
ทารกท้องผูกเป็นปัญหาที่คุณแม่มือใหม่หลายคนต้องเจอค่ะ เรามาสังเกตกันก่อนว่าแบบไหนที่เรียกว่าลทารกท้องผูก และหากลูกท้องผูกจริงๆ จะต้องดูแลอย่างไรให้ลูกอึง่าย สบายท้อง
ลูกท้องผูก คุณแม่มือใหม่ต้องรับมืออย่างไรให้ลูกสบายท้อง สุขภาพดี
เชื่อเลยว่าคุณแม่มือใหม่แทบทุกคนต้องเจอปัญหาลูกท้องผูก แถมยังไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วอาการที่ลูกไม่อึหลายวันเรียกว่าท้องผูกจริงไหม ต้องรับมืออย่างไรเพื่อช่วยให้ลูกอึ และไม่ท้องผูกอีก วันนี้เรามีคำแนะนำที่จะมาช่วยให้คุณแม่รับมือกับปัญหาลูกท้องผูก ช่วยให้ลูกอึง่าย สบายตัว สบายท้องค่ะ
ความรู้เบื้องต้นเรื่องการขับถ่ายของลูกทารก
โดยปกติในช่วง 2-3 อาทิตย์แรกหลังลืมตาดูโลก ลูกน้อยที่ดื่มนมแม่มักจะถ่ายวันละหลายรอบต่อวัน เฉลี่ยวันละ 4 ครั้ง จากนั้นจะลดความถี่ลง จนเข้าสู่ช่วงอายุ 6 เดือน ถือเป็นช่วงวัยที่มีอาการท้องผูกมากที่สุดไปจนถึงอายุ 4 ขวบ เพราะเป็นช่วงที่ลูกเริ่มกินรับประทานอาหารเสริมที่มีกากใยสูง รวมไปถึงในบางกรณีก็เป็นช่วงที่คุณแม่บางคนเริ่มให้ลูกดื่มนมเสริมแล้วค่ะ
เด็กนมแม่ – ปกติแล้วลูกแรกเกิดเมื่อดื่มนมแม่แล้วจะขับถ่ายง่ายและไวมาก แต่เมื่อเริ่มเข้าเดือนที่ 2 เป็นต้นไป เด็กนมแม่บางคนจะเริ่มไม่ค่อยถ่าย โดยอาจจะใช้เวลา 3-4 วันถึงถ่ายครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่อาการท้องผูกค่ะ เพราะนมแม่ย่อยง่าย ร่างกายลูกดูดซึมได้หมด และแทบไม่มีกากใยเหลือเป็นเนื้ออุจจาระ ดังนั้นจึงใช้เวลาหลายวันจึงจะมีก้อนอุจจาระมากพอให้มีแรงเบ่งออกมันนั่นเอง
อาการแบบไหนที่เรียกว่าลูกท้องผูก
สังเกตง่าย ๆ เวลาถ่ายอุจจาระ ลูกเบ่งจนหน้าแดง บิดตัว ร้องงอแง เมื่อก้อนอุจจาระออกมาแล้วจะมีลักษณะแข็งทำให้ลูกก้นแดง หรือบางครั้งอาจทำลำไส้หรือรูทวารฉีกขาดจนมีเลือดติดออกมาด้วย หากลูกเข้าข่ายอาการท้องผูก คุณแม่จะต้องรีบแก้ไขค่ะ เพราะหากปล่อยไว้อาจส่งผลต่อลำไส้และระบบขับถ่ายของลูกในระยะยาว
วิธีแก้ปัญหาลูกทารกท้องผูก
- ให้ลูกดื่มนมแม่ให้นานและมากที่สุด เพราะนมแม่ย่อยง่าย และช่วยทำลำไส้ ระบบขับถ่ายทำงานได้ปกติค่ะ
- สำหรับเด็กที่กินรับประทานอาหารเสริม ควรเลือกอาหารที่ย่อยง่ายเป็นหลัก และให้ระหว่างป้อนอาจป้อนน้ำซุปสลับไปด้วย เพื่อช่วยให้ย่อยง่าย
- ควรให้ลูกได้กินรับประทานผักผลไม้ เพราะเป็นอาหารที่มีกากใยสูง ช่วยในระบบขับถ่ายได้ตั้งแต่เริ่มอาหารเสริมไปจนโตค่ะ
