การตรวจ DNA เป็นการตรวจเฉพาะบุคคล เพื่อกินหรือปรับพฤติกรรมให้ตรงกับแต่ละคนมากที่สุด ยิ่งตรวจเร็วยิ่งดี เพราะจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถวางแผนอนาคตของลูกได้
การตรวจที่สถาบันสุขภาพและความงาม ตรัยญา จะมีคุณหมอวางแผนการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมครบทุกมิติ เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพดีพร้อมรับมือกับสถานการณ์โรคต่างๆ ได้
ฟังวิธีการตรวจ DNA และแนวทางการป้องกันสุขภาพเพื่อสุขภาพที่ยั่งยืนของครอบครัว โดย พญ.สุวรรณี ศิริวิมลานันท์ แพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟู สถาบันสุขภาพและความงาม ตรัยญา
Apple Podcast: https://apple.co/3m15ytB
Spotify: https://spoti.fi/3cvAVcX
Youtube: https://bit.ly/3cxn31u
#รักลูกPodcast
#รักลูกTheExpertTalk
#Moms_Issues
“โกรทฮอร์โมน” ฮอร์โมนสำคัญมากกว่าแค่ลูกโตไว โตช้า โตไม่สมวัย แต่เป็นต้นทางของการทำงานในร่างกายทุกส่วน จะทำอย่างไรให้โกรทฮอร์โมนสมดุล
ฟัง The Expert พญ.นวลผ่อง เหรียญมณี
กุมารเวชศาสตร์ โรคต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิซึม โรงพยาบาลพญาไท 2
รู้จัก Growth Hormone
Growth Hormone คือฮอร์โมนการเจริญเติบโตเป็นฮอร์โมนแห่งการสร้าง ช่วยสร้างเซลล์ ทําให้เซลล์กระดูกเติบโตเด็กสูง ทําให้เซลล์กล้ามเนื้อแข็งแรงเด็กมีกําลัง ทําให้เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงการทํางานของหัวใจดี นอกจากนี้โกรทฮอร์โมนยังช่วย สร้างน้ำตาลด้วยทําให้ตับสร้างน้ำตาล ปล่อยน้ำตาลออกมาในกระแสเลือดทําให้เซลล์ต่างๆ ได้พลังงานจากน้ำตาลเซลล์ก็ทํางานดี ช่วยทำให้เกิดการสร้างพลังงานจากการสลายไขมัน
การที่ Growth Hormone จะทำงานได้ดีต้องมี 3 เรื่องสำคัญได้แก่
1. อาหารต้องครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะกลุ่มโปรตีน ซึ่งจะไปกระตุ้นการสร้าง Growth Hormone แต่ทุกอย่างต้องพอดีไม่มากเกินไป Growth Hormone ก็จะออกได้น้อย เพราะฉะนั้นทุกอย่างต้องกินแบบพอเหมาะตามวัย
2. ออกกําลังกายอย่างเพียงพอ ครั้งละ 30-60 นาที แนวของแอโรบิก ประมาณ 5-7 วันต่ออาทิตย์
3. การนอน Growth Hormone จะออกมาช่วงที่เราหลับสนิท ซึ่งแต่ละวัยก็ควรจะนอนให้เหมาะสมกับวัยด้วยค่ะ อายุ 3-6 ปี นอนประมาณ 9-10 ชั่วโมงต่อวัน อายุ 6-10 ปี นอนประมาณ 8-9 ชั่วโมงต่อวัน ช่วงมัธยม-ผู้ใหญ่นอนประมาณ 6-7 ชั่วโมงต่อวัน
Growth Hormone ไม่สมดุลกระทบกับสุขภาพ
คําว่าไม่สมดุลเราแบ่งเป็น ถ้ามันเยอะเกินกับน้อยเกิน สำหรับเด็กจะเจอแบบที่น้อยเกินไปมากกว่า ทำให้เด็กโตช้ากว่าเพื่อน กล้ามเนื้อต่างๆ พัฒนาไม่ค่อยดี โดยเฉพาะกล้ามเนื้อมัดใหญ่อาจจะไม่แข็งแรงเท่าเพื่อน โครงสร้างกระดูกพัฒนาช้าลักษณะภายนอกที่เห็นได้คือหน้าจะกลมๆ เล็กๆ ถ้าพูดกันตามวิชาการเด็กกลุ่มนี้จะหน้าเหมือนตุ๊กตา พอโตขึ้นไปแล้วยังไม่มี Growth Hormone จะมีผลกับคอลลาเจนและผิวเหี่ยวเร็ว นอกจากนี้ Growth Hormone ยังเกี่ยวกับการสร้างน้ำตาล อาการที่เกิดขึ้นได้จั้งแต่แรกเกิด คือเด็กอายุ 1 เดือนมีอาการชัก น้ำตาลต่ำ พอตรวจก็เจอภาวะ Growth Hormone ต่ำ ซึ่งส่งผลกับสมองใช้พลังงานไม่ได้ทำให้ IQ ต่ำ รวมถึงเด็กกลุ่มนี้ก็จะค่อนข้างแบบอ้วนหน่อยๆ เพราะอย่างที่บอกว่า Growth Hormone ช่วยสลายไขมัน ถ้าสลายไขมันได้ไม่ดีก็จะทำให้ดูอ้วน กลม เตี้ย เนื้อนิ่มๆ
รักษา Growth Hormone
