facebook  youtube  line

5 วิธี ที่แก้ไขลูกติดเกม

2959

ลูกติดเกมมาก พอเตือนก็โมโหขึ้นคำหยาบใส่พ่อแม่ ครั้งสุดท้ายกำหมัด

มาถึงขั้นนี้แล้ว ควรยอมรับว่าเราไม่สามารถแก้ไขได้ในเร็ววันอีกต่อไปแล้ว การดึงปลั๊กออกเป็นเรื่องห้ามทำเพราะอาจจะก่ออันตรายได้ทั้งต่อเราและต่อตัวเขาเอง พึงระลึกว่าเกมเป็นเสาค้ำจุนชีวิต เราจะถอนออกได้ต่อเมื่อเราได้สร้างเสาอื่นทดแทน

เกมทำให้ความสามารถที่จะทำงานที่น่าเบื่อ เช่น ท่องหนังสือ หรือ ทำงานบ้าน กลายเป็นเรื่องยากเพราะวงจรประสาทได้วางตัวเองใหม่แล้ว และสมองได้ตัดแต่ง (pruning) ตนเองเพื่อความเชี่ยวชาญในเกมโดยเฉพาะ จะเป็นโจทย์ที่เราแก้ไขได้ยาก จำเป็นต้องสละเวลามาก
 
1.นั่งลงประชุมกับเขาดีๆ ว่าเราจำเป็นต้องรักษาสมดุลระหว่างเกมและการเรียน (ไม่ได้ให้เลิก ให้รักษาสมดุล)

2.ช่วยกันทำตารางกิจวัตร ได้แก่เวลาเล่นเกม เวลาการบ้าน เวลาท่องหนังสือ เวลาทำงานบ้าน และเวลาเที่ยวกับเรา ทั้งหมดนี้เราจำเป็นต้องสละเวลาช่วยเขากำกับตัวเอง แปลว่าเล่นเกมด้วยกัน อยู่ใกล้ๆยามเขาทำการบ้าน สอนทำวานบ้านแล้วทำงานบ้านด้วยกันเสมอ และบริหารเวลาให้ได้ไปเที่ยวด้วยกันมากกว่าเดิม ไม่ทำทั้งหมดนี้ด้วยการสั่ง เราจำเป็นต้องทำด้วยกันเสมอ

3.ยินยอมให้สัดส่วนของเกมในตารางกิจวัตรมีมากกว่าที่ควรในตอนเริ่มต้น เรามิได้เจตนาจะลดเกมลงทันที ที่เราต้องการมากกว่าคือสร้างพ่อแม่ที่มีอยู่จริงขึ้นมาใหม่ สายสัมพันธ์ที่ดีกว่าแข็งแรงกว่าเดิม และตัวตนที่เขาต้องการจะรักษาเอาไว้ ไม่เลือนหายไปในเกมมากจนเกินไปท่องไว้เสมอว่าเรากำลังหาสมดุลใหม่ สมดุลใหม่นั้นจะค่อยๆ มา อาจจะกินเวลา 3 เดือนถึง 1 ปี เราก็จะรอ

4.ทำบ้านให้น่าอยู่ หยุดบ่นและซื้อใจเขาให้ได้ เกมคือสถานที่ที่เขามี autonomy ได้ทำ ได้ทดลอง และได้เรียนรู้ โดยไม่มีใครบ่นอยู่ข้างหู เราต้องทำให้บ้านมีสภาพเดียวกัน คือเป็นสถานที่ที่เขาได้ทำ ทำได้ ได้ลองผิดลองถูก และได้เรียนรู้ มิใช่อะไรๆก็ไม่ให้ คำก็บ่นสองคำก็ด่า ดังนั้นพ่อแม่ต้องนั่งลงคุยกันเองให้เรียบร้อยการงานของตนเองจำต้องเสียหายบ้างก็ต้องยอมแล้ว ควรยอมรับว่าถึงเวลาเราต้องใช้ทุนคืนแล้ว

