facebook  youtube  line

10 วัดไหว้พระขอลูก มีลูกยาก อยากมีลูกต้องรีบไปก้มกราบ


ไหว้พระของลูก, ไหว้สิ่งสักดิ์สิทธิ์ขอลูก, ขอพรขอลูก, ขอลูกจากพระ, ขอลูกจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์, วัดดังขอลูก, อยากมีลูก, มีลูกยาก

คนอยากมีลูก มีลูกยากต้องไหว้พระ ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์วัดไหนถึงจะมีลูกสมใจ เรารวบรวม 10 วัดไหวะพระขอลูกสำหรับคนอยากมีลูกมาไว้ให้แล้ว

10 วัดไหว้พระขอลูก มีลูกยาก อยากมีลูกต้องรีบไปก้มกราบ

ถ้าคุณเป็นคู่หนึ่งที่อยากมีลูกมาก แต่มีลูกยากเหลือเกิน ในระหว่างที่ใช้วิธีธรรมชาติสารพัด แถมยังรับคำแนะนำจากทั้งเพื่อนทั้งหมอมาก็เยอะแต่ยังไม่ท้อง ก็อย่าเพิ่งท้อค่ะ ลองหาที่พึ่งทางใจที่หลายๆ คู่ก็ไปพึ่งกันมาจนมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างกันมาเยอะว่า สถานที่เหล่านี้คือวัดและที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับขอพร ขอลูก ไหว้พระขอลูกกัน ลองไปตามดูกันค่ะว่ามีที่ไหน วัดไหนกันบ้าง

  1. วัดพระธาตุดอยคำ จ.เชียงใหม่
  2. วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา
  3. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร จ.กรุงเทพฯ
  4. วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร จ.กรุงเทพฯ
  5. ศาลเจ้าพ่อเสือ จ.กรุงเทพฯ
  6. เจ้าแม่กวนอิม วัดเล่งเน่ยยี่ จ.กรุงเทพฯ
  7. วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช
  8. พระพรหมเอราวัณ จ.กรุงเทพฯ
  9. พระแม่อุมาเทวี หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ จ.กรุงเทพฯ
  10. ศาลเจ้าปุดจ้อ จ.ภูเก็ต


สำหรับเครื่องไหว้ต่างๆ แต่ละสถานที่ก็จะไม่เหมือนกัน แถมที่เดียวกันยังมีการไหว้หลายแบบ ถ้าใครจะไปก็ศึกษาหาข้อมูลกันไปก่อนหรือไปลุยกันหน้าวัดไปเลยค่ะ แต่อย่างที่บอกนะคะว่าการไหว้พระขอพรเป็นที่พึ่งทางใจอย่างหนึ่งสำหรับคนอยากมีลูกให้สบายใจขึ้นค่ะ แต่ถ้าจนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีลูกซักที อย่าลืมไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนะคะ

 

6 วิธีผสมเทียม สำหรับคนมีลูกยากแต่อยากมีลูก

การผสมเทียม, มีลูกยาก, อยากมีลูก, อิ๊กซี่, ทำกิฟท์, เด็กหลอดแก้ว, บลาสโตซิสท์ คัลเจอร์, IUI, GIF, ZIFT, IVF& ET, ICSI, Blastocyst Culture, อยาก มี ลูก แต่ มี ยาก, มี ลูก ยาก อยาก มี ลูก, อยาก มี ลูก มี ลูก ยาก, ติด ลูก ยาก, อยาก มี ลูก แต่ มี ลูก ยาก, มี ลูก ยาก, อยากมีลูกแต่มียาก, มีลูกยากอยากมีลูก, ติดลูกยาก, อยากมีลูกแต่มีลูกยาก, มีลูกยาก, เทคโนโลยี ตั้งครรภ์, เทคโนโลยี ช่วยมีลูก

การผสมเทียม เด็กหลอดแก้ว เป็นเทคโนโลยีช่วยให้ผู้มีบุตรยาก ตั้งครรภ์ได้ง่ายขึ้น การผสมเทียมเพื่อตั้งครรภ์มีวิธีอะไรบ้าง เรามีคำแนะนำค่ะ

6 วิธีผสมเทียม สำหรับคนมีลูกยากแต่อยากมีลูก

การผสมเทียมคืออะไร

การผสมเทียม คือ การนำน้ำอสุจิฉีดเข้าไปในโพรงมดลูกของฝ่ายหญิงโดยไม่มีการร่วมเพศ การผสมเทียม นี้พบว่ามีโอกาสตั้งท้องได้ประมาณร้อยละ 50 ซึ่งปัจจุบันมี การผสมเทียม สามารถทำได้ทั้งการนำ อสุจิ และ ไข่ มาผสมภายนอกก่อนแล้วจึงนำไปใส่ในมดลูกู และการฉีดอสุจิเข้าโพรงมดลูก แต่ก่อนที่คู่สามีภรรยาจะตั้งครรภ์ด้วยวิธีผสมเทียม จำเป็นต้องรู้ข้อกฏหมายบางข้อที่สำคัญของ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 เช่น

  1. การผสมเทียมจะต้องใช้อสุจิและไข่ของคู่ สามี ภรรยา ตามกฏหมาย (จดทะเบียนสมรส)

  2. หากจำเป็นต้องใช้อสุจิหรือไข่ของบุคคลอื่น จะต้องให้ความยินยอมเป็นหนังสือทั้งผู้รับบริจาคและผู้บริจาค

  3. ห้ามไม่ให้ผู้หญิงโสดทำการผสมเทียมเพื่อป้องกันการรับจ้างท้อง อุ้มบุญในเชิงธุรกิจ และช่วยปกป้องสิทธิ์ของเด็กที่เกิดจากการผสมเทียมด้วยเหตุผลที่ไม่ถูกต้องด้วย 

การผสมเทียมเหมาะกับสามีภรรยาที่มีปัญหาอะไร 

  1. ผู้มีปัญหา มี ลูก ยาก โดยประเมินเบื้องต้นจากการมีเพศสัมพันธ์กันสม่ำเสมอ แล้วยังไม่ตั้งครรรภ์ได้ในระยะเวลา 1 ปี ซึ่งมีเพียงร้อยละ 15 เท่านั้น ถือว่าเข้าข่ายการมีลูกยาก ซึ่งควรไปปรึกษาคุณหมอ เพื่อหาสาเหตุและทำการรักษา

  2. ฝ่ายชายมีปัญหาสุขภาพ เช่น อวัยวะสืบพันธุ์ผิดปกติ แต่กำเนิด (สามีอวัยวะเพศสั้นทำให้มีลูกยากจริงไหม อ่านต่อคลิก) ไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ พันธุกรรมผิดปกติไม่สามารถสร้างตัวอสุจิได้หรือสร้างได้น้อยมาก การได้รับสารเคมีที่ส่งผลต่ออสุจิ (เช่น ยาฆ่าแมลง สารตะกั่ว สารประกอบเบนซีน รวมถึงการใช้ยาบางชนิด) สูบบุหรี่เป็นประจำ มีโรคประจำตัวบางอย่างที่ส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ (เช่น เบาหวาน) เป็นโรคคางทูมในวัยเด็ก ได้รับอุบัติเหตุ เป็นต้น

  3. ฝ่ายหญิงมีปัญหาสุขภาพ เช่น อายุมาก สูบบุหรี่เป็นประจำ อวัยวะสืบพันธุ์ผิดปกติแต่กำเนิด เนื้องอกของมดลูกขนาดใหญ่หรืออยู่ในโพรงมดลูก ท่อนำไข่ตัน มีเยื่อพังผืดในอุ้งเชิงกรานหรือเป็นเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ รังไข่ทำงานไม่ได้ตามปกติ มีซิสต์หรือเนื้องอกของรังไข่ มีความผิดปกติของฮอร์โมนในร่างกายที่ส่งผลต่อการตกไข่ เป็นต้น

เมื่อคู่สามีภรรยาที่ปัญหาการตั้งครรภ์ยากที่ต่างกันจากหลายสาเหตุ การเลือกวิธีผสมเทียมจึงมีหลายวิธีเพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละคู่เช่นกัน นี่คือ 6 วิธีผสมเทียมเพื่อการตั้งครรภ์ สำหรับคนมีลูกยากที่เทคโนโลยีทางการแพทย์ช่วยได้ค่ะ 


 การผสมเทียม, มีลูกยาก, อยากมีลูก, อิ๊กซี่, ทำกิฟท์, เด็กหลอดแก้ว, บลาสโตซิสท์ คัลเจอร์, IUI, GIF, ZIFT, IVF& ET, ICSI, Blastocyst Culture, อยาก มี ลูก แต่ มี ยาก, มี ลูก ยาก อยาก มี ลูก, อยาก มี ลูก มี ลูก ยาก, ติด ลูก ยาก, อยาก มี ลูก แต่ มี ลูก ยาก, มี ลูก ยาก, อยากมีลูกแต่มียาก, มีลูกยากอยากมีลูก, ติดลูกยาก, อยากมีลูกแต่มีลูกยาก, มีลูกยาก, เทคโนโลยี ตั้งครรภ์, เทคโนโลยี ช่วยมีลูก

วิธีที่ 1: การฉีดเชื้อหรือการผสมเทียม (Intra Uterine Insemination หรือ IUI)

คือ การนำเชื้ออสุจิของฝ่ายชายมาคัดเชื้อที่มีคุณภาพโดยเลือกตัวที่วิ่งเร็ว แข็งแรง และรูปร่างดีที่สุด ฉีดเข้าไปในโพรงมดลูกในวันที่ไข่ตก โดยแพทย์จะใช้ฮอร์โมนจากภายนอกช่วยฉีดเข้าไปหรืออาจมีการอัลตราซาวนด์ด้วย แล้วลองดูว่าการทำลักษณะนี้แล้วได้ผลหรือไม่

