facebook  youtube  line

Jessie Mum คว้ารางวัล Mommy's Choice Awards 3 ปีซ้อน ที่หนึ่งในใจแม่ให้นม

jessie mum, เจสซี่ มัม, อาหารเสริมน้ำนมแม่, อาหารเพิ่มนมแม่, อาหารกระตุ้นนมแม่, โทนิคแก้ผมร่วง, รางวัล Mommy's Choice, แม่ให้นม, คนท้องผมร่วง, ผมร่วงหลังคลอด

Jessie Mum คว้ารางวัล Mommy's Choice Awards 3 ปีซ้อน ที่หนึ่งในใจแม่ให้นม

'เจสซี่ มัม’ คว้ารางวัล 3 ปีซ้อน! “Amarin Baby & Kids Awards 2024” ตอกย้ำสุดยอดแบรนด์เพื่อแม่ลูกด้วยสินค้าคุณภาพ และความเป็นคอมมูนิตี้ที่รู้ใจแม่ลูกยุคใหม่


ประกาศผลไปแล้วเรียบร้อย ในงานใหญ่ ‘Amarin Baby & Kids Awards 2024’ ปีที่ 6 รางวัลสุดยอดแบรนด์สินค้าและไลฟ์สไตล์แม่ลูกอันดับ 1 ในใจคนไทย จากคุณแม่ตัวจริงทั่วประเทศกว่า 30,000 คน ผ่านการโหวตทาง www.amarinbabyandkids.com ซึ่งแบรนด์คนไทย ‘เจสซี่มัม’ ยังคงได้รับความไว้วางใจจากบรรดาคุณแม่ลูกอ่อนอย่างต่อเนื่อง จนคว้ารางวัลในเวทีอันทรงเกียรตินี้เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน


ในปี 2567 ‘เจสซี่มัม’ คว้ามาได้ 2 รางวัล ได้แก่ Mommy's Choice Awards ประเภท BEST TABLET BREASTFEEDING SUPPLEMENT จากผลโหวตของคุณแม่ทั่วประเทศกว่า 3 หมื่นคน ซึ่งผลิตภัณฑ์ Jessie M By Jessie Mum คว้ารางวัลนี้มาได้ตลอด 3 ปี

ส่วนรางวัล Editor's Choice Awards เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ‘เจสซี่แฮร์ โทนิค” (Jessie Hair Tonic) สเปรย์บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ คว้ารางวัลนี้มาครองได้เป็นครั้งแรก โดยเป็นการคัดเลือกจากกองบรรณาธิการเว็บไซต์ Amarin Baby & Kids ว่าเป็นสินค้าใช้ดี มีประโยชน์จริง

 jessie mum, เจสซี่ มัม, อาหารเสริมน้ำนมแม่, อาหารเพิ่มนมแม่, อาหารกระตุ้นนมแม่, โทนิคแก้ผมร่วง, รางวัล Mommy's Choice, แม่ให้นม, คนท้องผมร่วง, ผมร่วงหลังคลอด

สำหรับ Jessie M เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีสมุนไพรและวิตามินรวมกว่า 10 ชนิด ล้วนมีคุณสมบัติในการเร่งการผลิตน้ำนมทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นสารสกัดจากขิง ผงเมล็ดผักชีล้อม ฟีนูกรีก สารสกัดจากขมิ้น วิตามินบี 1 , 6, 12 และมีกรดโฟลิค ดี-ไบโอติน ที่สำคัญได้รับการรับรองจาก องค์การอาหารและยา สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และ GMP HACCP ว่าปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงทั้งต่อคุณแม่และลูกน้อย โดยวิธีรับประทาน ก่อนอาหารเช้า หรือเย็น วันละ 1 แคปซูลเท่านั้น

 jessie mum, เจสซี่ มัม, อาหารเสริมน้ำนมแม่, อาหารเพิ่มนมแม่, อาหารกระตุ้นนมแม่, โทนิคแก้ผมร่วง, รางวัล Mommy's Choice, แม่ให้นม, คนท้องผมร่วง, ผมร่วงหลังคลอด

ขณะที่ “เจสซี่ แฮร์ โทนิค” Jessie Hair Tonic สเปรย์บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ เหมาะกับคุณแม่ที่เจอปัญหาผมขาดหลุดร่วงหลังคลอด เนื่องจากปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง โดยมีส่วนผสมสำคัญ 7 ชนิด ได้แก่ สารสกัดใบโลควอทจากญี่ปุ่น , สารสกัดจากพืชตระกูลสน , บิวทิลลีน ไกลคอล, ซิงค์, สารสกัดหอมแดง, สารสกัดจากชาเขียว และไบโอติน

นอกจากนี้ ยังพกพาสะดวก ใช้ง่าย กลิ่นหอม แค่ฉีดบริเวณที่ต้องการ และนวดบนหนังศรีษะ 5 – 15 วินาที ช่วยให้เส้นผมดกหนา ยาวเร็วขึ้น และลดอาการผมน้อย ผมบางที่เกิดจากการหลุดร่วง

jessie mum, เจสซี่ มัม, อาหารเสริมน้ำนมแม่, อาหารเพิ่มนมแม่, อาหารกระตุ้นนมแม่, โทนิคแก้ผมร่วง, รางวัล Mommy's Choice, แม่ให้นม, คนท้องผมร่วง, ผมร่วงหลังคลอด

คุณปาล์มวดี ผดุงศิริกุลชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจสซี่ มัม จำกัด ได้เผยความรู้สึกว่า ดีใจจนบอกไม่ถูก โดยเฉพาะรางวัล Mommy's Choice Awards เป็นรางวัลที่ได้รับคัดเลือกจากการโหวตของแม่ๆ ทั่วประเทศ และ Jessie Mum ได้รับรางวัลนี้มาตลอด 3 ปีซ้อน เป็นการตอกย้ำว่าเป็นแบรนด์ ที่คุณแม่ไว้ใจ และมีผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสามารถช่วยแก้ปัญหาให้คุณแม่ได้จริง

ส่วน ‘เจสซี่แฮร์ โทนิค” ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ที่ออกสู่ตลาดได้ไม่นาน ก็ยังคว้ารางวัลมาครองได้เป็นครั้งแรกเช่นกัน

“ในฐานะตัวแทนของแบรนด์ ปาล์มต้องขอขอบคุณความทุ่มเทของทีมงานทุกคนที่มีต่อลูกค้า จนทำให้เราได้รับรางวัลนี้ติดต่อกันมา 3 ปีติด และขอขอบคุณลูกค้าทุกๆ ท่าน ที่ให้ความไว้วางใจและให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของแบรนด์เราด้วยดีมาโดยตลอด และยินดีกับทุกๆ แบรนด์ที่สามารถคว้ารางวัลได้ในปีนี้ ในอนาคตเราจะมีผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ ออกมาเพื่อให้คุณแม่ได้ใช้อีกมากมาย และหวังว่าคุณแม่จะช่วยสนับสนุนผลิตภัณฑ์ให้อยู่ในอ้อมอกอ้อมใจแบบนี้ไปตลอดค่ะ”


โดย “เจสซี่ มัม” ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้า และพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคุณแม่หลังคลอดในทุกๆ ด้าน โดยตระหนักถึงคุณภาพผลิตภัณฑ์ ความปลอดภัย และประโยชน์ต่อคุณแม่และลูกน้อยเป็นหลัก

 

Molfix (โมลฟิกซ์) ผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูปคุณภาพพรีเมียมจากตุรกี เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย

5464

Molfix (โมลฟิกซ์) ผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูปคุณภาพพรีเมียมจากตุรกี เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย พร้อมดึง “ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช” ตัวแทนคุณแม่ยุคใหม่ ขึ้นแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรก

Molfix (โมลฟิกซ์) ผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูปคุณภาพพรีเมียมจากตุรกี เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย

กรุงเทพ, ประเทศไทย 1 ธันวาคม: บริษัทฮายัท ไฮจีนิค โปรดักส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูปสำหรับเด็กเกรดพรีเมียมจากประเทศตุรกี ที่พร้อมเติมเต็มทุกความสุข มอบรอยยิ้มให้กับคุณแม่และลูกน้อย พร้อมสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีทั่วทุกมุมโลก แถลงข่าวเปิดตัวแบรนด์ Molfix (โมลฟิกซ์) อย่างเป็นทางการในรูปแบบออนไลน์ โดยภายในงานได้มีการเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของประเทศไทย “คุณศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช” ตัวแทนคุณแม่ยุคใหม่ที่มีความพิถีพิถันในการเลือกผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับพรีเมียมเพื่อความสุขของลูกน้อย พร้อมร่วมแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกและการเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กจากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเทคนิคการสร้างเสริมสุขภาพจิตของคุณแม่และเด็กให้ดีจากภายในเพื่อส่งมอบพัฒนาการที่ดีที่สุดให้กับลูกน้อย

ถือเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย สำหรับแบรนด์โมลฟิกซ์ แบรนด์ผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูปจากประเทศตุรกี ซึ่งมีวางจำหน่ายเพื่อสร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับคุณแม่และลูกน้อยมากว่า 100 ประเทศทั่วโลก จนสามารถขึ้นเป็นแบรนด์ผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูปที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ของโลก โมลฟิกซ์ ได้ทำการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับคุณแม่และเด็กในทวีปเอเชียก่อนตัดสินใจขยายตลาดสู่ประเทศเวียดนามและมาเลเซีย ในวันนี้โมลฟิกซ์ พร้อมแล้วที่จะมอบประสบการณ์สัมผัสแห่งความนุ่มเบาสบาย อ่อนโยน พร้อมทั้งสร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับลูกน้อยและคุณแม่ชาวไทย

5464-1.jpg

“ประเทศไทยคือหนึ่งในฐานการขยายตลาดที่สำคัญที่สุดในแผนการดำเนินธุรกิจแห่งภูมิภาคเอเชียของฮายัท กรุ๊ป” คุณฮาสซาน อูจร์ รองประธานบริหาร ประจำภูมิภาคเอเชีย บริษัทฮายัท กรุ๊ป กล่าว “ประเทศไทยมีตลาดขนาดใหญ่ซึ่งถือเป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำที่สำคัญที่สุดในเอเชีย เป้าหมายของเราในการขยายธุรกิจมาที่ประเทศไทยคือการจัดให้ประเทศไทยเป็นตลาดหลักของการเติบโตหลักของฮายัท กรุ๊ป ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรขนาดใหญ่ Hayat Thailand จะประสบความสำเร็จอย่างมากภายในระยะเวลาอันสั้น ผู้ส่งเสริมธุรกิจจะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในท้องถิ่นของเรา รวมถึงความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งของทีมในประเทศไทยและกลยุทธ์การสื่อสารและการสร้างแบรนด์ที่จริงใจของเรา” คุณฮาสซาน อูจร์ กล่าวเพิ่มเติม

5464 2

“Hayat (ฮายัท) ซึ่งมีความหมายว่า 'ชีวิต' ในภาษาตุรกี เป้าหมายของเราคือการทำให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของเราทั้งหมดนั้นสามารถช่วยให้พวกเค้ามีคุณภาพชีวิตที่ดีมากยิ่งขึ้น Molfix เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กชั้นนำของ Hayat Group โดยพันธกิจของเราคือการพร้อมที่จะเติมเต็มทุกความสุข มอบรอยยิ้มให้กับคุณแม่และลูกน้อย พร้อมจัดหาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีที่สุดด้วยราคาที่จับต้องได้ในทุกตลาดทั่วโลก

โมลฟิกซ์สามารถผลิตและจัดจำหน่ายผ้าอ้อมเด็กมากกว่า 12,000 ล้านชิ้นต่อปี จึงทำให้เรากลายเป็นผู้ผลิตผ้าอ้อมเด็กสำเร็จรูปรายใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของโลก โดยมีฐานการผลิต 7 แห่ง ใน 7 ประเทศและจัดจำหน่ายใน 5 ทวีป มากกว่า 100 ประเทศ และมีเด็กมากกว่า 59 ล้านคนทั่วโลกได้ใช้ผลิตภัณฑ์โมลฟิกซ์  ทำให้เราขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดอันดับหนึ่งในประเทศตุรกี และอีกหลายประเทศในทวีปเอเชีย และแอฟริกา” คุณมูรัต บูรุต หัวหน้าฝ่ายการตลาดของ ฮายัท ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว “ตอนนี้ถึงเวลาสำหรับประเทศไทยแล้ว ที่จะได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์ของโมลฟิกซ์ ที่ได้รับการพัฒนาและออกแบบด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย ด้วยความเข้าใจถึงความต้องการของแม่และเด็ก ๆ รวมถึงช่วยสร้างรอยยิ้มให้กับพวกเขามากยิ่งขึ้น” มร. มูรัต บูรุต กล่าวเสริม

5464 3

โดยงานนี้ยังถือเป็นการเปิดตัว “คุณศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช” นักแสดงชั้นนำและคุณแม่มือใหม่ ทำหน้าที่แบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกในประเทศไทย โดยคุณศรีริต้าเป็นตัวแทนของคุณแม่ที่ให้ความใส่ใจ พิถีพิถันในการเลือกผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับพรีเมียมเพื่อความสุขของลูกน้อยของเธอจึงอยากส่งมอบสิ่งนี้ให้กับแม่ ๆ ท่านอื่น ๆ ด้วย

โดยคุณศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช เปิดใจถึงการมาทำหน้าที่แบรนด์แอมบาสเดอร์คู่กับน้องกวินท์ในครั้งนี้ว่า “ริต้าดีใจและรู้สึกเป็นเกียรติมาก ๆ นะคะที่ทางโมลฟิกซ์ เลือกให้ริต้าและน้องกวินท์ได้มาทำหน้าที่แบรนด์แอมบาสเดอร์ ตัวริต้าเองเคยได้ลองใช้สินค้าที่เป็นแบรนด์ตุรกีเมื่อสมัยตอนไปเที่ยวที่นั่นกับคุณกรณ์ก็รู้สึกว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ มาวันนี้ที่โมลฟิกซ์ซึ่งเป็นสินค้าจากตุรกี ได้มาวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว และด้วยความที่ริต้าเป็นคนช่างเลือก เราจึงอยากให้ลูกของเราได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ทำให้ริต้ากล้าที่จะเปิดใจ ซึ่งเมื่อได้ใช้แล้ว คนเป็นคุณแม่อย่างเรา ถือว่าไม่ผิดหวัง น้องกวินท์ใส่แล้วแฮปปี้มาก ร่าเริง ไม่เกิดอาการแพ้หรือผื่นคัน สามารถทำกิจกรรมของเขาได้อย่างเต็มที่ แค่นี้คนเป็นแม่อย่างเราก็มีความสุขและผ่อนคลายไปได้มาก ๆ”