การรักษาต้องเป็นแบบฉีดเข้าชั้นใต้ผิวหนังฉีดทุกวัน แต่ตอนนี้กําลังพัฒนาชนิดที่ฉีดสัปดาห์ละหนึ่งครั้งแต่ยังไม่เข้ามาในประเทศไทย ส่วนที่โฆษณาว่าเป็น Growth Hormoneชนิดกิน ต้องบอกว่าเป็นลักษณะพวกโปรตีน เพราะอาหารกลุ่มโปรตีนจะไปกระตุ้นให้ร่างกาย สร้างโกรทฮอร์โมนต่อ ถามว่าพูดผิดไหมก็ไม่ผิดแต่เป็นการก้าวข้ามบางประโยคไปว่าเป็นสารอาหารที่ไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้าง Growth Hormone ได้เพียงพอมากกว่า แต่ก็อาจจะเป็นช็อตสั้น ๆ ว่าเป็น Growth Hormone ชนิดรับประทาน แต่ไม่ได้พูดคําว่ามันเพียงพอ หรือมันจะมีผลอะไรแต่ว่ามันเป็นในรูปแบบของโปรตีนมากกว่า หากถามว่าเด็กสามารถกินได้ไหม สำหรับเด็กที่กินอาหารได้ดีแล้วการเสริมเข้ามาอาจจะไม่ได้ช่วย มันก็เป็นสิ่งที่เกินจําเป็น แต่ถ้าเด็กคนไหนที่กินยากจริงๆ แล้วจะเสริมด้วยโปรตีนเสริมก็ไม่มีผลกระทบ แต่ต้องดูว่ามีอย.และเด็กสามารถใช้ได้ไหม และควรปรึกษาคุณหมอของลูกด้วยก็ได้
เพราะการที่ได้รับฮอร์โมนเยอะเกินไปด้วยความที่เป็นฮอร์โมนแห่งการสร้างการเติบโตของเซลล์ถ้ามันเยอะเกินไป อาจจะทำให้เกิดเซลล์เติบโตมากผิดปกติ แล้วเป็นเนื้องอก หรือถ้าหากกินเราก็อาจจะต้องตรวจวัดระดับฮอร์โมนในเลือดว่าพอดีเปล่าเพราะถ้าให้มากไปก็ล้นเป็นข้อเสีย แล้วก็มีอีกหนึ่งวิธีสังเกตตั้งแต่แรกเกิดเลยคือ พ่อแม่สังเกตว่าทําไมลูกชายอวัยวะเพศเล็กหรือสั้นจัง ซึ่งคุณหมอก็จะเช็กระดับโกรทฮอร์โมน ว่ามันมาจากโกรทฮอร์โมนต่ําหรือว่ามันเป็นภาวะที่มันเกิดขึ้นตามวัยของเด็กหรือมีภาวะอื่นด้วย
ถ้าหาก Growth Hormoneสูง เด็กจะโตเร็วโครงสร้างของกระดูกใหญ่ ตัวสูง มือจะดูหนาๆใหญ่ๆ แต่ก็อาจจะไม่ได้มีแสดงออกของเรื่องฮอร์โมนเพศ เรื่องสิว เต้านม นอกจากจะโดนเพื่อนล้อแล้วอีกประเด็นที่เกี่ยวข้องคือ Growth Hormone ทําให้เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจเติบโต การมีฮอร์โมนเยอะก็ทำให้หัวใจต้องทํางานมากไปทำให้หัวใจโต หัวใจวายได้
ซึ่งการรักษาคือเจาะวัดระดับ Growth Hormone ในเลือดหรือMRI เพื่อดูว่ามีเนื้องอกเกิดขึ้นไหมมีขนาดเท่าไหร่ถ้ามีก็อาจจะต้องตัดออก ซึ่งที่โรงพยาบาลพญาไท2 มีโปรแกรมการตรวจวัดระดับ Growth Hormone ก็เป็นจุดสําคัญเบื้องต้นที่ทำให้รู้ว่าขาด Growth Hormone หรือเปล่า ซึ่งตรวจได้ตั้งแต่อายุ 4 ปี
สำหรับการดูแลสุขภาพต้องมีพื้นฐาน 3 ข้อค่ะ ได้แก่เรื่อง 3 อ. ได้แก่ อ. แรกคือ เรื่องอาหาร ออกกำลังกาย และอารมณ์ ก็คือการนอนเร็วก็จะช่วยให้เด็กอารมณ์ดี และก็ทำให้ฮอร์โมนสมดุลด้วย
Apple Podcast: https://apple.co/3m15ytB
Spotify: https://spoti.fi/3cvAVcX
Youtube: https://bit.ly/3cxn31u
รักลูก The Expert Talk Ep.103 : ภัยร้าย RSV
RSV ไม่ใช่แค่โรคหวัดแต่อาการรุนแรงมากกว่า เด็กรับเชื้อได้ง่ายกระทบระบบทางเดินหายใจ
มารู้จักและรับมือเจ้าเชื้อไวรัส RSV รับมือก่อนอาการรุนแรง
ฟัง The Expert รศ.นพ.พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์
รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรม
RSV สาเหตุเกิดจากอะไร
RSV เกิดจากเชื้อ ไวรัส RSV Respiratory Syncytial Virus เหมือนการติดเชื้อไวรัสที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจทั่วไป RSV มักจะเกิดการติดเชื้อในเด็ก และความรุนแรงตั้งแต่เป็นหวัดเล็กน้อย ไปจนถึงรุนแรง เช่น มีอาการลามไปที่แขนงถุงลมของปอดแล้วลงไปถึงเนื้อปอด ซึ่งก็จะทำให้เกิดอาการหอบ เวลาที่เราเห็นเด็กเป็นหวัดแล้วมีอาการไอมาก หายใจมีเสียงหวีดๆ
พ่อแม่จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็น RSV หรือโรคหอบ