- กรณีที่มีความจำเป็นต้องให้ลูกดื่มนมเสริม คุณแม่ควรคำนึงถึงระบบย่อยของลูกเป็นหลัก เพราะลำไส้ ระบบย่อย และขับถ่ายของลุกยังทำงานได้ไม่เต็มที่ ดังนั้นนมเสริมจึงควรเป็นนมย่อยง่าย อย่างการเลือกนมแพะ ที่มีโปรตีนย่อยง่าย และยังเสริมทัพด้วย Prebiotics อย่าง Inulin & Oligofructose ที่เป็นตัวกระตุ้นการเจริญของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ ช่วยให้ลูกน้อยขับถ่ายดี ท้องไม่ผูก สร้างภูมิคุ้มกันที่ดี การสวนทวาร โดยปกติแล้วคุณหมอจะไม่ค่อยแนะนำให้สวนทวารเด็กๆ เพราะจะไปขัดขาวงกระบวนการขับถ่ายตามธรรมชาติของเด็ก ยิ่งสวนบ่อยๆ ลูกก็จะเคยชินกับการสวนและไม่มีเบ่งอึเอง ดังนั้นการสวนควรทำก็ต่อเมื่อลูกไม่อึหลายวันและมีอาการผิดปกติจนไม่สบายตัวจริงๆ เท่านั้น และวิธีการ รวมถึงยาสวนทวารควรอยู่ในการแนะนำของคุณหมอค่ะ

อาการท้องผูกเกิดขึ้นได้กับเด็กทุกวัย เป็นสิ่งที่พ่อแม่กังวลใจเป็นอย่างมาก มาดูวิธีการรับมือเด็กท้องผูกกันค่ะ
ทารกท้องผูก ลูกท้องผูกแต่ละวัยต่างกันอย่างไร พร้อมวิธีแก้อาการท้องผูก
ทำไมทารกท้องผูก ลูกท้องผูก
อาการท้องผูกคือ อาการที่ถ่ายลำบาก อาจมีก้อนอุจจาระแข็ง ต้องใช้แรงเบ่งมาก หรือปวดเวลาอุจจาระผ่านออกมา ไม่มีการเคลื่อนไหวของลำไส้ และถ้าหากเกิดในเด็กแล้ว เจ้าหนูก็จะกลัวการถ่ายอุจจาระ เพราะว่าก้อนอุจจาระแข็ง ตอนเบ่งอาจทำให้รูทวารฉีกขาดได้ โดยปกติแล้วลำไส้ใหญ่ จะมีหน้าที่ดูดน้ำกลับเข้าสู่ร่างกาย หากอุจจาระค้างอยู่ในลำไส้ใหญ่นาน อุจจาระจะถูกดูดน้ำจนแข็งและแห้ง เวลาถ่ายยิ่งจะเจ็บมากขึ้นตามลำดับ เวลาปวดท้องเด็กก็จะอั้นไว้ก่อน เพราะกลัวว่าอึแล้วจะเจ็บ ก็เป็นวงจรวนไป
ลูกแต่ละวัยท้องผูกต่างกันอย่างไร
- ทารกแรกเกิด - 1 เดือน : หากมีอาการท้องผูก อาจมีสาเหตุจากตัวลำไส้ใหญ่ของเด็กมีปัญหา เช่น ระบบประสาทในลำไส้เจริญผิดปกติ คุณแม่ควรพบคุณหมอเพื่อหาทางรักษา
- อายุ1 เดือน - 6 เดือน : มักจะมีปัญหาท้องผูกน้อย สำหรับเด็กที่กินนมแม่มักจะไม่ค่อยมีปัญหาท้องผูก
- อายุ7 เดือน - 1 ปี : หากลูกกินนมผสมอาจจะเริ่มมีอาการท้องผูกเกิดขึ้นได้จากการเปลี่ยนสูตรนม ซึ่งวัยนี้เริ่มกินอาหารเสริมแล้ว คุณแม่ควรเพิ่มผักและผลไม้เข้าไปในเมนูอาหารเสริม