โมลฟิกซ์ มีจุดมุ่งหมายที่จะขึ้นเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในแต่ละประเทศด้วยการออกแบบสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ มีความพิถีพิถันใส่ใจในการเลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติ เพื่อสร้างความมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวที่บอบบาง ส่งเสริมให้ลูกน้อยได้มีโอกาสเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เพื่อต่อยอดพัฒนาการในแต่ละช่วงวัยได้อย่างเต็มที่

สนใจและต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จาก Molfix (โมลฟิกซ์) ได้ที่ www.molfix.co.th หรือ Facebook: Molfix.Thailand

 

 

สาวก DISNEY ตัวจริง ห้ามพลาด เครื่องครัว MEYER ร่วมกับห้างโรบินสันเปิดแคมเปญแลกซื้อ MEYER DISNEY EARTHEN สุดคิ้วท์

เครื่องครัวไมย์เออร์ MEYER, MEYER DISNEY EARTHEN, ดิสนีย์, เครื่องครัวน่ารัก, โรบินสัน, ข่าวประชาสัมพันธ์


RARE ITEM ! สาวก DISNEY ตัวจริง ห้ามพลาด เครื่องครัว MEYER (ไมย์เออร์) ร่วมกับ ห้างโรบินสัน เปิดแคมเปญแลกซื้อ MEYER DISNEY EARTHEN สุดคิ้วท์ 

แบรนด์เครื่องครัว MEYER (ไมย์เออร์) นำโดย คุณโจเซฟ โล ผู้จัดการทั่วไปและผู้อำนวยการ บริษัท ไมย์เออร์ อินดัสตรีส์ จำกัด และ บริษัท ไมเร็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน โดย คุณกุลธิดา ยามวินิจ Head of Merchandising - Home Hardline และ คุณเจษฎา วงศ์ฟูเฟื่องขจร Head of Operation District ร่วมสร้างปรากฏการณ์แห่งความสุข ให้อบอวลทุกการเข้าครัว ด้วยไอเท็มเครื่องครัว คอลเลกชั่นพิเศษ MEYER DISNEY EARTHEN ลายมิกกี้เมาส์ สุดสดใส น่ารัก น่าใช้ น่าสะสม  ตัวช่วยเพิ่มแรงบันดาลใจในการรังสรรค์ทุกเมนูโปรดให้กลายเป็นมื้ออาหารสุดพิเศษ สำหรับทุกคนในครอบครัว กับ RARE ITEM ที่เหล่า Home Cooking หรือสาวก DISNEY ไม่ควรพลาดเก็บสะสม อาทิเช่น ภาชนะแก้วใส่อาหาร, ชุดทัพพีไม้ยางพาราคู่, ชุดจานชามและช้อนเซรามิก, หม้อด้าม หม้อสองหูเคลือบผิวลื่น พร้อมฝาแก้ว, กระทะอเนกประสงค์ เป็นต้น


เครื่องครัวไมย์เออร์ MEYER, MEYER DISNEY EARTHEN, ดิสนีย์, เครื่องครัวน่ารัก, โรบินสัน, ข่าวประชาสัมพันธ์

เครื่องครัวไมย์เออร์ MEYER, MEYER DISNEY EARTHEN, ดิสนีย์, เครื่องครัวน่ารัก, โรบินสัน, ข่าวประชาสัมพันธ์

เครื่องครัวไมย์เออร์ MEYER, MEYER DISNEY EARTHEN, ดิสนีย์, เครื่องครัวน่ารัก, โรบินสัน, ข่าวประชาสัมพันธ์

พร้อมให้ทุกคนสัมผัสความน่ารัก สดใส และเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ เพียงช้อปสินค้า 500 บาทขึ้นไป ที่ ห้างโรบินสันทุกสาขา และเบิร์นพอยท์ The1 ตามเงื่อนไขที่กำหนด รับสิทธิ์แลกซื้อในราคาลดสูงสุด 65% รับคะแนน The 1 x 3 เท่า สำหรับยอดการแลกซื้อ พร้อมร่วมกิจกรรมสุดพิเศษเที่ยวฮ่องกงฟรี 3 วัน 2 คืน เมื่อสะสมครบ 3 ชิ้นและร่วมกิจกรรมตามเงื่อนไขที่กำหนด รวมถึงสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย ตั้งแต่ 1 ส.ค. 67 - 1 ธ.ค. 67

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทุกช่องทางของ Meyer Cookware และ Robinson Department Store

  • สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ณ จุดขาย หรือ จุดแคชเชียร์ ในห้างโรบินสันทุกสาขา ทุกชั้น ทุกแผนก
  • เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

 

เตรียมพบกับ“เลียม นีสัน” กับภาพยนตร์แอ็คชั่นฟอร์มยักษ์สุดเดือด “The Marksman คนระห่ำ พันธ์ระอุ”

 5089

การกลับมาสู้ของชายผู้ไม่รู้จักตาย!! เตรียมพบกับ“เลียม นีสัน” กับภาพยนตร์แอ็คชั่นฟอร์มยักษ์สุดเดือด “The Marksman คนระห่ำ พันธ์ระอุ”

อีกไม่กี่อึดใจที่คอหนังชาวไทยจะได้พบกับความมันส์สุดระห่ำ กับการหนีตายและการไล่ล่าที่จะทำให้ผู้ชมได้ลุ้นทุกนาทีระทึก ในภาพยนตร์ “THE MARKSMAN คนระห่ำ พันธุ์ระอุ” ผลงานแอ็กชั่นทริลเลอร์สุดเดือดเรื่องล่าสุดของแอ็กชั่นสตาร์ “เลียม นีสัน” ขวัญใจคอหนังสายบู๊จากไตรภาค TAKEN( สู้ไม่รู้จักตาย) ที่ครั้งนี้กลับมาสวมบทบาทอดีตนาวิกโยธินผู้รักสันโดษ ที่ต้องช่วยเหลือเด็กชายคนหนึ่งให้รอดพ้นจากการถูกไล่ล่าเอาชีวิตของแกงค์ค้ายาและพาเขาไปส่งที่หมายอย่างปลอดดภัย การันตีความมันส์ด้วยดีกรีขึ้นแท่นอันดับ 1ออฟฟิศอเมริกา 2 สัปดาห์ซ้อน!

“THE MARKSMAN คนระห่ำ พันธุ์ระอุ” เรื่องราวของ จิม แฮนสัน ( เลียม นีสัน ) เจ้าของฟาร์มชาวแอริโซนาผู้แข็งกร้าว อดีตนาวิกโยธินผู้รักสันโดษที่ต้องการอยู่คนเดียวไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร โดยพยายามหาเลี้ยงชีพบนพื้นที่พรมแดนอันห่างไกล แต่ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไปเมื่อเขาพบเห็น มิเกล (จาค็อบ เปเรซ) ผู้อพยพวัย11ปี ที่กำลังหลบหนีจากการสังหารโดยแก๊งค้ายาสุดเหี้ยมนำโดย มัลริซิโอ (ฮวน พาโบล ราบา) ก่อนที่เหตุการณ์จะนำพาให้เขาต้องช่วยเหลือมิเกลให้เดินทางกลับไปหาครอบครัวที่ชิคาโกอย่างปลอดภัย จิมต้องพามิเกลลัดลอดผ่านด่านศุลกากรและตระเวนชายแดนในพื้นที่ของสหรัฐฯ โดยมีกลุ่มนักฆ่าเลือดเย็นตามไล่ล่าอย่างไม่ลดละ

ภาพยนตร์กำกับโดย โรเบิร์ต ลอว์เลนซ์ (American Sniper) อำนวยการสร้างโดย นิโคลัส ชาร์เธียร์ (The Hurt Locker) ผู้เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์3ครั้งจากการอำนวยการสร้างผลงานฟอร์มเยี่ยม อย่าง American Sniper, Gran Torino, Mystic River, Invictus, Changeling และ Letters From Iwo Jima

