ของเล่นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเด็กๆ แล้วลูกทารกควรเล่นของเล่นอะไรบ้างที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการตามวัย ได้ทั้งความสนุก ได้ทั้งการทำงานของสมอง
6 ของเล่นเสริมพัฒนาการทารก ยิ่งเล่น สมองยิ่งทำงานดี
-
ของเล่นเขย่าและมีเสียง เหมาะเป็นของเล่นชิ้นแรกในวัยที่เริ่มขยับตัว เพราะเสียงจะเป็นตัวกระตุ้นให้ลูกอยากคว้าจับ หรือคืบคลานไปหา และเมื่อเขานำมาเล่นได้ก็จะรู้สึกภาคภูมิใจ
-
ของเล่นสำหรับกอด เด็กๆ ได้เรียนรู้จากตุ๊กตามากมาย เขาได้ของเล่นที่เป็นเพื่อนได้ เป็นตัวแทนของคนใกล้ชิด กอดได้ พาไปนอนด้วยกันได้ เป็นเพื่อนยามเหงา เป็นตัวแทนของจินตนาการ เสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูก เป็นต้น
-
ของเล่นเครื่องดนตรี ดนตรีเป็นตัวปรับอารมณ์ที่ดีของเด็กๆ ช่วยกล่อมยามหลับ ให้จังหวะเมื่อทำกิจกรรมหรือออกกำลังกาย ส่งเสริมการเคลื่อนไหวและความสนุกสนาน นอกจากนี้งานวิจัยหลายชิ้นยังแสดงให้เห็นว่าการเล่นดนตรีสำหรับเด็กเล็กๆ จะช่วยพัฒนาสมอง ส่งเสริมการเคลื่อนไหวและการสื่อสารของพวกเขาด้วย
-
ของเล่นบล็อก นอกจากไว้ฝึกสมาธิ สอนเรื่องการแก้ปัญหาแล้วยังเป็นการปูพื้นฐานเรื่องตรรกะและคณิตศาสตร์ของลูก
-
ของเล่นเป็นรูปทรงต่าง ๆ เด็ก ๆ ได้เรียนรู้เรื่องรูปทรงและสี สอนแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ทั้งยังช่วยเรื่องการประสานสายตากับมือ ฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็ก เป็นต้น
-
ของเล่นที่มีลูกเล่นต่าง ๆ ช่วยดึงดูดเด็กๆ ให้สนใจและเรียนรู้กลไกต่างๆ จากของเล่น เกิดการจดจำ เรียนรู้วิธีเล่นอย่างสร้างสรรค์ และสอนให้ลูกรู้จักยืดหยุ่น

โรงเรียนก็มีส่วนพื้นที่ที่อันตรายอยู่ค่ะ เพื่อความสบายใจคุณพ่อคุณแม่สามารถตรวจสอบพื้นที่เหล่านี้ได้นะคะ เพื่อรีเช็กสร้างความปลอดภัยให้กับเด็ก ๆ ร่วมกันค่ะ
9 จุดเสี่ยงในโรงเรียน
1.อาคารเรียน
ราวบันไดต้องมั่นคงแข็งแรง ไม่วางสิ่งของกีดขวางทางเดิน จัดทำลูกกรงเหล็กกั้นระเบียงหน้าต่าง
2.สนามเด็กเล่น
พื้นสนามเรียบ และปูด้วยพื้นยางสังเคราะห์ ยึดติดเครื่องเล่นกับพื้นอย่างแน่นหนา ตรวจสอบเครื่องเล่นให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง
3.ตู้น้ำดื่ม
ติดตั้งสายดินป้องกันไฟฟ้ารั่ว ให้เด็กใช้แก้วรองน้ำจากก๊อกตู้น้ำดื่ม
4.โต๊ะ / เก้าอี้
อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและไม่โยกเยก ไม่มีตะปูยื่นออกมา
5.ประตูหน้าโรงเรียน
ตรวจสอบรางและล้อเลื่อนให้อยู่ในสภาพปลอดภัย ติดตั้งเสาครอบประตู ตรวจสอบกำแพงไม่ให้ทรุดตัว
6.ท่อน้ำ / รางน้ำ
จัดให้มีฝาครอบหรือตะแกรงปิดกั้นมิดชิด
7.สระน้ำ / บ่อน้ำ
จัดทำรั้วล้อมรอบแหล่งน้ำ ติดป้ายเตือนอันตรายบริเวณริมน้ำ จัดให้มีอุปกรณ์ช่วยเหลือคนตกน้ำ
8.สนามกีฬา
แบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน แยกตามประเภทกีฬา ตรวจสอบพื้นที่สนาม และอุปกรณกีฬาให้อยู่ในสภาพปลอดภัย
9.ถนนหน้าโรงเรียน
จัดให้มีผู้ดูแลความปลอดภัยในการรับ-ส่งเด็ก ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยการจราจรบริเวณหน้าโรงเรียน
ขอบคุณข้อมูล : กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย

Fidget Toy ของเล่นเสริมสมาธิ เล่นกับลูก สร้างสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว
Fidget Toy ของเล่นเสริมสมาธิสำหรับเด็กอยู่ไม่นิ่ง
เมื่อพูดถึง Fidget Toy พ่อแม่หลายคนอาจจะยังไม่คุ้น ไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร เป็นของเล่นหน้าตาแบบไหน Fidget Toy มีประโยชน์อย่างไร รักลูกจะชวนไปทำความรู้จักค่ะ
Fidget Toy มีหลายรูปแบบ ที่คนนิยมเล่นเช่น Fidget Spiner ที่หน้าตาเหมือนใบพัด เพียงจับตรงแกนกลางแล้วหมุน มันก็จะหมุนไปเรื่อยจนกว่าเราจะหยุด หรือ Fidget Cube ที่หน้าตาคล้ายลูกเต๋า มีปุ่มกดหลายแบบในแต่ละด้าน เหมาะสำหรับคนที่ชอบกดอะไรเล่นเพลินๆ ยามว่าง

Fidget Spinerของเล่นที่เคยได้รับความนิยมช่วงหนึ่ง
ล่าสุดที่กำลังได้รับความนิยมในบ้านเราคือ Pop Fidget ที่เป็นแป้นกดหลากสีสัน กติกาการเล่นมีหลายรูปแบบ แล้วแต่ผู้เล่นจะกำหนดกติกา เช่น ทอยเต๋าแล้วกดแป้นตามจำนวนที่ได้ ใครกดแป้นหมดก่อนเป็นผู้ชนะ หรือให้สลับตากันกดแป้น ใครกดเป็นคนสุดท้ายคือผู้แพ้ ซึ่งกติกาแบบที่ 2 ถือเป็นการชิงไหวชิงพริบ ใช้ตรรกะและการคำนวณในการเล่นด้วย

