เพราะ “แคลเซียม” เป็นแร่ธาตุสำคัญที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นได้เอง เป็นส่วนสำคัญในการสร้างกระดูกและฟัน รวมถึงช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตได้ตามปกติ ซึ่งร่างกายจำเป็นต้องได้รับแคลเซียมในปริมาณที่เพียงพอสำหรับทุกวัย
นอกจากนี้ควรเลือกแคลเซียมที่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี เพื่อให้ร่างกายสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ดีกว่า เพื่อลดอาการขาดแคลเซียมที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและเกิดโรคต่างๆ ขึ้น
ฟังวิธีการ เลือกกิน “แคลเซียม” แบบไหนดีต่อร่างกายลูก โดย The Expert นายแพทย์สิรภพ สัมฤทธิวณิชชา และ ทันตแพทย์หญิง สุชาวดี สัมฤทธิวณิชชา โรงพยาบาลยันฮี
แคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่สําคัญต่อร่างกายถึง 55% และแคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่สําคัญต่อกระดูกและฟันสูงถึง 99% มีความสําคัญในการแข็งตัวของเลือด การหดตัวของกล้ามเนื้อลายและกล้ามเนื้อหัวใจ เด็กต้องการแคลเซียมวันละ800มิลลิกรัม ผู้ใหญ่ต้องการแคลเซียมวันละ 1,200 มิลลิกรัม คุณแม่ที่ตั้งครรภ์และคุณแม่ที่ให้นมบุตรต้องการแคลเซียมสูงถึงวันละ 1,300 มิลลิกรัม ผู้สูงอายุที่มีอายุ 50ปีขึ้นไป ต้องการแคลเซียมวันละ 1,000มิลลิกรัม
จะเห็นได้ว่าแคลเซียมสําคัญกับทุกช่วงอายุ เด็กที่อยู่ในครรภ์จะมีการเสริมสร้างกระดูกโดยใช้แคลเซียมจากร่างกายของคุณแม่ในการดึงไปสร้างการเจริญเติบโตของเด็ก เพราะฉะนั้นคุณแม่ต้องเสริมแคลเซียมให้เพียงพอ
แคลเซียมจะอยู่ในผลิตภัณฑ์ของนม โยเกิร์ต ชีส ถั่วเหลือง หรือว่าเต้าหู้ งาดํา แล้วก็สัตว์ที่มีเปลือกแข็งที่เราสามารถกินได้ทั้งเปลือก หรือปลากระป๋อง ปลาที่ทานได้ทั้งก้าง เช่น ปลาเล็กปลาน้อย ผักใบเขียวหลายชนิดก็มีปริมาณแคลเซียมค่อนข้างเยอะ รวมไปถึงน้ําดื่มบางชนิดก็มีการใส่แคลเซียมเติมเข้าไปด้วย
ซึ่งแคลเซียมที่ใช้เติมเข้าไปในยันฮี แคลเซียมวอเตอร์ เป็นแคลเซียมที่ชื่อว่า Calcium Glycerophosphate เป็นการจับตัวระหว่างแคลเซียมกับตัวฟอสเฟต ซึ่งCalcium Glycerophosphate อยู่ในรูปแบบของสารออร์แกนิคซอลท์เป็นสารอินทรีย์ ซึ่งสามารถดูดซึมได้ดีกว่าแคลเซียมปกติทั่วไปถึง 4 เท่า และมีรสชาติที่ดีกว่าแคลเซียมทั่วไป สาเหตุที่ตัวนี้ดูดซึมได้ดีกว่าแคลเซียมทั่วไป เพราะว่าแคลเซียม Calcium Glycerophosphate สามารถทนกรดซึ่งอยู่ในกระเพาะอาหาร (ที่มีสภาพเป็นกรด (pH 2) และสามารถทนด่างที่อยู่ในลําไส้เล็ก (ph 8) และสามารถดูดซึมเข้าไปอยู่ในกระแสเลือด เพื่อให้นําไปเสริมสร้างกระดูกและฟันได้ดี