พวกเดนนรกเตรียมตัวรับมือหายนะจากชายคนนี้ “THE MARKSMAN คนระห่ำ พันธุ์ระอุ” 4 มีนาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

ตัวอย่างภาพยนตร์


			

เนสท์เล่ แนะนำเคล็ดลับสร้างสุขภาพดี ส่งเสริมความสุขในบ้านผ่านกิจกรรม #เมนูหนูช่วยทำ ตอนสนุกสุขโซน

5341

สถานการณ์ในปัจจุบันทำให้ชีวิตของทุกคนในครอบครัวถูกจำกัดบริเวณอยู่ในบ้านกันมากยิ่งขึ้น บ้านกลายเป็นสถานที่ทดแทน เป็นทั้งที่ทำงานของพ่อแม่ และโรงเรียน หรือสนามเด็กเล่นให้ลูกได้เรียนรู้ อย่างไรก็ตาม เมื่อพื้นที่ถูกจำกัดเพื่อความปลอดภัยแล้ว พ่อ แม่ ผู้ปกครองอาจพบเจอกับความท้าทายในการสรรหากิจกรรมต่าง ๆ มาสร้างแรงบันดาลใจให้กับลูกน้อย เพื่อชดเชยช่วงชีวิตแห่งการเรียนรู้ ไม่ให้หล่นหายไป ผู้เชี่ยวชาญทางพัฒนาการด้านต่าง ๆ จึงเป็นผู้ช่วยคนสำคัญที่จะให้คำปรึกษากับพ่อ แม่ และ ผู้ปกครองได้

 5341 1

นางกนกทิพย์ ปริญญานุสสรณ์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาและสื่อสารโภชนาการเพื่อสุขภาพ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า “เด็ก ๆ เรียนรู้ได้ดีที่สุดผ่านการเล่น เพราะสมองส่วนหน้าจะเปิดรับการเรียนรู้ โครงการ เนสท์เล่เพื่อเด็กสุขภาพดี จึงสานต่อกิจกรรม “#เมนูหนูช่วยทำตอนสนุกสุขโซน เพื่อเชิญชวนพ่อแม่ และผู้ปกครองสร้างพื้นที่แห่งความสุขและสุขภาพดีในบ้าน โดยใช้เวลาคุณภาพร่วมกัน ด้วยการชวนเด็ก ๆ ร่วมเตรียมมื้ออาหารให้สนุกและมีสีสัน ให้เด็ก ๆ ได้ลงมือทำจนสำเร็จ ซึ่งจะเป็นการช่วยฝึกทักษะการคิดจากสมองส่วนหน้า (EF: Executive Functions) สร้างความมั่นใจ และ สร้างพฤติกรรมสุขภาพหมู่ร่วมกันในครอบครัว โดยกิจกรรมโซนที่ 2 ครัวหรรษา ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2564 ได้เปิดพื้นที่ให้ผู้ปกครองพูดคุยและขอรับคำปรึกษาด้านจิตวิทยาและโภชนาการออนไลน์โดยตรงกับผู้เชี่ยวชาญ ผ่าน Facebook Messenger ของ https://www.facebook.com/N4HKThailand/ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย นำโดย อาจารย์รณสิงห์ รือเรือง นักจิตวิทยาคลินิก ระดับชำนาญการพิเศษ และ นางทัศนีย์ สิทธิรัตน์ ณ นครพนม ผู้จัดการฝ่ายชำนาญการพิเศษด้านอาหาร บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ที่พร้อมให้คำแนะนำที่หลากหลาย เพื่อความสุขของทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริหารจัดการอารมณ์ การสื่อสารเชิงบวกเมื่อสมาชิกต้องอาศัยอยู่ร่วมกันในบ้านติดต่อกันเป็นเวลานาน เกร็ดความรู้หรือเทคนิคการทำอาหารเพื่อสุขภาพให้อร่อยและจูงใจเด็ก ไปจนถึงการจัดสรรเวลาอย่างเหมาะสมเพื่อสมดุลกายและใจ”

ทั้งนี้ เนสท์เล่ได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยจากพ่อแม่ และผู้ปกครอง พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเด็ก และผู้ชำนาญการพิเศษด้านอาหาร เพื่อสร้างสุขภาพดี และส่งเสริมความสุขในบ้านมาไว้ดังนี้

5341 2

1. วิธีจัดสรรเวลาสำหรับพ่อแม่ และผู้ปกครองที่ทำงานที่บ้าน ในขณะที่ลูกเรียนหนังสือออนไลน์ เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว และลดความตึงเครียดภายในบ้าน

อาจารย์รณสิงห์: การจ้องหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ แล็ปทอป หรือ มือถือเป็นเวลานาน จะทำให้ร่างกายเพลียง่ายโดยไม่รู้ตัว ทั้งนี้เพราะสมองต้องทำงานหนักขึ้นตามภาพที่เคลื่อนไหวเร็วอยู่ตลอดเวลา เสมือนเวลานั่งรถทางไกล แม้ไม่ได้เป็นคนขับ ก็รู้สึกเหนื่อย เพราะเราเห็นภาพของวิวข้างทางที่เคลื่อนไหวอย่างเร็วเป็นเวลานาน เสมือนว่าเรากำลังใช้ร่างกายเคลื่อนไหวจริง กล้ามเนื้อร่างกายจะเกิดการเกร็ง และตึงของกล้ามเนื้อที่เราเรียกว่า “ตึงเครียด” ความเครียดและความเหนื่อยล้าสะสมจากการทำงานหน้าจอ จะส่งผลให้เกิดอารมณ์หงุดหงิดง่าย และกระทบกับความสัมพันธ์ในครอบครัว สมาชิกแต่ละคน แต่ละช่วงวัยอยากมีเวลาและพื้นที่เป็นของตัวเองมากขึ้น การดูแลสมาชิกในครอบครัว หรือการดูแลบุตรหลานเรื่องการเรียนออนไลน์ สามารถแก้ไขได้ด้วยการกำหนดช่วงเวลาพัก เพื่อทำกิจกรรมสันทนาการ หรือออกกำลังกายง่าย ๆ ร่วมกันในบ้าน

กิจกรรม #เมนูหนูช่วยทำ ตอนสนุกสุขโซน นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมต้นแบบที่ทุกครอบครัวสามารถทำได้ เพราะทุกบ้านต้องทานอาหารอยู่แล้ว และใช้เวลาไม่นาน เพียงแค่วันละ 20 – 30 นาที อีกทั้งการเข้าครัวยังช่วยเสริมพัฒนาการในเด็กให้ฝึกคิดอย่างเป็นระบบ มีการวางแผนเป็นขั้นตอน และอาศัยความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้ ยังเติมเต็มเวลาคุณภาพให้กับสมาชิกในครอบครัวทั้งในส่วนของ อารมณ์ อาหาร และการออกกำลังกาย แนะนำให้ชวนเด็ก ๆ จัดตารางสนุกสุขโซน ประจำสัปดาห์ ซึ่งเป้าหมายสำคัญของกิจกรรมนี้ คือการได้ใช้เวลาที่ต้องอยู่ติดบ้าน สร้างสรรค์เป็นเวลาคุณภาพเพื่อสุขภาพที่ดีทางโภชนาการ และความสุขทางอารมณ์ เริ่มต้นจากมื้ออาหารที่ทำร่วมกัน และรับประทานร่วมกันอย่างมีความสุขในบ้าน อย่าลืมปิดท้ายด้วยการออกกำลังกาย 3 ครั้งต่อ 1 สัปดาห์ เพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพจากความอ้วนสะสม