โดยปกติแล้วการผสมเทียมจะทำไม่เกิน 3 ครั้ง ถ้าเกิน 3 ครั้งแล้วยังไม่ตั้งครรภ์ก็ต้องเปลี่ยนวิธีไปทำกิฟท์ ซึ่งความสำเร็จแต่ละครั้งประมาณ 15-20% วิธีนี้ใช้ในกรณีฝ่ายชายมีเชื้ออสุจิไม่แข็งแรงหรือมีปริมาณน้อย ฝ่ายหญิงไม่มีมูกที่ปากมดลูกหรือมูกเหนียวข้น และไม่สามารถผลิตฮอร์โมนได้เพียงพอต่อการผลิตไข่ที่สมบูรณ์ได้ ซึ่งอาจต้องใช้ฮอร์โมนเพิ่มและกระตุ้นการตกไข่


 การผสมเทียม, มีลูกยาก, อยากมีลูก, อิ๊กซี่, ทำกิฟท์, เด็กหลอดแก้ว, บลาสโตซิสท์ คัลเจอร์, IUI, GIF, ZIFT, IVF& ET, ICSI, Blastocyst Culture, อยาก มี ลูก แต่ มี ยาก, มี ลูก ยาก อยาก มี ลูก, อยาก มี ลูก มี ลูก ยาก, ติด ลูก ยาก, อยาก มี ลูก แต่ มี ลูก ยาก, มี ลูก ยาก, อยากมีลูกแต่มียาก, มีลูกยากอยากมีลูก, ติดลูกยาก, อยากมีลูกแต่มีลูกยาก, มีลูกยาก, เทคโนโลยี ตั้งครรภ์, เทคโนโลยี ช่วยมีลูก

วิธีที่ 2: การทำกิฟท์ (Gamete IntraFollopain Transfer หรือ GIF)

คือ การเก็บเซลล์สืบพันธุ์ทั้งไข่และอสุจิมาผสมกัน จากนั้นจึงใส่กลับเข้าสู่ท่อนำไข่ทันที โดยให้อสุจิและไข่ปฏิสนธิกันเองตามธรรมชาติในร่างกายของแม่ โอกาสตั้งครรภ์ประมาณ 30-40%

วิธีนี้ใช้ในกรณี ฝ่ายชายมีเชื้ออสุจิอ่อนแอไม่มากนัก ฝ่ายหญิงมีท่อนำไข่ที่ปกติอย่างน้อย 1 ข้าง มีภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือมีพังผืดมาก อาจใช้สำหรับคู่สมรสที่ไม่ทราบสาเหตุของการมีบุตรยาก


 การผสมเทียม, มีลูกยาก, อยากมีลูก, อิ๊กซี่, ทำกิฟท์, เด็กหลอดแก้ว, บลาสโตซิสท์ คัลเจอร์, IUI, GIF, ZIFT, IVF& ET, ICSI, Blastocyst Culture, อยาก มี ลูก แต่ มี ยาก, มี ลูก ยาก อยาก มี ลูก, อยาก มี ลูก มี ลูก ยาก, ติด ลูก ยาก, อยาก มี ลูก แต่ มี ลูก ยาก, มี ลูก ยาก, อยากมีลูกแต่มียาก, มีลูกยากอยากมีลูก, ติดลูกยาก, อยากมีลูกแต่มีลูกยาก, มีลูกยาก, เทคโนโลยี ตั้งครรภ์, เทคโนโลยี ช่วยมีลูก

วิธีที่ 3: การทำซิฟท์ (Zygote IntraFollopain Transfer หรือ ZIFT)

คือการผสมกันระหว่างไข่กับอสุจิคล้ายการทำกิ๊ฟท์ แต่ต่างกันตรงที่ต่างจากการทำกิฟท์ตรงที่เป็นการนำไข่และอสุจิมาผสมกันให้เกิดการปฏิสนธินอกร่างกายก่อน แล้วจึงนำตัวอ่อนในระยะ Zygote ใส่กลับเข้าไปในท่อนำไข่ โอกาสตั้งครรภ์แต่ละครั้งประมาณ 20-30%

วิธีนี้ใช้ในกรณี ฝ่ายชายมีเชื้ออสุจิน้อยกว่าปกติ ฝ่ายหญิงที่ท่อนำไข่ไม่ตัน แต่ทำงานไม่ปกติ มีภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ และมีพังผืดมาก และคู่สมรสที่ไม่ทราบสาเหตุของการมีบุตรยากด้วย 


การผสมเทียม, มีลูกยาก, อยากมีลูก, อิ๊กซี่, ทำกิฟท์, เด็กหลอดแก้ว, บลาสโตซิสท์ คัลเจอร์, IUI, GIF, ZIFT, IVF& ET, ICSI, Blastocyst Culture, อยาก มี ลูก แต่ มี ยาก, มี ลูก ยาก อยาก มี ลูก, อยาก มี ลูก มี ลูก ยาก, ติด ลูก ยาก, อยาก มี ลูก แต่ มี ลูก ยาก, มี ลูก ยาก, อยากมีลูกแต่มียาก, มีลูกยากอยากมีลูก, ติดลูกยาก, อยากมีลูกแต่มีลูกยาก, มีลูกยาก, เทคโนโลยี ตั้งครรภ์, เทคโนโลยี ช่วยมีลูก

วิธีที่ 4: การทำเด็กหลอดแก้ว (InVitro Fertilization and Embryo Transfer หรือ IVF& ET)

คือการเอาไข่ 10-20 ใบ ออกมาผสมกับอสุจิในจานหรือในหลอดแก้ว พอผสมกันแล้วจะรู้เลยว่าจะมีการปฏิสนธิหรือไม่ แล้วก็ต้องเลี้ยงตัวอ่อนประมาณ 3-5 วัน แล้วจึงใส่กลับเข้าไปในมดลูกของฝ่ายหญิง โอกาสตั้งครรภ์สูงสุดคือ 30-50% 

วิธีนี้ใช้ในกรณี ฝ่ายชายมีเชื้ออสุจิที่ไม่แข็งแรง ฝ่ายหญิงมีท่อนำไข่อุดตันทั้ง 2 ข้าง และมีพังผืดในอุ้งเชิงกราน

 


 การผสมเทียม, มีลูกยาก, อยากมีลูก, อิ๊กซี่, ทำกิฟท์, เด็กหลอดแก้ว, บลาสโตซิสท์ คัลเจอร์, IUI, GIF, ZIFT, IVF& ET, ICSI, Blastocyst Culture, อยาก มี ลูก แต่ มี ยาก, มี ลูก ยาก อยาก มี ลูก, อยาก มี ลูก มี ลูก ยาก, ติด ลูก ยาก, อยาก มี ลูก แต่ มี ลูก ยาก, มี ลูก ยาก, อยากมีลูกแต่มียาก, มีลูกยากอยากมีลูก, ติดลูกยาก, อยากมีลูกแต่มีลูกยาก, มีลูกยาก, เทคโนโลยี ตั้งครรภ์, เทคโนโลยี ช่วยมีลูก

วิธีที่ 5: การทำอิ๊คซี่ (IntraCytoplasmic Sperm Injection หรือ ICSI)

เป็นการต่อยอดจากเด็กหลอดแก้ว โดยเอาเข็มที่มีเชื้อสเปิร์มอยู่หนึ่งตัวเจาะเข้าไปในไข่ เป็นการช่วยตัวเชื้อสเปิร์มที่ไม่แข็งแรง และไม่สามารถเจาะเข้าไปได้ โอกาสตั้งครรภ์ประมาณ 25-30%

วิธีนี้ใช้ในกรณี ฝ่ายชายมีเชื้ออสุจิผิดปกติอย่างมาก ฝ่ายหญิงมีรังไข่ผิดปกติ ไม่มีการตกไข่ และไข่กับอสุจิไม่สามารถปฏิสนธิกันเองได้


 การผสมเทียม, มีลูกยาก, อยากมีลูก, อิ๊กซี่, ทำกิฟท์, เด็กหลอดแก้ว, บลาสโตซิสท์ คัลเจอร์, IUI, GIF, ZIFT, IVF& ET, ICSI, Blastocyst Culture, อยาก มี ลูก แต่ มี ยาก, มี ลูก ยาก อยาก มี ลูก, อยาก มี ลูก มี ลูก ยาก, ติด ลูก ยาก, อยาก มี ลูก แต่ มี ลูก ยาก, มี ลูก ยาก, อยากมีลูกแต่มียาก, มีลูกยากอยากมีลูก, ติดลูกยาก, อยากมีลูกแต่มีลูกยาก, มีลูกยาก, เทคโนโลยี ตั้งครรภ์, เทคโนโลยี ช่วยมีลูก

วิธีที่ 6: บลาสโตซิสท์ คัลเจอร์ (Blastocyst Culture)

เป็นขั้นตอนเลี้ยงตัวอ่อนก่อนจะใส่กลับเข้าไปในมดลูก โดยจะเลี้ยงตัวอ่อนประมาณ 3-5 วัน ซึ่งวันที่ 3 ของการเลี้ยงจะเป็นระยะของการแตกเซลล์ วันที่ 5 จะเป็นระยะบลาสโตซิสท์ ซึ่งตัวอ่อนที่โตมาถึงระยะบลาสโตซิสท์จะมีคุณภาพดีระดับหนึ่ง

วิธีนี้ใช้ในกรณีที่ไข่ของผู้หญิงไม่สมบูรณ์หรือไม่แข็งแรง ซึ่งจะเป็นการเพาะเลี้ยงภายนอกจนตัวอ่อนแข็งแรงพร้อมที่สุดที่จะเกาะผนังมดลูก แล้วจึงค่อยนำกลับไปใส่ในมดลูกเพื่อเจริญเติบโตต่อไป