จริงๆ แล้วบอกได้ยาก สำหรับเด็กอายุน้อยกว่า 1ปี เพราะในครั้งแรกอาจจะเกิดจาก RSV แต่ถ้าเป็นหอบจะมีอาการซ้ำๆ หลายครั้ง ครั้งแรก RSV กระตุ้นให้เกิดอาการ ครั้งต่อไปบริเวณของหลอดลมที่เคยติดเชื้อมาแล้ว ก็อาจจะมีความไวมากเป็นพิเศษ แต่ถ้าเจอเชื้ออื่นๆ หรือมีอาการอื่น เช่น มีฝุ่นละอองกระตุ้นให้เกิดมีอาการภูมิแพ้ ก็อาจจะทำให้เกิดอาการหอบได้
ช่วงอายุที่เป็นมากที่สุดและอาการรุนแรง
อายุน้อยกว่า 1ปี อาการจะค่อยๆรุนแรง แต่อย่างไรก็ตามอาการรุนแรงก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งจากจำนวนตัวเชื้อที่ติด ร่างกายเด็กไม่ค่อยแข็งแรง สุขภาพไม่ดี การดูแลของพ่อแม่ช่วงที่เป็นโรคดูแลได้ไม่ค่อยดี ก็อาจจะทำให้เกิดความรุนแรงของโรคได้ ซึ่ง RSV เป็นโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ การป้องกันเรื่องที่ดีที่สุดและมีความสำคัญ
ปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิด RSV
1.เด็กอายุน้อยกว่า 1ปี มีโอกาสเป็นมากขึ้น
2.เด็กที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง เป็นโรคเรื้อรัง
3.เด็กที่มีภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำเช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคหัวใจ โรคปอดที่มีแผลในปอด ก็มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย เพราะช่วงที่มีการระบาดเชื้อก็ล่องลอยในอากาศ ทำให้ติดเชื้อได้
สังเกตอาการ RSV
ดูอายุของเด็กน้อยกว่า 1 ปี อยู่ในช่วงระบาด มีอาการที่หลอดลมฝอย หลอดลมมีอาการตีบ อักเสบ เนื้อปอดอักเสบก็มีอาการ RSVได้เยอะ ซึ่งก็ดูจากอาการ หากติดไม่รุนแรงจะไม่แยกจากการติดเชื้ออาการอื่นๆ เพราะการดูแลรักษาเหมือนกัน
อาการรุนแรงของRSV
การติดเชื้อไวรัสทุกชนิด ทิศทางการดำเนินของโรคใกล้เคียงกัน เวลาที่มีความรุนแรงนอกจากระบบทางเดินหายใจแล้ว
หากรุนแรงมากขึ้นจะเลือกที่ไปขึ้นส่วนบน อาการแทรกซ้อน เช่น จากที่เป็นหวัดแถวๆ ลำคอ มีน้ำมูกในลำคอ อาจจะทำให้เกิดไซนัส อักเสบ หูอักเสบ สูงไปอีกอาจจะไปถึงสมองอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
ลงส่วนล่างหรือไปที่แขนงปอดและเนื้อปอด ถ้าลงมาแล้วถึงหัวใจก็อาจจะเป็นหัวใจอักเสบ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ลักษณะการติดเชื้อไวรัสจะมีทิศทางคล้ายๆ กัน
วิธีการรักษาRSV
รักษาตามอาการ เพราะเซื้อไวรัสส่วนใหญ่ไม่มียารักษายกเว้นไวรัสบางชนิด รักษาตามอาการคือ มีน้ำมูก เด็กเล็กจะไม่ให้ยาลดน้ำมูก ล้างจมูก หากเป็นมากๆ แล้วเป็นเด็กโตก็อาจจะให้ยาลดน้ำมูก
ได้รับน้ำเพียงพอ การได้รับน้ำเพียงพอจะช่วยลดอาการไข้ ทำให้เสลดไม่เหนียวและขับเสมหะได้ด้วย เช็ดตัวบ่อย ดูแลตามอาการ ถ้ามีอาการหอบหืด เช่น แขนงหลอดลมมีอาการตีบ หมออาจะให้ยาขยายหลอดลมช่วย หรือถ้าปอดอักเสบก็จะรักษาปอดอักเสบด้วย เป็นการรักษาตามอาการ
เกิดเป็นโรคระยะยาว
เด็กที่เป็น RSV มีโอกาสเป็นโรคระยะยาว หากลงไปที่แขนงหลอดลมฝอยหรือว่าลงไปที่เนื้อปอด หายได้แต่ไม่สนิทจะมีรอยแผลที่ปอด เมื่อมีการกระตุ้น เช่น ติดเชื้อครั้งถัดไปหรือว่าอากาศเปลี่ยน มีฝุ่นกระตุ้นทำให้เกิดความไวมากขึ้น เป็นตัวหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการหอบหืด
เพราะบางทีการหายไม่สมบูรณ์ ผนังทางเดินหายใจอาจจะมีแผล เมื่อมีเชื้อโรคก็เกาะง่ายขึ้น โอกาสติดเชื้อง่ายขึ้น มีโอกาสหายขาดเมื่อโตขึ้น แข็งแรงขึ้น ไม่ติดเชื้อซ้ำร่างกายก็จะเยียวยาตัวเอง
ค่ารักษาพยาบาลหากต้องนอนรพ.
