“รักลูก” มีโอกาสไปเยี่ยมชมโรงเรียนกันอีกแล้ว คราวนี้เป็นโรงเรียนนานาชาติในย่านรามคำแหง โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่มีนักเรียนกว่า 800 ชีวิต แต่บรรยากาศอบอุ่นเหมือนเป็นบ้านหลังที่สองของเด็กๆ เลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ
โรงเรียนนานาชาติแอ๊ดเวนต์รามคำแหง (Ramkhamhaeng Advent International School) ค่ะ
นับตั้งแต่ย่างก้าวเข้ามาในรั้วของโรงเรียนนานาชาติแอ๊ดเวนต์รามคำแหง เราก็ได้รับความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านหลังใหญ่ที่มีคุณอุดม ศรีกุเรชา ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้งโรงเรียน ซึ่งเปรียบเสมือนคุณพ่อของนักเรียนทุกคน เดินทักทายผู้ปกครองและนักเรียนอย่างยิ้มแย้มในตอนเช้าของทุกวัน พวกเราสังเกตเห็นพยาบาลคอยตรวจวัดอุณหภูมิของน้อง ๆ ก่อนเข้าเรียน และยังมีอาจารย์ฝ่ายดูแลนักเรียน (supervisor) ที่คอยดูแลให้ความช่วยเหลือผู้ปกครองและนักเรียนภายในรั้วโรงเรียน สามารถจดจำใบหน้าและชื่อนักเรียนได้ทุกคน จวบจนวันนี้ RAIS ก้าวเข้าสู่ปีที่ 18 คณะผู้บริหาร อาจารย์ และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต่างก็ยังคงยึดมั่นในสโลแกน “RAIS Family” ที่ที่เด็กนักเรียนของ RAIS จะไม่ใช่เป็นแค่เพียงเด็กนักเรียนคนหนึ่ง แต่เขาเปรียบเสมือนลูกหลานและเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวของ RAIS
ในส่วนของคุณภาพนั้น นอกจากการเป็นสมาชิกของสมาคมโรงเรียนนานาชาติ (ISAT) รวมไปถึงการได้รับการรับรองมาตรฐานจากกระทรวงศึกษาธิการ สมศ. สช. College Board แล้ว ทางโรงเรียนนานาชาติแอ๊ดเวนต์รามคำแหง ยังได้รับมาตรฐานการรับรองวิทยฐานะของ WASC จากสหรัฐอเมริกามากว่าสิบปีซึ่งเจ้าหน้าที่ที่พาชมโรงเรียนนั้นแอบกระซิบกับเราว่าในปีนี้ทาง WASC ได้เข้ามาตรวจสอบและมอบประกาศนียบัตรรับรองคุณภาพให้ทางโรงเรียนสูงสุดถึง 6 ปีด้วยกัน (โดยทั่วไป 3 ปี) ข่าวดีล่าสุดเห็นจะเป็นที่ทางโรงเรียนได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO9001:2015 แบบผ่านฉลุย นอกจากเราจะร่วมแสดงความยินดีกับทางโรงเรียนแล้ว สิ่งที่ต้องชมเชยอย่างมากคือการได้มาซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ย่อมเป็นเครื่องยืนยันว่าคณะผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล RAIS ไม่เคยหยุดพัฒนาคุณภาพของโรงเรียนเลยจริง ๆ
เมื่อเดินลึกเข้าไปก็เห็นนักเรียนเดินเป็นแถว เราเลยเดินตามขบวนน้องๆไป ก็ทราบว่าทุก ๆ วันนักเรียนจะต้องเข้าแถวเคารพธงชาติ ออกกำลังกายยืดเส้นยืดสาย และแสดงความเคารพต่อคุณครูด้วยการไหว้ก่อนเข้าชั้นเรียน ทำให้พวกเราต่างเห็นว่าแม้ที่นี่จะเป็นโรงเรียนอินเตอร์ฯ แต่ก็ไม่ได้ทิ้งกลิ่นอายของความเป็นไทยเลย ในขณะเดียวกันเราก็ได้ยินเด็กตัวเล็ก ๆ พูดภาษาอังกฤษกับเพื่อน ๆ หรือคุณครูอย่างเจื้อยแจ้ว ไม่เขินอาย ดูมีความเป็นธรรมชาติและมีความกล้าแสดงออกอย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว
หลังจากนั้นพวกเราก็ได้รับเชิญให้เข้าไปสังเกตการณ์ในห้องเรียน ทันทีที่เดินเข้าอาคารเรียน ทางเจ้าหน้าที่ก็เล่าให้เราฟังว่าแม่บ้านจะถูกจัดให้เข้ามาทำความสะอาดทั้งในห้องเรียน ห้องเด็กเล่น และตามบริเวณทางเดินทุกวันด้วยน้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาฆ่าเชื้อ โดยเฉพาะกับอาคารเด็กเล็กแบบนี้ที่ทางผู้บริหารกำชับว่าต้องดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ
เมื่อเข้ามาภายในห้องเรียนเราก็แอบชื่นชมอยู่ในใจว่าห้องเรียนนั้นกว้างขวางสะอาดตาเมื่อเทียบกับจำนวนนักเรียน ซึ่งเด็กอนุบาลจะมีไม่เกิน 18 คน และเด็กประถมจะมีไม่เกิน 25 คน/ห้อง และในแต่ละห้องก็จัดการพื้นที่ต่าง ๆ ไว้อย่างลงตัว มีมุมโต๊ะเก้าอี้ที่ใช้เรียนอย่างจริงจัง หรือจะเป็นมุมนั่งเล่น ฟังนิทาน อ่านหนังสือ ชั้นวางของสำหรับนักเรียนแต่ละคน หรือแม้กระทั่งห้องน้ำส่วนตัวในแต่ละห้องเรียนก็ถือเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์สำหรับพวกเราเช่นกัน
ในส่วนของห้องรับประทานอาหารของนักเรียน Nursery – Grade 2 จะถูกจัดแยกออกมาจากทางโรงอาหารเพื่อความเป็นสัดส่วนและความเหมาะสมในเรื่องของเมนูและรสชาติ ทางเจ้าหน้าที่แอบกระซิบกับเราอีกครั้งว่าทางโรงเรียนถึงกับจ้างเชฟฝีมือทองดีกรีนอกมาช่วยดูสูตรและปรับปรุงเมนูอาหารให้ถูกหลักโภชนาการและหลักสุขาภิบาลอาหารอีกด้วย ซึ่งเมนูในแต่ละวันก็สลับสับเปลี่ยนกันไป ไทยบ้าง เทศบ้าง เช่นในวันนี้พวกเราก็แอบลิ้มรสแกงจืดสาหร่ายใส่ผักกาดขาว
ซึ่งรสชาติก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว แถมมีประโยชน์ต่อสุขภาพน้อง ๆ อีกด้วย
อิ่มท้องกันแล้ว พวกเราก็เดินมาถึงในส่วนของห้องเด็กเล่น (playroom) ซึ่งมีอยู่ด้วยกันถึง 4 ห้อง แต่ก็มีความแตกต่างกันไปตามกิจกรรมเครื่องเล่นของแต่ละห้อง และในแต่ละชั้นเรียนก็จะถูกจัดตารางสลับสับเปลี่ยนกันไปตามแต่ละห้องในแต่ละวัน ในช่วงก่อนเข้าเรียนหรือหลังเลิกเรียน น้อง ๆ อนุบาลก็สามารถเล่นอยู่ในห้องเด็กเล่นนี้เพื่อรอเวลาเข้าเรียน หรือรอผู้ปกครองมารับกลับหลังเลิกเรียน และเพื่อความปลอดภัยของน้อง ๆ ทางโรงเรียนจึงต้องให้ผู้ปกครองแสดงบัตร pick up card เพื่อแสดงตนก่อนรับนักเรียนทุกครั้ง
เดินลัดเลาะเข้าไปชมด้านในจนถึงอาคารสูงหกชั้น ที่นี่มีนักเรียนถึงเกรด 12 หรือม.6 เรียกว่าเรียนกันยาว ๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องการหาโรงเรียนใหม่กันเลย แต่พวกเราไม่ได้เรียนอินเตอร์ฯ กันมาก็เลยมีคำถามว่าแล้วน้อง ๆ ที่จบจากที่นี่สามารถเข้าสอบมหาวิทยาลัยในเมืองไทยได้หรือไม่ คำตอบคือน้อง ๆ สามารถเข้าสอบมหาวิทยาลัยในเมืองไทยที่เปิดภาคอินเตอร์ฯ ได้ ซึ่งแต่ละมหาวิทยาลัยแต่ละคณะก็จะมีเงื่อนไขการรับสมัครที่แตกต่างกันไป
ทั้งนี้ทางคณะผู้บริหารโรงเรียนได้ เล็งเห็นถึงความสำคัญในการต่อยอดทางด้านการศึกษา จึงได้จัดกิจกรรมที่เรียกว่า university visit โดยทางโรงเรียนจะจัดรถพานักเรียนเกรด 11 - 12 ไปเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ซึ่งโครงการนี้จัดทำขึ้นทุกปีเพื่อให้นักเรียนเราได้สัมผัสบรรยากาศในรั้วมหาวิทยาลัยที่เขาใฝ่ฝันก่อนเข้าศึกษาต่อจริง นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังมีการจัด university fair โดยมหาวิทยาลัยต่างๆจะได้รับเชิญมาออกบูธที่โรงเรียน ซึ่งนักเรียนเกรด 9 - 12 สามารถเดินชมงานและสอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยได้โดยตรง
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ท่านใดที่กำลังมองหาโรงเรียนนานาชาติที่มีมาตรฐานภายใต้สภาพแวดล้อมที่เป็นกันเอง ผู้บริหาร ครู อาจารย์ดูแลบุตรหลานของท่านเสมือนหนึ่งครอบครัว รวมถึงราคาที่เอื้อมถึงได้ โรงเรียนนานาชาติแอ๊ดเวนต์รามคำแหงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เรากล้าพูดได้ว่าหากท่านได้เข้าไปสัมผัสแล้ว โรงเรียนนี้จะอยู่ในใจของท่านอย่างแน่นอน
ดูรายละเอียดค่าเทอมของโรงเรียนนานาชาติแอ๊ดเวนต์รามคำแหง (Ramkhamhaeng Advent International School) คลิก >
http://rais.ac.th/school-fees
โรงเรียนนานาชาติแอ๊ดเวนต์รามคำแหง (Ramkhamhaeng Advent International School)
ที่อยู่: 1 ซ.รามคำแหง 119 ถ.สุขาภิบาล 3 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240
เบอร์โทรศัพท์: 0-2370-0316
E-mail: info@rais.ac.th
Website:
www.rais.ac.th
Facebook:
https://www.facebook.com/rais1999/