 

Blastocyst Culture ความหวังของคนมีลูกยากและอยากมีลูก

Blastocyst Culture, บลาสโตซิสท์ คัลเจอร์, ผสมเทียม, เด็กหลอดแก้ว, มีลูกยาก, การผสมเทียม มีลูก, รักษา มีลูกยาก, มีบุตรยาก รักษายังไง

Blastocyst Culture เป็นวิธีช่วยให้ผู้มีบุตรยากสามารถมีลูกได้ วิธีเหมาะกับใคร มีขั้นตอนการทำอย่างไร เรามีคำแนะนำค่ะ

Blastocyst Culture ความหวังของคนมีลูกยากและอยากมีลูก

Blastocyst Culture หรือ บลาสโตซิสต์  คัลเจอร์ คืออะไร

Blastocyst Culture หรือบลาสโตซิสต์ คัลเจอร์ เป็นขั้นตอนเลี้ยงตัวอ่อนก่อนจะใส่กลับเข้าไปในมดลูก โดยจะเลี้ยงตัวอ่อนประมาณ 3-5 วัน ซึ่งวันที่ 3 ของการเลี้ยงจะเป็นระยะของการแตกเซลล์ วันที่ 5 จะเป็นระยะบลาสโตซิสท์ ซึ่งตัวอ่อนที่โตมาถึงระยะบลาสโตซิสท์จะมีคุณภาพดีระดับหนึ่ง

ส่วนมากในการทำเด็กหลอดแก้วจะมีการปฏิสนธิขึ้นอยู่กับว่าจะได้ไข่จากแม่มากี่ฟอง ถ้าภายในร่างกายแม่มีผังพืด มีช็อกโกแลตซีสต์ หรือถ้าอายุมาก โอกาสมีไข่ก็จะน้อย และการปฏิสนธิก็อาจจะไม่ติดทุกฟอง เช่น ได้ 10 ฟอง อาจจะติดแค่ 7 ฟองหรือ 5 ฟองหรือ 3 ฟอง คือถ้ามีโรคและอายุเยอะก็อาจเหลือไข่น้อยลง จากนั้นต้องตรวจความผิดปกติของโครโมโซม หรือที่เรียกว่า Preimplantation Genetic Diagnosis (P.G.D.) ซึ่งทำใน 2 กรณี คือ

  1. เพื่อตรวจคัดกรองโรคที่พบได้บ่อยๆ

  2. ตรวจดูว่าในโครโมโซมนั้นมีโรคทางพันธุกรรมที่มีคนในครอบครัวเป็นอยู่แล้วหรือเปล่า เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดโรคนี้กับลูกในท้อง

โดยส่วนมากจะตรวจแบบคัดกรองหรือสกรีนนิ่งแบบที่ 1 มากกว่า คือ ตรวจโครโมโซมประมาณ 5 ตัว เพื่อคัดกรองโรคที่เจออยู่บ่อยๆ เช่น ดาวน์ซินโดรม การตรวจ P.G.D. เหมือนกับเป็นการเจาะน้ำคร่ำในแม่ที่ท้องธรรมชาติ จะทำหรือไม่ทำก็ได้ แต่ถ้าไม่ทำก็จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เพราะแม่อายุเยอะมีโอกาสที่ลูกจะเป็นดาวน์ซินโดรม ถ้าไม่ตรวจคัดกรอง ก็มีความเสี่ยงสูงที่ลูกอาจจะเป็นโรคนี้ได้

ข้อดีของการใส่ตัวอ่อนในระยะ Blastocyst

  • สามารถเลือกตัวอ่อน ที่มีการเจริญเติบโต และมีคุณภาพดีที่สุด ใส่กลับคืนสู่โพรงมดลูก
  • เป็นการใส่ตัวอ่อน ในระยะที่อยู่ในโพรงมดลูกอยู่แล้ว กลับคืนสู่โพรงมดลูก ซึ่งตรงกับธรรมชาติมากที่สุด
  • อัตราการฝังตัวสูงกว่าการใส่ตัวอ่อนในระยะ 4-8 เซลล์
  • สามารถตรวจหาความผิดปกติ ของโครโมโซมของตัวอ่อน ก่อนใส่กลับคืนสู่โพรงมดลูกได้
  • ลดอัตราการเกิดแฝดมากกว่าสองคน ใส่ตัวอ่อนที่เป็นระยะ Blastocyst เพียง 1-2 ตัวอ่อนก็มีโอกาสตั้งครรภ์แล้ว
  • การใส่ตัวอ่อนจำนวนน้อย ทำให้มีตัวอ่อนเหลือ หากรอบแรกใส่แล้วไม่สำเร็จ รอบต่อไปก็สามารถเอากลับมาใส่ได้อีก คนไข้ไม่ต้องสิ้นเปลือง เพราะมีตัวอ่อนเหลืออยู่ ซึ่งแช่แข็งเก็บได้ตลอดไป

Blastocyst Culture, บลาสโตซิสท์ คัลเจอร์, ผสมเทียม, เด็กหลอดแก้ว, มีลูกยาก, การผสมเทียม มีลูก, รักษา มีลูกยาก, มีบุตรยาก รักษายังไง

ขั้นตอนการทำ Blastocyst Culture หรือ บลาสโตซิสต์  คัลเจอร์ 

  1. ตรวจวินิจฉัย เพื่อหาปัจจัยที่ทำให้คู่สมรสคู่นั้นมีบุตรยาก ว่าเกิดจากอะไรบ้าง โดยหลักๆ จะมี 3 ปัจจัยใหญ่ คือ คุณภาพไข่ดีหรือไม่ คุณภาพของโพรงมดลูก กับท่อนำไข่เป็นอย่างไร และคุณภาพของอสุจิ

  2. ฉีดยากระตุ้นไข่ เพื่อให้รังไข่ผลิตไข่หลายๆ ใบ ประมาณ 8-10 ใบ จึงจะทำให้ได้ตัวอ่อนคุณภาพดีหลายตัว สำหรับเลือกใช้ โดยจะฉีดวันละเข็ม ประมาณ 10-12 วัน ในระหว่างที่ฉีดยากระตุ้นไข่ แพทย์จะนัดแม่มาอัลตราซาวนด์ทางช่องคลอด เพื่อดูว่าไข่มีกี่ใบ และวัดขนาดของไข่ ซึ่งไข่ที่พร้อมจะสุกมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.8-2 ซม. เมื่อไข่มีขนาด 2 ซม.แพทย์จะเปลี่ยนมาฉีดฮอร์โมนอีกชนิดหนึ่ง เพื่อบังคับให้ไข่ทั้งหมดตกพร้อมๆ กัน เพราะธรรมชาติจะกำหนดให้ใบที่ใหญ่ที่สุดตกใบเดียว โดยมีฮอร์โมนมายับยั้งให้ใบอื่นฝ่อ แต่ในกรณีรักษาการมีบุตรยาก ต้องฝืนเพราะต้องการไข่จำนวนมาก เพื่อมาทำตัวอ่อนหลายๆ ตัว

  3. เจาะเก็บไข่ หลังจากฉีดยาให้ไข่สุกแล้วภายใน 36 ชั่วโมง แพทย์จะเจาะเก็บไข่ โดยฉีดยานอนหลับเพื่อป้องกันอันตรายจากการเคลื่อนไหวของคนไข้ขณะแทงเข็ม แพทย์จะใช้อัลตราซาวนด์ทางช่องคลอด เพื่อบอกตำแหน่งของรังไข่ แล้วใช้เข็มเล็กๆ ยาวๆ เจาะผ่านผนังช่องคลอดเข้าไปที่รังไข่ แล้วดูดเอาน้ำซึ่งมีเซลล์ไข่ลอยอยู่ออกมาเก็บในหลอดทดลอง

  4. การเตรียมอสุจิในวันเดียวกับที่เจาะเก็บไข่ แพทย์จะเก็บอสุจิจากฝ่ายชาย และคัดเอาตัวที่แข็งแรง มีการเคลื่อนไหวดีหลังจากคัดอสุจิได้ตามที่ต้องการแล้ว ก็นำมาเทผสมกันในหลอดทดลอง แล้วรอให้อสุจิผสมเข้าไปในไข่ ในบางกรณีอาจต้องช่วยนำตัวอสุจิเจาะเข้าไปในเซลล์ไข่ด้วย เรียกว่าการทำอิ๊กซี่ (ICSI)

  5. การใส่ตัวอ่อนกลับคืนสู่โพรงมดลูก เมื่อผสมตัวอ่อนเสร็จ นับตั้งแต่เริ่มปฏิสนธิ คือวันเจาะไข่ ตัวอ่อนจะถูกเปลี่ยนอาหารเลี้ยงไปเรื่อยๆ ทุกวัน ซึ่งอาหารเลี้ยงจะมีตามระยะต่างๆ จนกระทั่งถึงบลาสโตซิสท์ รวมเวลาที่เลี้ยงตัวอ่อน 5 วัน จึงนำตัวอ่อนใส่กลับเข้าสู่โพรงมดลูก โดยใช้ท่อพลาสติกชนิดพิเศษ ขนาดเล็กและมีความนิ่ม สอดผ่านช่องคลอดและผ่านปากมดลูกเข้าไปยังโพรงมดลูก เหมือนตรวจภายในธรรมดา ไม่มีความเจ็บปวดใดๆ

หลังจากใส่ตัวอ่อนเรียบร้อยแล้ว แม่ต้องนอนพักเป็นเวลา 2 ชั่วโมง จึงสามารถกลับบ้านได้ ตัวอ่อนจะฝังตัวภายใน 12-24 ชั่วโมง แพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วย พยายามพักอยู่กับบ้านหลังจากใส่ตัวอ่อน

