facebook  youtube  line

คุณหมอแนะนำวิธีรับมือเมื่อพบ “เนื้องอกมดลูก” ขณะตั้งครรภ์

ท้องนอกมดลูก-ภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์
โรคเนื้องอกมดลูกคืออะไร

เป็นก้อนเนื้อที่เจริญเติบโตในร่างกายเรามากกว่าปกติ มีทั้งชนิดธรรมดาและชนิดที่เป็นมะเร็ง โดยส่วนใหญ่มักพบเนื้องอกชนิดธรรมดาที่ไม่ใช่มะเร็งมากกว่า โดยเกิดได้ที่ผิวด้านนอกผนังมดลูก อยู่ในเนื้อมดลูก หรืออยู่ในโพรงมดลูก  

อาการของโรคเนื้องอกมดลูก

ผู้ป่วยบางรายอาจไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ผู้หญิงเกือบ 50% มีเนื้องอกกล้ามเนื้อ (Leiomyoma หรือ Uterine Fibroid) เพียงแต่อาจจะไม่มีอาการ หรือไม่เคยตรวจมาก่อน จึงมักพบเนื้องอกนี้ครั้งแรกเมื่อตรวจอัลตราซาวด์ขณะตั้งครรภ์  

ภาวะแทรกซ้อนเมื่อพบ “เนื้องอกมดลูก” ขณะตั้งครรภ์
  1. ก้อนโตเร็วขณะตั้งครรภ์และมีอาการปวด เนื่องจากขณะตั้งครรภ์มีฮอร์โมนสูง ทำให้ก้อนมีขนาดโตขึ้นเร็ว และเกิดภาวะเลือดไปเลี้ยงก้อนเนื้องอกไม่เพียงพอ การขาดเลือดทำให้เกิดอาการปวด

  2. ก้อนกดเบียดถุงการตั้งครรภ์ มักเกิดจากเนื้องอกชนิดที่ยื่นเข้ามาในโพรงมดลูก ซึ่งอาจขัดขวางการฝังตัวของถุงการตั้งครรภ์ในระยะแรก ทำให้แท้งง่าย หรือหากก้อนมีขนาดใหญ่จนโพรงมดลูกบิดเบี้ยวมาก อาจทำให้ทารกในครรภ์มีปัญหาเรื่องการเคลื่อนไหว เกิดภาวะข้อติดหรือผิดรูปตามมา

  3. ภาวะทารกโตช้าในครรภ์ มักพบในกรณีที่รกเกาะอยู่ตรงตำแหน่งของเนื้องอก หรือเนื้องอกอยู่ในตำแหน่งที่กดเบียดหลอดเลือดที่มาเลี้ยงมดลูก

  4. เสี่ยงต่อภาวะคลอดก่อนกำหนด หากขนาดเนื้องอกมดลูกโตขึ้นมาก อาจทำให้เกิดเจ็บท้องคลอดก่อนกำหนด

  5. ก้อนเนื้องอกขวางทางคลอด ในกรณีที่ก้อนอยู่บริเวณส่วนล่างของมดลูก หรือบริเวณปากมดลูก ทารกไม่สามารถลอดผ่านออกมาได้ จึงทำให้เสียโอกาสคลอดธรรมชาติ

  6. เสี่ยงต่อการมีภาวะตกเลือดหลังคลอด เนื่องจากเนื้องอก ขัดขวางการหดรัดตัวของกล้ามเนื้อมดลูก ทำให้เสียเลือดมากจากภาวะมดลูกไม่หดรัดตัว ต้องตัดมดลูกเพื่อรักษาชีวิตคุณแม่ไว้
 
วิธีดูแลตัวเองเมื่อพบ “เนื้องอกมดลูก” ขณะตั้งครรภ์
  1. คุณแม่ควรหมั่นสังเกตอาการผิดปกติของเนื้องอก หากมีอาการปวดที่ก้อนมาก ๆ อาจต้องใช้ยาช่วย แต่ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการจัดยาที่ปลอดภัย
  2. หากมีอาการมดลูกหดรัดตัวก่อนกำหนด ต้องรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อประเมินความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด โดยอาจต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อยับยั้งการคลอดตามความเหมาะสม
  3. คุณแม่ต้องมาฝากครรภ์สม่ำเสมอตามแพทย์นัด เพื่อติดตามสุขภาพของทารก และขนาดของเนื้องอกเป็นระยะ
ผ่าเนื้องอกออกพร้อมกับผ่าคลอดได้ไหม

