IVF 'เด็กหลอดแก้ว' ดีกว่าที่คิด รู้ให้ลึกเพื่อเพิ่มโอกาสในการมีลูกได้ง่ายขึ้น

การทำเด็กหลอดแก้ว หรือ IVF คือ การนำไข่ของฝ่ายหญิงกับอสุจิของฝ่ายชายมาผสมกันนอกร่างกาย เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิ ซึ่งช่วยให้คนมีลูกยากสามารถมีลูกได้

IVF 'เด็กหลอดแก้ว' ดีกว่าที่คิด รู้ให้ลึกเพื่อเพิ่มโอกาสในการมีลูกได้ง่ายขึ้น

การทำเด็กหลอดแก้ว หรือ IVF (In – Vitro Fertilization) คือ การนำไข่ของฝ่ายหญิงกับอสุจิของฝ่ายชายมาผสมกันนอกร่างกาย เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ หลังจากนั้นจึงจะนำกลับคืนเข้าสู่มดลูก เพื่อให้เจริญอยู่ในครรภ์ของฝ่ายหญิงตามปกติต่อไป ค่าใช้จ่ายประมาณสองแสนบาท โดยจากขั้นตอนที่ขณะผสม ต้องนำไข่และอสุจิผสมกันในหลอดทดลองที่มีลักษณะเป็นแก้ว จึงเป็นที่มาของการเรียกเด็กที่เกิดจากการผสมและปฏิสนธิแบบนี้ว่า “เด็กหลอดแก้ว”

การเตรียมตัวก่อนการทำเด็กหลอดแก้ว IVF

สามีภรรยาจะต้องไปพบแพทย์เพื่อปรึกษา รวมทั้งรับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ก่อน โดยถ้าเป็นฝ่ายหญิงจะต้องมีการตรวจร่างกาย อย่างเช่น การทำงานของรังไข่และคัดกรองภาวะติดเชื้อ ส่วนฝ่ายชายจะต้องตรวจดูคุณภาพของอสุจิ ตรวจเลือดหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์

เด็กหลอดแก้ว IVF ใช้ในกรณีใด

• ผู้หญิงที่ประสบปัญหาภาวะมีบุตรยากและไม่สามารถตั้งครรภ์ แพทย์จะแนะนำให้ทำเด็กหลอดแก้วในผู้หญิงอายุมากแล้วต้องการมีบุตร โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี

• ผู้ที่ประสบปัญหาภาวะมีบุตรยากเนื่องจากฝ่ายหญิงหรือฝ่ายชายมีปัญหาสุขภาพดังต่อไปนี้

• ท่อนำไข่ (ปีกมดลูก) เกิดความเสียหายหรืออุดตัน 

• มีความผิดปกติเกี่ยวกับการตกไข่ เช่น การตกไข่จำนวนน้อย หรือไม่มีการตกไข่ในบางเดือน ซึ่งทำให้ไข่มีโอกาสได้รับการผสมน้อยลง

• เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ คือ ภาวะที่มีเนื้อเยื่อเกิดขึ้นและเจริญเติบโตนอกมดลูก ซึ่งจะรบกวนการทำงานของระบบรังไข่ มดลูก และท่อนำไข่

• มีเนื้องอกมดลูกเกิดขึ้นที่ผนังมดลูก ซึ่งจะรบกวนกระบวนการฝังตัวของไข่ที่ผนังมดลูก

• เคยทำหมันด้วยการตัดหรือผูกท่อนำไข่มาก่อน หากเป็นการทำหมันที่ไม่สามารถแก้ไขได้ วิธีการเด็กหลอดแก้วจะเป็นทางเลือกที่ทำให้ผู้หญิงสามารถตั้งครรภ์ได้

• ฝ่ายชายผลิตอสุจิได้จำนวนน้อย อสุจิไม่มีประสิทธิภาพในการเคลื่อนที่ หรืออสุจิมีขนาดและรูปร่างผิดปกติ ซึ่งจะทำให้อสุจิเคลื่อนตัวเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ยากขึ้น

• ภาวะมีบุตรยากที่ไม่สามารถหาสาเหตุได้

• ความผิดปกติทางพันธุกรรม ทำให้อาจเกิดความผิดปกติของตัวอ่อนก่อนการฝังตัวที่มดลูก วิธีการเด็กหลอดแก้วจะช่วยคัดเลือกตัวอ่อนที่แข็งแรงและไม่มีความผิดปกติ ก่อนทำการฉีดกลับเข้าไปฝังตัวที่มดลูก เพื่อแก้ปัญหาไม่ให้ลูกที่เกิดมามีความผิดปกติทางพันธุกรรมไปด้วย

• อยู่ในระหว่างการเจ็บป่วยหรือการรักษาตัวที่ทำให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ เช่น ป่วย    ด้วยโรคมะเร็ง จึงต้องบำบัดด้วยรังสีบำบัดและเคมีบำบัด ในกรณีนี้ผู้ป่วยสามารถเก็บไข่ที่ยังไม่ได้ผสมแช่แช็งไว้ในห้องปฏิบัติการ หรือสามารถเก็บไข่ที่ผสมกับสเปิร์มเป็นตัวอ่อนแล้วแช่แข็งไว้ในห้องปฏิบัติการแล้วค่อยใส่กลับเข้าไปทำให้เกิดการตั้งภรรภ์ได้ในภายหลัง

 ขั้นตอนในการทำเด็กหลอดแก้ว IVF

1. แพทย์จะฉีดยากระตุ้นไข่ให้ฝ่ายหญิงประมาณ 8 – 12 วัน อย่างต่อเนื่อง
   
   
2. Ultrasound ดูไข่และทำการฉีดฮอร์โมนก่อนไข่ตกประมาณ 36ชั่วโมง
   
   
3. ทำการวางยาสลบ เพื่อทำการดูดไข่ออกจากฝ่ายหญิงด้วยการใช้เข็มดูดผ่านทางช่องคลอด เมื่อเก็บไข่เสร็จเรียบร้อย แพทย์จะรักษาฝ่ายหญิงด้วยการใช้ฮอร์โมนสอด ให้ยาทานเพื่อเตรียมตัวฝ่ายหญิงให้พร้อมสำหรับการย้ายตัวอ่อนที่ผสมแล้ว
   
   
4. นำไข่ที่ได้มาผสมกับอสุจิ พร้อมทั้งเลี้ยงในห้องปฏิบัติการ
   
   
5. ไข่และอสุจิที่ผสมกันแล้วจะกลายเป็นตัวอ่อน และพร้อมย้ายเข้าโพรงมดลูกภายใน 3 – 5 วัน หลังการเก็บไข่
   
   
6. เมื่อฝ่ายหญิงได้รับตัวอ่อนให้เข้าไปฝังในโพรงมดลูกแล้ว จะต้องกลับมาพบแพทย์เพื่อตรวจการตั้งครรภ์อีก 10 วันต่อมา และแพทย์จะยังคงให้ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนต่อไปอีก 8 – 10 สัปดาห์