Pop Fidget หรือ Pop Bubble Sensory ที่กำลังได้รับความนิยม
สนใจสั่งซื้อ Pop Fidget Toy ได้ที่Line: @raklukeselect หรือคลิก http://tiny.cc/9y3iuz
ประโยชน์ของ Fidget Toy
- ช่วยฝึกสมาธิและการจดจ่อให้เด็กๆ มีโรงเรียนอนุบาลในต่างประเทศหลายโรงเรียนที่ใช้ Fidget Toy ดึงความสนใจของเด็กๆ ระหว่างรอเข้าคิวฟังนิทาน หรือเล่นเกมเป็นกลุ่มๆ
- ฝึกการใช้นิ้ว เสริมสร้างการทำงานของกล้ามเนื้อมัดเล็ก และประสาทสัมผัส เพราะเป็นของเล่นที่มีหลายรูปแบบ ต้องใช้มือจับ กด ขยำ ต้องออกแรงที่นิ้วมือ บางชนิดต้องใช้สมองคิดระหว่างเล่นด้วย
- ฝึกตรรกะ การคิดและการวางแผน เช่น รูบิก ป๊อปฟิดเจ็ท เป็นต้น
- เสริมสร้างปฏิสัมพันธ์ในครอบครัว โดยเฉพาะป๊อปฟิดเจ็ทนั้นสามารถเล่นได้ทุกเพศทุกวัย พ่อ แม่ พี่ น้อง สามารถเล่นด้วยกันได้ค่ะ สร้างสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว
- ช่วยลดความเครียด คลายความประหม่า ไม่เพียงแต่เด็ก ผู้ใหญ่บางคนก็ชอบกด Fidget Toy เล่นยามเครียด หรือยามต้องการสมาธิ
- ในบางประเทศมีการใช้ Fidget Toy บำบัดเด็กที่เป็นสมาธิสั้นและออทิสติกด้วย

รูบิคเป็น Fidget Toy ประเภทหนึ่งที่เด็กหลายคนนิยมเล่น
Fidget Toy มีหลายรูปแบบ หากจะเลือกซื้อให้ลูกควรเลือกที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย ศึกษาวิธีเล่นที่ถูกต้อง และควรให้คำแนะนำกับลูกว่าเล่นอย่างไรให้ปลอดภัยและไม่สร้างความรำคาญให้ผู้อื่นด้วยค่ะ
สนใจสั่งซื้อ Pop Fidget Toy ได้ที่...
Line: @raklukeselect หรือคลิก http://tiny.cc/9y3iuz
อ้างอิง :
https://www.pacer.org/cmh/learning-center/parenting/support-adhd/fidget-toys.asp
https://www.wyndham.vic.gov.au/sites/default/files/2017-06/PSFO%20-%20Tip%20Sheet%20-%20Fidget%20Toys.pdf

ลูกทารกเล่นของเล่นได้นะคะ ของเล่นเสริมพัฒนาการเด็กลูกทารกแต่ละเดือนมีอะไรบ้าง เรามีคำแนะนำค่ะ
ของเล่นลูกทารกวัย 0-12 เดือน ของเล่นเสริมพัฒนาการเด็กที่พ่อแม่ต้องรู้
ลูกทารกแต่ละเดือนมีพัฒนาการมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นที่มาว่า ลูกทารกเล่นของเล่นได้ และของเล่นก็เสริมพัฒนาการทารกได้ดีด้วยเช่นกัน แต่ลูกทารกเล่นอะไรได้บ้าง พ่อแม่ควรหาของเล่นอะไรมาเล่นกับลูก ลองเช็กตามนี้เลยค่ะ
- ของเล่นทารกแรกเกิด - 3 เดือน ของเล่นที่สามารถติดบริเวณเตียงหรือเปลได้ เช่น โมบายล์ ตุ๊กตาของเล่นแขวนที่ขอบเปลนิ่ม ๆ เป็นต้น ประโยชน์ : ลูกนอนมองโมบายล์อย่างสบายอารมณ์และเพลิดเพลิน แถมยังเอามือไขว่เอื้อมคว้าด้วย
- ของเล่นควรสีสลับให้เห็นอย่างเด่นชัด เช่น สีขาว-ดำ แดง-ขาว เขียว-น้ำเงิน บางชนิดทันสมัยมีกระจกเงาเล็กสะท้อนแสงแวบ ๆ ด้วย ประโยชน์ : เนื่องจากช่วง 3 เดือนแรกนี้ สายตาเด็กจะมองเห็นสิ่งของที่มีสีสันตัดกันได้ชัดกว่าสีเรียบ ๆ ลูกจะรู้จักมองตามของเล่น แม้ในตอนนี้จะมองได้ไม่ชัดเท่าผู้ใหญ่ อีกทั้งภาพและแสงสะท้อนในกระจกก็เรียกความสนใจได้ดีเช่นกัน
- มีเสียงดนตรีหรือเสียงกรุ๊งกริ๊งอยู่ในของเล่น ประโยชน์ : เด็กจะพยายามหาต้นกำเนิดของเสียง เพิ่มความสนใจของเล่นที่แขวนอยู่ในเปลได้อีกด้วย
- ของเล่นทารกวัย 4 เดือน - 6 เดือน วัยนี้สามารถเคลื่อนไหวตัวได้มากขึ้น และมีพัฒนาการหลายอย่างมากขึ้นด้วย เช่น การคว้าจับถนัดขึ้น ฟันเริ่มขึ้น มองเห็นชัดขึ้น ฉะนั้นของเล่นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเข้ากับพัฒนาการลูกได้ด้วย
- ยางกัดนิ่ม ๆ ควรเลือกที่ได้คุณภาพเป็นพลาสติกหรือยางที่มีความคงทนแข็งแรง เมื่อบีบดูแล้วไม่มีของเหลวข้างในไหลออกมา เลือกสีสันให้สดใสหรือมีลูกเล่นข้างในยางกัดด้วยก็ได้ ประโยชน์ : วัยนี้ฟันกำลังขึ้น ถ้าสังเกตจะเห็นว่า ลูกจะชอบหยิบจับของเข้าปาก จึงควรเตรียมยางกัดเอาไว้เป็นของเล่นแก้คันเหงือกดีกว่าคว้าของอย่างอื่นมากัดเล่น
- กรุ๊งกริ๊งหรือตุ๊กตานิ่มที่มีเสียงกระดิ่งดังข้างใน แต่ต้องสังเกตด้วยว่ากระดิ่งและสีไม่หลุดลอกง่าย พลาสติกต้องไม่มีขอบคม แตกหักยาก สีสดใสเหมาะมือ ประโยชน์ : ลูกเริ่มใช้มือในการคว้าจับ และถ้ามีเสียงด้วย ก็จะยิ่งอยากจับและเขย่า ช่วยให้ลูกใช้มือและกล้ามเนื้อแขนได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ
- ของเล่นทารกวัย 7 เดือน - 9 เดือน บางคนก็เริ่มคลานคล่องแล้ว ของเล่นก็ต้องเพิ่มลูกเล่นไปตามศักยภาพของลูก ให้สมกับวัยนักสำรวจตัวน้อย
- เลือกเครื่องเล่นที่ต้องใช้ทักษะหลาย ๆ ด้าน เช่น กดแล้วมีเสียงต่าง ๆ ต้องใช้การหมุน บิด ตี ดึง เป็นต้น
- บล๊อกอันเล็ก ๆ ทรงสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม วงกลม หรือตัวต่อทักษะง่าย ๆ ทำจากไม้หรือผ้า ประโยชน์ : ได้ใช้ความคิดหยิบจับไปวางตรงนู้นตรงนี้ ตาเริ่มสัมพันธ์กับมือไปเรื่อย ๆ
- หนังสือก็เป็นของเล่นได้เหมือนกัน แต่ควรเป็นหนังสือที่มีภาพสวยงามสดใส เหมือนจริง เล่มใหญ่ และตัวหนังสือน้อย หรือเป็นหนังสือผ้าที่แต่ละหน้ามีพื้นผิวต่าง ๆ ให้ลูกจับสัมผัส ประโยชน์ : เป็นการปลูกนิสัยรักการอ่าน เด็กจะรู้สึกว่าหนังสือคือสิ่งที่สามารถจับต้องได้เคยชิน และได้เรียนรู้ จดจำภาพแต่ละภาพที่มีอยู่ในหนังสือด้วย
- ของเล่นทารกวัย 10 เดือน - 1 ขวบ เริ่มซนจนจับไม่อยู่แล้ว แต่ในขณะเดียวกันของเล่นก็ยังมีความจำเป็นต่อการพัฒนาเด็กมากอยู่ดี เพราะระหว่างที่เขาได้เล่นจะเกิดความสุขใจ เกิดประสบการณ์จากการเล่น พัฒนาทั้งสติปัญญาและร่างกายอีกด้วย
- ของเล่นมีลักษณะต่าง ๆ สี่เหลี่ยม กากบาท รูปดาว เป็นต้น ใส่ช่องตามรูปร่าง หรือหยิบใส่ เทออกจากกล่องบรรจุ
- ของเล่นที่มีล้อ เช่น รถชนิดแล่นไปแล้วชนกำแพงตีลังกากลับมาได้เอง รถดึงลาก มีเสียง ประโยชน์ : ล่อตาล่อใจให้ลูกเคลื่อนตัวไปจับไปเข็น ซึ่งเมื่อเคลื่อนไหวบ่อยครั้ง แขนขาก็จะแข็งแรงขึ้นไม่ล้มง่าย

