“ไข้เลือดออก” โรคประจำหน้าฝน เป็นแล้วถึงตายหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงที ทางที่ดีที่สุดคือการป้องกันไว้ก่อน
รู้จักโรคไข้เลือดออก วิธีรับมือและการป้องกัน โดย The Expert รศ.นพ.พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์
รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรม
ไข้เลือดออกเป็นการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งส่วนมากจะเกิดช่วงหน้าฝนเพราะว่ามียุงเยอะ แต่ปัจจุบันไม่ใช่แค่ช่วงหน้าฝนจะมีประปรายตลอดปี ซึ่งการติดเชื้อไข้เลือดออกก็มักจะมียุงลายเป็นพาหะ ไข้เลือดออกมี 4ชนิดด้วยกัน และหากเป็นการติดเชื้อครั้งที่สองอาการจะรุนแรงมากกว่าครั้งแรก
วิธีสังเกตุอาการเมื่อเป็นไข้เลือดออก ได้แก่
1.เป็นช่วงฤดูฝน
2.มีไข้สูงประมาณ 3-5วัน และมักจะไม่มีน้ํามูกหรือไอเพราะว่าโรคไข้เลือดออกเป็นการติดเชื้อไวรัสที่มันไม่ได้ผ่านมาทางระบบทางเดินหายใจ
3.ปวดท้องหรือมีอาการทางระบบทางเดินอาหารเล็กเล็กน้อยน้อย และหากเป็นรุนแรงอาจจะเสียชีวิตได้
แต่จริงๆ แล้วไข้เลือดออกไม่ได้รุนแรงจนเสียชีวิตทุกราย ซึ่งอาการของไข้เลือดออกในช่วง 3-5วันแรก ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีไข้สูงมักจะเป็นช่วงที่ไม่อันตราย แต่จะอันตรายหลังจากที่ไข้ลง แต่หากไข้ลงแล้วอาการดีขึ้น สดชื่นมากขึ้น กินได้ดีขึ้น มีแรงมากขึ้น แสดงว่าหายจากโรคแล้ว เพราะไข้เลือดออกจะเป็นเองและหายได้เอง
หากไข้ลงแล้วอาการรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้
1.เด็กมักจะช็อกซึ่งจะทำให้เสียชีวิตได้ ช็อกเพราะพยาธิสภาพของไข้เลือดออกเวลาที่มีการติดเชื้อจะมีการสูญเสียน้ําออกไปจากเส้นเลือด เส้นเลือดไม่สามารถเก็บน้ําไว้ได้เปรียบเหมือนเรากำลังเสียเลือด และน้ําที่ออกไปก็อาจจะไปอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย อาจจะมีอาการบวม
2.เมื่อเป็นไข้เลือดออกจะมีการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ เพราะฉะนั้นคนที่เสียชีวิตมักจะมีอาการช็อกร่วมกับมีอาการของการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ พอมันมีเลือด มีน้ําออกนอกเส้นเลือดแล้ว เวลาที่มีการกระแทกถ้าแรงๆ อาจจะมีรอยช้ําเล็กๆ แต่ถ้าเป็นไข้เลือดออกจะมีความบกพร่องของการแข็งตัวของเลือด เช่น เวลาแปรงฟันแรงๆเลือดจะออก พอเลือดออกด้วยความที่น้ําในเส้นเลือดก็มีน้อยอยู่แล้ว โอกาสจะที่จะช็อกและเสียเลือดก็มีมากขึ้น
ดังนั้นความรุนแรงก็จะเป็นในช่วงที่ไข้ลงเวลาที่พาลูกไปหาหมอแล้วคุณหมอสงสัยจะเป็นไข้เลือดออก ช่วงที่เป็นไข้คุณหมอบอกให้กลับบ้านได้ ก็ไม่ต้องกังวล แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เห็นไข้ลงให้คุณพ่อคุณแม่ดู 2อาการต่อไปนี้
1.ไข้ลงแล้วอาการดีขึ้น กินข้าว กินน้ําได้มากขึ้น สดชื่นขึ้น แสดงว่าหายแล้ว
2. ไข้ลงแต่มีอาการเช่นกระสับกระส่าย มือเท้าเย็น จับชีพจรแล้วชีพจรเบาเร็ว ปัสสาวะออกน้อยลงให้รีบพาไปพบคุณหมอ อาจจะเข้าขั้นรุนแรงและมีอาการช็อกได้
3. ระหว่างที่เป็นไข้เลือดออกไม่ว่าจะเป็นช่วงไหนก็ตาม ถ้ามีอาการเลือดออกให้พาลูกไปพบคุณหมอ เพราะว่าการป่วยเป็นไข้เลือดออกคือการแข็งตัวของเลือดทํางานผิดปกติ
โดยปกติไข้เลือดออกเมื่อเป็นแล้วก็หาย แต่ว่าต้องใช้เวลาฟักฟื้นร่างกาย ซึ่งการป้องกันไม่ให้เป็นดีที่สุดครับ ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกซึ่งจะได้ผลดีสําหรับคนที่เคยติดเชื้อมาแล้วหนึ่งครั้งเพื่อป้องกันอาการรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อเป็นครั้งที่สอง
ส่วนการนอนโรงพยาบาลเมื่อเป็นไข้เลือดออกใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ แต่หากมีอาการรุนแรง เช่น ช็อกบางคนต้องเข้าICU จำเป็นต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งการช็อกเมื่อเป็นไข้เลือดออกรักษายาก เพราะว่ามีความบกพร่องของผนังเส้นเลือดทําให้น้ําในเส้นเลือดไหลออกไปจากเส้นเลือดจึงเกิดอาการช็อก เมื่อเติมน้ําเข้าไปก็จะไหลออก ซึ่งก็ต้องเติมไปเรื่อยๆ จนกว่าเส้นเลือดจะดีและดูดกลับเข้ามาได้เหมือนเดิม
ดังนั้นการระมัดระวังไม่ให้ป่วยและระวังเรื่องยุงจะเป็นการช่วยป้องกันที่ดีที่สุด
Apple Podcast: https://apple.co/3m15ytB
Spotify: https://spoti.fi/3cvAVcX
Youtube: https://bit.ly/3cxn31u