จากนั้นอีก 14 วัน แพทย์จะนัดตรวจว่าตั้งครรภ์หรือไม่ โดยตรวจระดับฮอร์โมน hCG ถ้าฮอร์โมนสูงขึ้นแสดงว่าตั้งครรภ์ อีกสองสัปดาห์ต่อมาจะสามารถทำอัลตราซาวนด์ และเห็นหัวใจเด็กเต้นได้ และถือเป็นการตั้งครรภ์ปกติ

ค่าใช้จ่ายในการทำ Blastocyst Culture

ค่าใช้จ่ายแต่ละเคส หรือ แต่ละสถานที่ให้บริการ Blastocyst Culture อาจจะแตกต่างกันไป ดังนั้นหากต้องการมีลูกด้วยวิธี Blastocyst Culture ควรสอบถามขั้นตอนและค่าใช้จ่ายกับโรงพยาบาลหรือสถานดูแลรักษาโดยตรง เพื่อให้ทราบค่าใช้จ่ายตามเงื่อนไขของแต่ละคู่นะคะ 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก: http://www.perfectwomaninstitute.com

IUI ทางเลือกของคนมีลูกยาก แถมราคาไม่แพงอย่างที่คิด

IUI, การฉีดเชื้อผสมเทียมในโพรงมดลูก, Intrauterine Insemination-IUI, อยากมีลูก, มีลูกยาก, ผสมเทียม, ฉีดน้ำเชื้อ, เด็กหลอดแก้ว, มีลูกยาก ทำอย่างไร, ตัวช่วยมีบุตร, ผสมเทียม ราคาไม่แพง, วิธีผสมเทียม

การฉีดเชื้อผสมเทียมในโพรงมดลูก IUI สำหรับคนมีลูกยาก มีขั้นตอนอย่างไร ค่าใช้จ่ายแพงไหม คุณหมอสูตินรีแพทย์มีคำแนะนำก่อนตัดสินใจค่ะ

IUI การผสมเทียม ที่ช่วยให้ คนมีลูกยาก ตั้งท้อง ได้สมใจ แถม ราคาไม่แพง อย่างที่คิด

สำหรับคู่สมรสที่มีลูกยาก การฉีดเชื้อผสมเทียมในโพรงมดลูก (Intrauterine Insemination-IUI) หรือเรียกกันสั้น ๆ ว่า “IUI” ก็เป็นวิธีการที่น่าสนใจไม่น้อยเลยนะคะ วิธีนี้จะช่วยให้คู่สมรสตั้งท้องได้สมใจ ซึ่งมักจะได้ผลดีในระดับหนึ่ง ปลอดภัย และเสียค่าใช้จ่ายไม่มากเลยค่ะ เพราะน่าสนใจแบบนี้ เราจึงมีคำแนะนำจากคุณหมอมาฝากค่ะ

การฉีดเชื้อผสมเทียมในโพรงมดลูก (IUI) คืออะไร

วิธีนี้จะมีการคัดเอาเฉพาะตัวอสุจิที่ยังมีชีวิตและเคลื่อนที่ได้ดี แล้วนำเชื้ออสุจิเข้าไปในโพรงมดลูกโดยตรง โดยใช้ท่อพลาสติกเล็ก ๆ สอดผ่านปากมดลูก แล้วฉีดเชื้ออสุจิเข้าไปในช่วงที่มีหรือใกล้กับเวลาที่มีไข่ตก โดยที่ตัวอสุจิไม่ต้องว่ายผ่านปากมดลูก ทำให้มีตัวอสุจิที่เคลื่อนไหวจำนวนมากเข้าไปในโพรงมดลูก และพร้อมที่จะผสมกับไข่

IUI, การฉีดเชื้อผสมเทียมในโพรงมดลูก, Intrauterine Insemination-IUI, อยากมีลูก, มีลูกยาก, ผสมเทียม, ฉีดน้ำเชื้อ, เด็กหลอดแก้ว, มีลูกยาก ทำอย่างไร, ตัวช่วยมีบุตร, ผสมเทียม ราคาไม่แพง, วิธีผสมเทียม

ขั้นตอนการฉีดเชื้อผสมเทียมในโพรงมดลูก (IUI) 

  1. ขั้นตอน IUI ในการเตรียมฝ่ายหญิง
    แพทย์จะทำการกระตุ้นรังไข่ให้มีการเจริญเติบโตของฟองไข่ในรอบเดือนนั้น ๆ หลาย ๆ ใบ โดยใช้ยาฉีดหรือยารับประทานซึ่งมักจะเริ่มในวันที่ 3 ของรอบเดือน หลังจากนั้นจะมีการนัดตรวจอัลตร้าซาวด์ เพื่อติดตามดูขนาด จำนวนของฟองไข่ และความหนาของเยื่อบุโพรงมดลูก เมื่อฟองไข่มีขนาดพอเหมาะ แพทย์จะทำการฉีดยากระตุ้นให้มีการตกไข่

    หลังจากนั้นประมาณ 36-40 ชั่วโมงจะเป็นเวลาที่มีการตกไข่ แพทย์จะทำการนัดอีกครั้งเพื่อทำการฉีดเชื้ออสุจิเข้าโพรงมดลูกในวันที่ไข่ตก เห็นไหมครับว่าการทำ IUI นั้นไม่ยากอย่างที่คิดนะครับใช้เวลามาพบแพทย์เพียง 3 ครั้งต่อการทำในรอบหนึ่ง ๆ เท่านั้น

  2. ขั้นตอน IUI ในการเตรียมอสุจิของฝ่ายชาย
    จะต้องงดเพศสัมพันธุ์ 2-7 วัน เพื่อเก็บน้ำอสุจิแล้วนำมาส่งภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญจะนำอสุจิที่ได้มาทำการคัดกรอง เลือกเฉพาะตัวอสุจิที่ยังมีชีวิตและเคลื่อนไหวดี เพื่อให้แพทย์นำมาฉีดกลับเข้าไปในโพรงมดลูก ในขั้นตอนนี้จะใช้เวลาเตรียมประมาณ 1-2 ชั่วโมง (หากฝ่ายชายมีธุระต้องทำก็สามารถไปทำได้เลยภายหลังจากทำการเก็บเชื้ออสุจิ เสร็จสิ้นโดยไม่ต้องรอ)

  3. ขั้นตอน IUI การฉีดอสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก
    เมื่อเตรียมอสุจิเรียบร้อยก็จะนำเอาน้ำเชื้ออสุจิบรรจุลงในท่อพลาสติก ปราศจากเชื้อขนาดเล็ก ๆ แล้วแพทย์จะทำการสอดท่อขนาดเล็กนี้ผ่านปากมดลูกอย่างนุ่มนวล จากนั้นจึงทำการฉีดเชื้ออสุจิเข้าไปในโพรงมดลูก โดยใช้เวลาในการทำไม่กี่นาที ไม่เจ็บ และหลังทำ IUI แล้วท่านสามารถปฏิบัติตัวได้ตามปกติ ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล

  4. ข้อปฏิบัติตัวหลังทำ IUI
    ทั่วไปแล้วหลังฉีดเชื้ออสุจิจะให้นอนพักประมาณ 30 นาทีแล้วให้กลับบ้านได้ งดเพศสัมพันธ์ในวันที่ทำ IUI และหลังจากนั้นสามารถมีเพศสัมพันธุ์ได้ตามปกติ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และสามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ แล้วจะมีการนัดหมายเพื่อมาตรวจการตั้งครรภ์ภายหลังทำการฉีดอสุจิในระยะ 2 สัปดาห์

ค่าใช้จ่ายในการฉีดเชื้อผสมเทียมในโพรงมดลูก IUI

การทำ IUI หรือ การฉีดเชื้อผสมเทียมในโพรงมดลูกสามารถรับบริการได้ในโรงพยาบาล หรือคลินิกที่ให้บริการ ค่าใช้จ่ายอยู่ที่หลักพัน ถึง หลักหมื่น ขึ้นอยู่กับสถานบริการ และ เงื่อนไขสุขภาพที่ในบางรายอาจจะต้องดูแลสุขภาพให้พร้อมก่อนที่จะเข้ารับการทำ IUI ค่ะ 

โดยสรุปแล้วการทำ IUI เป็นวิธีช่วยการเจริญพันธุ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายวิธีหนึ่ง มีอัตราความสำเร็จมากพอสมควร ปลอดภัย และเสียค่าใช้จ่ายไม่มาก แต่หากทำวิธีข้างต้นแล้วฝ่ายหญิงยังไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ แพทย์จะนำเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์วิธีอื่นมาใช้ในการรักษาต่อไป เช่น การทำเด็กหลอดแก้ว การทำอิ๊กซี่ เป็นต้น

ขอบคุณข้อมูลจาก: นายแพทย์ธีรยุทธ์ จงวุฒิเวศย์ สูตินรีแพทย์ เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ โรงพยาบาลเวชธานี

 

ประจำเดือน ไม่ค่อยมา มาไม่ตรง ทำให้มีลูกยาก จริงไหม?

ประจำเดือนไม่ปกติ มีลูกยาก, ประจำเดือนมาบ้าง ไม่มาบ้าง มีลูกยาก มีบุตรยาก, ไม่มีประจำเดือน มีลูกได้ไหม มีลูกยาก, ภาวะมีบุตรยาก, รักษา มีบุตรยาก, รังไข่มีปัญหา มีลูกยาก

ประจำเดือนมาไม่ปกติ ประจำเดือนมาบ้างไม่มาบ้างเป็นสาเหตุที่ทำให้ตั้งท้องซักทีใช่ไหม ใครกำลังสงสัยกับคำถามนี้อยู่ คุณหมอมีคำตอบค่ะ

ประจำเดือน ไม่ค่อยมา มาไม่ตรง ทำให้มีลูกยาก จริงไหม?