การผ่าตัดเนื้องอกในมดลูกครั้งเดียวกับตอนคลอดลูก คุณแม่จะมีเลือดมาเลี้ยงปริมาณมาก โดยเส้นเลือดที่เคยมีขนาดเล็กจะขยายใหญ่ขึ้น การผ่าตัดจะทำให้เสียเลือดมากซึ่งไม่เป็นผลดี ฉะนั้นแพทย์จึงไม่แนะนำให้ผ่าเนื้องอกออกพร้อมกับผ่าคลอด แต่จะมีการนัดตรวจร่างกายหลังคลอดและนัดผ่าตัดอีกครั้งค่ะ 
 
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: พญ.จิตรนพิน ดุลยเกษม สูตินรีแพทย์เวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ โรงพยาบาลเวชธานี

มดลูกโต ไม่แสดงอาการก็อาจเป็นได้และเสี่ยงมีลูกยากหากไม่รีบรักษา

มดลูกโต, อาการมดลูกโต, ประจำเดือนมากกว่าปกติ, ประจำเดือนมีลิ่มเลือด, โรคมดลูกโต, ประจำเดือนมาไม่ปกติ, เนื้องอกมดลูก, ประจำเดือนมามากผิดปกติ, เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่, มดลูกโต มีลูกยาก, มดลูกโต มะเร็งมดลูก

มดลูกโต เป็นคนละกับเนื้องอกมดลูก บางคนไม่แสดงอาการแต่ก็เป็นได้และเสี่ยงกับการเป็นอีกหลายโรคตามมา รวมถึงการมีลูกยากด้วย

มดลูกโต ไม่แสดงอาการก็อาจเป็นได้และเสี่ยงมีลูกยากหากไม่รีบรักษา

ผู้หญิงหลายคนอาจไม่เคยรู้จักโรคมดลูกโต หรือหลายคนอาจเกิดความสับสนว่า เนื้องอกมดลูก กับ มดลูกโต ใช่โรคเดียวกันหรือไม่ ความจริงแล้ว โรคมดลูกโต กับ เนื้องอกมดลูก นั้นเป็นคนละโรคกัน ดังนั้นหากประจำเดือนมากผิดปกติและมีลิ่มเลือดขนาดใหญ่ อาจเป็นสัญญาณของโรคมดลูกโตได้ หรือที่น่ากังวลใจยิ่งกว่านั้นคือ แม้ไม่มีอาการแสดงผู้หญิงก็มีโอกาสเป็นมดลูกโตได้เช่นกัน

รู้จักมดลูกโต โรคมดลูกโต พบได้จากหลายสาเหตุหลัก ได้แก่ เนื้องอกในมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ มะเร็งในระบบสืบพันธุ์ แต่ส่วนใหญ่ที่พบคือ โรคมดลูกโตจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Adenomyosis) คือการที่เนื้อเยื่อในโพรงมดลูกเจริญหรือแทรกซึมเข้าไปในกล้ามเนื้อมดลูก ทำให้กล้ามเนื้อมดลูกเกิดภาวะอักเสบเรื้อรังจนเกิดพังผืดในชั้นกล้ามเนื้อมดลูก สุดท้ายมดลูกเกิดการขยายตัวและหนาขึ้น เกิดภาวะมดลูกโต ทำให้เกิดอาการประจำเดือนมามากผิดปกติ และอาการต่าง ๆ ที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล ที่สำคัญคือโรคมดลูกโตนั้นไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด หากผู้ป่วยมีกรรมพันธุ์หรือเคยทำการผ่าตัดเกี่ยวกับมดลูกอาจทำให้เป็นโรคมดลูกโตได้ นอกจากนี้การหมุนเวียนของฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายของผู้หญิงที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอาจส่งผลให้เกิดโรคนี้ได้เช่นกัน ดังนั้นผู้หญิงที่หมดประจำเดือนหรือผู้หญิงที่ตัดมดลูกทิ้งจึงหมดโอกาสเป็นโรคมดลูกโต

อาการบอกมดลูกโต

  • ประจำเดือนมามากกว่าปกติ
  • ปวดท้องประจำเดือนมากผิดปกติและปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทนไม่ไหว
  • มีลิ่มเลือดขนาดใหญ่เท่าลูกปิงปองออกมาขณะมีประจำเดือน มีอาการคล้าย ๆ ตกเลือดขณะมีประจำเดือน
  • ปวดเชิงกรานและช่องท้อง
  • รู้สึกแน่นและหนักบริเวณช่องท้องส่วนล่าง
  • เจ็บปวดมากขณะมีเพศสัมพันธ์