- อายุ1 ปี - 3 ปี : สำหรับวัยนี้ สาเหตุมักจะมาจากนิสัยการกินของตัวเด็กเอง กินอาหารที่มีกากใยน้อย ดื่มน้ำน้อย ไม่ออกกำลังกายและมีการเคลื่อนไหวร่างกายน้อย ดูแลลูกท้องผูก นอกจากการใช้ยาเพื่อช่วยลดอาการแล้ว การปรับพฤติกรรมจะช่วยลดอาการท้องผูกได้ยั่งยืนกว่า
อาหารและเครื่องดื่มช่วยแก้อาการทารกท้องผูก ลูกท้องผูก
-
ดื่มน้ำเพื่อให้อุจจาระอ่อนตัวช่วยลดอาการท้องผูกได้ โดยเฉพาะในตอนเช้า ทุกๆเช้าหลังตื่นนอนประมาณ 1 ถึง 2 แก้วจะช่วยได้
-
ดื่มน้ำลูกพรุนสกัด เด็กเล็กอาจผสมกับนมผงที่กินประจำให้กินได้ ลูกพรุนช่วยในการขับถ่ายเป็นอาหารที่มีกากใยมาก ช่วยลดอาการท้องผูกได้
-
กินมะละกอสุก เป็นการช่วยลดอาการท้องผูกได้ หรือการดื่มน้ำผักหรือผลไม้ปั่นช่วยลดอาการท้องผูกได้
วิธีแก้อาการทารกท้องผูก ลูกท้องผูก
- นั่งลงในอ่างน้ำอุ่นแช่ประมาณ 5 นาทีหลังถ่าย จะช่วยในการลดอาการปวดรูทวารจากการถ่ายอุจจาระที่แข็งได้ หรือฝึกให้เด็กขับถ่ายให้เป็นเวลาตอนเช้าหลังตื่นนอนก็ได้ และให้สม่ำเสมอ
- วิธีสวนถ่าย โดยการใช้สบู่เหลาเป็นแท่งเล็กมน ๆ สอดใส่เข้าไปในทวารสำหรับเด็กทารก ใช้ในกรณีเด็กถ่ายไม่ออกหลายวัน และควรต้องพาไปพบแพทย์หากเด็กเป็นบ่อยๆ

ลูกทารกตดบ่อยมาก แต่ไม่ถ่ายอาจเกิดจากมีลม แก๊สในท้องที่เกิดจากการดื่มนมหรืออาหารเสริมที่กิน ลูกไม่ถ่ายแต่ตดบ่อยต้องทำอย่างไร เรามีคำแนะนำค่ะ
ทารกไม่ถ่าย แต่ตดบ่อย แบบนี้เรียกว่าลูกท้องผูกได้หรือเปล่า
ทารกไม่ถ่ายแต่ตดบ่อยเกิดจากอะไร
ทารกที่ไม่ถ่ายแต่ตดบ่อย เราอาจแยกกลุ่มดังนี้ค่ะ
- ทารกแรกเกิด – 6 เดือนที่กินนมแม่ล้วน ทั้งจากเต้าหรือจากขวด อาจมีลมเข้าท้องมากในช่วงดื่มนม ทำให้มีลมสะสมในท้องและตดออกมาค่ะ และสำหรับเด็กที่กินนมแม่ล้วนแล้วไม่ถ่ายหลายวัน ถือว่าปกติ เพราะนมแม่ย่อยง่าย ไม่ค่อยเหลือกากใยค้างในระบบขับถ่ายให้เกิดแรงดันในกระบวนการขับถ่าย
- ทารกที่ดื่มนมผสม อาจกลืนลมจากในขวดนมเข้าไปมาก หรือ สูตรนมที่ดื่มไม่เหมาะกับระบบย่อย จึงทำให้ย่อยนมได้ไม่ดี เกิดการสะสมเป็นแก๊สในท้อง
- ทารกที่เริ่มกินอาหารเสริม อาจเกิดจากระบบย่อยอาหารไม่หมด เกิดการสะสมเป็นแก๊สในท้อง
- คุณแม่ให้นมกินอาหารที่สร้างแก๊ส เช่น กะหล่ำปลีสด ถั่ว หัวหอม เป็นต้น
ทารกไม่ถ่าย แต่ตดบ่อย เรียกว่าลูกท้องผูกใช่ไหม
ทารกที่ไม่ถ่ายแต่ตดบ่อย จะเข้าข่ายท้องผูกได้ต้องมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ท้องบวมขึ้น เบ่งนาน เบ่งจนหน้าแดง มีอาการท้องอืดร่วมด้วย เป็นต้น เราอาจสังเกตได้จากจำนวนครั้งในการขับถ่ายด้วย คือ ถ้าลูก ที่ถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 2 ครั้ง/สัปดาห์ เป็นเวลามากกว่า 2 สัปดาห์ขึ้นไป ก็เข้าข่ายเด็กท้องผูกได้

