ห่วงเด็กไทย สธ. แนะดูแลสุขภาพจิตเด็กอย่างใกล้ชิด
จากข่าวนักศึกษาฆ่าตัวตายช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้ออกมาแนะ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาใส่ใจดูแลสุขภาพจิตเด็กและเยาวชนให้มากขึ้น
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการและจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมามีเหตุการณ์นักเรียน นักศึกษากระโดดตึกและเสียชีวิต เรื่องนี้ควรให้ความสำคัญที่เรื่อง
สุขภาพจิต ซึ่งปัญหา
สุขภาพจิต เป็นความเจ็บป่วยทางจิต ไม่ใช่เรื่องว่าเครียดหรือไม่เครียดอย่างเดียว และผู้ที่ป่วย
โรคซึมเศร้า เมื่อมีอาการจะมาบอกให้เขาคิดดีๆ คิดบวกไม่ได้ผล เนื่องจากเมื่อมีอาการสารเคมีในสมองหลั่งออกมาเขาก็จะคิดแต่เรื่องลบ ซึ่งจะต้องได้รับการบำบัดรักษาที่ถูกต้อง
ปัจจุบันเด็กส่วนใหญ่ป่วย
โรคซึมเศร้ามากขึ้นและมีความเสี่ยงในเรื่อง
สุขภาพจิต ส่วนจำนวนเด็กและเยาวชนที่ป่วย
โรคซึมเศร้ามีมากหรือไม่นั้นตนไม่มีข้อมูล แต่สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจาก
ความเครียดในการเรียน ดังนั้น สถานศึกษาทุกระดับตั้งแต่ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานไปจนถึงมหาวิทยาลัย ควรต้องมองใหม่ ให้ความสำคัญในมิติ
สุขภาพจิตโดยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ราชวิทยาลัยจิตแพทย์แห่งประเทศไทย ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย เข้ามาร่วมกันสร้างระบบดูแลสุขภาพจิตเด็ก
นพ.ธีระเกียรติ ยังกล่าวอีกว่า “ที่ผ่านมาตนได้พยายามสื่อสารเรื่องนี้ไปยังสื่อสารไปที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ด้วย แต่ก็ไม่สำเร็จง่ายๆ เพราะเวลาคนมองเรื่องนี้ก็มองว่าเครียด หรือทำไมอ่อนแอ แต่จริงๆเป็นเรื่องที่ต้องมองให้ลึกซึ้งในเรื่องของ
สุขภาพจิต เพราะฉะนั้น มหาวิทยาลัยก็ต้องให้ความสนใจเรื่อง
สุขภาพจิต ครูเองก็ต้องคอยสังเกต เพราะคนที่คิดจะฆ่าตัวตายทุกคน 3 ใน 4 จะบอกคนใกล้ชิด จะแสดงว่าจะทำ หรือทิ้งร่องรอย ดังนั้น ถ้าจับสังเกตคนใกล้ชิดต้องกล้าถามว่าเขามีความคิดนี้หรือไม่ ได้คำตอบก็รีบช่วย ขณะเดียวกันก็สามารถสังเกตได้จากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เช่น เด็กไม่ยอมกินข้าว แยกตัวไม่เข้าสังคม กิจกรรมอะไรก็ไม่ทำให้มีความสุข ถ้าเป็นแบบนี้ต่อเนื่องประมาณ 1 สัปดาห์ก็ต้องคอยดูแล หรือถ้าใช้คำพูด เช่น โลกนี้ไม่น่าอยู่ อยากตาย แต่มีการเตรียมตัว เหล่านี้ก็ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงทางการแพทย์ก็จะมีกระบวนการ ซึ่งพ่อแม่ หรือคนกว้างๆ อาจจะไม่รู้”
ที่มา :
mgronline.com