นอกจากนี้เมื่อมดลูกโตอาจส่งผลให้มีอาการท้องอืดหรือท้องผูกเพราะมดลูกโตจนเบียดลำไส้ ปัสสาวะบ่อยเพราะมดลูกเบียดกระเพาะปัสสาวะ อีกทั้งอาจมีอาการร่วมด้วยเพิ่มขึ้น ได้แก่ ปวดหลัง ปวดกระดูกเชิงกราน ตะคริวบริเวณท้อง เลือดออกจากช่องคลอด รวมถึงมีบุตรยากเพราะการตั้งครรภ์ไม่สมบูรณ์

 


มดลูกโต, อาการมดลูกโต, ประจำเดือนมากกว่าปกติ, ประจำเดือนมีลิ่มเลือด, โรคมดลูกโต, ประจำเดือนมาไม่ปกติ, เนื้องอกมดลูก, ประจำเดือนมามากผิดปกติ, เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่, มดลูกโต มีลูกยาก, มดลูกโต มะเร็งมดลูก

การตรวจวินิจฉัยมดลูกโต

  1. ซักประวัติโดยสูติ-นรีแพทย์อย่างละเอียด
  2. สูติ-นรีแพทย์ตรวจภายใน
  3. อัลตราซาวนด์ทางช่องคลอดหรือทวารหนักในกรณีที่ผู้ป่วยยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน
  4. ตรวจ MRI ช่องท้องส่วนล่าง (MRI Lower Abdomen) ในกรณีที่ต้องการยืนยันและหรือประเมินความรุนแรงของโรคว่าเกิดพังผืดต่ออวัยวะข้างเคียงหรือไม่

ดูแลรักษามดลูกโต

ในกรณีที่มดลูกโตจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่นั้นสูติ-นรีแพทย์จะทำการรักษาตามอาการและความรุนแรงของโรคเป็นสำคัญ ได้แก่ รับประทานยาพอนสแตน (Ponstan) และหรือ ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) เพื่อช่วยให้อาการปวดและการอักเสบดีขึ้น ใช้ Progestin Only Hormone และหรือยาคุมกำเนิดเพื่อลดอาการปวด และช่วยให้ปริมาณรอบเดือนมาน้อยลง ชะลอการเติบโตของพังผืดในกล้ามเนื้อมดลูก หากมีอาการรุนแรงสูติ-นรีแพทย์อาจแนะนำให้ผ่าตัดมดลูก ซึ่งปัจจุบันด้วยการผ่าตัดส่องกล้องขั้นสูง (MIS - Advanced Minimal Invasive Surgery) ทำให้ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเปิดหน้าท้อง แผลมีขนาดเล็กเพียง 5 - 10 มม. ที่สำคัญเสียเลือดน้อย ช่วยลดภาวะแทรกซ้อนหรือติดเชื้อ ฟื้นตัวเร็วใน 1 - 2 วัน และกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ภายใน 1 สัปดาห์ ลดความกังวลและเพิ่มความมั่นใจในการเข้ารับการรักษาได้เป็นอย่างดี

การป้องกันมดลูกโต

อย่างที่ทราบกันว่าสาเหตุของโรคมดลูกโตจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่นั้นไม่แน่ชัด แต่การป้องกันดูแลด้วยการควบคุมน้ำหนักให้ไม่เกินเกณฑ์ ตรวจร่างกายและตรวจภายในกับสูติ-นรีแพทย์เป็นประจำทุกปี รวมทั้งเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกหรือมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกเมื่อถึงวัยที่เหมาะสมตามคำแนะนำของสูติ-นรีแพทย์จะช่วยให้ทราบถึงความผิดปกติและรับมือได้ทันท่วงที

แบบไหนเรียกประจำเดือนเป็นปกติ

ประจำเดือนมาไม่เกิน 80 ซีซีต่อวัน ประจำเดือนมามากเฉพาะช่วง 3 วันแรก ประจำเดือนมาไม่เกิน 7 วัน ลิ่มเลือดระหว่างมีประจำเดือนขนาดเท่าเม็ดถั่ว

ผู้หญิงที่ป่วยเป็นโรคมดลูกโตนั้นมักไม่ทราบอาการจนเมื่อเข้าสู่ระยะรุนแรง ดังนั้นการหมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกายตนเองอยู่เสมอคือสิ่งสำคัญ และควรใส่ใจตรวจเช็กสุขภาพภายในกับสูติ-นรีแพทย์อย่างสม่ำเสมอ

ขอบคุณข้อมูลจาก : พญ.หยิงฉี หวัง สูติ-นรีแพทย์ผู้ชำนาญการผ่าตัดส่องกล้อง โรงพยาบาลกรุงเทพ