หากคุณได้ผ่านไปบนเส้นทางถนนพระรามหก ชั้น 4 ของสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินท์ คุณจะได้พบกับพ่อหนูแม่หนูตัวน้อยวัย 2 1/2 - 3 ขวบ กำลังเริงร่าอย่างสนุกสนานกับการเล่นที่หลากหลาย..ปั้นดินน้ำมัน เล่นเกม ฟังครูเล่านิทาน ฯลฯ กิจกรรมทั้งหมดถูกจัดอย่างเป็นระบบ ให้สอดคล้องกับพัฒนาการตามวัยตามธรรมชาติของเด็กแต่ละคน เพื่อพัฒนาร่างกาย, อารมณ์, สังคม และสติปัญญา ไปพร้อมกัน
"หน่วยพัฒนาการเด็กเล็ก" หนึ่งในงานของกลุ่มการพยาบาล สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ที่นี่ไม่เพียงจะทำหน้าที่เลี้ยงดูเด็กเหมือนกับเนิร์สเซอรี่ทั่วๆ ไปเท่านั้น แต่การเลี้ยงดูนั้นยังเป็นไปอย่างสอดคล้องเป็นวิชาการ พร้อมกับเป็นสถานที่ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการดูแลเด็กส่วน ต่างๆ เพื่อสร้างความเข้าใจเรื่องพัฒนาการเด็กให้เกิดขึ้น เป็นประโยชน์ในการศึกษาและวิจัยพัฒนาการเด็กเล็กด้วย
เด็กที่เข้ามา อยู่ที่นี่จะต้องมีอายุครบ 2 1/2 ขวบบริบูรณ์ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่รั้วโรงเรียนเมื่ออายุ 3 ขวบ นอกจากนี้ยังมีจุดประสงค์เพื่อให้การดูและส่งเสริมการเรียนรู้ตามวัยของเด็ก เป็นการวางพื้นฐานในการปรับตัวที่เหมาะสมเมื่อเด็กเข้าวัยเรียน ป้องกันปัญหาสุขภาพจิตของเด็กในระยะต้น โดยมีการพบปะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ปกครองในลักษณะแลกเปลี่ยนข้อคิด เห็น ให้ความรู้ความเข้าใจในการอบรมเลี้ยงดูเด็กที่ถูกต้อง
พัฒนาศักยภาพศูนย์เด็กเล็ก
น.พ.ดุสิต ลิขนะพิชิตกุล ผู้อำนวยการ สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ เล่าว่า "ตั้งแต่ตั้งสถาบันสุขภาพจิตเด็ก และวัยรุ่นราชนครินทร์ เมื่อปี 2515 ได้จัดให้มีหน่วยงานพัฒนาการเด็กเล็กขึ้น เพื่อให้บริการพ่อแม่ และให้นักศึกษา นักเรียน เจ้าหน้าที่ได้เรียนรู้กระบวนการพัฒนาการของเด็กไปด้วย
ระยะหลังมีการนำกิจกรรมที่ช่วยในเรื่องพัฒนาการเด็กเข้ามา เนื่องจากพบว่าเด็กบางคนมีพัฒนาการช้ากว่าค่าเฉลี่ยเล็กน้อย เช่น พูดช้า หรือยังไม่ค่อยพูด เราจะปรับกิจกรรมเพื่อช่วยเกื้อหนุนเขาให้เกิดทักษะในการพูดเพิ่มขึ้น ซึ่งก็พบว่าในช่วงสั้นๆ ที่เด็กมาอยู่กับเราเขามีการพัฒนาอย่างได้ผลดี
จากจุดนี้เรามองเห็นว่า เนิร์สเซอรี่ น่าจะมีศักยภาพที่ช่วยในเรื่องพัฒนาการของเด็กได้ นอกจากจะช่วยเลี้ยงดูแล้วยังช่วยกระตุ้นพัฒนาการกับเด็กที่ดูจะช้าหรือ น้อยกว่าเด็กทั่วๆ ไปนิดหน่อยได้
โรงเรียนอนุบาลหลายแห่งได้มีการรับเด็กพัฒนาการช้าเพื่อให้เรียนร่วมกับเด็กปกติ เพื่อให้เด็กที่มีพัฒนาการปกติช่วยกระตุ้นเด็กที่มีพัฒนาการช้า ซึ่งเป็นแนวโน้มใหม่ เด็กที่มีพัฒนาการช้าในบ้านเราก็จะพัฒนาศักยภาพขึ้นมาได้ น่าจะเป็นผลดีกับเด็ก ตรงตามหลักที่ฝรั่งเขาเรียกว่า Early Intervention คือการช่วยตั้งแต่ยังเล็กๆ ซึ่งพัฒนาการเด็กล่าช้าที่เราเจอเป็นหลักก็คือเรื่องพูด เพราะเด็กไทยพัฒนาการด้านการพูดจะเป็นกลุ่มที่มาช้าและดูจะมีอยู่พอสมควร