อการแบบไหนคือภาวะมีลูกยาก มีบุตรยาก

ภาวะมีบุตรยากจะวินิจฉัยเมื่อคู่สมรสที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป มีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง เป็นเวลานาน 6 เดือน แล้วยังไม่ตั้งครรภ์หรือในกลุ่มสตรีที่มีอายุน้อยกว่า 30 ปี เป็นเวลานาน 1 ปี แล้วยังไม่ตั้งครรภ์ก็ถือว่าอยู่ในภาวะมีบุตรยาก

ประจำเดือนมาไม่ปกติเสี่ยงมีลูกยากไหม?

ในกรณีที่ประจำเดือนมาไม่ค่อยตรงวัน หรือไม่สม่ำเสมอทุก 28-30 วัน แสดงว่าน่าจะมีปัญหาในเรื่องการทำงานของรังไข่ อาจจะมีไข่ตกนาน ๆ ครั้ง หรือไข่ตกเร็วกว่าปกติ ส่งผลให้ประจำเดือนมาช้าหรือเร็วกว่าปกติได้ และอาจจะเป็นสาเหตุของการมีบุตรยากได้เช่นกัน

ในกรณีการตกไข่ที่ช้ากว่าปกติ ทำให้ประจำเดือนเลื่อนออกไป แต่ถ้าเลื่อนออกแบบสม่ำเสมอ โดยมีประจำเดือนมาทุก 35 วัน ก็ยังถือว่าปกติ แสดงว่าเป็นคนที่มีรอบเดือนยาว ดังนั้น ให้เลยกำหนดที่ประจำเดือนมาไปประมาณ 5-7 วัน ค่อยตรวจปัสสาวะทดสอบการตั้งครรภ์ก็ได้ ไม่ต้องรีบร้อนตรวจ เพราะในช่วงแรกปริมาณฮอร์โมนที่ตรวจพบในปัสสาวะยังน้อยอยู่ อาจจะยังตรวจไม่พบ ควรรอให้เลยกำหนดไปก่อน จะได้ไม่ทำให้เกิดความเครียดถ้าผลยังเป็นลบ

บทความโดย: พญ.สายฝน ชวาลไพบูลย์

ปล่อยแล้ว ไม่คุมกำเนิด แต่ไม่ท้องสักที แบบนี้เข้าข่ายมีลูกยากหรือยัง

มีลูกยาก, มีบุตรยาก, ภาวะมีบุตรยาก, มีลูกยาก สาเหตุ, มีบุตรยาก สาเหตุ, ภาวะมีลูกยาก สาเหตุ, อยากมีลูก, ปล่อยท้องแต่ไม่ท้อง, แม่ท้องต้องรู้, รักลูก Community of The Experts

ปล่อยท้องมาเป็นปีแต่ไม่ตั้งครรภ์สักที อาจเป็นไปได้ว่าเราเข้าข่ายภาวะมีบุตรยากนะคะ ภาวะมีบุตรยากจากทั้งฝ่ายชายและหญิงเกิดจากอะไร คุณหมอมีคำตอบค่ะ

ปล่อยแล้ว ไม่คุมกำเนิด แต่ไม่ท้องสักที แบบนี้เข้าข่ายมีลูกยากหรือยัง

สำหรับใครที่กำลัง อยากมีลูก แต่ปล่อยท้องเท่าไหร่ก็ยังไม่สำเร็จสักที เลยเริ่มสงสัยว่าเข้าข่าย มีลูกยาก หรือเปล่า คุณหมอจะมาตอบให้ค่ะว่าแบบไหนที่เรียกว่า มีลูกยาก

ภาวะมีบุตรยาก (Infertility) คือ ภาวะที่คู่แต่งงานยังไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ด้วยวิธีธรรมชาติในระยะเวลามากกว่า 1 ปีขึ้นไป แบบนี้ก็เข้าข่ายการมีภาวะ มีลูกยาก แล้วค่ะ 

ภาวะบุตรยากแบ่งเป็น 2 ประเภท

  1. ภาวะบุตรยากปฐมภูมิ (Primary Infertility) คือ ไม่เคยมีการตั้งครรภ์ ภายในระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปี

  2. ภาวะบุตรยากทุติยภูมิ (Secondaryinfertility) หมายถึง เคยต้ังครรภ์และการตั้งครรภ์น้ันอาจสิ้นสุดด้วยการคลอด การแท้ง หรือการตั้งครรภ์นอกมดลูก แล้วไม่เคยตั้งครรภ์อีก อย่างน้อย 1 ปี

สาเหตุมีบุตรยากจากฝ่ายชาย

เนื่องจากน้ำเชื้อปริมาณน้อยกว่าเกณฑ์ปกติ น้อยกว่า 20 ล้านตัวต่อ CC ตัววิ่งมีน้อย และรูปร่างเชื้อไม่ดีทำให้ยากในการปฏิสนธิของไข่

ปัจจัยที่มีผลต่อความแข็งแรงของน้ำเชื้อ

  • อัณฑะมีการอักเสบ ติดเชื้อ เช่น คางทูม เคยได้รับการผ่าตัด เป็นมะเร็ง เป็นเส้นเลือดขอด เคยได้รับการฉายแสง

  • การทำงานในที่ร้อนใส่กางเกงรัดๆ

  • มีการอุดตันของท่อนำอสุจิ

  • มีความผิดปกติทางฮอร์โมนขาดฮอร์โมนเพศชาย

  • สาเหตุทางพันธุกรรม โครโมโซมเพศผิดปกติ

  • ยาที่มีผลต่อภาวะมีบุตรยากในฝ่ายชาย เช่นยา sulfasalazine ที่รักษาเรื่องโรคข้อ rheumatoid   ยาเสตียรอยด์ ยาเคมีบำบัด การใช้กัญชา โคเคนทำให้น้ำเชื้อคุณภาพแย่ลง

  • อายุมากกว่า 40 ปี  การสัมผัสสารกำจัดศัตรูพืช การดื่ม แอลกอฮอล์  ภาวะอ้วน ความเครียด

 สาเหตุมีบุตรยากจากฝ่ายหญิง

  • อายุมากขึ้น

  • การสูบบุหรี่ (ทำให้เพิ่มอัตราการแท้ง)

  • การดื่มแอลกอฮอล์

  • น้ำหนักตัวที่มากขึ้น

  • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ทำให้ท่อนำไข่ไม่ดี

  • สัมผัสสารกำจัดศัตรูพืชและสัตว์

  • ภาวะเครียด ซึ่งทำให้มีผลต่อกระบวนการตกไข่

  • ความผิดปกติที่รังไข่ เช่น ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนดคือหมดประจำเดือนก่อนอายุ 40 ปี กลุ่มอาการถุงน้ำในรังไข่หลายๆใบ (pcos)

  • ภาวะโปรแลคตินในเลือดสูง ซึ่งมีผลต่อกระบวนการตกไข่

  • โรคไทรอยด์

  • ปัญหาจากท่อนำไข่ เนื้องอกที่มดลูก ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกอยู่ผิดที่

  • การใช้ยาต้านอักเสบชนิดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (nsaids) การใช้ยาแอสไพรินนานๆ

  • การได้เคมีบำบัด การได้รับการฉายแสง การใช้สารเสพติด

หากไม่คุมกำเนิด 1 ปี แต่ไม่มีลูก ต้องไปตรวจกับคุณหมอนะคะ อาจมีอาการหรือสาเหตุมาจากที่คุณหมอกล่าวข้างต้น เพื่อที่จะได้รักษา แก้ไข และมีลูกน้อยได้นั่นเองค่ะ

บทความโดย: แพทย์หญิง วรประภา ลาภิกานนท์ สูตินรีแพทย์

มดลูกคว่ำทำให้มีลูกยากจริงไหม คนอยากมีลูกต้องรู้จักมดลูกตัวเองด้วย

มดลูกคว่ำ, มดลูกคว่ำ ผิดปกติไหม, มดลูกคว่ำ มีลูกยาก, มดลูกคว่ำ อยากมีลูก, มดลูกคว่ำ มีลูกได้ไหม, ทำไมมดลูกคว่ำ, มดลูกปกติเป็นยังไง, มดลูกผิดปกติ, มดลูกมีปัญหา, มีลูกยาก, อยากมีลูก, มี ลูก ยาก, มี บุตร ยาก

มดลูกคว่ำเป็นเกิดจากมีพังผืดดึงรั้งบริเวณด้านหลังของมดลูก ทำให้มดลูกคว่ำไปด้านหลัง หลายคนจึงเข้าใจว่ามดลูกคว่ำทำให้มีลูกยาก เรามีคำแนะนำมาบอกค่ะ

มดลูกคว่ำทำให้มีลูกยากจริงไหม คนอยากมีลูกต้องรู้จักมดลูกตัวเองด้วย

อยาก มี ลูก จังเลย แต่พอไปตรวจภายในเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์พบว่า "มดลูกคว่ำ" ซึ่งทำให้เกิดความกังวลและสงสัยขึ้นมาทันทีว่า มดลูกคว่ำ แปลว่าจะ มี ลูก ยาก อสุจิสามี ไม่เกาะ ใช่ไหม เรามาหาคำตอบเรื่องนี้กันจากผู้เชี่ยวชาญค่ะ 

มดลูกคว่ำ เป็นลักษณะตามธรรมชาติของแต่ละบุคคล หรืออาจเกิดจากมีพังผืดดึงรั้งบริเวณด้านหลังของมดลูก ทำให้มดลูกคว่ำไปด้านหลัง แทนที่จะโค้งมาด้านหน้าตามที่พบในคนส่วนใหญ่