ช่วยไล่ลมในท้องลูก แก้อาการทารกตดบ่อย
- ให้ลูกเข้าเต้าถูกท่า (หน้าเชิด คางชิดเต้า ปากครอบลานนม) และกระตุ้นให้ลูกดูดด้วยความเร็วสม่ำเสมอจนกว่าจะอิ่ม
- หากดื่มนมขวด ให้ไล่อากาศออกจากขวดนมก่อน หรือ เลือกใช้ขวดนมที่ออกแบบมาเพื่อลดการเกิดอากาศในขวดได้
- เมื่อลูกกินนมอิ่มแล้ว อุ้มให้เรอก่อนวางนอน
- นวดท้องลูกหรือทำท่ากายบริหารช่วงท้องลูกแบบง่าย ๆ คือ จับขาทั้งสองข้างในท่ายก 90 องศา แล้วดันขาลูกเข้าช่วงท้องอย่างช้า ๆ ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง
- การเริ่มอาหารเสริม หรือ อาหารแต่ละมื้อของลูก ควรเริ่มจากอาหารบด อาหารย่อยง่าย
- คุณแม่ให้นมควรเลี่ยงการกินอาหารที่อาจทำให้เกิดแก๊สในช่วงให้นมลูก
โพรไบโอติกและพรีไบโอติก เลือกแบบไหนเหมาะสำหรับเด็ก สายพันธุ์ไหนดี กินปริมาณเท่าไหร่เพียงพอ
ฟัง The Expert พญ. สีวลี สีดาฟอง
แพทย์ผู้ชำนาญการโรคระบบทางเดินอาหารและตับในเด็ก โรงพยาบาลวิมุต
ติดตามรักลูก Podcast ได้ที่https://linktr.ee/rakluke

ทารกท้องอืด มักเกิดจากการกลืนลมเข้าไปในท้องมากไปในขณะกินนม รวมถึงทารกที่ดื่มนมผสมย่อยยากก็อาจทำให้ท้องอืด ท้องผูกได้เช่นกัน ดังนั้น หากไม่อยากให้ทารกท้องอืด คุณแม่ต้องเลือกโภชนาการที่เหมาะกับการย่อยของเด็ก เช่น การเลือกอาหารที่มีจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ที่มีส่วนช่วยในการสร้างสมดุลในระบบทางเดินอาหาร ระบบย่อยอาหาร เป็นต้น
อาการทารกท้องอืดเกิดจากอะไร
- ทารกที่กินนมแม่จากเต้า อาจงับหัวนมไม่ลึกพอ ลูกอาจงับดูดแค่บริเวณหัวนม แต่ไม่ลึกครอบไปถึงลานนม จึงทำให้เกิดอาการทารกท้องอืด เพราะรับลมเข้าไป
- ทารกที่ดื่มนมด้วยวิธีป้อนขวด ขณะดูดนมอาจกลืนนมในขวดเข้าท้องมากเกินไป
- ทารกที่จำเป็นต้องดื่มนมผสม อาจยังย่อยนมได้ไม่ดีนัก มีนมสะสมในท้องจนเกิดเป็นแก๊สทำให้ทารกท้องอืดได้
อาการทารกท้องอืดเป็นอย่างไร
- ร้องไห้งอแง อารมณ์ไม่ดี ไม่อยากเล่น
- ท้องป่อง แข็ง
- หายใจไม่ค่อยสะดวก อ้าปากหายใจ
- เริ่มตดบ่อย แต่ไม่อึ
- หลังกินนมอิ่มแล้วจะแอ่นท้อง แอ่นตัวเหมือนอึดอัด หน้าแดง
วิธีแก้ไขอาการทารกท้องอืด
- เมื่อให้ลูกเข้าเต้า ควรให้ลูกอ้าปากงับครอบให้ถึงลานนม (คางชิดเต้า จมูกเชิด) เพื่อป้องกันลมเข้าท้องและอาการทารกท้องอืด