5.ไปพบแพทย์ ยาที่ถูกต้องจะช่วยได้มาก งานจะง่ายขึ้นคุณหมอจะให้ยาอะไรขึ้นกับว่าคุณหมอตรวจสภาพจิตพบอะไรและวินิจฉัยอะไร ลูกอาจจะมีอารมณ์เศร้า หรือโรคอื่น หรืออย่างไม่มีอะไร คุณหมอก็สามารถให้ยาที่ช่วยลดความหุนหันพลันแล่นและเพิ่มความยับยั้งชั่งใจได้ สมัยใหม่จิตเวชศาสตร์มียารักษาอาการทุกอย่าง ปัญหาคือผู้ป่วยไม่ยอมพบแพทย์เสียมากกว่า
 

ถ้าลูกโตมากแล้ว เราไม่สามารถบังคับลูกไปพบแพทย์ได้ และถึงจะบังคับได้ก็ไม่สามารถบังคับให้กินยาได้ ดังนั้นเราจึงเหลือวิธีเดียวคือสานสัมพันธ์กับเขาใหม่ ทำบ้านให้น่าอยู่ ทำตัวเองให้น่าฟัง เพื่อให้เขาไว้ใจเราอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นรอเวลาที่เขาจะยอมรับแก่ตนเองว่าเขาเป็นทุกข์ที่ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ หรือพบความยากลำบากของการเรียน การทำการบ้าน การสอบ ด้วยตนเองแล้วร้องขอความช่วยเหลือ

นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
จิตแพทย์และนักเขียน ขวัญใจพ่อแม่ชาวโซเชียล


 

5 วิธีป้องกันและแก้ไข นิสัยเด็กติดเกม

การเลี้ยงลูก-พัฒนาการ-สอนลูก 

ทุกวันนี้เป็นยุคดิจิทัลที่เด็ก ๆ ทุกคนชอบเล่นเกมในสมาร์ทโฟนหรือเกมคอมพิวเตอร์ ซึ่งการใช้อินเทอร์เน็ตนั้นมีคุณประโยชน์มากมาย ถ้าใช้ให้ถูกต้องและเหมาะสม แต่หากเด็ก ๆ เล่นเกมมากถึงขั้นติดเกมจนไม่อยากทำอะไร ส่งผลต่อพัฒนาการในทุก ๆ ด้านแน่นอน ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องรีบป้องกันและแก้ไขแล้วค่ะ ป้องกันปัญหาเด็กติดเกมได้ดังนี้

  1. ควรเข้าไปเล่นเกมกับลูกด้วย พ่อกับแม่จะได้สังเกตดูพฤติกรรมและการตอบสนองของลูกต่อเกมต่างๆ สามารถสอดแทรกแนวความคิด ข้อคิดเห็นต่างๆ อีกด้านหนึ่งให้แก่ลูกในแง่ความถูกต้องความเหมาะสม

  2. ปลูกฝังให้ลูกรู้ผลดีผลเสีย ต้องพูดคุยกับลูกอย่างใจเย็น หรือหากิจกรรมทำกับลูก เช่น ชวนลูกไปเล่นกีฬา สร้างสรรค์งานศิลปะ ปลูกต้นไม้ ทำอาหาร อ่านหนังสือ และอาศัยจังหวะช่วงเปิดใจบอกข้อดีข้อเสียให้ลูกรู้เกี่ยวกับเกม ลูกจะเก็บไปคิดแน่นอน

  3. ศึกษาถึงชนิดของเกมที่ลูกเล่น เกมมีความเหมาะสมเรื่องอายุที่ลูกเล่นไหม มีความรุนแรงกระทบพัฒนาการของลูกหรือเปล่า พ่อกับแม่ต้องรู้เพื่อที่จะได้เลือกได้อย่างเหมาะสมกับลูก ทุกวันนี้เกมเสริมพัฒนาการก็มีเยอะพ่อกับแม่เลือกสิ่งที่ดีให้ลูกได้

  4. กำหนดและควบคุมเวลา กำหนดเวลาของลูกให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้ลูกใช้เวลากับเกมมากเกินไป อาจต้องลงในรายละเอียดว่าให้เล่นได้วันละกี่ชั่วโมง สัปดาห์ละกี่วัน บางบ้านก็ตั้งกฎไว้เลยว่าจะให้เล่นได้เฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์เท่านั้น 

  5. ส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเกม ต้องคัดเลือกโปรแกรมเกมที่เหมาะสมกับอายุให้ลูก เช่น โปรแกรมสอนวิชาต่างๆ เกมการศึกษา หรือการสอนภาษาอังกฤษ ช่วยลูกค้นหาข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ทางเว็บไซต์ในอินเตอร์เน็ต 