2. สำหรับครอบครัวที่มีลูกในช่วงวัยพัฒนาการที่ต่างกันมาก จะสามารถทำกิจกรรม #เมนูหนูช่วยทำ ร่วมกันได้ไหม

อาจารย์รณสิงห์: ได้แน่นอน และจะยิ่งเป็นผลดีต่อการสร้างปฏิสัมพันธ์ของพี่ น้อง และสมาชิกในครอบครัว ให้รู้จักหน้าที่ของกันและกัน ในกิจกรรม #เมนูหนูช่วยทำ ตอนสนุกสุขโซนนี้ ทีมงานได้แบ่งกิจกรรมออกเป็น 3 โซน ได้แก่

  1. โซนนักสำรวจ ให้เด็ก ๆ สำรวจและสังเกต ค้นหาวัตถุดิบที่มีภายในบ้าน
  2. โซนครัวหรรษาให้เด็ก ๆ มีส่วนร่วมและเรียนรู้ผ่านการลงมือทำเพื่อสร้างประสบการณ์ตรง 
  3. โซนคิดส์สร้างสรรค์ ให้เด็ก ๆ ชื่นชมผลงานของกันและกัน และบอกเล่าเรื่องราวความสนุกที่เกิดขึ้นจากมื้ออาหารในครอบครัว

ดังนั้น พ่อแม่ และผู้ปกครอง สามารถใช้กิจกรรม #เมนูหนูช่วยทำ ตอนสนุกสุขโซน เป็นตัวกำหนดหน้าที่ และความรับผิดชอบของแต่ละคนในบ้าน ฝึกเชื่อมโยงกระบวนการคิดมิติสัมพันธ์ให้รอบด้าน เริ่มจากการค้นหาเมนูสำหรับเด็กในวัยต่าง ๆ การคัดเลือกวัตถุดิบ การแบ่งหน้าที่ตามความสามารถในแต่ละช่วงวัย อาทิ น้องเล็กช่วยล้างผัก และพี่โตช่วยหั่นผัก รวมไปถึง พ่อแม่ และผู้ปกครองเองก็สามารถสอดแทรกความรู้และโภชนาการให้เด็ก ๆ ก่อให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างคนในครอบครัว ช่วยให้รู้จักคิดถึงคนอื่น เด็ก ๆ เองก็ได้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมอย่างสนุกสนาน

5341 3

3. โภชนาการที่เหมาะสมสำหรับไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในครอบครัวที่ต้องอยู่แต่ในพื้นที่จำกัด ไม่ค่อยได้ขยับร่างกาย นั่งหน้าจอตลอดทั้งวัน จากการ Work From Home หรือเรียนออนไลน์

นางทัศนีย์:ในบ้านของเราประกอบไปด้วยสมาชิกในบ้านหลายช่วงวัย แนวทางการสร้างเสริมและดูแลสุขภาพ เริ่มจาก 5 พฤติกรรมหลัก ได้แก่

  1. กินหลากหลายเพิ่มผักผลไม้
  2. กินสัดส่วนที่เหมาะสม
  3. กินพร้อมหน้า
  4. ขยันขยับ ออกกำลังกาย และ
  5. เลือกดื่มน้ำเปล่า

ซึ่งการหมั่นจิบน้ำเปล่าระหว่างวัน จะช่วยลดการขาดน้ำ ช่วยให้สมองและร่างกายสดชื่น เราสามารถเพิ่มรสชาติ และสีสันในการดื่มน้ำได้หลากหลายสไตล์ ยกตัวอย่างเช่น การทำน้ำแข็งผลไม้ หรือ เครื่องดื่มเสริมวิตามินซีจากผลไม้สด (Infused water) เพื่อเสริมวิตามิน และเพิ่มภูมิต้านทานในช่วงนี้ สำหรับเด็กในวัยเรียน อาจเตรียมอาหารว่างระหว่างวัน โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับเครื่องหมายสัญลักษณ์โภชนาการทางเลือกสุขภาพ เพื่อลดการบริโภคน้ำตาล โซเดียม และไขมัน เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะโรคอ้วนในเด็ก พร้อมเลือกวัตถุดิบหรือเครื่องดื่มที่เสริมวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายและการเจริญเติบโต อาทิเช่น แคลเซียม ธาตุเหล็ก และ วิตามินดี เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของเด็กยุคใหม่ที่ต้องติดอยู่ในพื้นที่ปิด อาจทำให้ขาดสารอาหารสำคัญที่มาคู่กับการได้รับแสงอาทิตย์ นั่นคือวิตามินดี ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายของเราดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น

4. หากพ่อแม่ และผู้ปกครองไม่ถนัดปรุงอาหารเองที่บ้าน จะยังสามารถเพิ่มพูนองค์ความรู้เกี่ยวกับโภชนาการที่ดี และ ปลูกฝังพฤติกรรมสุขภาพดีให้กับลูกได้ไหม

อาจารย์รณสิงห์: กระบวนการเรียนรู้ของเด็ก จะเกิดขึ้นเมื่อเกิดการลงมือทำซ้ำ ๆ เป็นประจำ จนกลายเป็นนิสัย  การปลูกฝังพฤติกรรมสุขภาพดี หากบ้านไหนไม่สะดวกเข้าครัว ก็สามารถพูดคุย สร้างบทสนทนากับลูก ชวนลูกเลือกสั่งซื้ออาหารที่มีองค์ประกอบของอาหารที่ถูกสุขลักษณะ สอดแทรกความรู้ตามหลักโภชนาการได้ นอกจากนี้ การมอบหมายหน้าที่ให้ลูกช่วยจัดโต๊ะอาหาร แกะและเทอาหารที่สั่งซื้อมาใส่ภาชนะ ทานอาหารพร้อมหน้ากัน ไปจนถึง ช่วยกันเก็บล้าง ก็จะช่วยกระชับสัมพันธภาพในครอบครัว เด็กเองก็ได้เรียนรู้อย่างเป็นขั้นตอนผ่านกิจวัตรประจำวัน ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างพัฒนาการสมองส่วนหน้า (Executive Functions) อีกด้วย 

นางทัศนีย์: การสร้างเสริมหรือการปลูกฝังพฤติกรรมสุขภาพที่ดีให้ลูก ต้องเริ่มต้นจากการเป็นแบบอย่างที่ดีของคุณพ่อคุณแม่ และ ผู้ปกครอง ซึ่งสามารถเริ่มต้นง่ายๆ จากการเลือกสรรเมนูอาหารที่หลากหลาย มีสารอาหารครบถ้วนให้ทาน การชวนทำกิจกรรมต่างๆ ในบ้านร่วมกัน รวมถึงกิจกรรมสันทนาการที่ทำให้สนุกกับการขยับ และเคลื่อนไหวร่างกายทั้งกล้ามเนื้อมัดเล็ก และ กล้ามเนื้อมัดใหญ่ คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองสามารถอาศัยช่วงเวลาที่อยู่บ้านยาวๆ นี้เรียนรู้ไปพร้อมกับลูก เปิดคู่มือการทำอาหารออนไลน์ และทำไปพร้อมกับลูก ก็ได้เช่นกัน โดยทางเนสท์เล่ ได้จัดทำ E-Cook Book “รวมมื้อสนุก เมนูประจำบ้าน” ที่รวบรวมเมนูสร้างสรรค์ เคล็ดลับการปรุงอาหาร เกร็ดความรู้โภชนาการ และจิตวิทยาของครอบครัว เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพหมู่ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีภายในครอบครัว สามารถดาวน์โหลด E-Cook Book “รวมมื้อสนุก เมนูประจำบ้าน”ได้ฟรีที่เวบไซต์ nestle.co.th ในส่วนของโภชนาการเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี http://bit.ly/3rlTyo8