มดลูกคว่ำ ของผู้หญิง ไม่มีผลกับการตั้งครรภ์ยากแต่อย่างใดโดยทั่วไปแล้วมดลูกอาจอยู่ในลักษณะคว่ำหน้า คว่ำหลัง หรืออยู่ตรงกลางก็ได้อยู่แล้ว แต่การตั้งครรภ์ได้นั้นก็มีหลายปัจจัย เช่น ความแข็งแรงของมดลูก ไข่สมบูรณ์ อสุจิมีตัวและแข็งแรง เป็นต้น ดังนั้นหากใครตรวจพบว่ามดลูกคว่ำและยังไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ จึงควรพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียดเพื่อหาปัจจัยอื่นและแก้ไขได้อย่างถูกต้อง

มดลูกคว่ำมดลูกคว่ำ, มดลูกคว่ำ ผิดปกติไหม, มดลูกคว่ำ มีลูกยาก, มดลูกคว่ำ อยากมีลูก, มดลูกคว่ำ มีลูกได้ไหม, ทำไมมดลูกคว่ำ, มดลูกปกติเป็นยังไง, มดลูกผิดปกติ, มดลูกมีปัญหา, มีลูกยาก, อยากมีลูก, มี ลูก ยาก, มี บุตร ยาก
ขอบคุณข้อมูลจาก: น.พ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ และ อ.นพ.ประภัทร วานิชพงษ์พันธ์ สูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

 

มีลูกยากเพราะกำลังเป็นช็อกโกแลตซีสต์อยู่หรือเปล่า หมอสูติฯ มีคำตอบ

ช็อกโกแลตซีสต์, ช็อกโกแลตซีสต์ อาการ, ช็อกโกแลตซีสต์อ สาเหตุ, ช็อกโกแลตซีสต์ วิธีรักษา, มีลูกยาก, ภาวะมีบุตยาก, อยากมีลูก, รักลูก Community of The Experts

พยายามท้องมาตั้งนานแต่ไม่ท้องซักที มีลูกยากอาจเป็นเพราะเป็นช็อกโกแลตซีสต์ก็เป็นไปได้ ต้องรักษาช็อกโกแลตซีสต์อย่างไร เพื่อให้มีลูกได้ง่ายขึ้น

มีลูกยากเพราะกำลังเป็นช็อกโกแลตซีสต์อยู่หรือเปล่า หมอสูติฯ มีคำตอบ

สาเหตุของการมีลูกยากมีหลายสาเหตุด้วยกัน แต่ถ้าหากผู้หญิงมีอาการปวดบริเวณท้องน้อยบ่อยๆ อาจคาดเดาได้ว่าเป็นช็อกโกแลตซีสต์ได้ ช็อกโกแลตซีสต์มีอาการอย่างไร วิธีการรักษาช็อกโกแลตซีสต์ต้องทำอย่างไร มารู้เบื้องต้นกันก่อนเลยค่ะ

สาเหตุของช็อกโกแลตซีสต์

เกิดจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) หมายถึง เยื่อบุโพรงมดลูกที่ไปเจริญเติบโตอยู่ผิดที่นอกโพรงมดลูก โดยอาจแทรกตัวอยู่ในผนังหรือกล้ามเนื้อมดลูก หรืออาจเข้าไปในช่องท้องจนไปเจริญเติบโตอยู่ตามอวัยวะต่างๆในอุ้งชิงกราน เช่น เยื่อบุช่องท้อง รังไข่ ผนังลำไส้ และผนังกระเพาะปัสสาวะ และบางครั้งอาจกระจายไปสู่อวัยวะที่อยู่ไกลออกไป เช่น กระบังลม ปอด และ ช่องเยื่อหุ้มปอด

เยื่อบุโพรงมดลูกที่เจริญผิดที่นี้ เป็นปฏิกิริยาการอักเสบที่ขึ้นกับฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen-dependent, benign, inflammatory disease) เมื่อไปเจริญเติบโตอยู่ผิดที่ก็จะยังคงทำหน้าที่เช่นเดิม คือ สร้างประจำเดือน จึงทำให้มีเลือดสีแดงคล้ำหรือสีดำข้นคล้ายช็อกโกแลตขังอยู่ตามอวัยวะต่างๆ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของอาการผิดปกติต่างๆที่พบได้ในผู้ป่วยโรคนี้ เช่น ปวดท้องประจำเดือน ปวดท้องน้อยเรื้อรัง มีบุตรยาก

ทฤษฎีการก่อกำเนิดของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่นั้นมีหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่เชื่อว่าเกิดจากการไหลย้อนกลับของ ประจำเดือนผ่านท่อนำไข่เข้าไปฝังตัวอยู่ตามอวัยวะต่างๆภายในช่องท้อง (Sampson's theory) โดยมักจะตกไปอยู่ในอุ้งเชิงกราน ในรายที่การทำหน้าที่ของระบบภูมิคุ้มกันไม่สมบูรณ์ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายไม่สามารถกำจัดเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกเหล่านี้ได้ก็จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้เพิ่มขึ้น

ตำแหน่งที่พบเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่บ่อย ๆ 

  1. รังไข่ หรือช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate Cyst) เกิดจากเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกและประจำเดือนไหลย้อนกลับไปสะสมในรังไข่ มีลักษณะเป็นถุงน้ำรังไข่ที่บรรจุของเหลวคล้ายช็อกโกแลต ซึ่งถุงน้ำจะใหญ่ขึ้น ๆ จากการถูกเติมเต็มในรอบเดือนแต่ละเดือน จะใหญ่เร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและทำให้เกิดพังผืดหนาขึ้นเรื่อยๆ 

  2. กล้ามเนื้อมดลูก เกิดจากเยื่อบุโพรงมดลูกแทรกเข้าไปในกล้ามเนื้อมดลูก ทำให้เกิดพังผืดหรือก้อนในกล้ามเนื้อมดลูก ซึ่งภาวะนี้เรียกว่า โรคที่เกิดจากการที่มีเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญอยู่ในกล้ามเนื้อมดลูก (Adenomyosis) ซึ่งมี 2 แบบคือ ชนิดที่อยู่เฉพาะที่ในชั้นกล้ามเนื้อมดลูกและชนิดที่กระจายในชั้นกล้ามเนื้อมดลูกทั่วไป

นอกจากนี้ยังมีบริเวณเส้นเอ็นยึดมดลูกด้านหลัง (Uterosacral Ligament) บริเวณรอยต่อมดลูกกับกระเพาะปัสสาวะ (Bladder Reflection) เป็นต้น


ช็อกโกแลตซีสต์, ช็อกโกแลตซีสต์ อาการ, ช็อกโกแลตซีสต์อ สาเหตุ, ช็อกโกแลตซีสต์ วิธีรักษา, มีลูกยาก, ภาวะมีบุตยาก, อยากมีลูก, รักลูก Community of The Experts

อาการและอาการแสดงของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

อาการแสดงที่สำคัญของโรคนี้ ได้แก่ อาการปวดบริเวณท้องน้อย (80%) โดยเฉพาะอาการปวดประจำเดือนที่มากผิดปกติความรุนแรงของอาการปวดจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามเวลาที่ผ่านไป (progressive dysmenorrhea) ลักษณะอาการปวดจะปวดแบบตื้อ ๆ หรือปวดแบบบีบ ๆ เป็นตั้งแต่ 1-2 วัน ก่อนเป็นประจำเดือน

ซึ่งอาการปวดท้องเกิดจาก มีการเพิ่มการสร้างสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ บางรายที่รอยโรคอยู่ค่อนไปทางด้านหลังของมดลูก ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ใกล้กับลำไส้ตรง ก็จะมีอาการปวดหน่วงลงทวารหนักได้ในช่วงที่มีประจำเดือน ส่วนอาการอื่นๆที่พบได้บ่อย ได้แก่ เจ็บในอุ้งเชิงกรานขณะมีเพศสัมพันธ์ (dyspareunia) ปวดท้องน้อยเรื้อรัง และภาวะมีบุตรยาก(25%) ซึ่งสัมพันธ์กับการอักเสบและการเกิดพังผืดในอุ้งเชิงกราน  นอกจากนี้ผู้ป่วยบางรายอาจมีเลือดออกกะปริดกะปรอยระหว่างรอบเดือน (intermenstrual bleeding) 

ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการปวดบริเวณต้นคอ, สะบัก แน่นหน้าอก หรือไอเป็นเลือด หากรอยโรคอยู่บริเวณช่องอก อย่างไรก็ตาม พบว่ามีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่ถึงแม้จะมีรอยโรคชัดเจน แต่ก็กลับไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างใด ผู้ป่วยบางราย อาจมาด้วยคลำพบก้อนบริเวณท้องน้อย (20%) หรืออาจตรวจเจอโดยบังเอิญ จากการทำ ultrasound 

พยาธิวิทยาของภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

ภาวะนี้จะมีลักษณะที่มองเห็นด้วยตาเปล่าค่อนข้างจำเพาะ ได้แก่ จะเห็นจุดสีน้ำตาลหรือม่วงคล้ำ บริเวณผิวของรังไข่, มดลูก, กระเพาะปัสสาวะ, ลำไส้ และเยื่อบุช่องท้อง ซึ่งจะมีขนาดแตกต่างกันออกไป หรืออาจพบเป็นก้อนบริเวณรังไข่ ภายในมีของเหลวข้นสีช็อกโกแลต

กลไกที่ Endometriosis ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก 

อุบัติการณ์ของภาวะมีบุตรยากในผู้ป่วยendometriosisพบได้ประมาณร้อยละ 30-40 การมีบุตรยากเกิดจากกลไกทางกายภาพ (mechanical) คือมีพังผืดในเชิงกรานทำให้กายวิภาคปกติ ของรังไข่และท่อนำไข่ถูกทำลายขัดขวางการเดินทางของไข่โดยตรง