ภาพจาก : warszawa.figlarium.pl

รักลูก The Expert Talk EP.109 : แก้ปมเด็กติดเกม พ่อแม่ช่วยได้

 

รักลูก The Expert Talk Ep.109 : แก้ปมเด็กติดเกม พ่อแม่ช่วยได้

เข้าใจก่อนทำไมลูกติดเกม…อยากอยู่กับเพื่อน อยากเล่นอะไรที่ท้าทายเพราะต่อบล็อกไม้แบบเดิมก็เบื่อแล้ว

ชวนพ่อแม่ฟัง The Expert หากจะเล่นเกมจริงๆ จะต้องเลือกอย่างไร แบบไหน ใช้หลักการอะไร ก่อนที่จะถลำเข้าไปสู่ปัญหาเด็กติดเกม

 

ฟังแนวทางและวิธีให้เด็กห่างจากเกมโดย The Expert อาจารย์ธาม เชื้อสถาปนศิริ

นักวิชาการด้านสื่อ สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว

 

Apple Podcast: https://apple.co/3m15ytB

Spotify: https://spoti.fi/3cvAVcX

Youtube: https://bit.ly/3cxn31u

ลูกจะเลิกติดมือถือได้ พ่อแม่ต้องเริ่มจาก 5 ข้อนี้ ทำได้! ลูกพัฒนาการกลับมาดี

การเลี้ยงลูก-พัฒนาการ-สอนลูก 

ลูกจะเลิกติดมือถือได้ พ่อแม่ต้องเริ่มจาก 5 ข้อนี้

ทำได้! ลูกพัฒนาการกลับมาดี

พ่อแม่ติดหน้าจอมือถือ ทำร้ายลูกไม่รู้ตัว เป็นปัญหาที่พยายามหาทางแก้กันหลายครอบครัวเลย เนื่องจากลูกติดหน้าจอมือถือ ไม่ให้เล่นก็ร้องไห้ข้ามวัน สุดท้ายใจอ่อนยื่นให้เล่นอยู่ดี เพราะแบบนี้ก็เลยแก้กันไม่หาย ขอบอกว่าวิธีการแก้ไขต้องเริ่มจากพ่อแม่ก่อนนะคะ พ่อแม่ควรเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก

  1. พ่อแม่เป็นตัวอย่างที่ดีให้ได้ก่อน

พ่อแม่ต้องคิดเสมอนะคะ ว่าอยากให้ลูกเป็นแบบไหน พ่อแม่ต้องทำให้ได้ก่อน เพราะพฤติกรรมที่เราทำ ลูกอาจจะเลียนแบบได้ตลอด เช่น ชอบเล่นโทรศัพท์ตลอดเวลา แล้วมาเรียกร้องให้ลูกอย่าติดมือถือ มันดูย้อนแย้งเกินไป ฉะนั้นพ่อแม่ต้องทำให้ได้ด้วยค่ะ ถ้าไม่อยากให้ลูกเป็นเด็กก้มหน้า พ่อแม่ก็ต้องไม่มัวแต่ก้มหน้านะคะ

  1. พาทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่ห่างจากหน้าจอ

พาลูกทำกิจกรรมครอบครัวในทุก ๆ วัน หรือจัดตารางกิจกรรมประจำสัปดาห์ที่ต้องทำ เช่น อ่านหนังสือนิทาน เล่นเกมตัวต่อ ไปปลูกต้นไม้ ไปเที่ยวนอกบ้าน เป็นต้น เพื่อส่งเสริมให้ลูกทำกิจกรรมที่หลากหลาย และฝึกทักษะที่จำเป็น พ่อแม่เองก็ร่วมทำกับลูกด้วย ที่สำคัญทำให้ลูกห่างหน้าจอได้

  1. เลี้ยงลูกด้วยตัวเอง อย่าให้หน้าจอเป็นพี่เลี้ยง

แน่นอนค่ะ ว่าการปล่อยให้ลูกอยู่หน้าจอ ลูกจะนิ่ง เงียบ ไม่กวนใจ แต่ผลเสียคือลูกติดจอ ส่งผลต่อพัฒนาการได้ในระยะยาว ฉะนั้นอย่าเอามือถือมาเป็นพี่เลี้ยงลูกนะคะ วิธีแก้ปัญหาเมื่อลูกว่าง คือพูดคุยกับลูกให้เยอะ ๆ เช่น วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง ลูกทำอะไรบ้างลูกอยากทำกิจกรรมอะไรไหม และเล่าเรื่องของพ่อแม่ให้ลูกฟัง เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว

  1. พ่อแม่ต้องตามยุคดิจิทัลให้ทัน

โลกโซเชี่ยลเหมือนดาบสองคม หากจำกัดพื้นที่ให้ลูกเรียนรู้ตามวัยได้ก็เป็นเรื่องดี แต่ถ้าปล่อยให้ลูกท่องโลกโซเชียลโดยไม่ดูแล ก็อาจส่งผลเสียได้แบบคาดไม่ถึง เช่น ตั้งค่ายูทูบสำหรับเด็ก วิธีตั้งค่า YouTube สำหรับเด็ก หรือ ร่วมเล่นไปกับลูกด้วย คอยถาม คอยแนะนำ จะได้รู้ว่าลูกกำลังดูสิ่งที่เหมาะสมหรือไม่ พ่อแม่ต้องตามให้ทันนั่นเอง

  1. ต้องมีกฏที่แหกไม่ได้ ฝึกระเบียบที่เด็ดขาด

พ่อแม่ควรสร้างกติกาของครอบครัว ควบคุมเรื่องเวลา หรืออาจมีข้อตกลงร่วมกัน เช่น มื้ออาหารห้ามใช้มือถือ ให้เล่นได้แค่ 4 ชั่วโมง แบ่งครึ่งเช้าและครึ่งบ่าย แล้วไปทำกิจกรรมอย่างอื่นด้วย ข้อนี้พ่อแม่อย่าหวั่นไหวเมื่อลูกร้องไห้ โวยวาย อยากเล่นต่อ ไม่มีการต่อรอง ให้หนักแน่นเข้าใจ หากลูกเสียใจให้ดึงลูกมากอดไว้ และบอกกติกาอีกครั้ง ทำแบบนี้ประจำลูกจะค่อย ๆ เข้าใจได้เอง

แม้พ่อแม่จะปกป้องลูกไปตลอดไม่ได้ แต่ช่วงวัยเด็ก วัยกำลังเรียนรู้สิ่งรอบตัว อะไรที่ควรรู้เป็นไปตามวัย เราก็ต้องให้ลูกได้รับให้มากที่สุดนะคะ และ 5 วิธีนี้ไม่ยากเลย แถมเป็นสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนควรทำด้วยค่ะ อยากให้ลูกเติบโตพัฒนาการสมวัย ก็ต้องดูแลกันตั้งแต่ยังเล็ก ๆ นะคะ




 

เด็กเล็กติดเกม ต้องโทษพ่อแม่อย่างเดียว นี่คือ 4 วิธีแก้ไข เริ่มที่ตัวพ่อแม่ก่อน

การเลี้ยงลูก-พัฒนาการ-สอนลูก-เด็กติดเกม-ลูกติดเกม-ลูกติดมือถือ-ลูกติดโทรศัพท์

เด็กติดเกมเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมากนะคะ ล่าสุดองค์การอนามัยโลก ได้บรรจุอาการผิดปกติในการเล่นเกม หรือการติดเกม เป็นโรคชนิดหนึ่งแล้ว เพื่อให้ผู้ปกครองตระหนักถึงปัญหา หากลูกเป็นโรคติดเกมขึ้นมาอย่าเอาแต่โทษลูกอย่างเดียว ให้ตั้งคำถามกับตัวเองก่อน ว่าลูกยังเล็กอยู่ใครยื่นเทคโนโลยีให้ลูก ใครยื่นสมาร์ทโฟนให้ลูก ใครกันไม่ควบคุมลูก และอีกหลายคำถามที่พ่อแม่ต้องถามตัวเองก่อน เพื่อที่จะได้แก้ไขให้ถูกจุด

  1. พ่อแม่ต้องปรับทัศนคติ

พ่อแม่ต้องปรับทัศนคติตัวเองก่อน ว่าโทรศัพท์มือถือ ไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 9 ขวบ ให้คิดว่าสมาร์ทโฟน แทบเล็ต ก็เป็นอุปกรณ์ที่ยังไม่ปลอดภัย ยังไม่ควรให้ลูกใช้จนกว่าจะถึงวัยที่เหมาะสม

  1. อย่าให้มือถือเป็นพี่เลี้ยงลูก

การให้ลูกเล่นสมาร์ทโฟน ลูกจะอยู่เงียบๆ ไม่กวน การปล่อยให้มือถือเป็นพี่เลี้ยงลูกแบบนี้ คุณกำลังเป็นพ่อแม่ที่ทำร้ายลูกอยู่นะคะ และกำลังส่งเสริมให้ลูกติดมือถือแบบทางตรงเลย หากลูกเล็กๆ ติดเกม ติดมือถือ นั่นไม่ใช่ความผิดลูกเลย

  1. เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูก

ไม่ให้ลูกเล่น แต่พ่อแม่จะเล่นเกมอย่างสนุกสนานต่อหน้าลูกไม่ได้นะคะ พ่อแม่เป็นอย่างไร ลูกก็จะเป็นแบบนั้น การเป็นแบบอย่างที่ดี จะช่วยสร้างรากฐานระเบียบวินัยให้กับเด็กๆ ได้ด้วย อย่าเป็นสังคมก้มหน้าในครอบครัวเลยนะคะ

  1. หากิจกรรมทำกับลูกเสมอ

การสร้างรากฐานที่ดีให้กับลูกช่วงปฐมวัยสำคัญที่สุด การส่งเสริมให้ลูกทำกิจกรรมที่หลากหลาย และฝึกทักษะที่จำเป็น ต้องเริ่มจากพ่อแม่ ที่ต้องทำกิจกรรมร่วมกับลูก จะเป็นกิจกรรมในบ้าน หรือนอกบ้านที่มีความเคลื่อนไหวก็ได้ ลูกจะสนุกและมีความสุขกับพ่อแม่มากกว่ามือถือแน่

หากปล่อยให้ลูกเล่นมือถือไปแล้ว นี่คือวิธีสังเกตลูกว่าติดเกมหรือไม่
  1. มีความต้องการที่จะเล่นมากขึ้น ชอบต่อรองการเล่น และเพิ่มเวลาในการเล่นมากขึ้น

  2. ขอเล่นเกมที่ยากขึ้น มีความซับซ้อนมากขึ้น ขอใช้เครื่องที่มีความเร็วและแรงขึ้น 

  3. เด็กเริ่มตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่คุยกับพ่อแม่ ไม่เล่นกับเพื่อนฝูง ไม่เข้าสังคม หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่เด็กในวัยนี้ควรทำเลย

  4. เคยกินนอนเป็นเวลา ก็จะไม่ยอมกิน ห่วงเล่นเกม ไม่นอนก็ได้ กระสับกระส่าย อยากเล่นเกม

  5. โกรธ เมื่อจำกัดเวลาในการเล่นหรือห้ามเล่น มีพฤติกรรมที่ไม่เคยทำมาก่อน เช่น ขว้างข้าวของ อารมณ์เปลี่ยนแปลง ภาวะจิตใจเปลี่ยน

เด็กเล็กติดเกมหรือมือถือ ต้องโทษพ่อแม่ผู้ปกครองอย่างเดียวเลยค่ะ เพราะพ่อแม่เป็นคนหยิบยื่นให้ลูกเอง และเด็กติดเกมตั้งแต่เล็ก ๆ มีแนวโน้มจะติดเกมระดับรุนแรงเมื่อโตขึ้นด้วย สิ่งที่เด็กจะขาดคือ “โอกาส” และ “ทักษะ” ที่จำเป็นอีกหลายด้าน อย่าให้ลูกเล่นมือถือเลยนะคะ

 

ข้อมูลจาก : ดร.สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน


 

เตือน! เด็กติดเกม สู่โรคซึมเศร้า เรียนรู้คำแนะนำก่อนลูกคิดฆ่าตัวตาย

 3008 1

เตือน! เด็กติดเกม สู่โรคซึมเศร้า เรียนรู้คำแนะนำก่อนลูกคิดฆ่าตัวตาย

ลูกติดเกม ทำอย่างไรดี? คุณพ่อคุณแม่หลายท่านข้อความเข้ามาถามทางรักลูกบ่อยครั้ง เล่าถึงปัญหาว่าลูกไม่ยอมไปโรงเรียน หรือโดดเรียนไปเล่นเกม มีพฤติกรรมก้าวร้าวเมื่อไม่ยอมให้เล่นเกม