5. แนะนำเมนูอาหารที่ทำได้ง่ายและมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน หากต้องแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation)

นางทัศนีย์: สำหรับครอบครัวที่มีเหตุจำเป็นต้องปฏิบัติตามหลัก Home Isolation แนะนำให้พยายามทานอาหารที่ปรุงสุก สะอาด และสดใหม่ โดยแนะนำเป็นอาหารจานเดียว เป็นเมนูที่ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก แต่ให้สารอาหารครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ เช่น เบนโตะไข่ม้วน, เมนูผัดเห็ดสามสหาย, ข้าวผัดใส่ใจไข่ฟรุ้งฟริ้ง เป็นต้น พบกับไอเดียเมนูที่หลากหลายพร้อมวิธีการทำง่ายๆ ได้ที่ https://www.nestle.co.th/th/nhw/kids/homerecipe ข้อดีของการจัดอาหารจัดแยกชุดสำหรับสมาชิกในบ้าน คือจะช่วยป้องกันและหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายหรือติดเชื้อระหว่างบุคคล ส่วนการบริหารจัดการวัตถุดิบ แนะนำให้เลือกผักผลไม้ที่สามารถเก็บไว้ได้นาน และสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น แครอท บรอคโคลี กะหล่ำปลี และ ผลไม้เนื้อแข็ง เช่น แอปเปิ้ล ฝรั่ง สาลี่ มะม่วงมัน

ขอเชิญทุกครอบครัวไทยเข้าร่วมกิจกรรม #เมนูหนูช่วยทำ ตอนสนุกสุขโซน และสอบถามโดยตรงจากผู้เชี่ยวชาญถึงเคล็ดลับ เทคนิค ตลอดจนแนวทางการสร้างพื้นที่แห่งความสุขภายในบ้าน กับ อาจารย์รณสิงห์ รือเรือง นักจิตวิทยาคลินิก ระดับชำนาญการพิเศษ และ นางทัศนีย์ สิทธิรัตน์ ณ นครพนม ผู้จัดการฝ่ายชำนาญการพิเศษด้านอาหาร บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ผ่าน Facebook Page ของกิจกรรม ได้ที่ https://www.facebook.com/N4HKThailand ตั้งแต่วันที่ 15-28 กรกฎาคม 2564 ผู้ร่วมกิจกรรมมีสิทธิ์รับรางวัลไปสร้างสุขในบ้านกันต่อ เนสท์เล่ขอส่งกำลังใจและความห่วงใยเพื่อสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจของทุกครอบครัวไทย

 

 

 

ไครโอวิวา ผู้นำนวัตกรรมสเต็มเซลล์ เปิดห้องปฎิบัติการพาสื่อมวลชนเยี่ยมชมการจัดเก็บ เพาะเลี้ยง ตามมาตรฐาน AABB 

6185 1

 

ครั้งแรก ไครโอวิวา ผู้นำนวัตกรรมสเต็มเซลล์ เปิดห้องปฎิบัติการ พาสื่อมวลชนเยี่ยมชมการจัดเก็บ เพาะเลี้ยง ตามมาตรฐาน AABB พร้อมโชว์แผนงาน สู่ผู้ผลิตยา ATMPs’ ทางแพทย์ชั้นสูง

 

“ไครโอวิวา” เปิดห้องปฏิบัติการหนึ่งเดียวในตลาดธนาคารสเต็มเซลล์ไทยที่ได้มาตรฐานAABB ครบ!
ทั้ง จัดเก็บ เพาะเลี้ยง และการรับรองแหล่งผลิตเซลล์ตั้งต้นที่มีคุณภาพ เตรียมเร่งเครื่องพัฒนา ‘ATMPs’ ผลิตภัณฑ์ยาใหม่ด้วยมาตรฐาน GMP-PIC/s ภายในห้องปฎิบัติการที่ได้ใบอนุญาต ผ.ย.2 จาก อย. 
(การเยี่ยมชมเฉพาะส่วนพื้นที่ เพื่อเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยของกระบวนการ)

จากความก้าวล้ำของนวัตกรรมและเทคโนโลยี นับตั้งแต่วงการวิทยาศาสตร์ได้ทำการวิจัยและค้นพบว่า “สเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือ” หรือ Cord Blood (CB) สามารถนำมารักษาโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบเลือด และอื่นๆ ได้มากกว่า 85 โรค อาทิ  กลุ่มโรคมะเร็งเม็ดเลือดชนิดต่างๆ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคจากความผิดปกติ ของการสร้างเม็ดเลือดแดง โรคจากความผิดปกติของระบบเผาผลาญ จนถึงวันนี้ ที่งานวิจัยสามารถขยายผลแสดง ให้เห็นถึงศักยภาพของสเต็มเซลล์ในส่วนอื่นๆ เพิ่มเติมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อสายสะดือ Cord Tissue (CT), สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อหุ้มรก Amnion Tissue (AT) หรือแม้แต่ สเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อไขมัน หรือ สเต็มเซลล์มีเซนไคมอล จากไขมัน Adipose-Derived MSCs (ADSC) ทำให้ “สเต็มเซลล์”  กลายเป็นความหวังใหม่ของวงการ แพทย์ที่จะเข้ามา เปลี่ยนเกม (Game Change) สำคัญในอุตสาหกรรม Health & Wellness ซึ่งปัจจุบันกำลังเป็นเทรนด์ และกระแสที่มาแรงอย่าง มากสำหรับประเทศไทย
                                            

 6185 2

ดังนั้น “ไครโอวิวา” ในฐานะที่เป็นผู้นำเดียวของตลาดธนาคารสเต็มเซลล์ไทย ที่ได้มาตรฐานระดับโลกครบวงจร คือ AABB (Association for the Advancement of Blood & Biotherapies) หรือ สมาคมเพื่อความก้าวหน้าด้านเลือดและ ชีวรักษาประเทศสหรัฐอเมริกา และพร้อมเข้าสู่มาตรฐาน GMP-PIC/s ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้น โดยความร่วมมือจากบริษัทชั้นนำ ระดับโลก ที่มีองค์กรและเครือข่ายสมาชิกสนับสนุนจากทั่วโลกกว่า 20ประเทศ ทั้ง ยุโรปเอเชีย แอฟริกา ออสเตรเลีย และเมื่อ สัปดาห์ที่ผ่านมา “ไครโอวิวา” ได้จัดงาน  “สื่อมวลชนสัญจร” เพื่อเรียนเชิญสื่อมวลชนมาเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการ (ห้องแล็บ) ของธนาคารจัดเก็บสเต็มเซลล์ “ไครโอวิวา” ที่ได้มาตรฐาน AABB  ทั้ง 3  สาขาคือ   

1.การจัดเก็บสเต็มเซลล์ 

2.การเพาะเลี้ยงเต็มเซลล์ 

3.การถูกรับรองว่าเป็นแหล่งผลิตเซลล์ตั้งต้นที่มีคุณภาพเพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ ATMP หรือ ผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง และพร้อมเข้าสู่การได้มาตรฐาน GMP-PIC/s ณ.อำเภอชัยศรี จังหวัดนครปฐม งานนี้ ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนจำนวนมากในการเดินทางมาเยี่ยมชมห้องปฎิบัติการ ดังกล่าว