แล้วของเล่นนั้นช่วยให้เด็กได้เรียนรู้สิ่งแวดล้อมรอบตัวด้วยการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือการมองเห็น การได้ยิน การใช้ปาก จมูก และการสัมผัส หากเราเสริมเติมเต็มสิ่งเหล่านี้ได้ก็จะดีมาก เด็กจะได้เริ่มเรียนรู้หลักพื้นฐานของเหตุผลและผลจากการเล่นด้วยนั่นเอง
"ของเล่น" เป็นสื่อที่ช่วยกระตุ้นพัฒนาการของเด็ก ช่วยทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และช่วยเรื่งความสนุกสนานอีกด้วย แต่อย่าเพิ่งซื้อของเล่นเด็กให้ลูก
ของเล่นเด็ก 5 ประเภท เลือกของเล่นให้ลูก เลือกให้ถูก เล่นได้นาน
ถ้าพ่อแม่ยังไม่รู้ว่าของเล่นเด็กมีกี่แบบและแบบไหนเหมาะกับลูกเรา นี่คือ 5 ประเภทของเล่นเด็กเสริมพัฒนาการที่พ่อแม่ต้องรู้ เลือกได้ถูก เล่นได้นาน ไม่เปลืองเงินซื้อของเล่นบ่อยๆ
ประเภทของของเล่นเด็ก
1. ของเล่นที่ให้เด็กได้ออกแรง (Active play)
ประเภทกีฬา เช่น ลูกบอล จักรยานสามล้อ อุปกรณ์ยิมนาสติก ประโยชน์คือ เสริมสร้างร่างกายและกล้ามเนื้อให้แข็งแรง อาจจะรวมถึงอุปกรณ์กีฬา เช่น ไม้แบตมินตันสำหรับเด็ก
2. ของเล่นที่เด็กต้องสร้างขึ้นและควบคุมการเล่นเอง (Manipulative play)
เด็ก ๆ สามารถต่อ หรือประกอบให้เป็นรูปร่างได้ เช่น เลโก้ ไม้บล็อก จิ๊กซอว์ หรือโมเดลชุดหุ่นยนต์ ประโยชน์คือ ฝึกกล้ามเนื้อมือ และช่วยฝึกทักษะทางด้านคณิตศาสตร์ อย่างการก่อทรายหรือการต่อไม้บล็อก เด็กจะต้องคำนวณให้ฐานใหญ่เพื่อที่ยอดด้านบนจะไม่ล้ม
3. ของเล่นที่เลียนแบบของจริง (Make-Belive play)
เช่น ชุดจำลองอุปกรณ์ทำครัว ชุดเครื่องมือหมอ และชุดแต่งตัวตุ๊กตาบาร์บี้ เป็นต้น ประโยชน์คือ ฝึกทักษะให้เด็กได้ใช้ของเหมือนจริงเพื่อเติมเต็มจินตนาการ เอื้อให้การเล่นบทบาทสมมติของเด็กสมบูรณ์แบบขึ้น
4. ของเล่นส่งเสริมจินตนาการ (Creative play)
คือของเล่นประเภท สีน้ำ สีไม้ แป้งโด ดินน้ำมัน หรือเครื่องดนตรี ประโยชน์คือ ส่งเสริมจินตนาการของเด็กให้บรรเจิด
5. ของเล่นเพื่อการเรียนรู้ (Learning play)
คือ ของเล่นเพื่อการพัฒนาทักษะ เช่น นิทาน หรือเกม ชุดทดลองวิทยาศาสตร์ ประโยชน์คือ ตอบสนองการเรียนรู้ที่ไม่หยุดยั้งของเด็กวัยคิดส์ คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องเล่นด้วยเพื่อให้ของเล่นนั้นสัมฤทธิ์ผลและไม่ควรเลือกของเล่นที่ยากเกินกว่าเขาจะเข้าใจนะคะ อาจจะเริ่มต้นด้วยเกมเศรษฐี หรือเกมบันไดงู
วิธีซื้อของเล่นเด็กให้คุ้มทั้งเงินและประโยชน์กับลูก
- เหมาะกับวัยของลูก โดยดูจากสัญลักษณ์ที่ระบุไว้ข้างกล่อง
- มาตรฐานการันตี สังเกตเครื่องหมาย มอก. (มาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรม) เป็นเครื่องหมายที่ใช้ในประเทศไทย
- แข็งแรงทนทาน ไม่ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนหรือวัสดุที่แตกง่าย ตัวกล่องบรรจุของเล่นต้องแข็งแรงและทนทาน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับของเล่น
- วัสดุที่นำมาประกอบต้องไม่เป็นชิ้นเล็ก ๆ ที่หลุดออกง่าย
- ของเล่นอิเล็กทรอนิกส์ ต้องไม่เกิดความร้อนมากเกินไป ไม่เสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าดูด ไม่ใช้ไฟเกินกว่า 24 โวลต์
- หลีกเลี่ยงของเล่นที่ต้องใช้ความรุนแรงหรือมีเสียงดังเกิน 85 เดซิเบลในการเล่น เช่น ปืน ลูกดอก หรือประทัดที่อันตรายและก่อเสียงดังทำลายหู
- สีและพลาสติกที่ใช้ต้องไม่มีส่วนผสมของสารตะกั่ว ปรอท โครเมียม สารหนู พลวง แบเรียม แคดเมียม หรือมีในปริมาณที่มอก.วางมาตรฐานไว้
- คำอธิบายชัดเจนบนกล่องของเล่น ระบุถึงส่วนประกอบและวัสดุที่ใช้ทำของเล่น รวมไปถึงโรงงานที่ผลิต ถ้าเป็นของเล่นนำเข้า ต้องมีบริษัทหรือโรงงานที่นำเข้าของเล่น และมีคำอธิบายการเล่นอย่างละเอียดด้วย เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดและใช้งานผิดวัตถุประสงค์นั่นเอง
- ถ้าเป็นของเล่นที่เลียนแบบเครื่องป้องกันตัว เช่น หมวกกันน็อก หรือแว่นตาที่เลียนแบบนักวิทยาศาสตร์ จะต้องมีข้อความเตือนเหล่านี้ "ไม่สามารถใช้ป้องกันอันตรายได้เหมือนของจริง" "ไม่สามารถใช้ป้องกันแสงอุลตร้าไวโอเลตได้" "อย่าวางใกล้วัตถุไวไฟหรือใกล้ความร้อน" "อย่ายิงใกล้ตาหรือหู"
ของเล่นที่ไม่ควรให้ลูกเล่น
ลูกปัด ลูกแก้ว เมล็ดพืช และของเล่นชิ้นเล็ก ๆ ด้วยสีสันและขนาด เด็กเล็กอาจจะเผลอไผลนำเข้าปากได้ง่าย
ลูกโป่ง เด็กเล็กอาจเจ็บตัวจากแรงแตกของลูกโป่ง
ของเล่นที่มีสายยาว เพราะถึงแม้กล้ามเนื้อมือกล้ามเนื้อแขนจะพัฒนาไปมากแล้ว แต่ถ้าเชือกพันคอหรือแขนเด็กไม่สามารถคลายปมเชือกได้เอง
ปืนอัดลม ปืนลูกดอก ธนู มีดปลอม ของเล่นที่ทำคล้ายอาวุธ ด้วยแรงอัดเมื่อโดนตาจะทำให้เลือดออกในช่องลูกตา ทำให้ตาบอดได้และอาจส่งผลถึงพฤติกรรมคือทำให้เขาซึมซับพฤติกรรมก้าวร้าวจากของเล่นที่ใช้ความรุนแรงด้วย
ลูกโป่งวิทยาศาสตร์ เพราะมีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสมองเด็ก
เบบี้คริสตัล เมื่อโดนน้ำจะพองตัวได้ถึง 400 เท่า ถ้าเด็กเผลิเอาเข้าปาก อาจทำให้ลำไส้อุดตัน และเสียชีวิตได้
นกหวีดเป่าลม มีโอกาสที่ไส้นกหวีดจะหลุดเข้าหลอดลมได้
ของเล่นสไลม์ อาจมีเชื้อโรคและสารตกค้าง
ของเล่นที่มีแบตก้อนกลม ที่ไม่มีฝาปิดแน่นสนิท เพราะเด็กอาจแกะแบตเตอรี่เอามาเล่น เอาเข้าปาก หรือยัดจมูก