วันนี้เราจึงรวบรวมข้อมูลของโรคติดเกม พร้อมวิธีรับมือเมื่อลูกติดเกมมาแนะนำค่ะ 

โรคติดเกม องค์การอนามัยโลก (WHO) เตรียมจัดให้ความผิดปกติจากการเล่นเกมหรือติดเกม เป็นอาการทางสุขภาพจิตร้ายแรงที่ต้องได้รับการรักษา และได้ถูกบัญญัติให้เป็นโรคชนิดหนึ่ง เรียกว่า ภาวะการติดเกม จัดอยู่ในกลุ่มโรคย้ำคิดย้ำทำ และต้องการการบำบัดรักษา จากสถิติทั่วโลกพบว่าเด็กติดเกมจะมีผลเสียต่อสุขภาพ

วิธีสังเกตลูกว่าติดเกมหรือไม่? 

3008 2

สัญญาณที่บ่งบอกว่าลูกน้อยวัยไม่กี่ขวบเริ่มติดเกมจนกลายเป็นปัญหา และต้องการแนวทาง “การช่วยเหลือ” ที่ชัดเจนจากผู้ปกครอง

  1. มีความต้องการที่จะเล่นมากขึ้น ชอบต่อรองการเล่นและเพิ่มเวลาในการเล่นมากขึ้น
  2. ขอเล่นเกมที่ยากขึ้น มีความซับซ้อนมากขึ้น ขอใช้เครื่องที่มีความเร็วและแรงขึ้น 
  3. เด็กเริ่มตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่คุยกับพ่อแม่ ไม่เล่นกับเพื่อนฝูง ไม่เข้าสังคม หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่เด็กในวัยนี้ควรทำเลย
  4. เคยกินนอนเป็นเวลา ก็จะไม่ยอมกิน ห่วงเล่นเกม ไม่ทำการบ้าน ไม่นอนก็ได้ นั่งเล่นดึกดื่นได้ นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย อยากจะตื่นมาเล่นเกม
  5. โกรธ เมื่อจำกัดเวลาในการเล่นหรือห้ามเล่น มีพฤติกรรมที่ไม่เคยทำมาก่อน เช่น ทุบตีพ่อแม่ ขว้างข้าวของ อารมณ์เปลี่ยนแปลง ภาวะจิตใจเปลี่ยน มีพฤติกรรมก้าวร้าวกับพ่อแม่และคนรอบข้างได้

4 โรคแทรกซ้อนจากพฤติกรรมการติดเกม

  1. สายตาสั้น  การจ้องจอนานๆ จะมีผลต่อสายตา เพราะแสงและสีของภาพที่ฉูดฉาด การเคลื่อนที่เร็ว จะส่งผลให้เด็กๆ เป็นโรคสายตาสั้น และยังทำให้ปวดกล้ามเนื้อตา ตาอักเสบได้

  2. ขัดพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดเล็ก มัดใหญ่  เพราะเด็กๆ จะใช้นิ้วกดเล่น มีการเกร็งกล้ามเนื้อมือและแขน ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อต้นคอ ไหล่ กล้ามเนื้ออักเสบ ส่งผลให้ร่างกายเจริญเติบโตไม่เต็มที่

  3. การสื่อสารบกพร่อง การมองแต่จอโดยไม่สนใจหรือมองสิ่งรอบข้าง ทำให้เด็กสื่อสารทางเดียว มองทางเดียว เล่นคนเดียว ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง พูดช้าลง หรืออาจนำไปสู่การเป็นโรคสมาธิสั้นได้

  4. โรคอ้วน  การที่เด็กๆ มองแต่จอ และนั่งอยู่กับที่เป็นเวลานานวันละหลายชั่วโมง ไม่มีการออกกำลังกาย พักผ่อนน้อย มีภาวะเครียดจากการเล่นเกม ต้องการเอาชนะ ทำให้กระบวนการทำงานของร่างกายผิดปกติ ทำให้เกิดโรคอ้วนและอาจนำไปสู่การเป็นโรคเบาหวานในอนาคตได้