- กรณีที่ลูกดื่มนมจากขวด ควรยกขวดนมตั้งขึ้นให้นมในขวดท่วมอยู่บริเวณจุกนมจนกว่าลูกจะดูดหมด และเมื่อหมดแล้วให้เอาขวดออกทันที ไม่ให้ลูกดูดขวดเปล่า
- เมื่อลูกกินนมอิ่มแล้ว ให้อุ้มเล่น อุ้มพาดบ่าให้เรอก่อนจึงค่อยลงนอน
- นวดไล่ลมในท้องลูก ด้วยการใช้สองฝ่ามือกดที่หน้าอกเบา ๆ แล้วไล่ลงมาถึงบริเวณท้อง จากนั้นวนมือเป็นวงกลมกว้างที่ท้องประมาณ 3-4 รอบ
- จับยกขาลูกในท่าปั่นจักรยานอากาศ หรือ ยกขาลูกให้งอเข่าแล้วดันให้ชิดบริเวณท้องเพื่อช่วยขับลม
- หากทารกไม่ได้มีอาการท้องอืดมาก ไม่ควรให้กินยาแก้ท้องอืดค่ะ แต่หากอาการมาก ลูกร้อง บิดตัว หน้าแดง ควรรีบพบแพทย์และรับยาแก้ท้องอืดสำหรับทารกจากแพทย์
- คุณแม่อาจใช้ผลิตภัณฑ์ลดอาการทารกท้องอืดช่วยได้ เช่น ใช้เบบี้ออยล์หยดที่ฝ่ามือแม่ก่อนแล้วนวดวนที่ท้องลูกเพื่อไล่ลม หรือ ใช้น้ำมันสมุนไพร เช่น ออยล์ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรธรรมชาติ หยดลงสำลีเช็ดวนที่ท้องลูกเบา ๆ เป็นต้น
การป้องกันทารกท้องอืดด้วย จุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ LPR ในนมแม่ เสริมความแข็งแกร่งรอบด้าน
จุลินทรีย์ LPRซึ่งก็คือโพรไบโอติกส์ ที่พบในน้ำนมแม่ และเมื่อลูกได้รับจุลินทรีย์เหล่านี้ ก็จะไปทำหน้าที่สร้างสมดุลในระบบทางเดินอาหาร ระบบย่อยอาหาร โดยเฉพาะที่บริเวณลำไส้ ทำให้การย่อย ดูดซึม และการขับถ่ายของลูกเป็นปกติ ป้องกันอาการทารกท้องอืดและท้องผูกได้เป็นอย่างดี
ผลวิจัยทางการแพทย์ยังระบุว่าจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ LPR ยังมีประโยชน์กับสุขภาพของเด็กในระยะยาวด้วย คือ เมื่อระบบทางเดินอาหารและการย่อยทำงานได้ดี ก็จะส่งผลต่อกระบวนการสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ป้องกันร่างกายจากการติดเชื้อ ไม่เจ็บป่วยง่าย เด็กจะมีพัฒนาการสมวัย อารมณ์ดี ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้เด็กพร้อมเรียนรู้อยู่เสมอค่ะ
จุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ LPR นอกจากจะพบมากในนมแม่แล้ว ยังพบมากในโยเกิร์ตและนมบางชนิด หากคุณแม่สังเกตว่าลูกทารกท้องอืดบ่อย ๆ อาจลองปรับเปลี่ยนท่าทางการดื่มนม การดูแลหลังดื่มนม รวมไปถึงการเลือกโภชนาการที่เหมาะกับการย่อยและดูดซึมของลูก เพื่อลดอาการทารกท้องอืดได้ค่ะ
