พ่อแม่ต้องสอนกิจวัตรประจำวันให้ลูกค่ะ เพราะกิจวัตรประจำวันสามารถสร้างและสอนวินัยลูกได้เป็นอย่างดี
Routine for kids
7.00 น. ตื่นนอน
7.00-7.30 น. อาบน้ำ แต่งตัว
7.30-8.00 น. กินข้าวเช้า
8.00-8.30 น. ไปโรงเรียน
15.00-15.30 น. กลับจากโรงเรียน พักผ่อน กินของว่าง
15.30-16.30 น. ทำการบ้าน
16.30-17.00 น. เล่นของเล่น ดูทีวี ผ่อนคลาย
17.00-17.30 น. ช่วยคุณแม่ทำงานบ้าน
17.30-18.30 น. กินข้าวเย็น + นั่งพักผ่อน
18.30-19.00 น. อาบน้ำ
19.00-20.00 น. อ่านนิทาน นั่งล้อมวงคุยกันในครอบครัว เตรียมการเรียนในวันต่อไป
20.00-20.30 น. ไหว้พระ สวดมนต์ เตรียมตัวเข้านอน
หมายเหตุ : ตารางนี้เป็นตัวอย่างของกิจวัตรประจำวันที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปปรับใช้กับครอบครัวตนเองได้ โดยสามารถย่อหย่อนให้ลูก 15-20 นาที ตามความเหมาะสมของแต่ละครอบครัวได้ค่ะ
ตารางที่เห็นอยู่นี้ เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้ และถ้าทำสำเร็จ จะสร้างลูกที่มีวินัยได้
มาดูกันว่า ตารางกิจวัตรประจำวันที่กล่าวมาในข้างต้นนั้นจะสร้างวินัยให้ลูกได้อย่างไร
แม้จะไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะจัดการชีวิตประจำวันให้เป็นไปตามตาราง แต่เด็กอนุบาลเริ่มเป็นวัยที่มีกิจวัตรประจำวันที่ซับซ้อนขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าลูกไม่ได้รับการปลูกฝังที่ดีพอ ก็อาจจะส่งผลกระทบกับวินัยและการจัดการในชีวิตประจำวันในอนาคตต่อ ๆ ไปของเขาได้
ซึ่งวินัยที่เราจะฝึกให้ลูกได้ตั้งแต่วันนี้ ควรเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ใกล้ตัวเขาค่ะ เพราะจะช่วยให้ลูกเข้าใจคำว่า “วินัย” ได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น
จะช่วยให้ลูกรู้จักการรอคอย สอนให้มีระเบียบวินัย และรู้จักเวลามากยิ่งขึ้น เพราะลูกจะรู้ว่าช่วงเวลาไหนเป็นเวลาที่ควรจะกินมื้อหลัก เวลาไหนเป็นเวลาของว่าง และช่วงเวลาไหนที่ไม่ควรจะกินอะไรเลย
นอกจากจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว การกินอาหารให้เป็นเวลายังช่วยลดภาระงานของคุณแม่ ในการเก็บล้างภาชนะบ่อยครั้ง ได้อีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็นการทำการบ้าน การรับผิดชอบหน้าที่ส่วนตัว หรือแม้กระทั่งการให้ลูกได้ช่วยคุณพ่อคุณแม่ทำงานบ้านเช่นการเก็บข้าวของ การเก็บจานหลังกินข้าวเสร็จ การช่วยคุณแม่เก็บเสื้อผ้า ฯลฯ เหล่านี้จะช่วยควบคุมความอยาก หรือความต้องการของลูกได้ดีขึ้น
ทั้งนี้หากเด็กๆ ไม่สามารถควบคุมตนเองและไม่สามารถรับผิดชอบหรือจัดการงานที่ได้รับมอบหมายได้ ต่อไปก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการเรียน และหน้าที่การงานของเขาได้ค่ะ
เด็กๆควรนอนหลับให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8-10 ชั่วโมง เพื่อให้ต่อมใต้สมองได้ผลิตโกรว์ทฮอร์โมนออกมาอย่างเพียงพอ ขณะเดียวกัน การที่เด็กได้นอนหลับในช่วงเวลา 2 ทุ่มจนถึง 7 โมง จะช่วยให้ลูกไม่รู้สึกง่วง หรืองอแงไม่อยากตื่น
เพราะหากลูกนอนหลับไม่เพียงพอ อารมณ์ก็จะไม่แจ่มใส และไม่สามารถจัดการตัวเองได้ ทำให้เขาพลาดโอกาสที่จะได้แปรงฟัน อาบน้ำ แต่งตัว หรือทำอะไรด้วยตัวเอง ที่สุดแล้วคุณพ่อคุณแม่ก็จะเป็นคนจัดการให้ลูก ยิ่งสร้างความหงุดหงิดเพิ่มขึ้นอีก
ทำด้วยกันอย่างค่อยเป็นค่อยไป จะช่วยให้ลูกไม่รู้สึกว่าตนเองนั้นถูกบังคับ และเมื่อเขาทำได้สำเร็จคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องชมเชย หรือให้รางวัลเล็กๆ น้อยๆ เพื่อไม่ให้ลูกติดรางวัล เช่น ให้ลูกเป็นคนเลือกสถานที่ที่เขาอยากเที่ยว หรือให้ในสิ่งที่เขาอยากได้ เป็นของเล่นเล็กๆ น้อยๆ ที่ราคาไม่แพง
การทำตามกรอบเพื่อให้ลูกเข้าใจความหมายของเวลา และรู้จักการรอคอย เพราะหากลูกไม่ได้ฝึกก็จะไม่รู้จักการอดทนรอคอย ซึ่งคุณพ่อคุณแม่อาจจะฝึกให้ลูกลูกดูเข็มนาฬิกา หรือนั่งนับวินาทีในช่วงเวลารถติด เพื่อให้เด็กๆ เข้าใจเวลาและการเผื่อเวลาได้
การสอนวินัยให้กับลูกนั้นไม่ยากเลย เพียงแต่คุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องปฏิบัติตาม ตารางของตนเองอย่างเคร่งครัด แต่ก็ผ่อนปรนได้บ้างตามสถานการณ์ละความเหมาะสม เพื่อไม่ให้กระทบกับกิจวัตรประจำวันของเจ้าตัวน้อย และจะได้เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกด้วย
..........................................................................................................................................................
เรียบเรียงจากการสัมภาษณ์ อาจารย์แพทย์หญิงดวงรัตน์ วังเกล็ดแก้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กและวัยรุ่น สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา