คุณแม่รู้มั้ยว่ากลิ่นหอม ๆ ช่วยให้ลูกอารมณ์ดี ยิ่งถ้าเป็นกลิ่นที่คุ้นเคยอย่างกลิ่นตัวของคุณแม่ด้วยแล้ว ลูกยิ่งรู้สึกอบอุ่น และปลอดภัยที่สุดค่ะ
เป็นเรื่องมหัศจรรย์มากค่ะที่จมูกของเด็กทารกไวต่อการรับกลิ่นตั้งแต่นาทีแรกหลังคลอด จะเห็นได้จากเมื่อเราวางทารกแรกเกิดบนตัวแม่เพื่อฝึกเข้าเต้า ทารกจะได้กลิ่นของเต้านมแม่ ทําให้ทารกขยับแนวศีรษะและปากไปยังหัวนมของมารดาได้อย่างแม่นยํา นอกจากนี้กลิ่นของแม่ยังส่งผลต่อการเคลื่อนไหว และการตื่นตัว ทั้งยังช่วยให้การเข้าเต้านั้นประสบความสําเร็จ รวมถึงเป็นปัจจัยสําคัญในการพัฒนาความผูกพันระหว่างทารกและแม่อีกด้วย
กลิ่นกายของแม่ที่มีลักษณะเฉพาะจะเป็นกลิ่นแรกที่ลูกจําได้ค่ะ เนื่องจากสารเคมีในกลิ่นแม่มีลักษณะ ที่คล้ายกับกลิ่นในน้ำคร่ำตอนอยู่ในครรภ์ที่ทารกคุ้นเคยมาตลอดเกือบเก้าเดือน ดังนั้นเมื่อได้กลิ่นของแม่เขาจะแปลความหมายได้ว่าตัวเองกําลังรู้สึกสุขสบาย อบอุ่นและปลอดภัย
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยอีกว่าเด็กทารกสามารถแยกแยะกลิ่นที่แตกต่างกันได้ เมื่อทดลองเอากลิ่นเหม็น ๆ ให้เด็กดม แรกทีเดียวจะมีอาการสะดุ้ง ต่อมาก็ดิ้นรนพยายามหันศีรษะหนีและในที่สุดก็ร้องไห้
มีการศึกษาตีพิมพ์ในวารสาร Science Advances พบว่ากลิ่นตัวของแม่ช่วยให้ลูกรู้สึกสงบและปลอดภัย ทั้งยังช่วยลดอาการกลัวคนแปลกหน้า แม้ว่าช่วงเวลานั้นแม่จะไม่ได้อยู่ด้วยก็ตาม แต่ถ้ามีเสื้อผ้าที่มีกลิ่นของแม่อยู่กับลูกในช่วงเวลานั้นจะช่วยให้ลูกรู้สึกดี ทําให้ลดอาการงอแงหรือกลัวคนแปลกหน้าได้
Ruth Feldman นักประสาทวิทยาสังคมจากมหาวิทยาลัย Reisman ในอิสราเอลและทีมได้ศึกษาคุณแม่ 62 คนที่มีลูกวัย 5-9 เดือน โดยให้คุณแม่สวมเสื้อยืดผ้าฝ้ายนอนติดต่อ กัน 2 คืน จากนั้นจึงไปทดลองในห้องแล็บ โดยที่นักวิจัยสวมหมวกอิเล็กโทรดไว้บนศีรษะเด็กทารกเพื่อวัดคลื่นสมองแล้วคอยดูปฏิกิริยาโต้ตอบในสภาวะต่าง ๆ ของพวกเขา
หนึ่งในนั้นคือการทดลองให้เด็กสวมเสื้อยืดของแม่อยู่กับผู้หญิงแปลกหน้าที่อาศัยอยู่ระแวกบ้านของเด็กทารก ปรากฏว่าเด็กที่สวมเสื้อยืดที่มีกลิ่นตัวของแม่สามารถโต้ตอบ ยิ้ม และสบตากับคนแปลกหน้าได้
จากการทดสอบในครั้งนี้พอจะช่วยให้พ่อแม่เข้าใจพฤติกรรมและการเลี้ยงดูเด็กทารกมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อจําเป็นต้องห่างลูก เช่น คุณแม่ต้องกลับไปทํางานหรือทําธุระแล้วต้องฝากให้ ปู่ ย่า ตา ยาย หรือพี่เลี้ยงช่วยดูแลแทน นอกจากนี้การทดลองของ Ruth Feldman และทีม ยังชี้ให้เห็นผลลัพธ์ว่ากลิ่นหอมของแม่เชื่อมโยงกับพัฒนาการทางสังคมและการควบคุมอารมณ์ของเด็กทารกด้วย
