เวลาลูกพูดไม่ฟังมันปรี๊ดแบบอยากจะกรี๊ดให้ลั่นบ้าน แต่ก็นั่นละค่ะลูกเหมือนกระจกสะท้อนของพ่อแม่ พ่อแม่เป็นอย่างไร ลูกก็เป็นอย่างนั้น พ่อแม่ขี้โมโห ลูกก็ขี้โมโหค่ะ พ่อแม่ใช้ความรุนแรง ลูกก็จะรุนแรงตอบ พ่อแม่เจ้าอารมณ์ ลูกก็จะกลายเป็นเด็กที่ใช้อารมณ์จัดการปัญหา
เพราะฉะนั้นก่อนที่แม่จะปรี๊ดแตกใส่ลูก ลองมาหาวิธีจัดการกับอารมณ์ตนเองก่อนค่ะ
❤️1. ตั้งสติ
เตือนตนเองว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือลูก นี่ลูกเรา เรารักลูก เราระเบิดอารมณ์ใส่ลูกไม่ได้เด็ดขาด
❤️2. สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วนับ 1-100 นับ
1-10 มันไวไป ให้นับถึง 50 แต่ถ้านับถึง 50 ก็ยังไม่ไหว ให้นับไป 100-200 เลยค่ะ แล้วแม่จะใจเย็นลง
❤️3. หยุดพูด
เพราะถ้ายิ่งโกรธ ยิ่งพูด จะยิ่งขุดทุกสิ่งอย่างที่ลูกเคยทำไม่ดีออกมาตำหนิ สร้างแผลใจให้ลูกอีกครั้ง
❤️4. ดื่มน้ำเย็น ๆ สักแก้ว
เพื่อให้ร่างกายที่ร้อนรุ่มของแม่ปรับอุณหภูมิให้เย็นลง และช่วยให้ความตึงเครียดของแม่ผ่อนคลายลง
❤️5. พาตัวเองออกจากที่เกิดเหตุ
ถ้าแม่รู้ตัวว่าไม่ไหวให้เดินออกจากจุดนั้นทันทีค่ะ เพื่อหลีกเลี่ยงการทำร้ายลูก เพราะต่อให้ไม่มีไม้เรียวอยู่ใกล้ๆ มือแม่ก็พร้อมฟาดที่กลางหลังลูกเมื่อขาดสติ ดังนั้นควรรีบเอาตัวออกห่าง แล้วบอกลูกว่า แม่กำลังโกรธอยู่ ขอแม่สงบสติอารมณ์แป๊บ เดี๋ยวแม่กลับมา
จะว่าไปแม่ก็คือปุถุชนคนหนึ่งที่มีความรู้สึก รัก โลภ โกรธ หลง โหด เลว ดี มีอารมณ์ มีความรู้สึกเหมือนกับทุก ๆ คนบนโลกใบนี้ แต่สิ่งที่ทำให้แม่เป็นคนพิเศษกว่าใครคือ “แม่เป็นแม่” แม่เป็น Role model หรือแบบอย่างของลูก ดังนั้นท่องไว้ค่ะแม่ ๆ โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ไม่โกรธดีกว่าลูกจะได้ไม่เลียนแบบจ้า