โดยทั่วไปเมื่อมีอาการน้อยๆ ดูแลที่บ้านได้ ไม่มีอาการแทรกซ้อน สามารถดูแลที่บ้านได้ แต่เมื่อลูกป่วย การจะออกไปทำงานนอกบ้านก็จะห่วงลูก และเด็กเวลามีไข้การกินยาก็ไม่ค่อยลด ยิ่งช่วงแรกๆ ของการเกิดไข้ ต้องใช้การเช็ดตัวช่วย พอตัวแห้ง ไข้ก็กลับมาอีก
เวลาที่เด็กเป็นไข้ กินยาแล้ว เช็ดตัวแล้ว ทำไมไข้ไม่ลง เพราะได้น้ำไม่เพียงพอ เพราะเวลาที่ลูกไม่สบายก็จะกินอาหารและดื่มน้ำน้อยลง จะเห็นว่าเวลาอยู่บ้านไข้ไม่ลง แต่พอไปรพ.คืนเดียวไข้ลงเลย เพราะการขาดน้ำทำให้ไข้ไม่ลง แต่ถ้าอยูบ้านแล้วกินน้ำมากพอ ก็จะช่วยให้ไข้ลง แต่เวลาที่ป่วยก็ไม่อยากกินอะไร ทำให้เป็นภาระกับพ่อแม่ เป็นมากขึ้นก็ต้องนอนรพ. ใช้เวลาไม่เกินสัปดาห์อาการก็จะหายดี
การป้องกัน RSV
ถ้ารู้แล้วว่าเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ คือไม่สัมผัสใกล้ชิดกับคนที่ป่วย สำหรับผู้ใหญ่เวลาติดไวรัส อาการไม่ค่อยรุนแรงเพราะเราป่วยกันมาเยอะแล้ว
1.ลดการสัมผัส การพาลูกไปที่อากาศปิด ไปเดินห้าง ดูหนัง คนเยอะ ก็มีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อ
2.ดูแลร่างกายให้แข็งแรง กินอาหารให้ครบถ้วน อาหารตามวัย มีนมเป็นอาหารเสริม ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ
3.ดูแลสุขอนามัย ล้างมือเป็นประจำ
4.ใส่หน้ากากอนามัย สำหรับเด็กที่อายุมากกว่า 2ปี เพราะตั้งแต่ใส่หน้าการเจ็บป่วยจากเชื้อไวรัสลดลง
Apple Podcast: https://apple.co/3m15ytB
Spotify: https://spoti.fi/3cvAVcX
Youtube: https://bit.ly/3cxn31u
เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวอากาศร้อน สักพักฝนตก เจ้าตัวเล็กอาจจะมีอาการของระบบทางเดินหายใจ
จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกเริ่มเข้าใกล้โรคภูมิแพ้แล้ว
ฟังวิธีการสังเกต และวิธีการดูและเมื่อลูกเป็นโรคภูมิแพ้โดย The Expert รศ.พญ.รวีรัตน์ สิชณรังษี
กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน โรงพยาบาลพระรามเก้า
Apple Podcast: https://apple.co/3m15ytB
Spotify: https://spoti.fi/3cvAVcX
Youtube: https://bit.ly/3cxn31u
หนึ่งในสี่ของโรคที่เด็กมักเป็นบ่อยโดยเฉพาะช่วงวัยอนุบาล คือโรคไข้หวัดใหญ่ เป็นแล้วมีโอกาสเป็นซ้ำอีก นั้นเพราะตัวเชื้อไข้หวัดใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงตลอด การรู้ธรรมชาติของโรค และการดูแลสุขอนามัยเป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะช่วยป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้
ฟังวิธีการรับโรคไข้หวัดใหญ่ โดย
The Expert รศ.นพ.พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์
ฃรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรม
ติดตามรักลูก Podcast ได้ที่
Apple Podcast: https://apple.co/3m15ytB
Spotify: https://spoti.fi/3cvAVcX
Youtube: https://bit.ly/3cxn31u
โรคลำไส้กลืนกัน ไม่ใช่แค่ลูกปวดท้องหากปล่อยให้รุนแรงอาจจะต้องตัดลำไส้
พ่อแม่รับมือและสังเกตก่อนอาการจะรุนแรงได้ รวมถึงฟังโรคและอาการที่ทำให้ลูกปวดท้องได้ จาก The Expert
พญ. สีวลี สีดาฟอง
แพทย์ผู้ชำนาญการโรคระบบทางเดินอาหารและตับในเด็ก โรงพยาบาลวิมุต
ติดตามรักลูก Podcast ได้ที่https://linktr.ee/rakluke
โพรไบโอติกและพรีไบโอติก เลือกแบบไหนเหมาะสำหรับเด็ก สายพันธุ์ไหนดี กินปริมาณเท่าไหร่เพียงพอ
ฟัง The Expert พญ. สีวลี สีดาฟอง
แพทย์ผู้ชำนาญการโรคระบบทางเดินอาหารและตับในเด็ก โรงพยาบาลวิมุต
ติดตามรักลูก Podcast ได้ที่https://linktr.ee/rakluke
ภาวะโรคอ้วนในเด็ก ส่งผลกระทบต่อสุขภาพลูกอย่างไร?