ของเล่นลูกทารกไม่ต้องไปหาที่ไหน ตัวพ่อแม่นั่นแหละค่ะที่เป็นของเล่นที่ดีที่สุด นี่คือ 4 การเล่นที่สนุกได้พัฒนาการแน่นอน
พ่อแม่คือของเล่นที่ดีที่สุด 4 วิธีเล่นกับลูกทารก สนุกได้พัฒนาการจนต้องเล่นทุกวัน
ลูกวัยขวบปีแรก นอกจากจะโตวันโตคืนแล้ว ยังมี พัฒนาการเด็ก ด้านต่างๆ เป็นไปอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าพ่อแม่ส่วนใหญ่ก็มักจะสรรสร้าง เพียรพยายามหาของเล่นที่ได้รับการยอมรับว่าช่วยกระตุ้น พัฒนาการเด็ก ได้ แต่ต้องบอกว่า เสียง สีหน้า ท่าทางและร่างกายของคนเป็นพ่อแม่เนี่ยแหละค่ะ สุดยอดของเล่นของลูกเลยทีเดียว
มาทำตัวเป็นของเล่นกับ 4 เกมสนุกของลูกกันค่ะ
- รถยกโยกเยก
พ่อหรือแม่สามารถทำตัวเป็นรถยกโยกเยกได้ไม่ยาก เพียงจับลูกวางบนขา ยกขาขึ้นเพื่อให้ลูกได้ลอยตัวสำรวจอากาศ เห็นสิ่งรอบตัวในมุมมองใหม่ๆ ที่ต่างไปจากเดิม แบบนี้กระตุ้นพัฒนาการการมองเห็นของลูกได้ดี และทำให้ลูกเคลื่อนไหวแขนขาได้อย่างอิสระ
- เสียงดนตรี
เสียงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงดีดนิ้ว ผิวปาก ปรบมือ สร้างความตื่นตาให้ลูกไม่ใช่น้อย เมื่อพ่อแม่ทำเสียงเหล่านี้ เสริมด้วยใบหน้าที่แสดงความรู้สึกหลายๆ แบบ ให้ลูกใช้มือสัมผัสรูปหน้าที่แปลกตา พร้อมๆ กับเพลินไปกับการฟังเสียง ได้ทั้งเรื่องของการมองเห็น การได้ยินและการสัมผัสไปพร้อมกัน เสียงสูง ทำให้ลูกรู้สึกปลอดภัยและสดใสร่าเริง ส่วนเสียงต่ำ ทำให้ลูกสงบเงียบและพึงพอใจ
- ภูเขาลูกใหญ่
ร่างกายพ่อแม่ก็เหมือนภูเขาลูกโต ที่ให้ลูกได้ปีนป่าย นอกจากจะสนุกสนานแล้ว ยังได้กล้ามเนื้อแขนขาที่แข็งแรงขึ้นด้วย ใช้มือของคุณประคองเผื่อลูกเซหรือล้ม และโอบกอดเบาๆ เมื่อลูกทำสำเร็จเพื่อให้กำลังใจ
- ม้าหมุน
ให้ลูกได้เห็นโลกแบบ 360 องศา ได้มองสิ่งรอบตัวในอีกมุมหนึ่ง นอกจากจ้องมองสิ่งต่างๆ แล้ว ลูกจะจ้องมองใบหน้าพ่อแม่ที่ช่วยสร้างความเพลิดเพลินนี้ด้วย เล่นเสร็จแล้วกอดลูกซักหน่อย เพื่อให้ลูกรู้สึกอุ่นใจ ขึ้นม้าหมุนรอบนี้ได้ฝึกทั้งสายตาและการทรงตัว
ผลพลอยได้จากการแปลงร่างเป็นเครื่องเล่นแสนสนุกของลูก เปิดโอกาสให้คุณได้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวร่างกาย เข้ากับสโลแกนที่ว่า แค่ขยับ=ออกกำลังกาย ดังนั้นไม่ใช่แค่พัฒนาการเด็ก และความอบอุ่นมั่นใจเท่านั้นที่ลูกจะได้ พ่อแม่เองก็ได้ส่วนหนึ่งของสุขภาพกายใจที่ดีด้วยเช่นกันค่ะ
เคล็บลับการเล่นกับลูก
ของเล่นสำหรับลูกนั้นมีหลายรูปแบบ คุณพ่อคุณแม่สามารถครีเอทวิธีการเล่นตามแบบฉบับของตัวเองได้ ลองค้นหาวิธีการเล่นไปเรื่อยๆ แล้วคุณก็จะค้นพบวิธีการเล่นที่เหมาะสมกับลูกและตัวคุณเอง หรือจะนำ 4 วิธีที่นำมาฝากกันคราวนี้ไปประยุกต์ใช้ต่อก็ได้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ค่ะ