  1. ขัดขวางการเดินทางของไข่โดยตรงจากพังผืดในอุ้งเชิงกราน

  2. ความผิดปกติในการทำงานของรังไข่ซึ่งอาจเป็น
    • ภาวะไม่ตกไข่พบได้บ่อยในผู้ป่วย endometriosis
    • มีระดับโปรแลคตินสูงในบางราย
    • ความผิดปกติในการทำงานของคอร์ปัสลูเตียมตียมซึ่งพบได้ใน  endometriosis บางรายและการเสื่อม สลายของคอร์ปัสลูเตียมเร็วผิดปกติ

  3. สารเคมีธรรมชาติที่สร้างโดยเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกที่เจริญผิดที่    อาจรบกวนการเจริญของไข่การเคลื่อนไหวของท่อนำไข่การตกไข่หรือการทำงานของคอร์ปัสลูเตียมซึ่งทำให้เกิดผลรวมคือ กลไกการปฏิสนธิและการฝังตัวของตัวอ่อนเสียไป ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากตามมาได้

  4. ปริมาณmacrophagesในน้ำในช่องท้องเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติและยังทำงานมากกว่าปกติ  จะคอยเก็บ กินตัวอสุจิที่วิ่งผ่านจากท่อนำไข่เข้าไปในช่องท้องและโอกาสปฏิสนธิก็ลดลงนอกจากนี้ยังสร้างcytokinesหลายชนิด เช่น interleukin-1, interferon และ tumor necrosis factor (TNF) ซึ่งสารเหล่านี้จะดึงเอาเอา macrophages และเม็ด เลือดขาวเข้าสู่ช่องท้องมากขึ้นทำให้เกิดปฏิกิริยาการอักเสบต่อเนื่องตลอดเวลา และยังมีผล รบกวนการเคลื่อนที่ของตัวอสุจิ และการปฏิสนธิ 

  5. อาการเจ็บจากการมีเพศสัมพันธ์ทำให้มีเพศสัมพันธ์น้อยลง และมีบุตรยาก 

ช็อกโกแลตซีสต์, ช็อกโกแลตซีสต์ อาการ, ช็อกโกแลตซีสต์อ สาเหตุ, ช็อกโกแลตซีสต์ วิธีรักษา, มีลูกยาก, ภาวะมีบุตยาก, อยากมีลูก, รักลูก Community of The Experts

แนวทางการตรวจวินิจฉัยโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

สิ่งที่ตรวจพบจากการตรวจร่างกายค่อนข้างหลากหลาย ขึ้นกับตำแหน่ง และขนาดของเยื่อบุโพรงมดลูกที่มาฝังตัว โดยส่วนใหญ่ จะตรวจภายในพบมดลูกโต อาจคลำได้ nodule บริเวณด้านหลังมดลูก (Posterior fornix) หรือตรวจพบมดลูกเอียงหรือคว่ำจากการมีพังผืดดึงรั้ง ซึ่งหากตรวจร่างกายไม่พบความผิดปกติ ก็ไม่สามารถตัดภาวะภาวะนี้ออกไปได้

แต่หากผลการตรวจร่างกายยังไม่ชัดเจนอาจทำการตรวจ ultrasound ทางช่องคลอดหรือทางทวารหนัก โดยจะพบ ovarian cyst (endometrioma) , nodules บริเวณ rectovaginal septum และกระเพาะปัสสาวะ แต่การตรวจ ultrasound จะไม่สามารถวินิจฉัยรอยโรคตามเยื่อบุช่องท้องได้ 

การส่องกล้องตรวจภายในช่องท้อง (laparoscopy) ช่วยให้การวินิจฉัยแม่นยำขึ้น ยังไม่มีการส่งตรวจทางห้องปฎิบัติการ ที่จำเพาะสำหรับภาวะนี้ แต่อาจตรวจพบ CA125 เพิ่มขึ้นได้ (>35u/ml)แต่ไม่เฉพาะเจาะจง เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของ CA125 สามารถพบได้หลายภาวะ 

วิธีการรักษาโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

การรักษาเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยแต่ละคน ประกอบด้วย

  1.  การใช้ยา ได้แก่ ยาแก้ปวดกลุ่มที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบแบบไม่มีสเตียรอยด์เพื่อลดอาการปวดประจำเดือนและปวดท้องน้อย

  2. ฮอร์โมนบำบัด มีทั้งยาเม็ดคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด และห่วงฮอร์โมนที่ใส่ในโพรงมดลูก เพื่อลดการมีเลือดประจำเดือนมากหรือปวดประจำเดือน ซึ่งผู้ป่วยไม่สามารถตั้งครรภ์หากใช้ยาในการรักษา

  3. ผ่าตัด โดยการผ่าตัดส่องกล้อง (Laparoscopic Surgery) ช่วยให้เจ็บน้อย แผลเล็ก 

  4. การผ่าตัดเนื้องอกผ่านผนังหน้าท้อง (Abdominal Myomectomy)

ช็อกโกแลตซีสต์กับการตั้งครรภ์

ผู้หญิงหลายคนที่อยากมีบุตรแล้วตรวจพบช็อกโกแลตซีสต์ ยังคงสามารถตั้งครรภ์ได้ตามวิธีธรรมชาติ และอาการของช็อกโกแลตซีสต์จะดีขึ้นด้วย เนื่องจากในระหว่างที่ตั้งครรภ์ ฮอร์โมนเพศจะลดลงช่วง 9 เดือนของการตั้งครรภ์ รวมถึงหลังคลอดบุตร 3-6 เดือน ทำให้ไม่มีประจำเดือน ถุงน้ำช็อกโกแลตซีสต์ไม่ถูกเติมด้วยประจำเดือน ค่อย ๆ ฝ่อหายไปเองได้ แต่อย่างไรก็ตามช็อกโกแลตซีสต์ยังมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ

ทั้งนี้เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่อาจมีสาเหตุจากกรรมพันธุ์ได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นควรตรวจภายในอย่างสม่ำเสมอทุกปีและหากมีอาการผิดปกติควรรีบพบสูติ-นรีแพทย์โดยเร็ว

บทความโดย: แพทย์หญิง วรประภา ลาภิกานนท์ สูตินรีแพทย์

รวบตึง 15 เรื่องถามตอบการแก้หมันที่คนอยากมีลูกอยากรู้ที่สุด

วิธีแก้หมัน, แก้หมันหญิง, แก้หมันชาย, แก้หมันให้มีลูก, แก้หมัน ราคา, แก้หมันกี่เดือนท้อง, เป็นหมัน อยากมีลูก, มีลูกยาก, มีบุตรยาก, แก้หมัน อย่างไร, แก้หมันเจ็บไหม, แก้หมันสำเร็จไหม, แก้หมันแล้วท้องเลยไหม, ทำไมต้องแก้หมัน

แก้มหมันทำยังไง เจ็บไหม แพงหรือเปล่า แก้หมันแล้วมีลูกได้เลยไหม มีโรคประจำตัว อายุเยอะแล้วยังแก้หมันได้ใช่ไหม ทุกคำถาม เรามีคำตอบค่ะ

รวบตึง 15 เรื่องถามตอบการแก้หมันที่คนอยากมีลูกอยากรู้ที่สุด

ทำยังไงดี อยากมีลูก อีกสักคนแต่ทำหมันไปแล้ว แก้หมัน ได้ไหม แก้หมัน แล้วจะมีลูกได้เลยใช่ไหม แก้หมัน แพงไหม คำถามเหล่านี้เรารวบรวมมาตอบให้โดย สูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะค่ะ 

  1. การแก้หมันมีหลักการอย่างไร 
    ตอบ: พูดถึงหลักการทำหมันก่อน(ผู้หญิง) คือ การตัดท่อนำไข่ออก และผูกสองข้างไว้ ทำให้ไข่ของสตรีไม่สามารถผ่านท่อรังไข่ไปได้ ไม่สามารถผสมกับตัวเชื้อผู้ชายได้ การแก้หมันก็คือ การนำท่อสองท่อที่ตัดออกมาเชื่อมกันโดยการผ่าตัด

  2. หมันแบบไหนที่สามารถแก้ได้
    ตอบ: ทั่วโลกมีการทำหมันวิธีเดียวคือการตัดท่อนำไข่ สามารถต่อได้ ขึ้นอยู่กับว่าแพทย์ที่ทำให้หมันให้ตัดท่อนำไข่ไปมากน้อยแค่ไหน เหลือส่วนท่อนำไข่ทำการต่อได้แค่ไหน ผลสำเร็จมันขึ้นอยู่กับตรงนั้น

  3. การแก้หมันได้มีเงื่อนไขอะไรบ้าง
    ตอบ: ต้องดูคนไข้มีปัญหากสุขภาพอะไรบ้าง เช่น มีโรคประจำตัวหรือไม่ มีปัญหาสุขภาพจิตหรือไม่ มีความเสี่ยงกับภาวะแทรกซ้อนหรือไม่ รวมถึงปัจจัยเรื่องอายุด้วย หากอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป แม้จะแก้หมันได้แต่ก็อาจจะมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยลง

  4. แก้หมันต้องนอนโรงพยาบาลนานเท่าไร
    ตอบ: ส่วนใหญ่ที่มาทำประมาณ 2-3 คืน

  5. ค่าใช้จ่ายในการแก้หมัน
    ตอบ: ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลรัฐบาลอาจะอยู่ในระดับ 10,000-30,000 บาท ถ้าเป็นโรงพยาบาลเอกชนจะอยู่ที่ 60,000 บาทขึ้นไปจนถึงระดับแสนบาท ขึ้นอยู่กับโรงพยาบาล ความเชี่ยวชาญของแพทย์ รวมถึงการดูแลหากมีภาวะแทรกซ้อน