 

6185 3

โดย คุณจิรัญญา  ประชาเสรี ประธานกรรมการบริหาร ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท ไครโอวิวา  (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้ให้บริการธนาคารสเต็มเซลล์ เกี่ยวกับการพัฒนาปรับปรุง เปลี่ยนแปลงระบบปฏิบัติการธนาคารสเต็มเซลล์ ให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของการผลิตสเต็มเซลล์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ยาใหม่ ATMPs ( Advance Therapy Medicinal Products) เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 17 ปี "ไครโอวิวา"มุ่งเน้นการพัฒนาแบบไม่หยุดนิ่ง ภายใต้นโยบายว่า “มาตรฐานและ คุณภาพต้องมาเป็นที่หนึ่ง” ประกอบกับต้องการเห็นผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งในปัจจุบันและโลกแห่งอนาคต 

ปัจจุบัน “ไครโอวิวา” มีทีมแพทย์นักวิทยาศาสตร์ ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเรื่องสเต็มเซลล์ อีกทั้งมีทีมแพทย์ที่ปรึกษา เกี่ยวกับด้านโลหิตวิทยา และการฟื้นฟูด้วยเซลล์บำบัด มีผู้ชำนาญเฉพาะทางทั้งในและต่างประเทศ ประกอบกับมุ่งเน้นการ ศึกษาวิจัย การแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยีในแต่ละประเทศ มีการพัฒนาปรับปรุงห้องปฏิบัติการ ให้เป็นระดับ World Class ด้วยการขยายใหญ่ขึ้นมากกว่าเดิม 3 เท่าตัว เพื่อตอบโจทย์กลุ่มของการเป็นผู้ผลิต “ผลิตภัณฑ์ยาใหม่” ในกลุ่ม ATMP (Advance Therapy Medicinal Product) ซึ่งอยู่ในกลุ่มของการผลิตยาทางการแพทย์ขั้นสูงที่ถือว่าเป็นการก้าวกระโดดของ อุตสาหกรรมสเต็มเซลล์ทางการแพทย์ในกลุ่ม Health & Wellness ครั้งสำคัญของประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ เช่น การนำสเต็มเซลล์ที่เก็บจากเนื้อเยื่อหัวเข่า มาผลิตเป็นยา สำหรับการรักษาโรคเข่าเสื่อม เป็นต้น
 

ขณะเดียวกัน ห้องปฏิบัติการของไครโอวิวา ยังสามารถรองรับการผลิตเพิ่มขึ้นอีกมากกว่า 500,000 ล้านเซลล์ต่อปี นับว่าเป็น การยกระดับห้องปฏิบัติการตามมาตรฐานโลก ครั้งแรกของประเทศไทย เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดตามมาตรฐาน ระดับโลก คือ AABB (Association for the Advancement of Blood & Biotherapies) หรือ สมาคมเพื่อความก้าวหน้าด้านเลือด และชีวรักษาประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่เรื่องของการจัดเก็บสเต็มเซลล์ การเพาะเลี้ยงเต็มเซลล์ และการถูกรับรองว่าเป็นแหล่ง

ผลิตเซลล์ตั้งต้นที่มีคุณภาพเพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ ATMP หรือ ผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูงและพร้อมเข้าสู่การได้ มาตรฐาน GMP-PIC/s  ซึ่งเป็นมาตฐานการผลิตยาและเวชภัณฑ์ระดับสากลที่เข้มงวดที่สุด  


นอกจากนี้ ภายในห้องปฎิบัติการ ยังได้รับใบอนุญาตผลิตยาแผนปัจจุบัน (แบบ ผ.ย.2) จากสำนักงานคณะกรรมการอาหาร และยา (อย.) ให้เป็นสถานที่ผลิตยาที่มีมาตรฐานในการผลิต MSCs เพื่อการวิจัยทางทางคลินิก เพิ่มเติมอีกด้วย นับว่าเป็น การสะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมในด้านเทคโนโลยีการผลิต ระบบคุณภาพ และความมุ่งมั่นสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว เพราะเป็นวิธีการผลิตที่สอดคล้องกับมาตรฐาน GMP/PICS ตามหลักเกณฑ์ผลิตยาขั้นสูงของสหภาพยุโรปที่เข้มงวดที่สุด มีการ ควบคุมทุกขั้นตอนตั้งแต่วัตถุดิบ กระบวนการผลิต ไปจนถึงการบรรจุเพื่อลดความเสี่ยงของการปนเปื้อน ทำให้ผู้บริโภคได้รับยา ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และสามารถส่งออกไปยังต่างประเทศได้


 อย่างไรก็ดี "ไครโอวิวา" ยังวางแผนไว้ว่าจะทำอย่างไรให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น "ไครโอวิวา"ให้ ความสำคัญ เป็นพิเศษในเรื่องของราคาที่คนทั่วไปสามารถจ่ายได้ด้วย ดังนั้นจึงอยากให้หน่วยงานรัฐ เข้ามาสนับสนุนการใช้ สเต็มเซลล์ใน การรักษาผู้ป่วยได้ เนื่องจากการใช้สเต็มเซลล์ เป็นตัวเลือกที่ดีทั้งในเรื่องของการรักษาโรค, การชะลอวัย เพื่อช่วย ให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี นอกจากนี้ นวัตกรรมดังกล่าวยังสามารถสร้างเม็ดเงินเข้าได้อย่างมหาศาล เนื่องจากคนทั่วโลกยอม รับว่า คุณภาพของบริการแพทย์ไทย และเรื่องของ Medical Tourism ก็เป็นหนึ่งในรายได้ที่สำคัญของประเทศ

ขณะที่ คุณกมลรัตน์ ศรีถวิลประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมถึงกระบวน การทำงานของ ห้องปฏิบัติการ (ห้องแล็บ)ของธนาคารจัดเก็บสเต็มเซลล์ “ไครโอวิวา” ภายใต้ระบบควบคุมมาตรฐาน ขั้นสูง ระดับโลก (AABB) ว่า เนื่องจากประเทศไทยตลาดธนาคารสเต็มเซลล์ขณะนี้ มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่เรื่อง

การใช้ดูแลสุขภาพเชิงป้องกันของคนยุคใหม่ แต่รวมถึงเทคโนโลยีด้านการจัดเก็บสเต็มเซลล์ที่ก้าวหน้าเพื่อจะ สามารถนำ สเต็มเซลล์มาใช้ในวงกว้างมากขึ้น ที่ไม่เพียงแต่จำกัดอยู่แค่เรื่องการรักษาและป้องกันโรคเท่านั้น แต่ยังครอบคลุม ถึงการนำ “สเต็มเซลล์” มาใช้ในอุตสาหกรรมความสวย ความงาม ซึ่งปัจจุบันกำลังเป็นตลาดเนื้อหอมที่ส่งผลให้ผู้ประกอบการ หลายๆราย กำลังหันมาลงทุนในอุตสาหกรรมนี้มากขึ้น  อย่างไรก็ดีแม้จะเป็นเรื่องดีที่จะช่วยให้มีทางเลือกมากขึ้นในการใช้ สเต็มเซลล์ รักษา และป้องกันโรค แต่ผลลัพธ์ที่ตามคือ ความเสี่ยงที่จะได้ “สเต็มเซลล์” ไม่มีคุณภาพมาตรฐานโดยเฉพาะ ผู้บริโภค\ ที่ขาดความรู้ เกี่ยวกับข้อกำหนดในการใช้ประกอบ กับมาตรฐานของแหล่งผลิต และวิธีจัดเก็บสเต็มเซลล์ ที่อาจมีการ ปนเปื้อนของสารเคมี มีเชื้อโรค และสารโปรตีนหรือเซลล์แปลกปลอม ระหว่างกระบวนการเตรียมสเต็มเซลล์ที่ไม่ถูกวิธี จนอาจส่ง ผลเสียต่อผู้บริโภค