HBL Group ร่วมกับ Megabangna เปิด “เมกา ฮาร์เบอร์แลนด์” ที่เที่ยวสำหรับเด็ก ในคอนเซ็ปต์ “Happy farm ฟาร์มสนุก” เน้นให้ทุกคนในครอบครัวใช้เวลาแห่งความสุขร่วมกัน เมกา ฮาร์เบอร์แลนด์ สนามเด็กเล่นในร่มที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ มีสวนสนุกหลายโซน ให้น้องๆได้ฝึกทักษะมากขึ้น เช่นโซนขับรถไฟฟ้าที่เสมือนจริงตามกฎระเบียบจราจร สามารถให้พ่อแม่ผู้ปกครองเข้าไปนั่งขับได้อีกด้วยและยังได้ฝึกวินัยให้กับเด็กๆ ด้วยนะคะ แถมมียิงเลเซอร์ให้น้องๆ ได้ฝึกความแม่นยำอีกด้วย มีเครื่องเล่นหลายชนิดให้น้องๆ ได้เข้าไปสัมผัสมากมายเลย



ปัจจุบันสนามเด็กเล่นในร่มภายใต้ฮาร์เบอร์แลนด์ กรุ๊ป เปิดให้บริการแล้ว 10 แห่ง คุณพ่อคุณแม่ใกล้ที่ไหนก็พาลูกไปเล่นเพื่อความสนุกสนานหรือจะไปทั้งครอบครัวเลยก็ได้นะคะ
สาขาที่เปิด วันจันทร์ - วันอาทิตย์ เวลา 11:00 น. - 19:00 น. มี 5 สาขา ดังนี้
-
ฮาร์เบอร์แลนด์ พัทยา
-
ฮาร์เบอร์แลนด์ ตึกคอม อุดรธานี
-
ฮาร์เบอร์แลนด์ ตึกคอม ชลบุรี
-
ฮาร์เบอร์แลนด์ ตึกคอม ศรีราชา
-
ฮาร์เบอร์แลนด์ เทอร์มินอล21 โคราช
สาขาที่เปิด วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 11:00 น. - 20:00 น. และ วันเสาร์ - วันอาทิตย์ (วันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา 10:00 น. - 20:00 น. เวลา มี 5 สาขา ดังนี้
-
ฮาร์เบอร์แลนด์ แฟชั่นไอซ์แลนด์
-
ฮาร์เบอร์แลนด์ เมกา บางนา
-
ฮาร์เบอร์แลนด์ แฟชั่นไอซ์แลนด์
-
ฮาร์เบอร์แลนด์ เกตเวย์ เอกมัย
-
ฮาร์เบอร์แลนด์ โรงแรมสินธร มิดทาวน์
รายละเอียดการติดต่อ