ที่นี่เรามีทีมนักวิชาการ แพทย์ พยาบาลที่ช่วยดูในเรื่องของพัฒนาการเด็ก พอรับเด็กเข้ามาจะมีการประเมินพัฒนาการก่อน ถ้าคนไหนส่งสัญญาณว่ามีพัฒนาการต่ำกว่ามาตรฐานก็จะให้การดูแลและพัฒนาในส่วน นั้นๆ เช่น เด็กที่พูดช้านอกจากอยู่ในห้องเลี้ยงแล้วเราก็ยังฝึกพูดให้ด้วย กระตุ้นให้เขาดีขึ้น นี่คือการเอาวิชาการเข้ามาเสริม
ส่วนการออกแบบกิจกรรมทั้งหลายยึดหลักตามพัฒนาการของเด็กทุกด้าน ใส่ไว้ในตารางกิจกรรมสำหรับเด็ก เช่น ฝึกความมีระเบียบวินัยและจริยธรรม ด้วยกิจกรรม สวดมนต์ ไหว้พระ กายบริหาร ฯลฯ พัฒนากล้ามเนื้อเล็กและความคิดสร้างสรรค์ด้วยกิจกรรม เล่นแป้งปั้น ร้อยลูกปัด ฯลฯ คือจะมีความหลากหลายของกิจกรรมในแต่ละวัน เด็กก็จะไม่เบื่อ เด็กได้ออกกำลัง ได้ใช้กล้ามเนื้อ สนุก ได้ใช้ความคิด ร้องเพลงด้วยกัน ฟังนิทานด้วยกันเหล่านี้คือภาษา และความคิดอ่านของเด็ก
ถ้าเป็นเรื่องพัฒนาการด้านร่างกาย เราจะจัดกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาร่างกายทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อมัดเล็ก กล้ามเนื้อมัดใหญ่ การประสานกันของกล้ามเนื้อ การประสานงานของอวัยวะ แล้วกิจกรรมเรื่องจิตใจก็จะมีปนเข้าไปอย่างเช่น การเล่านิทานแฝงคุณธรรม กิจกรรมที่เป็นเรื่องของสังคม การช่วยเหลือตัวเอง การดูแลตัวเอง ที่จะส่งผลต่อจิตใจและความคิด เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ว่าทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน ดูแลตัวเองดูแลอย่างไร ซึ่งการที่เด็กดูแลตัวเองได้เป็นทักษะหนึ่งที่จะส่งผลมาที่จิตใจคือสร้าง ความมั่นใจ มั่นใจว่าเขามีความสามารถ 2 ขวบกว่าเขามั่นใจว่าเขาทำได้ นี่ก็เป็นการนำวิชาพัฒนาการเข้ามาเป็นกิจกรรม
สำหรับหน่วยพัฒนาการ เด็กเล็กเอง เราไม่ได้มองว่าเราเป็นตัวอย่างที่ดีเลิศ เราเพียงแต่อยากจะจุดประกายความคิดที่ว่า ทำอย่างไรจึงจะพัฒนาตรงจุดนี้ของเด็กได้ ทั้งในแง่กายภาพ สุขอนามัยต่างๆ เพื่อดูแลร่างกาย แล้วก็กิจกรรมเพื่อพัฒนาจิตใจ พัฒนาความคิดเด็ก ถ้าถามผม หน่วยดูแลเด็กเล็กที่ดีคงจะต้องมี 2 อย่างคู่กัน คือทั้งกายภาพและกิจกรรม ไม่ใช่เน้นแต่กินกับนอน เพราะถ้ากินกับนอนเด็กก็จะได้กายภาพ แต่พัฒนาการด้านอื่นจะไม่ค่อยได้ครับ"
แนวการจัดกิจกรรมสำหรับเด็กเล็ก
เป้า หมายที่แท้จริงของการจัดกิจกรรมของเด็กวัยนี้ ใช่จะมุ่งเน้นเฉพาะร่างกายที่เติบโตหรือสติปัญญาอย่างที่หลายคนเข้าใจเท่า นั้น แต่จะต้องเป็นกิจกรรมที่พัฒนาเด็กอย่างรอบด้าน ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1. พัฒนาการด้านร่างกาย หมายถึง การพัฒนากล้ามเนื้อใหญ่ การพัฒนากล้ามเนื้อเล็ก การพัฒนาประสาทสัมพันธ์ระหว่างมือ ตา การพัฒนาด้านสุขอนามัย
2. พัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ หมายถึง การควมคุมอารมณ์ตนเองในการทำงานและการอยู่ร่วมกับผู้อื่น การปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรม การมีความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง
3. พัฒนาการด้านสังคม หมายถึง การมีระเบียบวิย การเล่นหรือทำงานเป็นกลุ่ม การเอาใจเขามาใส่ใจเรา ความรับผิดชอบในหน้าที่
4. พัฒนาการทางสติปัญญา หมายถึง การรับรู้ทางสัมผัสทั้ง 5 ได้แก่ การดู การฟัง การดม การชิม และการสัมผัสทางผิวหนัง การคิดแก้ปัญหา การคิดสร้างสรรค์ การจำ การเข้าใจคำศัพท์ และการฝึกพูด การยืดระยะความสนใจ