และรู้หรือไม่ เด็กไทยมีภาวะอ้วนมากถึง 15 - 20% และหากปล่อยให้เจ้าตัวเล็กมีน้ำหนักเกินเกณฑ์ต่อไป จะยิ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพและพัฒนาการของลูกรัก
EP.นี้ พญ. ปิยธิดา วิจารณ์ กุมารแพทย์ผู้ชำนาญการด้านโรคต่อมไร้ท่อในเด็กและวัยรุ่น โรงพยาบาลเมดพาร์ค จะมาให้ความรู้เกี่ยวกับภาวะโรคอ้วนในเด็กและผลกระทบต่อสุขภาพที่คุณแม่ต้องรู้ค่ะ
สถานการณ์ภาวะเด็กอ้วน
ตอนนี้ปัญหาเรื่องโรคอ้วนทั้งในเด็กแล้วก็ผู้ใหญ่ เป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อทั่วโลกมาก ในเด็กมีข้อมูลจากทั้งโลกประมาณ10% แต่ที่น่ากลัวคือในประเทศไทยมีประมาณ15-20% คือเป็นเปอร์เซนต์ที่เกินของทั่วโลกไปแล้ว
ภาวะอ้วนหรือว่าภาวะน้ําหนักเกินเกณฑ์ ดูจากดัชนีมวลกายหรือที่เรียกว่า BMI คํานวณจากน้ําหนักเป็นกิโลกรัม หารด้วยส่วนสูงเป็นเมตรยกกําลังสอง ซึ่งสามารถเสิรจ์หาข้อมูลได้หรือว่าดูในคู่มือพัฒนาการที่ได้ตั้งแต่แรกเกิดก็ได้
โดยเด็กที่อายุ5-19ปี ภาวะอ้วนตัดที่BMIมากกว่าหรือเท่ากับตัวสองสแตนดาร์ดดีวีเอชั่นหรือว่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน หรือค่าBMIมากกว่ายี่สิบห้า โดยดูกราฟได้ตามเพศและอายุได้ สามารถหาดูเพิ่มเติมได้จากเว็บของสมาคมต่อมไร้ท่อเด็ก และวัยรุ่น ซึ่งเป็นกราฟเป็นของประเทศไทย
ทำแบบนี้แหล่ะเข้าสู่อ้วน
ภาวะอ้วนเป็นปัญหาเรื้อรังแล้วก็ประกอบด้วยหลายหลายปัจจัย ปัจจัยหลักคือ สิ่งแวดล้อม เพราะว่าในยุคปัจจุบันถูกล้อมไปด้วยอาหาร และอาหารฟาสต์ฟู้ดก็ราคาถูกกว่าสลัดอีก คือเด็กสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่า และไม่ทำกิจกรรม ไม่ออกกำลังกายอยู่นิ่ง ติดจอ ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว ซึ่งก็มาจากสภาพแวดล้อม
ส่วนปัจจัยอื่นก็จากเรื่องของกรรมพันธุ์หรือว่าโรคแต่ส่วนน้อยที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคที่ทําให้อ้วนจริงๆ เช่น โรคทางฮอร์โมน เช่น มีปัญหาภาวะขาดไทรอยด์ หรือว่ามีต่อมหมวกไตทํางานผิดปกติก็ทําให้มีภาวะอ้วน มีการศึกษาพบว่าเด็กที่มีภาวะอ้วนหรือน้ําหนักเกินเกิดขึ้นมาจากครอบครัวด้วย
และอีกปัจจัยหนึ่งที่เริ่มเจอมากขึ้นแล้วคือคุณแม่ตั้งครรภ์ที่เป็นเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ก็จะมีความเสี่ยงที่ทําให้ลูกมีภาวะอ้วนได้มากกว่า คุณแม่ที่สามารถคุมน้ําหนักได้
อ้วนกระทบพัฒนาการ ส่งผลกระทบต่อระบบต่างต่างๆ ของร่างกาย อย่างแรก คือระบบต่อมไร้ท่อ บางคนมีภาวะเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัยก็พบได้มากขึ้นหรือว่ามีเรื่องของถุงน้ํารัง หรือว่าโรคพีซีโอเอส ทำให้เด็กโตหรือเด็กผู้หญิงวัยรุ่นอาจจะมีประจําเดือนมาไม่สม่ําเสมอ
ส่วนระบบที่ 2 ก็คือระบบหัวใจและหลอดเลือด ความดันโลหิตสูงได้ มีไขมันในเลือดสูง ระบบที่ 3 ก็คือเรื่องเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ บางคนนอนกรนทำให้หยุดหายใจตอนกลางคืน
เรียกว่าเป็น 3 กลุ่มหลัก แต่ก็มีโรคอื่นๆ เช่น ในเรื่องทางเดินอาหารก็มีไขมันพอกตับ อย่าคิดว่ามีแต่ในผู้ใหญ่อย่างเดียว คือเด็กก็มีตรงนี้ด้วย รวมถึงการเคลื่อนไหวและระบบข้อต่อต่างๆ จะปวดเข่า มีโอกาสข้อสะโพกเคลื่อนได้ง่ายกว่าในเด็กที่น้ําหนักปกติ