----ค่าบริการของแต่ละโซนใน ฮาร์เบอร์แลนด์ สาขาเมกาบางนา คลิกดูได้ที่แกลอรี่----

สถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งแห่ง ที่ควรพาลูกไปเที่ยว "Playville หมู่บ้านเด็กเล่น"
วันหยุดสุดสัปดาห์เสาร์-อาทิตย์ คุณพ่อคุณแม่พาเจ้าตัวเล็กมาพักผ่อนในวันสบายๆ กันที่ Playville หมู่บ้านเด็กเล่น ย่านสุขุมวิท 49 กันดีกว่า เพราะที่นี้มีเครื่องเล่นมากมาย ที่สำคัญปลอดภัยสำหรับเด็กๆ ทำให้ลูกรักมีความสุข สนุกสนานได้ทั้งวัน พื้นที่แห่งนี้เปรียบเสมือนหมู่บ้านแห่งการเล่น สำหรับน้องๆ อายุ 6 เดือนถึง 6 ปี นอกจากโปร่งโล่งสบาย และออกแบบเก๋แล้ว รับรองว่าเด็กๆ จะได้รับประโยชน์ผ่านการเล่นทั้ง 7 ด่านด้วยค่ะ
โซนต่างๆ ประกอบด้วย
- Physical Play ผ่านการปีนป่าย กระโดด และวิ่งเล่นไปรอบๆ
- Constructive Play ผ่านการคิดและสร้างด้วยตัวเอง
- Expressive Play ผ่านการแสดงอารมณ์ทางงานศิลปะ
- Dramatic Play ผ่านการจินตนาการเกินกว่าตาเห็น
- Sensory Play ผ่านการสำรวจด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า
- Language Play ผ่านการร้องเพลงหรือฟังเรื่องเล่า
- Social Play ผ่านการเล่นด้วยกันกับเพื่อนๆ
ข้อควรระวังสำหรับโซนกระดานลื่น
โซนที่เด็กๆ หลายคนชื่นชอบ คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยระวังอย่างใกล้ชิดเลยนะคะ เพราะเจ้าตัวเล็กยังคงทรงตัวไม่เก่ง พอได้ไถลถึงด้านล่าง อาจทำเด็กๆ หัวไปกระแทกได้ค่ะ ถ้าโป๊กแรงขอเจลประคบเย็นที่พนักงานได้ เค้ามีเตรียมไว้ให้ค่ะ วิธีเซฟก็ให้น้องลื่นลงมาแบบนอนคว่ำหน้า (เอาเท้าลง) ก็สนุกไปอีกแบบนะคะ
รายละเอียดต่างๆ ของ Playville หมู่บ้านเด็กเล่น
ค่าบริการ
- วันธรรมดา : เด็ก 350 บาท ฟรีผู้ใหญ่ 1 คน ผู้ใหญ่คนต่อไป 100 บาท (ต่อ 2 ชั่วโมง) / เด็ก 450 บาท ฟรีผู้ใหญ่ 1 คน ผู้ใหญ่คนต่อไป 100 บาท (เหมาทั้งวัน)
- สุดสัปดาห์ / วันหยุดพิเศษ: เด็ก 350 บาท ผู้ใหญ่ 100 บาท (ต่อ 2 ชั่วโมง) / เด็ก 450 บาท ผู้ใหญ่ 100 บาท (เหมาทั้งวัน)
หมายเหตุ
- คิดเพิ่ม 50 บาท / 30 นาทีที่เกินมา
- มีที่จอดรถและบริการรับจอดรถ สแตมป์บัตรจอดรถฟรี
- อย่าลืมใส่ถุงเท้าทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แต่ที่นี่ก็มีขายนะคะ ผู้ใหญ่หรือเด็กราคาเดียว 50 บาท

ช่วงวันหยุด มาทำกิจกรรมกับลูก ๆ กันค่ะ กับบอร์ดเกม Pop to the Shops แสนสนุก สอนน้อง ๆ ให้รู้จักการใช้เงิน คิดคำนวณ เกมขายดีที่ไม่ควรพลาดค่ะ
รีวิวบอร์ดเกม Pop to the Shops พร้อม 4 เหตุผลทำไมคุณต้องซื้อให้ลูกเล่น
บอร์ดเกมที่เล่นสนุกได้ทั้งครอบครัว สอนน้อง ๆ ให้รู้จักคิดวางแผน บริหารการใช้เงิน ส่งเสริมทักษะการคำนวณ ผ่านบทบาทสมมติ ทั้งจากการวางแผนซื้อของตามร้านต่างๆ และการสวมบทบาทเป็นคนขาย เป็นเกมที่ช่วยพัฒนาทักษะ EF ได้เป็นอย่างดี เกมขายดีที่ไม่ควรพลาด เหมาะกับเด็กอายุตั้งแต่ 4-8 ปี ผู้เล่นตั้งแต่ 2-4 คน


อุปกรณ์ทั้งหมด
1.บอร์ดจิ๊กซอว์ 1 แผ่น
2.การ์ดรูปสินค้า 48 ใบ
3.บอร์ดกระเป๋าช้อปปิ้ง 4 ใบ
4.ตัวการ์ตูนรูปคน พร้อมที่ตั้ง 4 ตัว
5.ลูกเต๋า 1 อัน 6.เหรียญพลาสติก




วิธีเล่นบอร์ดเกม Orchard Toys, Pop to the Shops
1.ผู้เล่นทั้งหมด 2-4 คน แจกเงินตามจำนวนที่กำหนด เหรียญ 50p 2 เหรียน 20p 2 เหรียญ 10p 5 เหรียญ
2.คนที่มีอายุน้อยที่สุดในกลุ่มจะเป็นผู้เล่นคนแรก
3.ผู้เล่นคนแรกจะหยิบการ์ด 1 ใบ (การ์ดต้องไม่ใช่ของที่มีในร้านค้าตัวเอง) และทอยลูกเต๋า 1 ครั้ง เดินไปตามทางเพื่อซื้อของตามที่หยิบการ์ดได้
4.ใครเดินผ่านธนาคารจะได้เงิน 20p
5.ทำตามนี้ไปเรื่อย ๆ จนผู้เล่นที่ซื้อของครบ 6 อย่างโดยไม่จ่ายเกินเงินที่มีอยู่ เป็นผู้ชนะ
บอร์ดเกม Pop to the Shops การันตรีด้วย 3 รางวัล ได้แก่
- Awards Good Toy Guide 2013
- Right Start Best Toy Bronze Award
- Kids Out Toy Guide Silver Award
4 เหตุผลทำไมคุณต้องซื้อ บอร์ดเกม Orchard Toys, Pop to the Shops ให้ลูก
1.เด็กได้เรียนรู้การจัดการเงิน การนับเลข เพื่อจ่ายเงินและทอนเงิน
2.สร้างให้เด็กรู้จักมีจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์
3.ฝึกการสังเกต จดจำ
4.ส่งเสริมการเข้าสังคม การแบ่งปัน การให้ และการรับร่วมกับผู้เล่นคนอื่น ๆ
บอร์ดเกม Orchard Toys, Pop to the Shops เป็นอีกหนึ่งของเล่นที่น่าซื้อให้ลูกมาก ๆ ค่ะ เด็กจะได้เรียนรู้การจัดการเงิน การนับเลข เพื่อจ่ายเงินและทอนเงิน ผ่านเกมสนุก ๆ ให้น้อง ๆ ได้สลับกันซื้อของ ขายของ ผู้เล่นที่ซื้อของครบ 6 อย่างโดยไม่จ่ายเกินเงินที่มีอยู่ เป็นผู้ชนะ!!
คุณพ่อคุณแม่สามารถสั่งซื้อ บอร์ดเกม Pop to the Shops ในราคาพิเศษเพียง 1,050 บาท ได้ที่
Facebook Fanpage รักลูกคลับ : http://m.me/raklukeclub
Line @raklukeselect : https://lin.ee/hV8pQ4
Shopee : http://tiny.cc/a1gvtz
คลิปรีวิว