- ดูแลเรื่องอาหารการกิน เลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น หัวหอม สะตอ ทุเรียน กุยช่าย ฯลฯ
- กินอาหารที่มีกากใยเช่นผักผลไม้เป็นประจํา และขับถ่ายให้เป็นเวลา ช่วยป้องกันปัญหาท้องผูกได้
- คุณแม่ควรเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ไม่รัดแน่นจนเกินไป โดยเฉพาะชุดชั้นในต้องไม่คับจนเกินไปเพราะจะทําให้ร่างกายอับชื้นและมีกลิ่นตัวได้ง่าย
- ดูแลสุขอนามัยส่วนตัว โดยหลังปัสสาวะหรืออุจจาระเสร็จแล้วควรล้างอวัยวะเพศให้สะอาด ด้วยการล้างจากด้านหน้าไปด้านหลัง และใช้กระดาษชําระซับให้แห้ง
- ในวันที่อากาศร้อนคุณแม่สามารถอาบน้ําบ่อย ๆ ได้เพื่อขจัดคราบไคลและกลิ่นตัว
- เมื่อมีประจําเดือนควรล้างอวัยวะเพศให้สะอาด และเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ
- คุณแม่สามารถโรลออนหรือน้ําหอมที่สกัดจากธรรมชาติเพื่อลดการอาการแพ้และการระคายเคืองจากสารเคมีได้
- ระหว่างวันอาจใช้แป้งทาตัวช่วยลดกลิ่นเช่น แป้ง ReisCare Plus Forever Young ที่ผสานสารสกัดจากชาขาว มีสารต้านอนุมูลอิสระ มีคาโมมาย วิตามินซีและอี ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้แลดูอ่อนเยาว์ สุขภาพดี แป้งข้าวช่วยดูดซับความมัน ให้คุณแม่ผิวแห้งสบายตัว ไม่อุดตัน ย่อยสลายได้ในจุลินทรีย์ธรรมชาติและช่วยลดกลิ่นกายในระหว่างวันได้
เพราะกลิ่นของคุณแม่เป็นกลิ่นเฉพาะตัวที่สำคัญต่อพัฒนาการลูกทารก ดังนั้นอย่าลืมดูแลสุชอนามัยส่วนตัวและกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก www.reiscare.com
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย พญ.นิธิอําไพ โรจน์สุรกิตติ กุมารแพทย์ และแพทย์เชี่ยวชาญพิเศษด้านการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ทางคลินิก ระดับสากล (IBCLC) รพ.เจ้าพระยา
อ้างอิง :
1. คู่มือพัฒนาการเด็ก สำนักพิมพ์รักลูกบุ๊กส์
3. Yaara Endevelt-Shapira et al., Maternal chemosignals enhance infant-adult brain-to-brain synchrony.Sci. Adv.7,eabg6867(2021). DOI:10.1126/sciadv.abg6867
4. Porter RH, Winberg J. Unique salience of maternal breast odors for newborn infants. Neurosci Biobehav Rev. 1999;23(3):439-49. doi: 10.1016/s0149-7634(98)00044-x. PMID: 9989430.