ใช่ว่าเด็กทุกคนจะไม่เคยทำอะไรผิด จริงไหมละคะ? ช่วงวัยเด็กเป็นช่วงแห่งการเรียนรู้และจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้แม่น คุณพ่อคุณแม่ควรค่อย ๆ สอนและอบรมนะคะ อย่าใช้กำลังกับลูกเด็ดขาด เรามีวิธีและข้อแนะนำดี ๆ ในการลงโทษเมื่อลูกทำผิดมาฝากกันค่ะ
ผู้เชี่ยวชาญชี้ ตีลูกบ่อย ๆ ส่งผลให้เด็กมีพฤติกรรมก้าวร้าว และปัญหาครอบครัวก็จะตามมาติด ๆ ค่ะ
การที่พ่อแม่ตีลูกไม่ว่าจะตีเบาหรือแรง และบ่อยครั้งแค่ไหน จากการสำรวจและวิจัยข้อมูลต่างๆพบว่า มันก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี ขณะที่การว่ากล่าวตักเตือนไม่ได้มีส่วนทำให้เด็กเป็นคนก้าวร้าวเหมือนการถูกตีแต่อย่างใด
เด็ก ๆ ที่ถูกตีตั้งแต่ขวบปีแรก จะเริ่มมีพฤติกรรมก้าวร้าวมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อพวกเขาอายุครบ 2 ขวบ และอาจจะมีผลกระทบกับกระบวนการทางความคิดในช่วง 3 ขวบขึ้นไป
นอกจากลูกจะดื้อและซนไปตามวัยแล้ว ปัจจัยหลัก ๆ ก็มาจากพ่อแม่ด้วย คือ พ่อแม่ที่ตีลูกส่วนใหญ่มักเป็นพ่อแม่ที่มีอายุน้อย การศึกษาไม่สูงมากนัก มีแรงกดดันและภาวะความเครียดเป็นทุนเดิม และที่สำคัญนั้นส่วนใหญ่มักเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือแม่เลี้ยงเดี่ยว
1.ลงโทษลูกด้วยวาจา เป็นการลงโทษที่ดีที่สุด คุณพ่อคุณแม่ควรใช้คำหรือประโยคที่ดูน่าฟังและน่าเชื่อถือ อาจลองทำน้ำเสียงดุ ๆ หรือสีหน้าไม่พอใจ ลูกจะได้รับรู้ว่าสิ่งที่ตนกำลังทำนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และจะได้ไม่ทำซ้ำอีก
2.ลงโทษลูกด้วยการใช้เวลานอก (Time Out) เป็นการให้ลูกได้คิดทบทวนในสิ่งที่ทำลงไป คุณพ่อคุณแม่อาจจับลูกแยกออกจากกลุ่มหรือให้อยู่คนเดียวในที่สงบ ๆ
3.ลงโทษลูกด้วยส่งสัญญาณเตือน หากลูกมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม คุณพ่อคุณแม่ต้องรีบส่งสัญญาณเตือนให้ลูกได้รับรู้ทันที เช่น ส่งสัญญาณด้วยสายตาหรือน้ำเสียงที่เข้มขึ้น
4.ลงโทษลูกด้วยการปรับสินไหม คือ การถอดถอนตัวเสริมแรงทางบวก เช่น ดาวหรือแต้มคะแนน หลังจากที่ลูกแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว ซึ่งทั้งดาวและแต้มคะแนนนั้นสามารถนำมาแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่ลูก ต้องการ เช่น ขนม การพาไปเที่ยว ของเล่น เป็นต้น
ขอบอกก่อนว่าการตีลูกเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หากหลีกเลี่ยงได้ควรหลีกเลี่ยง เพราะจะเกิดผลเสียมากว่าผลดี แต่ถ้าลูกดื้อละซนจนคุณพ่อคุณแม่ทนไม่ไหวจริง ๆ เรามีวิธีการลงโทษลูกที่ถูกวิธีมาแนะนำค่ะ
การที่เด็กมีความทรงจำที่ไม่ดีในวัยเยาว์ เมื่อไปอยู่ร่วมกับสังคมใหม่ ๆ เด็กจะปรับตัวได้ยาก และจะมองโลกในแง่ร้ายเสมอดังนั้นพ่อแม่ทุกคนควรปลูกฝังให้ลูกมีความประพฤติที่ดี อาจจะบอกกับลูกว่า หนูรู้ไหมว่า การเป็นเด็กดีนั้นควรทำอย่างไร แล้วถ้าหนูเป็นเด็กดี ไม่ดื้อ ไม่ซน หนูน่ารักแค่ไหนกัน แค่นี้ลูกก็จะเชื่อฟังคุณพ่อคุณแม่แล้วล่ะค่ะ