ลูกวัย 1-3 ปี ต้องเล่นอะไรถึงจะดีต่อพัฒนาการ
พัฒนาการทุกด้านของเด็กนั้นเป็นสิ่งที่ต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการที่จะพัฒนาให้ครบรอบด้านมีปัจจัยสำคัญหลายอย่าง และหนึ่งในนั้นก็คือการเล่นที่เหมาะสมกับวัย
วัย 1-2 ปี
เด็กวัยนี้เริ่มเดินได้เองแม้จะไม่มั่นคงนัก แต่ก็ชอบเกาะเกี่ยวเฟอร์นิเจอร์เครื่องเรือนเดินจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง เป็นการเรียนรู้เรื่องระยะทางและฝึกการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อต่างๆ ลูกจะสนุกกับสิ่งใหม่ๆ ที่ได้พบเห็น ชอบปีนป่ายขึ้นบันได มุดโต๊ะ พ่อแม่จึงต้องใส่ใจเรื่องความปลอดภัยให้มาก และวัยนี้ชอบขีดๆ เขียนๆ เข้าใจคำพูดรวดเร็วมาก ใครพูดอะไรจะพูดตามทันที
เล่นเสริม :
- พัฒนาการร่างกาย ของเล่นควรเป็นประเภทลากจูงไปมาได้ เช่น รถไฟ หรือรถลากต่อกันเป็นขบวน หรือกล่องกระดาษมีเชือกร้อยต่อกัน
- พัฒนาการสมอง การเล่นสำรวจที่ใช้ประสาทสัมผัสและการเคลื่อน ไหวอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น การให้เด็กบริหารแขนขา การเล่นดิน-ทราย-น้ำ การหยิบของตามคำบอก เป็นต้น
- พัฒนาการทางภาษา หาเพลงง่ายๆ ประเภท Music for Movement สนุกๆ มาให้ลูกฟัง ร้องและเต้นตามจังหวะ หรือจะเล่นเกมร่างกายของหนูสอนให้ลูกรู้จักชื่ออวัยวะต่างๆ ก็ได้เช่นกัน
Concern : ของเล่นที่มีขนาดเล็ก ของเล่นแหลมคมและมีน้ำหนักเกิน อาจเกิดอุบัติเหตุได้จากการขว้างปา ขนาดของรูหรือช่องต่างๆ ในของเล่นควรมีขนาดเล็กหรือใหญ่กว่านิ้วมือทุกนิ้ว เพื่อป้องกันการติดของนิ้วมือ
วัย 2-4 ปี
เด็กวัยนี้อยากรู้อยากเห็นทุกอย่าง เคลื่อนไหวได้คล่องขึ้นและทรงตัวได้ดีเพราะกล้ามเนื้อแขนขาแข็งแรงขึ้นมาก ทำให้ชอบเล่นออกแรงมากๆ ทั้งวิ่งเล่น กระโดด ปีนป่ายม้วนกลิ้งตัว เตะขว้างลูกบอล และขี่จักรยานสามล้อซึ่งช่วยฝึกกล้ามเนื้อใหญ่ให้แข็งแรงและเคลื่อนไหวได้คล่องขึ้น ควบคุมกล้ามเนื้อเล็กได้ดีขึ้น สามารถเล่นใช้นิ้วมือหยิบจับหรือหมุนได้
เล่นเสริม :
- พัฒนาการร่างกาย กล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น กระโดด ปีนป่ายม้วนกลิ้งตัว เตะขว้างลูกบอล และขี่จักรยานสามล้อ และกล้ามเนื้อมัดเล็ก เช่น บล็อกหยอดกล่องรูปทรง ภาพตัดต่อ เป็นต้น
- พัฒนาการทางสมอง ชอบเล่นอิสระและเลียนแบบท่าทางของคนและสัตว์จำลองบทบาทสมมติด้วยของเล่นเหมือนจริงจะช่วยเสริมจินตนาการให้แสดงออกอย่างสร้างสรรค์ อีกทั้งยังสนใจฟังนิทาน เรื่องเล่าและหนังสือภาพ ชอบแสดงท่าทางประกอบและเคลื่อนไหวตามจังหวะเพลง
- พัฒนาการทางสังคมและภาษา เริ่มเล่นกับเด็กอื่นมากขึ้นและทำงานเป็นกลุ่มได้ เช่น แสดงบทบาทสมมติ และเล่นขายของ ซึ่งเด็กวัยนี้จะมีการพูดจาสื่อสารกันระหว่างที่เล่นมากขึ้น
Concern : ด้วยวัยที่มีจินตนาการสูง พ่อแม่จึงควรการตักเตือนและแนะนำการเล่นด้วยเหตุผล เพื่อให้ลูกไม่นำเอาจินตนาการไปเล่นแบบเสี่ยงๆ หรือเป็นพื้นฐานความรุนแรง เช่น เลี่ยงเล่นต่อสู้ ไม่ซื้อของเล่นที่เลียนแบบอาวุธ ฯลฯ
ประโยชน์จากของเล่นเสริมพัฒนาการ
1.ฝึกแก้ไขปัญหา
ของเล่นเสริมพัฒนาการ เช่น การต่อบล็อกไม้ การต่อจิ๊กซอว์ หรือกล่องหยอดรูปทรง จะช่วยให้ลูกรู้จักการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นว่าจะต้องทำอย่างไร เพื่อให้เล่นได้สำเร็จ
2.เสริมสร้างจินตนาการ
ลองนึกถึงภาพเด็กกำลังเล่นรถถัง รถบังคับ อุลตร้าแมน หรือตัวการ์ตูนยอดฮิต อย่าง Ben 10 สิคะ เขาจะใช้ปากทำเสียงต่าง ๆ อย่างสนุกสนาน นั่นเพราะเด็กได้นำตัวเองเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของความคิดและจินตนาการที่สร้างขึ้น ซึ่งถือเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กสนใจในสิ่งต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น
3.ร่างกายแข็งแรง
เพราะลูกน้อยได้ใช้ทั้งกล้ามเนื้อมัดเล็ก มัดใหญ่ แขนและขาจึงได้ขยับ ซึ่งถือเป็นการออกกำลังกายที่ดี ที่จะช่วยให้เขามีศักยภาพในการเรียนรู้โลกกว้างในอนาคต
ของเล่นเป็นอีกตัวช่วยสำคัญในการสร้างพัฒนาการที่ดีของลูกน้อยได้ค่ะ คุณพ่อคุณแม่หาเวลาว่างทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ ที่บ้านกันด้วยนะคะ