รักษาภาวะโรคอ้วน
หมอจะเริ่มจากประเมินน้ําหนักส่วนสูงว่าเข้าเกณฑ์หรือยัง โดยดูจากกราฟน้ําหนักส่วนสูงย้อนหลังเพื่อดูว่าน้ําหนักมากมาตั้งแต่เด็กหรือว่าเพิ่งมาเกิน เพราะบางครั้งอาจจะมีโรคที่เหมือนน้ําหนักขึ้นเยอะแต่ส่วนสูงไม่ขึ้น ซึ่งก็ต้องหาสาเหตุ เช่น โรคเกี่ยวกับไทรอยด์ หรือมาจากต่อมหมวกไตทํางานเกินหรือเปล่า ขาดฮอร์โมนการเติบโตหรือเปล่า ซึ่งก็ต้องรักษาโรคเหล่านี้ควบคู่ไปด้วย
แต่ถ้าตัวใหญ่แบบภาวะอ้วนจากไลฟ์สไตล์เป็นหลักเลยก็ประเมินเรื่องของภาวะแทรกซ้อน หมอก็จะเช็กไขมัน เบาหวานและดูเรื่องโรคตับ และถ้าเช็กแล้วไม่มีโรคแทรกซ้อนก็จะดูวิธีการควบคุมน้ำหนัก
ภาวะอ้วนที่เกิดขึ้นกับเด็กตอนนี้มีความมันสัมพันธ์กับเรื่องของเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง บางครั้งเราจะเห็นเขาตัวโตกว่าเพื่อนแต่ถ้ามีภาวะเป็นสาวก่อนวัย สุดท้ายจะหยุดสูงก่อนเพื่อน นอกจากนี้ก็มีการศึกษามากขึ้นว่าภาวะอ้วนอาจจะมีผลต่อเรื่องความจํา หรือว่าอนาคตจะเสี่ยงเรื่องของอัลไซเมอร์ในผู้ใหญ่ รวมถึงเด็กที่มีภาวะอ้วนโดยเฉพาะกลุ่มเด็กวัยรุ่นหรือบางครั้งวัยเรียนประถม บางคนขาดความมั่นใจในตัวเอง โดนเพื่อนล้อก็ทำให้หงุดหงิด ขาดความมั่นใจ บางคนมีภาวะซึมเศร้า ซึ่งพอต้องกินยารักษา ยานั้นก็ทำให้อ้วนขึ้นด้วย ก็เรียกว่ามันกระทบซึ่งกันและกัน
ปรับพฤติกรรมลดความอ้วน ใช้วิธีการลดน้ำหนักโดยต้องมีเป้าหมายเดียวกันทั้งหมอ เด็ก และผู้ปกครองเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งหมอไม่อยากให้อดอาหาร ต้องกินอาหารให้ครบ 5หมู่ 3มื้อเหมือนเดิม แต่งลดอาหารที่มันมีแคลอรีสูง ลดอาหารฟาสต์ฟู้ด ของมัน ของทอด หรือน้ําหวานต่างๆ รวมถึงโพรเซสฟู้ดเบเกอรี่ เน้นกินอาหารที่มีไขมันดี หรือว่าเป็นโปรตีนที่ดี กินอาหารที่มีกากใยเยอะขึ้น เพื่อเพิ่มเรื่องของความอยู่ท้องให้มากขึ้นด้วย รวมไปถึงต้องออกกําลังกายเคลื่อนไหวให้มากขึ้น ประมาณ 60นาทีทุกวัน ซึ่งก็ต้องพยายามหากิจกรรมเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง
นอกจากนี้กลุ่มที่ปรับพฤติกรรมแล้วยังลดน้ําหนักไม่ได้ถึงเกณฑ์หรือว่ายังมีภาวะแทรกซ้อนอยู่ เด็กโตที่อายุมากกว่า 12 ปี และมีBMI มากกว่า 30 ในประเทศไทยก็มีอนุมัติให้ใช้เรื่องของตัวยาฉีดลดน้ําหนัก ก็จะช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้อิ่มเร็วขึ้น ส่วนยาลดความอ้วนไม่ควรใช้เลย รวมถึงเครื่องดื่มต่างๆ ที่บอกว่าช่วยควบคุมความหิว วิตามินเสริม ลดความอ้วน หมอไม่แนะนํา เพราะเราไม่รู้ส่วนประกอบและจะส่งผลกระทบอะไรยังไงกับเด็กบ้างก็ไม่ควร เน้นใช้แนวทางธรรมชาติบําบัด พฤติกรรมบําบัดดีกว่า
ตรวจวินิจฉัยโรคอ้วนในเด็ก สุขภาพและพัฒนาการลูกรัก ได้ที่
ศูนย์สุขภาพและโรคเฉพาะทางเด็ก โรงพยาบาลเมดพาร์ค
โทร. 02-090-3138
www.medparkhospital.com/center/pediatric-center
Apple Podcast: https://apple.co/3m15ytB
Spotify: https://spoti.fi/3cvAVcX
Youtube: https://bit.ly/3cxn31u