  6. แก้หมัน สามารถตั้งครรภ์ได้เลยไหม
    ตอบ: หลังแก้หมันแล้ว แพทย์จะนัดคนไข้มาเพื่อฉีดสีนัดดูท่อนำไข่ประมาณ 2 เดือนหลังแก้หมัน ถ้าท่อนำไข่เปิดก็ปล่อยให้ตั้งครรภ์ได้

  7. อายุมากสามารถแก้หมันได้ไหม
    ตอบ: วัยไหนก็สามารถแก้ได้ แต่หากผู้หญิงอายุเกิน 40 ปี โอกาสตั้งครรภ์จะน้อยลง แต่ก็มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย ฮอร์โมน หรือภาวะไข่ตก


    วิธีแก้หมัน, แก้หมันหญิง, แก้หมันชาย, แก้หมันให้มีลูก, แก้หมัน ราคา, แก้หมันกี่เดือนท้อง, เป็นหมัน อยากมีลูก, มีลูกยาก, มีบุตรยาก, แก้หมัน อย่างไร, แก้หมันเจ็บไหม, แก้หมันสำเร็จไหม, แก้หมันแล้วท้องเลยไหม, ทำไมต้องแก้หมัน

  8. ทำหมันมานานแล้วสามารถแก้ได้ไหม
    ตอบ: แก้ได้

  9. ถ้าหาหมอเสร็จแล้วจะสามารถทำการผ่าตัดได้เลยไหม
    ตอบ: ต้องนัดทำการผ่าตัดอีกครั้ง เพราะก่อนผ่าตัดจะต้องตรวจภายในคนไข้ก่อนว่ามีมะเร็งปากมดลูกไหม มีเนื้องอกมดลูกไหม และต้องตรวจผู้ชายด้วยว่ามีตัวเชื้อไหม ต้องตรวจสุขภาพทั้งผู้ชายและผู้หญิง พร้อมทั้งต้องตรวจความพร้อมในการมีบุตร

  10. ทำหมันต้องพาแฟนมาด้วยไหม
    ตอบ: ควรพาสามีมาเพื่อรับทราบว่า ภรรยาต้องเตรียมตัวการผ่าตัด แล้วให้รู้ว่าคุณผู้ชายต้องตรวจอะไรบ้าง ตรวจเลือด ตรวจสเปิร์ม หรือน้ำเชื้อว่าแข็งแรงดีไหม

  11. มีโอกาสแก้หมันสำเร็จกี่เปอร์เซ็นต์
    ตอบ: ค่าในการแก้หสันสำเร็จเฉลี่ยประมาณ 50 -70 % ขึ้นอยู่กับภาวะของคนไข้ ขึ้นอยู่กับภาวะการผ่าตัดครั้งก่อน ขึ้นอยู่กับอายุคนไข้

  12. ตอนนี้เป็นไทรอยด์ที่คอ สามารถแก้หมันได้ไหม
    ตอบ: หากคนไข้มีโรคประจำตัว หรือ จากที่แจ้งว่าเป็นไทรอยด์ ก็จำเป็นต้องรักษาก่อนเข้าผ่าตัดแก้หมัน รวมถึงแพทย์จะต้องตรวจอย่างละเอียดว่าโรคที่เป็นอยู่สามารถผ่าตัดได้ไหม มีปัญหาเรื่องการบล็อกหลังหรือดมยาสลบไหม ถ้ามีความเสี่ยงใดๆ แพทย์จะแจ้งให้คนไข้ทราบเพื่อหาวิธีรักษาก่อน

  13. เคยผ่าคลอดมาแล้ว 2 ครั้ง สามารถทำการแก้หมันได้ไหม
    ตอบ: เคยผ่าคลอดมาแล้วก็สามารถแก้หมันได้ 

  14. หลังแก้หมันกี่เดือนถึงตั้งครรภ์ได้
    ตอบ: ขึ้นอยู่กับว่าคนไข้หลังผ่าตัดฟื้นตัวดีแค่ไหน ต้องนัดมาฉีดสี เอ็กซเรย์ดูว่าท่อนำไข่เปิดไหม ประมาณ 2-3 เดือนก็ปล่อยให้ตั้งครรภ์ได้

  15. แก้หมันเจ็บไหม แผลผ่าตัดใหญ่ไหม
    ตอบ: คนไข้จะเจ็บหลังการผ่าตัดเสร็จ ถ้าคนเคยผ่าตัดคลอดก็ต้องผ่าแผลเดิม ถ้าไม่เคยผ่าตัด ต้องผ่าตัดบริเวณหัวหน่าว ใกล้เคียงกับแผลผ่าคลอดแต่จะเล็กกว่าแผลผ่าคลอด

ขอบคุณข้อมูลจาก: นพ.อำนาจ เอื้ออารีมิตร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอกชัย และสูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลเอกชัย

 

สามีรู้ไว้! อึดไปก็ไม่มีประโยชน์หากฝ่ายชายไม่มีอสุจิก็มีลูกยากอยู่ดี

ไม่มีอสุจิ, ไม่มีสเปิร์ม, ไม่มีน้ำเชื้อ, มีลูกยาก, อสุจิไม่แข็งแรง, อสุจิไม่มีตัว, ไม่มีอสุจิ ท้องได้ไหม, อสุจิไม่แข็งแรง ท้องได้ไหม, ทำยังไงให้อสุจิแข็งแรง, ไม่มีสเปิร์ม ต้องทำยังไง, เด็กหลอดแก้ว, อิ๊กซี่

สามีไม่มีอสุจิ ผู้ชายไม่มีอสุจิอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้มีลูกยากได้นะคะ การไม่มีอสุจิ หรือ อสุจิไม่มีตัวเกิดจากอะไรแล้วต้องทำอย่างไรถึงจะมีลูก คุณหมอมีคำแนะนำค่ะ

สามีรู้ไว้! อึดไปก็ไม่มีประโยชน์หากฝ่ายชายไม่มีอสุจิก็มีลูกยากอยู่ดี

สาเหตุของการมีลูกยากไม่ใช่มาจากฝ่ายหญิงอย่างเดียวนะคะ แต่ยังมีสาเหตุมาจากฝ่ายชายที่ไม่มีตัวอสุจิในน้ำอสุจิด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการมีลูกยากเช่นกัน อุบัติการณ์การไม่พบตัวอสุจิในน้ำเชื้อ (Azoospermia) นั้น พบร้อยละ 1 ของผู้ชายทั่วไป คุณหมอจะมีคำแนะนำอย่างไร มาดูกันเลยค่ะ

วิธีตรวจหาตัวอสุจิ ทำอย่างไร

การวินิจฉัยจะใช้การตรวจน้ำเชื้อ โดยองค์การอนามัยโลกแนะนำว่า หากตรวจน้ำเชื้อโดยใช้น้ำเชื้อที่ปั่น (Centrifugation) ตามมาตรฐานนานอย่างน้อย 15 นาที สองครั้งแล้วไม่พบอสุจิ แสดงว่าไม่มีอสุจิ

ผู้ชายไม่มีอสุจิเกิดจากอะไร

  1. เกิดจากความผิดปกติของโครโมโซม หรือฮอร์โมนทำให้ไม่มีการสร้างอสุจิ

  2. เกิดจากลูกอัณฑะไม่สร้างอสุจิ ซึ่งอาจจะเป็นมาแต่กำเนิด หรือเกิดจากไข่ไม่ลงลูกอัณฑะ หรือเกิดจากการอักเสบติดเชื้อ เช่น ลูกอัณฑะอักเสบ เคยเป็นคางทูมลงลูกอัณฑะ เป็นต้น

  3. เกิดจากท่ออสุจิอุดตัน

 ​คำแนะนำสำหรับผู้ชายที่อสุจิไม่แข็งแรง อสุจิไม่มีตัว

  1. ลดการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์ทำให้การผลิตฮอร์โมนเพศชายลดลง

  2. งดสูบบุหรี่จะทำให้จำนวนน้ำเชื้อลดลง

  3. ควบคุมน้ำหนักตัว  เพราะไขมันในร่างกายจะปล่อยเอนไซม์ aromatase ซึ่งจะเปลี่ยนฮอร์โมน เพศชายเป็นเอสโตรเจนเป็นผลให้ลดฮอร์โมน testosterone และจำนวนน้ำเชือลดลง

  4. หลีกเลี่ยงอัณฑะต้องอยู่ในที่ร้อนเช่น การอาบน้ำร้อนและซาวน่า

  5. ลดความเครียดมีผลให้รูปร่างน้ำเชื้อไม่ดี

เมื่อไม่มีตัวอสุจิเลยแต่อยากมีลูก ต้องตรวจหาสาเหตุให้ทราบแน่ชัดก่อนค่ะว่าเกิดจากอะไร โดยแพทย์จะซักประวัติ ตรวจร่างกายตรวจขนาดลูกอัณฑะ เจาะเลือดดูระดับของฮอร์โมน เป็นต้น หากเกิดจากความผิดปกติของลูกอัณฑะ หรือความผิดปกติของโครโมโซม อาจจะแก้ไขไม่ได้

หากเกิดความผิดปกติของฮอร์โมนหรือเกิดจากท่ออสุจิอุดตัน อาจจะยังมีอสุจิตัวอ่อนเหลืออยู่ในท่ออสุจิ การผ่าตัดเอาเนื้ออสุจิมาเพาะให้ตัวอ่อนอสุจิแข็งแรง จนสามารถทำอิ้กซี่ (ICSI= Intracytoplasmic Sperm Injection) คือ ฉีดอสุจิเข้าไปในไข่ผสมเทียมในหลอดแก้ว แล้วทำเด็กหลอดแก้วก็เป็นไปได้ค่ะ

บทความโดย: พญ.ชัญวลี ศรีสุโข

  • 1
  • 2