facebook  youtube  line

“ทำไมลูกไม่เหมือนคนอื่น ไปโรงเรียนลูกไม่เคยร้องไห้เลย”

2405

ทำไมลูกของดิฉันไม่เหมือนคนอื่น คนอื่นร้องไห้เวลาไปโรงเรียนแต่ลูกไม่เคยร้องไห้เลย  ตอนที่ไปโรงเรียนเมื่อ 3 ขวบครึ่งร้องไห้ตามคนอื่นอยู่ครู่เดียวครั้งเดียว  อีกอย่างเขามักแสดงออกว่าไม่ชอบเวลาเด็กคนอื่นไม่ทำตามกฎ แล้วก็เวลาทำอะไรก็จะขออนุญาต เป็นเพราะดิฉันเข้มงวดมากเกินไปหรือเปล่าคะ ดิฉันจะเข้มงวดเรื่องเวลากินข้าว เข้านอน แล้วก็การดูทีวี

นานๆ ครั้งหนึ่งจึงจะได้คำถามประเภทเด็กเชื่อฟังและไม่ค่อยจะสร้างปัญหาอะไร พอพบครั้งหนึ่งมักจะเป็นที่ฮือฮา ทำเหมือนว่าเป็นของหายากในบ้านเรา ทั้งที่เป็นเรื่องพบได้เป็นสามัญในหลายประเทศ

ที่เล่ามา วันนี้เขาอายุ 4 ขวบแล้ว  จากงานวิจัยเราพบว่าความสามารถในการควบคุมตัวเอง (self control) อันเป็นส่วนหนึ่งของ EF (executive function) จะปรากฏให้เห็นได้ชัดเจนและสามารถวัดได้เป็นตัวเลขเมื่อประมาณ 4 ขวบ  เรื่องที่เกิดขึ้นจึงเป็นธรรมดา  เขามี EF ดี ควบคุมตัวเองได้

การไปโรงเรียนได้โดยไม่ยากมักเกิดจากความมั่นใจว่าแม่ที่บ้านมีอยู่จริง (exist) แม้ไม่เห็นก็ไม่สูญหาย จึงสามารถปล่อยมือแม่ผ่านเข้ารั้วโรงเรียนได้เพราะหากหันกลับไปก็เห็นหน้า ตอนที่อยู่ในบริเวณโรงเรียนแล้วหันกลับไปก็เห็นแน่ ทั้งที่ไม่ต้องหันคอไปจริงๆ ความมั่นใจนี้ได้มาจากแม่ที่เลี้ยงดูด้วยตนเองมากที่สุดเท่าที่ทำได้ และขึ้นกับพื้นฐานทางอารมณ์ (temperament) ของเด็กแต่ละคนด้วย

เด็กแต่ละคนยากง่ายต่างกัน หากเราพบเด็กเลี้ยงง่ายเป็นข่าวดี แต่หากพบเด็กเลี้ยงยากเราควร “ให้” ให้มากให้จนอิ่ม เขาจะง่ายขึ้นด้วยตนเองเพราะแม่ที่มีอยู่จริง รวมทั้งแม่และและสิ่งแวดล้อมที่ไว้ใจได้ (trust)

สมัยใหม่เราอธิบายเรื่องการควบคุมตัวเองให้ละจากสิ่งหนึ่งเพื่อไปสนใจอีกสิ่งหนึ่งด้วย EF ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า proto-EF ซึ่งเริ่มต้นเมื่อเด็กจดจำใบหน้าแม่ได้ (face recognition) ทารกแรกเกิดไม่เพียงไม่รู้จักใบหน้าแม่แต่แม่ไม่มีแม้กระทั่งตัวให้จับต้อง

แต่แล้ววันหนึ่งเขาพบว่าแม่อยู่เคียงข้างตลอดเวลาและแม่มีเส้นสายบนใบหน้า คือวงกลมสองดวงเป็นตา รอยยิ้มเป็นปากและขีดตรงกลางเป็นใบหู นี่คือใบหน้าคน ก่อนที่จะพบว่าคือใบหน้าแม่ผู้เลี้ยงดู ผู้เลี้ยงดูจึงจะมีใบหน้าแม่ให้จดจำ ผู้คลอดอาจจะไม่ได้รับการจดจำเพราะไม่อยู่บ้าน

เด็กเหม่อมองโมบายล์ขณะนอนอยู่ในคลิปเพราะโมไบล์น่าสนใจ ครั้น “ใบหน้าแม่” เดินเข้ามาใกล้ ชะโงกหน้าลงมาดู เด็กจะยับยั้งปฏิกิริยาการดูโมไบล์(response inhibition) หันมาดูใบหน้าแม่ (shifting)  ความสามารถที่จะหยุดการกระทำหนึ่งไปที่อีกการกระทำหนึ่งคือ proto-EF เป็นต้นแบบ (prototype) ของ EF

เราจึงมีข้อห้ามข้อหนึ่งคือไม่ให้เด็กอายุน้อยกว่า 2 ขวบดูหน้าจอที่มีภาพเคลื่อนไหวรวดเร็ว แสงสีจัดจ้าน หรือการเปลี่ยนภาพแต่ละเฟรมด้วยความเร็ว เหตุเพราะสมองของเด็กสองขวบปีแรกพัฒนาทุกวัน และสมองของคนเราพัฒนาไปตามการกระทำ

หากเราให้เด็กก่อน 2 ขวบดูหน้าจอมากเกินไป หากโชคไม่ดีเขาพัฒนาความสามารถที่จะปฏิสัมพันธ์กับจอสี่เหลี่ยมแทนที่จะเป็นใบหน้าแม่ เราอาจจะได้เด็กไม่สบตาไม่พูด และไม่พัฒนา 

นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
จิตแพทย์และนักเขียน ขวัญใจพ่อแม่ชาวโซเชียล



 

รักลูก The Expert Talk EP.110 (Rerun) : รักลูกเชิงบวก “สร้าง Self ให้ลูก ปลูกฝังตัวตนที่แข็งแกร่ง"

รักลูก The Expert Talk Ep.110 :  รักลูกเชิงบวก "สร้าง Self ให้ลูก ปลูกฝังตัวตนที่แข็งแกร่ง" 

เลี้ยงลูกให้ได้ดี ลูกต้องมี “SELF” เพราะตัวตนที่แข็งแกร่ง จะทำให้ลูกเติบโตและอยู่ในสังคมได้อย่างปลอดภัย มั่นคงและอยู่รอด

 

ชวนสร้าง SELF กับครูหม่อม ผศ. ดร.ปนัดดา ธนเศรษฐกร

อาจารย์ประจำสถาบันแห่งชาติ เพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล

 

  

ติดตามรักลูก Podcast ได้ที่

Apple Podcast: https://apple.co/3m15ytB

Spotify: https://spoti.fi/3cvAVcX

Youtube: https://bit.ly/3cxn31u