คงปฏิเสธไม่ได้ว่าภาษาอังกฤษเป็นทักษะที่มีความสำคัญในสังคมยุคปัจจุบันคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่ค่อยมีพื้นฐานภาษาอังกฤษอาจเกิดความกังวลว่าจะสามารถช่วยส่งเสริมทักษะภาษาอังกฤษให้ลูกอย่างไรดี
การสร้างครอบครัว 2 ภาษาซึ่งเริ่มเป็นที่แพร่หลายในสังคมไทยนั้นจริงๆแล้วเป็นเรื่องที่ทำได้ในทุกครอบครัวสำหรับครอบครัวที่คุณพ่อคุณแม่ที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษก็สามารถพลิกวิกฤตเป็นโอกาส เริ่มเรียนไปพร้อมๆกับลูก
ระบบการพัฒนาทักษะทางภาษามี 2 แบบหลักๆ คือ ระบบ 1 คน 1 ภาษา (One Parent One Language: OPOL)และ ระบบ 1 เวลา 1 ภาษา (One Time One Language: OTOL)
ซึ่งระบบนี้จะเหมาะกับครอบครัวที่ไม่ค่อยมีพื้นฐานภาษาอังกฤษ แต่อย่างไรก็ตามคุณพ่อคุณแม่ต้องเริ่มจากการปรับตัวเองให้อยากที่จะเรียนรู้และพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษอยู่ตลอดเวลาแน่นอนว่าการค้นคว้าข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องง่ายในยุคปัจจุบันเทคนิคในการสอนสามารถเริ่มแบบง่ายๆ ค่อยเป็นค่อยไป จากการสอนคำศัพท์โดยไม่ต้องแปลเป็นไทย“ห้ามแปล”เป็นกฎที่ต้องเน้นย้ำเพราะการแปลจะทำให้เมื่อพูดภาษาอังกฤษต้องแปลกลับไปกลับมา ไม่เป็นธรรมชาติ
คุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มสอนศัพท์จากสิ่งของรอบตัวเช่น “This is a …” ซึ่งจะพบว่ายังมีคำศัพท์มากมายที่คุณพ่อคุณแม่ไม่รู้ การหาข้อมูลคำศัพท์ทำได้ทั้งจากดิกชันนารีและอินเทอร์เน็ตซึ่งในปัจจุบันมี English Clubs มากมายที่คอยช่วยเหลือครอบครัว 2 ภาษาวิธีนี้จะช่วยเพิ่มคลังคำศัพท์ให้กับตัวเองและลูก เป็นการสอนโดยไม่ต้องท่องจำ ทำให้ลูกรู้สึกสนุกไปกับการเรียนรู้ศัพท์ใหม่ๆ
- บัตรคำ (Flash cards) ก็เป็นอีกหนึ่งสื่อการสอนที่ใช้ได้ผลดีการแฟรชบัตรคำด้วยความเร็วยังเป็นการกระตุ้นสมองซีกขวาในวัยก่อน3 ขวบอีกด้วยจากการสอนคำศัพท์ก็ค่อยๆเพิ่มเป็นวลีสั้นๆและเป็นประโยคที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เตรียมวลีและประโยคที่ใช้บ่อยๆไว้พูดกับลูก แต่ที่สำคัญคือวลีและประโยคเหล่านั้นต้องเป็นภาษาที่ใช้กันทั่วไปและถูกต้องตามหลักไวยากรณ์คุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องสอนไวยกรณ์เหมือนกับที่เคยเรียนมาตอนเด็ก ไวยกรณ์จะถูกซึมซับผ่านประโยคที่พูดกับลูกเอง เน้นการสอนภาษาแบบธรรมชาติไม่ผสม 2 ภาษาในประโยค ประโยคที่ไม่รู้หรือไม่แน่ใจให้พูดไทยไปก่อน สมองเด็กเหมือนฟองน้ำ สอนผิดก็เก็บข้อมูลผิดๆไว้ ดังนั้นต้องไปหาข้อมูลให้แน่ใจก่อนแล้วค่อยนำมาใช้
- กระดาษโพสต์-อิท (Post-it note) มีคุณแม่หลายท่านใช้วิธีเขียนประโยคที่ใช้ในชีวิตประจำวันลงบนกระดาษโพสต์-อิท (Post-it note) แล้วติดไว้ตามที่ต่างๆในบ้าน เช่น เขียนประโยคเกี่ยวกับการอาบน้ำ แปรงฟัน ติดไว้ในห้องน้ำ ส่วนเรื่องสำเนียงไม่จำเป็นต้องเป๊ะ สังเกตจากเจ้าของภาษาที่มาจากคนละท้องถิ่นก็สำเนียงไม่เหมือนกัน ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้มากนักแต่ควรจะออกเสียงให้ถูกต้องการออกเสียงผิดจะทำให้มีปัญหาในการสื่อสารในอนาคตมีดิกชันนารีในเว็บไซต์หลายที่สามารถกดฟังวิธีการออกเสียงได้ เช่น http://dictionary.cambridge.orgและhttp://www.dictionary.com
- การอ่านนิทานภาษาอังกฤษ นอกจากจะช่วยเพิ่มคำศัพท์และสอนโครงสร้างประโยคที่หลากหลายยังช่วยกระตุ้นพัฒนาการสร้างสมาธิให้กับลูกอีกด้วย นอกจากนั้นการเปิดเพลงภาษาอังกฤษสำหรับเด็กให้ลูกฟังสม่ำเสมอก็สามารถช่วยพัฒนาทักษะทางภาษาได้
- การฝึกภาษาสามารถทำได้ตั้งแต่เล็ก ยิ่งเริ่มเร็วยิ่งดี อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่ได้เริ่มต้นเพราะคิดว่าตัวเองไม่เก่งภาษา กุญแจสำคัญคือต้องฝึกใช้สม่ำเสมอ เพิ่มเวลาการใช้ภาษาอังกฤษกับลูกทีละนิด ไม่ต้องเครียด การพัฒนาทักษะทางภาษาต้องอาศัยเวลา แล้ววันหนึ่งคุณพ่อคุณแม่จะภูมิใจในความสำเร็จ เมื่อลูกสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นธรรมชาติค่ะ #
เรื่อง ดร. ณวีรินทร์ วรรธน์วโรทัย
นิตยสารรักลูก