อาการทารกท้องอืด หากดูแลอย่างถูกต้องโดยเริ่มจากการให้นมแม่ ซึ่งมีจุลินทรีย์ LPR และการช่วยลูกไล่ลม ก็จะช่วยป้องกันทารกท้องอืดได้ก่อนเกิดอาการค่ะ แต่หากปล่อยไว้นานลูกอาจเป็นโคลิคที่มีสาเหตุจากอาการท้องอืด ปวดท้อง ไม่สบายตัว ที่ส่งผลต่ออารมณ์และการเรียนรู้ได้ค่ะ
คุณแม่ท่านใดที่อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการทารกท้องอืดของลูกน้อย จากผู้เชี่ยวชาญตัวจริง สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บทความ วิธีสังเกตอาการทารกท้องอืดพร้อมวิธีแก้เมื่อลูกท้องอืดจากผู้เชี่ยวชาญ ได้เลย
ทารกตดบ่อย แต่ไม่ถ่าย ต้องดูแลยังไง อ่านเพิ่มได้ที่ >>> ทารกตดบ่อย แต่ไม่ถ่าย
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.nestlemomandme.in.th/2-techniques-to-burp-a-baby
https://www.nestlemomandme.in.th/lpr-benefits
#LPRจุลินทรีย์ในนมแม่ #เพราะแกร่งจึงเก่งได้อย่างใจฝัน
(พื้นที่เพื่อการโฆษณาและประชาสัมพันธ์)

ลูกทารกกินนมแม่แต่ไม่ถ่ายมา 4-5 วันเป็นเพราะอะไร อย่างนี้ลูกจะมีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่ายมั้ย ต้องสวนก้นลูกหรือพาไปหาหมอดีนะ มาดูคำตอบกันค่ะ
ลูกทารกไม่ถ่าย ต้องสวนก้นไหม สวนก้นได้ไหม
ทารกที่ดื่มแต่นมแม่นั้น จะมีลักษณะอุจจาระเปลี่ยนแปลงได้ บางทีถ่ายวันละหลายครั้ง บางทีหลายวันถ่ายครั้ง ให้สังเกตลักษณะของอุจจาระเป็นหลักว่าถ้าไม่แข็งมากเป็นก้อนเล็ก ๆ ติดกัน หรือไม่เป็นน้ำเหลวถือว่าปกติ ในเด็กที่ดื่มนมแม่อย่างเดียว
ในกรณีที่ลูกทารกไม่ถ่ายติดต่อกันนั้นเป็นลักษณะของเด็กที่กินนมแม่มากกว่าปัญหาท้องผูก พ่อแม่อาจสวนก้นลูกสักครั้งเพื่อดูว่าอุจจาระเป็นอย่างไร ถ้าออกมาเหมือนยาสีฟันที่ตอนท้ายเละ ๆ แสดงว่าไม่เป็นปัญหา สบายใจได้ แต่ต้องช่วยบ้างในบางเวลาที่ลูกอยากถ่ายแต่ถ่ายไม่ออก โดยสังเกตอาการที่เวลาลูกบอกว่าปวดอึ
การสวนอุจจาระเด็กเล็กนั้น ให้ใช้แท่งกลีเซอรีนเล็ก ๆ จับด้านบนด้วยกระดาษกันลื่นและสอดด้านปลายแหลมเข้าไปบริเวณรูก้นพร้อมยกขาขึ้น จะให้ลูกนอนหงายหรือนอนตะแคงก็ได้ ตามถนัด ไม่เกินสิบวินาที ลูกจะเบ่งอึออกมา จากนั้นช่วยนวดท้องให้ลูกก็ถ่ายจนหมด
วิธีนี้เป็นวิธีที่คุณหมอแนะนำเมื่อลูกไม่อึหาย ๆ วัน ซึ่งสามารถใช้เพื่อทดสอบปัญหาการขับถ่ายของลูกคร่าว ๆ เท่านั้น ไม่แนะนำให้ทำบ่อย ๆ นะคะ เพราะอาจมีปัญหาในอนาคตได้
ขอบคุณข้อมูลจาก
รศ.พญ.ประสบศรี อึ้งถาวร