คุณพ่อคุณแม่รู้ไหมคะ ว่าเด็ก ๆ ที่ชอบกลั้นอึ อันตรายมากเลยนะคะ คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตลูกและคอยหมั่นถามว่าวันนี้ลูก poop บ้างหรือยัง เพราะในหนึ่งวันปกติเด็กจะมีการถ่ายอุจจาระ หรืออึ ประมาณวันละ 1-2 ครั้ง ถ้าไม่อึเลยใน 2 วัน แปลว่าผิดปกติแล้วค่ะ
โดยเฉพาะเด็กที่เปลี่ยนจากการนั่งกระโถนมาเป็นนั่งชักโครก เด็กบางคนเมื่อถึงวัยที่ควรนั่งชักโครกได้แล้ว เมื่อถูกหัดให้นั่งชักโครกก็มักจะเกิดความกลัว ไม่กล้านั่งและไม่กล้าขับถ่าย
สำหรับเด็กที่ติดเล่นมากเกินไปจนไม่สามารถละจากของเล่นหรือความสนใจ ณ ขณะนั้นได้ ก็มักจะอั้นอึเอาไว้ก่อนค่ะ บางครั้งลืมอึไปเลยก็มี
คุณพ่อคุณแม่จะสังเกตได้เมื่อพาลูกไปเข้าห้องน้ำสาธารณะหรือห้องน้ำโรงเรียนที่มีคนใช้มาก ๆ แล้วมีกลิ่น มีคราบสกปรกอยู่ ก็เป็นสาเหตุให้ลูกอั้นอึได้เหมือนกัน
ลูกไม่ชอบรับประทานผักและผลไม้ หรือดื่มน้ำน้อยเกินไป มักมีอาการท้องผูก ซึ่งทำให้รู้สึกปวดท้องมากและมีอาการเจ็บที่บริเวณหูรูดเมื่อพยายามขับถ่าย จึงมักจะไม่ชอบการอึ และหลีกเลี่ยงความเจ็บนี้ ด้วยการไม่ขับถ่ายเลย
ฝึกการขับถ่ายเมื่อลูกพร้อมแล้ว นั่นก็คือเมื่อเขาสามารถบอกเราได้ว่าปวดอึ ปวดฉี่ และลูกสามารถรับรู้เรื่องความสะอาดและสุขลักษณะได้พอสมควร โดยในช่วงแรกคุณพ่อคุณแม่ต้องดูแลเรื่องการทำความสะอาดของลูกก่อน และหลังจากนั้นเมื่อลูกสามารถช่วยเหลือตนเองได้ หรือเข้าโรงเรียนแล้ว จึงค่อยสอนวิธีการทำความสะอาดให้กับลูก
สอนให้ลูกรู้จักสุขลักษณะในการเข้าห้องน้ำ ให้ลูกราดน้ำหรือเช็ดชักโครกก่อนใช้งาน ล้างมือหลังจากทำธุระเสร็จแล้ว เป็นต้น
ฝึกให้ลูกเข้าห้องน้ำเป็นเวลา และฝึกการขับถ่ายให้เป็นนิสัย เช่น ให้ลูกฉี่ก่อนนอน และถ่ายอุจจาระตอนเช้าทุกครั้ง
เมื่อไม่อึ น้ำที่อยู่ในอุจจาระก็จะถูกดูดกลับไปใช้ในร่างกาย สารพิษและเชื้อโรคต่าง ๆ ที่เจริญเติบโตขึ้นภายในอุจจาระ ก็จะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดไปด้วย ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานหนัก จนอ่อนเพลีย ปวดหัว ท้องอืด ผิวหนังอักเสบ
เสี่ยงโรคผนังลำไส้อักเสบ เมื่อเราไม่ขับถ่ายและอุจจาระสะสมอยู่ในลำไส้ สิ่งที่ตามมาก็คือ ผนังลำไส้ในส่วนที่อ่อนแอจะเกิดการโป่งพอง ติดเชื้อกลายเป็นโรคผนังลำไส้ใหญ่อักเสบ จนอาจทำให้เกิดเลือดออกในลำไส้ เป็นหนอง ผนังลำไส้ทะลุ หรือลำไส้อุดตันได้
คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมคอยหมั่นถามว่าวันนี้ลูกว่า หนูอึ บ้างหรือยังนะ ถ้าไม่อึเลยภายใน 2 วัน แปลว่าผิดปกติแล้วค่ะ มาแก้ไขพฤติกรรมลูกกันเถอะ