เพราะ “แคลเซียม” เป็นแร่ธาตุสำคัญที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นได้เอง เป็นส่วนสำคัญในการสร้างกระดูกและฟัน รวมถึงช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตได้ตามปกติ ซึ่งร่างกายจำเป็นต้องได้รับแคลเซียมในปริมาณที่เพียงพอสำหรับทุกวัย
นอกจากนี้ควรเลือกแคลเซียมที่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี เพื่อให้ร่างกายสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ดีกว่า เพื่อลดอาการขาดแคลเซียมที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและเกิดโรคต่างๆ ขึ้น
ฟังวิธีการ เลือกกิน “แคลเซียม” แบบไหนดีต่อร่างกายลูก โดย The Expert นายแพทย์สิรภพ สัมฤทธิวณิชชา และ ทันตแพทย์หญิง สุชาวดี สัมฤทธิวณิชชา โรงพยาบาลยันฮี
ความสำคัญของแคลเซียม
แคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่สําคัญต่อร่างกายถึง 55% และแคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่สําคัญต่อกระดูกและฟันสูงถึง 99% มีความสําคัญในการแข็งตัวของเลือด การหดตัวของกล้ามเนื้อลายและกล้ามเนื้อหัวใจ เด็กต้องการแคลเซียมวันละ800มิลลิกรัม ผู้ใหญ่ต้องการแคลเซียมวันละ 1,200 มิลลิกรัม คุณแม่ที่ตั้งครรภ์และคุณแม่ที่ให้นมบุตรต้องการแคลเซียมสูงถึงวันละ 1,300 มิลลิกรัม ผู้สูงอายุที่มีอายุ 50ปีขึ้นไป ต้องการแคลเซียมวันละ 1,000มิลลิกรัม
จะเห็นได้ว่าแคลเซียมสําคัญกับทุกช่วงอายุ เด็กที่อยู่ในครรภ์จะมีการเสริมสร้างกระดูกโดยใช้แคลเซียมจากร่างกายของคุณแม่ในการดึงไปสร้างการเจริญเติบโตของเด็ก เพราะฉะนั้นคุณแม่ต้องเสริมแคลเซียมให้เพียงพอ
สารอาหารอุดมแคลเซียม
แคลเซียมจะอยู่ในผลิตภัณฑ์ของนม โยเกิร์ต ชีส ถั่วเหลือง หรือว่าเต้าหู้ งาดํา แล้วก็สัตว์ที่มีเปลือกแข็งที่เราสามารถกินได้ทั้งเปลือก หรือปลากระป๋อง ปลาที่ทานได้ทั้งก้าง เช่น ปลาเล็กปลาน้อย ผักใบเขียวหลายชนิดก็มีปริมาณแคลเซียมค่อนข้างเยอะ รวมไปถึงน้ําดื่มบางชนิดก็มีการใส่แคลเซียมเติมเข้าไปด้วย
ซึ่งแคลเซียมที่ใช้เติมเข้าไปในยันฮี แคลเซียมวอเตอร์ เป็นแคลเซียมที่ชื่อว่า Calcium Glycerophosphate เป็นการจับตัวระหว่างแคลเซียมกับตัวฟอสเฟต ซึ่งCalcium Glycerophosphate อยู่ในรูปแบบของสารออร์แกนิคซอลท์เป็นสารอินทรีย์ ซึ่งสามารถดูดซึมได้ดีกว่าแคลเซียมปกติทั่วไปถึง 4 เท่า และมีรสชาติที่ดีกว่าแคลเซียมทั่วไป สาเหตุที่ตัวนี้ดูดซึมได้ดีกว่าแคลเซียมทั่วไป เพราะว่าแคลเซียม Calcium Glycerophosphate สามารถทนกรดซึ่งอยู่ในกระเพาะอาหาร (ที่มีสภาพเป็นกรด (pH 2) และสามารถทนด่างที่อยู่ในลําไส้เล็ก (ph 8) และสามารถดูดซึมเข้าไปอยู่ในกระแสเลือด เพื่อให้นําไปเสริมสร้างกระดูกและฟันได้ดี
นอกจากนี้ Calcium Glycerophosphate มีการศึกษาวิจัยพบว่าสามารถดูดซึมได้มากกว่าแคลเซียมคาร์บอเนตหรือว่าแคลเซียมที่เรากินอยู่ในชีวิตประจําวันมากกว่าถึงสี่เท่า และCalcium Glycerophosphate จะมีสัดส่วนของแคลเซียมกับฟอสเฟต อยู่ที่ 1 ต่อ 3 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่คิดมาแล้วว่าสามารถดูดซึมเข้าสู่กระดูกได้อย่างดี
