และรายงานจากมูลนิธิไทยโรดส์พบว่า ในกลุ่มผู้โดยสารเด็ก มีเด็กเพียง 7% นั้นที่สวมหมวกกันน็อก ส่วนที่เหลืออีก 93% นั้นมีความเสี่ยงอันตรายจากการโดยสารรถจักรยานยนต์ทั้งสิ้น
ด้วยเหตุนี้ สสส. จึงได้ร่วมมือกับ คณะทำงานแผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนระดับจังหวัด (สอจร.ภาคกลาง) จัดทำโครงการมาตรการองค์กร ชวนชุมชนและสถาบันการศึกษารณรงค์ร่วมกันในเรื่องขับขี่ปลอดภัยสวมใส่หมวกนิรภัยทุกครั้ง เพื่อปลูกฝังวินัยเรื่องความปลอดภัยให้เด็ก รวมถึงสร้างความตระหนักให้กับผู้ปกครอง และกำลังจะขยายผลไปยังสถานศึกษาต่อไป โดยผลักดันให้โรงเรียนสร้างที่แขวนหรือที่เก็บหมวกนิรภัยหรือหมวกกันน็อกไว้ในโรงเรียนเพื่อป้องกันปัญหาผู้ปกครองลืมหยิบหมวกกันน็อกของบุตรหลานมาด้วยในช่วงมารับกลับบ้าน
วิธีการเลือกหมวกกันน็อกให้เด็ก
1. ควรเลือกหมวกกันน็อกที่มีขนาดพอดีกับศีรษะเด็ก โดยเลือกหมวกกันน็อกที่มีขนาดเส้นรอบวงหมวกเหมาะสมกับศีรษะเด็ก
เด็กอายุ 2-4 ปี ใช้หมวกขนาด 500 มม.
เด็กอายุ 5-8 ปี ใช้หมวกขนาด 530-540 มม.
เด็กอายุมากกว่า 8 ปี ใช้หมวกขนาด 570-580 มม.
2. มีสายรัดคางที่ดี ใช้รัดแล้วไม่หลุดง่าย
3. หมวกกันน็อกต้องไม่หนักเกินไป เพราะกล้ามเนื้อต้นคอของเด็กยังไม่แข็งแรง อาจทำให้กระดูกต้นคอหักได้ เมื่อเกิดการชนกระแทก
4. ควรเลือกหมวกกันน็อกที่มีตรามาตรฐานอุตสาหกรรม มีฉลากแสดงที่อยู่ของผู้ผลิตที่มีรายชื่อว่าได้รับมาตรฐานของ สมอ. พร้อมมีคำแนะนำ และวิธีใช้
ยิ่งเปิดเทอมแล้วพ่อแม่หลายคนนิยมขับขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งลูกที่โรงเรียน เพราะสะดวก ไม่ต้องเสียเวลาหาที่จอด แต่อย่าคิดว่าไปส่งลูกที่โรงเรียนแค่นี้ไม่ต้องใส่หมวกกันน็อกก็ได้ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อค่ะ
ที่มา : สสส