ดังนั้น การมาเยี่ยมชมห้องปฏิบัติธนาคารจัดเก็บสเต็มเซลล์ “ไครโอวิวา” ครั้งนี้ สื่อมวลชนจะได้เห็นภาพ ทั้งหมดและมีความ เข้าใจ ถึงการทำงานของ “ไครโอวิวา” ในฐานะที่เป็นธนาคารจัดเก็บสเต็มเซลล์แห่งแรกและแห่งเดียวในไทย ที่ได้รับมาตรฐาน AABB  อาทิ เรื่องการเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์แบบธรรมชาติด้วยเทคโนโลยี  Explant Technology ซึ่งเป็นเทคโนโลยีจากประเทศ สหรัฐอเมริกาแห่งเดียวในไทย ที่มีประสิทธิภาพช่วยทำให้เซลล์มีความสามารถในการเจริญเติบโต มีสุขภาพที่ดีมากกว่า เทคโนโลยีแบบเดิมถึง 2 เท่า  ตามมาด้วย ระบบการจัดเก็บทันสมัย ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ Artificial Intelligence (AI Technology) ในการจัดเก็บ  ดูแลสเต็มเซลล์ให้มีประสิทธิภาพและสามารถนำมาใช้งานได้ อย่างปลอดภัย โดย AI ไม่ว่าจะเป็น การตรวจวัดปริมาณและควบคุมการเติม Liquid Nitrogenในถังด้วยระบบอัตโนมัติ ทำให้มั่นใจว่าเป็นสเต็มเซลล์ที่ถูกจัดเก็บอยู่ ภายในถังด้วยอุณหภูมิ -196 C ตลอดเวลา และสามารถควบคุมระดับอุณหภูมิ ความชื้นระดับน้ำยา ที่สามารถติดตามการ ทำงาน ของ ระบบตลอด 24 ชั่วโมง และหากมีเหตุฉุกเฉินระบบ Artificial Intelligence (AI Technology) อัจฉริยะจะแจ้งเตือนไปยังทีมเทคนิคทันที เป็นต้น 

ทั้งนี้จากตัวอย่างการเข้าเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการ ดังกล่าว เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ “ไครโอวิวา” ต้องการเป็นผู้นำใน อุตสาหกรรมสเต็มเซลล์ การเก็บรักษา, การเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย รวมถึงมีการขยายห้องปฎิบัติการสำหรับ จัดเก็บรักษา การเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ 3 เท่า เพื่อเป็นหนึ่งแนวทางสู่เป้าหมายการเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในเอเชีย และการ ขยายฐานการตลาดจากการจัดเก็บสเต็มเซลล์ทารกไปสู่บุคลลทั่วๆ ไป ที่สำคัญเรายังมีแผนมุ่งเป้าไปสู่การเป็นผู้ผลิต

“ผู้ผลิตยาใหม่” ในกลุ่ม ATMPs ( Advance Therapy Medicinal Products ) โดย การผลิตต้องสอดคล้องกับมาตรฐาน GMP/PICS ตามหลักเกณฑ์ผลิตยาขั้นสูงของสหภาพยุโรปที่เข้มงวดที่สุด ถือว่าเป็นทิศทางการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ “ไครโอวิวา” อย่างรวดเร็ว

6185 9
ปัจจุบัน  “ไครโอวิวา” มีจำนวนเก็บสเต็มเซลล์ ไว้มากกว่า 500,000 ยูนิต ติดในระดับ หนึ่งในสิบของโลก อีกทั้งยังมีการพัฒนา ขยายเครือข่ายอย่างเข้มแข็ง ครอบคลุมการให้บริการทั้งหมด 5 ทวีป คือ  เอเชีย อเมริกา แอฟริกา ยุโรป ออสเตรเลีย และยังมี เครือข่ายให้บริการมากกว่า 20 ประเทศ ไม่เพียงแค่นี้ “ไครโอวิวา” ยังเป็น 2 ใน 3 ของตลาดธนาคารสเต็มเซลล์

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน จาก  AABB  เลี้ยงสเต็มเซลล์อีกด้วย  ขณะเดียวกันยังได้รับการส่งเสริม การลงทุน จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมกาลงทุน (BOI) ซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญของรัฐ ในการผลักดันและส่งเสริม ศักยภาพธุรกิจที่มีความทันสมัย มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและสร้างประโยชน์เชิงเศรษฐกิจให้กับประเทศตั้งแต่ปีแรกที่เริ่ม ดำเนินการ “ไครโอวิวา”ปัจจุบัน ได้รับการส่งเสริมใน 3 โครงการได้แก่ Cord blood  Banking การจัดเก็บสเต็มเซลล์จากเลือดสายสะดือ, Testing Service (กลุ่ม Mesenchymal Stem Cell ) และล่าสุดลงทุนในโรงงานผลิต ATMPs ( Advance Therapy Medicinal Products)  ซึ่งอยู่ในกลุ่มการผลิตยาขั้นสูง สะท้อนถึงความพร้อมในด้านของเทคโนโลยีการผลิต ระบบคุณภาพและความมุ่งมั่น สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

 

 

ในส่วน ว่าที่เรือตรี กันตพัฒน์ คเชนทร์ไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายและฝ่ายการตลาด บริษัท ไครโอวิวา (ประเทศไทย) จำกัด  กล่าวถึง กลยุทธ์การตลาดและการขายธุรกิจสเต็มเซลล์ ว่า แม้ปี 2568 สภาวะเศรษฐกิจมีความซบเซา แต่ในเรื่องของคุณภาพสินค้า (สเต็มเซลล์) “ไครโอวิวา”ยังคงมุ่งเน้นในเรื่องคุณภาพที่สูง ไม่สามารถทำให้ถดถอยได้ ดังนั้นเรา จึงมีแผนออก Packaging ให้มีขนาดราคาที่เล็กลง เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงการบริการจัดเก็บ สเต็มเซลล์ได้มากขึ้น


รวมถึงในทุกๆ ปี “ไครโอวิวา”มีแผนที่จะออกบริการผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อดึงดูดใจให้ลูกค้าได้มีโอกาสทดลองใช้บริการเก็บ สเต็มเซลล์ ในราคาที่เล็กลงเพื่อเป็นต้นทุนในการดูแลรักษาสุขภาพของตนเองในอนาคต เพราะปัจจุบันอัตราการใช้
สเต็มเซลล์ในกลุ่มผู้มีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป มีมากขึ้น เพราะเทรนด์ของผู้บริโภค เริ่มหันมาดูแลสุขภาพของตัวเองมากขึ้น นอกจากนี้ ก็มีกลุ่มที่เริ่มสร้างครอบครัวใหม่ ก็หันมาเก็บสเต็มเซลล์ มากขึ้น เพื่อนำไปใช้ในอนาคตข้างหน้า ดังนั้น “ไครโอวิวา”ก็จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่สอดคล้องไปกับเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำมากขึ้น เพื่อให้ลูกค้าสามารถเก็บสเต็มเซลล์ในทุกๆ ส่วนของ ร่างกายให้ได้มากที่สุด ขณะที่ในเรื่องของยอดขายและการเติบโต “ไครโอวิวา”วางเป้าที่จะรักษาฐานการเติบโตไม่ต่ำ 38 % ต่อปี