นอกจากนี้ Calcium Glycerophosphate มีการศึกษาวิจัยพบว่าสามารถดูดซึมได้มากกว่าแคลเซียมคาร์บอเนตหรือว่าแคลเซียมที่เรากินอยู่ในชีวิตประจําวันมากกว่าถึงสี่เท่า และCalcium Glycerophosphate จะมีสัดส่วนของแคลเซียมกับฟอสเฟต อยู่ที่ 1 ต่อ 3 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่คิดมาแล้วว่าสามารถดูดซึมเข้าสู่กระดูกได้อย่างดี
สำหรับเด็กที่แพ้นมวันสามารถดื่มได้ เพราะไม่มีผลิตภัณฑ์ของนมเป็นส่วนประกอบและใช้แคลเซียม200 มิลลิกรัมต่อขวด แต่งรสให้เป็นรสชาติโยเกิร์ต ทำให้ดื่มง่าย ไม่เลี่ยน และในหนึ่งวันสามารถดื่มได้ถึง 6 ขวดไม่เกินปริมาณที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนํา และได้ปริมาณแคลเซียมที่เด็กต้องการในแต่ละวันพอดี และถึงแม้จะมีปริมาณแคลเซียมที่ได้รับเกิน ก็จะขับออกไม่ตกค้างอยู่ในร่างกาย พกพาสะดวกและช่วยกระตุ้นให้เด็กดื่มน้ําได้ด้วย
โดยทั่วไปแล้วหากร่างกายได้รับปริมาณแคลเซียมเยอะเกินไปจะถูกขับออกทางปัสสาวะ ไม่เหลือตกค้างในร่างกาย แต่ต้องเป็นแคลเซียมที่ดูดซึมได้หมดถึงจะไม่มีการตกค้าง และตรงกันข้ามหากขาดแคลเซียม คุณพ่อคุณแม่สามารถเช็กเบื้องต้นได้แก่ เป็นตะคริว มีภาวะนอนหลับยาก ตอนกลางคืนนอนไม่หลับหรือหลับไปตื่นขึ้นมากลางดึก มีผิวฟันที่ขรุขระ เล็บเปราะบาง และที่สําคัญมากคือ เด็กผู้หญิงอาจจะมีช่วงการเจริญเติบโตที่ช้ามีภาวะรอบเดือนมาช้าลง และมีผลกับส่วนสูงทั้งในเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย
และโรคที่เกิดจากการขาดแคลเซียม ได้แก่ โรคกระดูกพรุนเปราะ บางและแตกง่าย รวมถึงส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็ก โดยเฉพาะเรื่องความสูง
สำหรับเด็กที่มีอุบัติเหตุหกล้มแบบรุนแรง ก็มีโอกาสที่กระดูกจะเปราะแตกง่ายอยู่แล้ว แต่หากสังเกตว่าแม้จะล้มเบาๆ แต่กระดูกหักคุณพ่อคุณแม่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งเวลาไปพบคุณหมอจะมีการเอกซเรย์และวัดมวลกระดูก เพื่อประเมินว่าเด็กคนนี้เกิดจากรอยโรคที่ล้มด้วยแรงกระแทกเบาๆ แล้วกระดูกหักแตกง่าย หรือว่าโดนแรงกระแทกที่รุนแรงและเกิดกระดูกหักแตกง่ายซึ่งคุณหมอจะเป็นผู้ประเมิน ช่วงที่รักษาคุณหมอจะให้แคลเซียมเสริม ซึ่งจริงๆ แล้วร่างกายต้องได้รับจากอาหารอยู่แล้ว แต่คุณหมอก็จะมีให้เสริมเป็นเม็ดด้วยบ้าง และร่างกายของเด็กเองจะมีการสมานของกระดูกค่อนข้างเร็ว
สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์และเด็กสามารถดื่มได้ โดยเด็กอายุตั้งแต่ 3ขวบขึ้นไปดื่มได้ วันละ 6ขวด และในยันฮี แคลเซียม วอเตอร์ หนึ่งขวดมีปริมาณแคลเซียมถึง 200มิลลิกรัม ก็เรียกว่าเป็นปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน และเป็นเครื่องดื่มที่พกไปดื่มได้ทุกที่ ดื่มได้ทุกที่ทุกวัย
Apple Podcast: https://apple.co/3m15ytB
Spotify: https://spoti.fi/3cvAVcX
Youtube: https://bit.ly/3cxn31u