สำหรับเด็กที่แพ้นมวันสามารถดื่มได้ เพราะไม่มีผลิตภัณฑ์ของนมเป็นส่วนประกอบและใช้แคลเซียม200 มิลลิกรัมต่อขวด แต่งรสให้เป็นรสชาติโยเกิร์ต ทำให้ดื่มง่าย ไม่เลี่ยน และในหนึ่งวันสามารถดื่มได้ถึง 6 ขวดไม่เกินปริมาณที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนํา และได้ปริมาณแคลเซียมที่เด็กต้องการในแต่ละวันพอดี และถึงแม้จะมีปริมาณแคลเซียมที่ได้รับเกิน ก็จะขับออกไม่ตกค้างอยู่ในร่างกาย พกพาสะดวกและช่วยกระตุ้นให้เด็กดื่มน้ําได้ด้วย
ขาดแคลเซียมกระทบร่างกาย
โดยทั่วไปแล้วหากร่างกายได้รับปริมาณแคลเซียมเยอะเกินไปจะถูกขับออกทางปัสสาวะ ไม่เหลือตกค้างในร่างกาย แต่ต้องเป็นแคลเซียมที่ดูดซึมได้หมดถึงจะไม่มีการตกค้าง และตรงกันข้ามหากขาดแคลเซียม คุณพ่อคุณแม่สามารถเช็กเบื้องต้นได้แก่ เป็นตะคริว มีภาวะนอนหลับยาก ตอนกลางคืนนอนไม่หลับหรือหลับไปตื่นขึ้นมากลางดึก มีผิวฟันที่ขรุขระ เล็บเปราะบาง และที่สําคัญมากคือ เด็กผู้หญิงอาจจะมีช่วงการเจริญเติบโตที่ช้ามีภาวะรอบเดือนมาช้าลง และมีผลกับส่วนสูงทั้งในเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย
และโรคที่เกิดจากการขาดแคลเซียม ได้แก่ โรคกระดูกพรุนเปราะ บางและแตกง่าย รวมถึงส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็ก โดยเฉพาะเรื่องความสูง
สำหรับเด็กที่มีอุบัติเหตุหกล้มแบบรุนแรง ก็มีโอกาสที่กระดูกจะเปราะแตกง่ายอยู่แล้ว แต่หากสังเกตว่าแม้จะล้มเบาๆ แต่กระดูกหักคุณพ่อคุณแม่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งเวลาไปพบคุณหมอจะมีการเอกซเรย์และวัดมวลกระดูก เพื่อประเมินว่าเด็กคนนี้เกิดจากรอยโรคที่ล้มด้วยแรงกระแทกเบาๆ แล้วกระดูกหักแตกง่าย หรือว่าโดนแรงกระแทกที่รุนแรงและเกิดกระดูกหักแตกง่ายซึ่งคุณหมอจะเป็นผู้ประเมิน ช่วงที่รักษาคุณหมอจะให้แคลเซียมเสริม ซึ่งจริงๆ แล้วร่างกายต้องได้รับจากอาหารอยู่แล้ว แต่คุณหมอก็จะมีให้เสริมเป็นเม็ดด้วยบ้าง และร่างกายของเด็กเองจะมีการสมานของกระดูกค่อนข้างเร็ว
สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์และเด็กสามารถดื่มได้ โดยเด็กอายุตั้งแต่ 3ขวบขึ้นไปดื่มได้ วันละ 6ขวด และในยันฮี แคลเซียม วอเตอร์ หนึ่งขวดมีปริมาณแคลเซียมถึง 200มิลลิกรัม ก็เรียกว่าเป็นปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน และเป็นเครื่องดื่มที่พกไปดื่มได้ทุกที่ ดื่มได้ทุกที่ทุกวัย
Apple Podcast: https://apple.co/3m15ytB
Spotify: https://spoti.fi/3cvAVcX
Youtube: https://bit.ly/3cxn31u
ทุกพัฒนาการเล็ก ๆ ของลูก ยิ่งใหญ่สำหรับคนเป็นแม่เสมอ
สารอาหารที่เหมาะสมในแต่ละช่วงอายุจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการและการเติบโตที่ยิ่งใหญ่ แต่บางครั้งคุณแม่อาจไม่มีเวลาในการทำอาหารให้ลูกน้อยด้วยตัวเอง แล้วคุณแม่จะรับมืออย่างไร?
รักลูก The Expert Talk ชวนฟังคุณหมอกุ้ง พญ.กมลลักษณ์ อนันต์นิธิวุฒิ กุมารแพทย์ ประจำ รพ.เปาโล สมุทรปราการ พูดคุยเรื่องสารอาหารที่สำคัญกับการเจริญเติบโตของลูก การกินอาหารหลักให้ครบ 5 หมู่ และหลักการเลือกอาหารเสริมสำหรับเด็ก
เพราะอาหารสำหรับเด็กไม่ใช่อะไรก็ได้ แต่ต้องมีมาตราฐาน มีอย. เพื่อให้คุณแม่มั่นใจได้ว่าลูกน้อยจะได้รับสารอาหารทั้ง 5 หมู่ ในทุก ๆ คำ
ติดตามรักลูก Podcast ได้ที่https://linktr.ee/rakluke