์เน็ต มีเคล็ดลับและหลุมพรางมากมายรอลูกๆ ของเราไปพบ ลักษณะงานก็เปลี่ยนไปแล้ว งานของทุกอาชีพหรือวิชาชีพมิได้ตรงไปตรงมาเหมือนเดิม มีความหลากหลายและซับซ้อนในตัวเอง มีการผนวกรวมของความรู้หลากหลายในงานหนึ่งๆ เสมอ คือโลกที่เด็กในวันนี้ต้องการสมองส่วนหน้าพรีฟรันทัลคอร์เท็กซ์(prefrontal cortex) ที่ดีในวันหน้า
สมองส่วนหน้าพรีฟรันทัลคอร์เท็กซ์เป็นชานชาลา(platform)ของ executive function(EF) คือทักษะสมองเพื่อชีวิตที่สำเร็จ ซึ่งต้องอาศัยการควบคุมตัวเอง(self control)เป็นปฐม ควบคุมตัวเองได้คือควบคุมความคิด อารมณ์ และการกระทำเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย คือเป้าหมายของงานและเป้าหมายของชีวิต
การควบคุมตัวเองเป็นองค์ประกอบของ EF ที่ค่อยๆ ก่อร่างสร้างตัวขึ้นในวัย 3-4 ขวบคือช่วงที่อิริคสันเรียกว่า autonomy อันเป็นช่วงเวลาที่กล้ามเนื้อเรียบควบคุมการขับถ่าย กล้ามเนื้อใหญ่ควบคุมแขนขา และกล้ามเนื้อเล็กควบคุมนิ้วมือพัฒนาอย่างรวดเร็ว เด็กๆ ค้นพบว่าตนเองมีพลังที่จะทำอะไรต่อมิอะไรได้สารพัด รวมทั้งการไม่กินข้าว
เล่นบนโต๊ะอาหาร ดูหน้าจอบนโต๊ะอาหาร อ่านการ์ตูนบนโต๊ะอาหาร ไปจนถึงเดินสุดสนามให้ผู้ใหญ่เดินตามป้อน จนกระทั่งกิจกรรมการกินข้าวกลายเป็นกิจกรรมที่ใช้เวลานานแสนนานกระทบกระเทือนตารางกิจวัตรของตัวเด็กเอง รบกวนจังหวะของนาฬิกาชีวิตภายในตัวเขาเอง ไปจนถึงสร้างความเสียหายทั้งทางหน้าที่การงานหรืออารมณ์ของคนอื่นในครอบครัว อะไรที่ควรจะง่าย มีความสุข จบใน 30 นาทีกลับกลายเป็นเรื่องใหญ่ นาน และมีอารมณ์ต่อกัน
แต่ที่เสียหายร้ายแรงคือเด็กมิได้ถูกฝึกให้มีความสามารถควบคุมตัวเอง คือควบคุมตัวเองให้กินข้าวตามเวลาที่กำหนด ตรงเวลาและไม่ใช้เวลานานจนเกินไป และด้วยความที่การกินเป็นการหาความสุขทางปากตามจิตวิเคราะห์ การกินจึงเป็นปฐมบทของการสำรวจโลกและการพัฒนา หากเด็กคุมได้ เด็กจะคุมอย่างอื่นได้งายขึ้นตามลำดับ
การกินควรมีความสุข เวลากินควรเป็นเวลาที่มีความสุข มีเทคนิคหลากหลายที่เราจะทำให้ 30 นาทีของมื้ออาหารให้มีความสุข ด้วยการให้เด็กตักหรือเปิบข้าวกินเอาเอง
นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
จิตแพทย์และนักเขียน ขวัญใจพ่อแม่ชาวโซเชียล