ไปกันแม่ งานสินค้าเด็กนานาชาติ Kind + Jugend ASEAN 2024 รับรองได้ของถูกใจแน่นอน
ใครว่าประเทศไทยไม่มีงานสินค้าเด็กนานาชาติ... มีค่ะ คุณแม่บก.จะมาชวนไปงาน Kind + Jugend ASEAN 2024 มหกรรมสินค้าเพื่อสร้างเครือข่ายและเจรจาธุรกิจ (B2B) จาก บจก.โคโลญเมสเซ่ รัฐวิสาหกิจประเทศเยอรมนี ผู้จัดงานแสดงสินค้าพรีเมียมชั้นนำของโลก ในกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับทารกและเด็กเล็ก เดิมมีจัดงาน Kind + Jugend ดังกล่าวนี้ที่เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี ก่อนจะขยายตลาดสู่ประเทศบราซิล และประเทศไทย ในเวลาต่อมา โดย บจก.โคโลญเมสเซ่ ปัจจุบันดำรงธุรกิจครบ 100 ปี มีเครือข่ายอยู่ทั่วโลกกว่า 100 ประเทศ
***คลิ๊กที่นี่! เพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมงานกันค่ะ >>> https://mobile.eventpassinsight.co/registration/create/kja24/?code=2024

ด้วยเครือข่ายดังกล่าวทำให้งาน Kind + Jugend ASEAN สามารถดึงบริษัทชั้นนำด้านสินค้าแม่และเด็กจากนานาประเทศ ทั้งสหรัฐอเมริกา, เยอรมนี, สหราชอาณาจักร, เบลเยียม, ฮ่องกง, สิงคโปร์, ไต้หวัน และอื่น ๆ ถือว่าเป็นงานเดียวในอาเซียน ที่มีแบรนด์ดังจากทั่วโลกบินตรงมาจัดแสดงสินค้าแบบครบจบในงานเดียว

นอกจากนี้ สินค้าดังกล่าว ยังคัดสรรมาเฉพาะสินค้าทันสมัย ตอบโจทย์ตลาดและพฤติกรรมของพ่อแม่ยุคใหม่แบบเราด้วยนะคะ ได้แก่
- ด้านโภชนาการ
- ส่วนผสมจากธรรมชาติ ปลอดสารเคมี
- บรรจุภัณฑ์ที่มีความยั่งยืน สามารถใช้ซ้ำได้
- พร้อมฟังก์ชันและนวัตกรรม



ยิ่งไปกว่านั้น ภายในงานยังมีKey Highlights ที่น่าสนใจอีก 3 ข้อ คือ
- Business Matching Programme ที่ทุกท่านสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ดูรายละเอียดของงานทั้งหมด ตั้งแต่ข้อมูลทั่วไป รายชื่อผู้จัดแสดงสินค้า และหัวข้อกิจกรรมสัมมนา ซึ่งสามารถทำนัดหมายก่อนงานเพื่อพบเจอกันภายในงานได้อีกด้วย
- Trend Forum เวทีสัมมนาโดยผู้กำหนดทิศทางอุตสาหกรรมจากบริษัทชั้นนำ เพื่อให้ความรู้ และอัปเดตเทรนด์ธุรกิจ สำหรับทั้งผู้นำเข้าและผู้ประกอบการ ที่สนใจอยากจะขยายตลาด หรือกำลังมองหาโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจนี้ โดยแบ่งออกเป็น 4 ธีม ได้แก่ Product Opportunities & Customer Behavior, Product Inspiration, Product Innovative & High Technology และหัวข้อสุดพิเศษจากสมาคมอนุบาลศึกษาแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ฯ ที่จะมาพูดเกี่ยวกับการพัฒนาเด็กอย่างมีคุณภาพ และการพัฒนาสถานศึกษาให้ไปสู่เป้าหมาย
- Kind + Jugend ASEAN Innovation Award ประจำปี 2024 จัดขึ้นเพื่อมอบรางวัลสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่จากทั่วทุกมุมโลก ที่โดดเด่นด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี และประสิทธิภาพในการใช้งานระดับสูง ตัดสินโดยคณะกรรมการจากทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคม มหาวิทยาลัยที่เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน โดยแบ่งหมวดหมู่รางวัลตามประเภทดังนี้
- World of Moving Kids
- World of Travelling Kids
- World of Kids Furniture
- World of Kids Textiles
- World of Kids Care
- World of Kids Toys
- World of Nutrition & Infant Formula



แล้วงานKind + Jugend ASEAN เหมาะกับใครบ้าง?
- ผู้นำเข้า ที่มองหาสินค้าแม่และเด็กคุณภาพสูง ดิไซน์สวย มากด้วยฟังก์ชันและนวัตกรรม
- ผู้ประกอบการ ที่ต้องการมาอัปเดตเทรนด์ล่าสุด ทริกและหนทางสู่การขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ
- กลุ่มครอบครัว ที่กำลังต้องการสินค้าแม่และเด็กในราคาพิเศษ
โดยงานนี้จะเริ่มจัดตั้งแต่วันที่25-27 เมษายน 2567 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC), ฮอลล์ 5-6 กรุงเทพมหานคร
วันเจรจาธุรกิจ (Trade): 10:00-18:00 น.
- วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2567
- วันศุกร์ที่ 26 เมษายน 2567
- วันเสาร์ที่ 27 เมษายน 2567
วันทั่วไป (Public):
- วันศุกร์ที่ 26 เมษายน 2567: 14:00-18:00 น.
- วันเสาร์ที่ 27 เมษายน 2567: 10:00-18:00 น.
เห็นภาพแล้วน่าไปใช่ไหมล่ะค่ะ ยิ่งเป็นงานมหกรรมสินค้าเด็กระดับนานาชาติ แถมยังพรีเมียมด้วย งานนี้คุณพ่อคุณแม่ต้องไปให้ได้นะคะ⠀⠀⠀
***คลิ๊กที่นี่! เพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมงาน: [ https://mobile.eventpassinsight.co/registration/create/kja24/?code=2024 ]