จบปัญหาลูกทารกนอนยาก ลูกทารกไม่ยอมนอน ตื่นตอนกลางดึก ร้องไห้งอแง ด้วย 4 เทคนิคช่วยลูกหลับสบายตลอดทั้งคืน มาดูกันค่ะ

4 เทคนิคช่วยลูกทารกหลับสบาย นอนยาวตลอดคืน

1. ป้องกันความเปียกชื้น ให้หนูน้อยสบายตัว

ปัญหาที่มักจะพบบ่อยสำหรับเด็กแรกเกิด ทันทีที่รู้สึกไม่สบายตัวเพราะความเปียกชื้นจากปัสสาวะ หรือความอับชื้นจากอากาศ ลูกจะตื่นมาร้องงอแงเสมอ เพราะฉะนั้นช่วงกลางคืนที่ลูกใส่ผ้าอ้อมนอน การทาแป้งเด็กที่ป้องกันความเปียกชื้น และเคลือบผิวลูกจากความอับชื้น ช่วยให้ผิวแห้งสบาย และทำให้ลูกหลับได้ยาวขึ้น แต่ก็ต้องเลือกที่ปลอดภัย มาดูเคล็ดลับการเลือกแป้งเด็กอย่างไรให้ปลอดภัยกับลูกกันค่ะ

เคล็ดลับเลือกแป้งเด็ก

1. ผลิตจากธรรมชาติ เช่น แป้งข้าวเจ้า แทนส่วนผสมของทัลคัม เพื่อความปลอดภัยและสามารถย่อยสลายได้ด้วยจุลินทรีย์ในธรรมชาติ ไม่ตกค้างในร่างกายไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม
2. ป้องกันความเปียกชื้นได้ เพื่อความแห้งสบายตัวของลูก
3. สะอาด ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
4. ผ่านการทดสอบว่าไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ (Hypoallergenic)

วิธีทาแป้งสำหรับเด็ก เพียงคุณแม่เทแป้งเด็กลงบนฝ่ามือเล็กน้อย แล้วค่อย ๆ ทาลงบนผิวลูก และไม่ควรใช้แป้งโรยสะดือเด็กแรกเกิด หรือบริเวณจุดซ่อนเร้น เช่น อวัยวะเพศโดยตรง ระมัดระวังอย่าให้แป้งเข้าจมูกและปากของลูก หรือเทคนิคง่าย ๆ โดยใช้พัฟฟ์นิ่ม ๆ แทนการเทแป้ง เพียงซับพัฟฟ์ลงบนแป้งแล้วค่อย ๆ ลูบบริเวณผิวลูกน้อย วิธีนี้จะช่วยลดการฟุ้งกระจายของแป้งได้มากทีเดียวค่ะ

2. ฝึกลูกน้อยให้นอนเป็นเวลา

การพาลูกเข้านอนและตื่นตอนเช้าไม่ตรงเวลาทำให้ลูกสับสนได้ค่ะ วิธีแก้คือ ควรพาลูกเข้านอนตรงเวลา ทำบ่อย ๆ ให้ลูกคุ้นเคย อาจใช้ตุ๊กตา ผ้าห่มนิ่ม ๆ หรือหมอนใบโปรดของลูก มาเป็นตัวช่วยสร้างบรรยากาศการนอน ตอนที่ลูกหลับคุณแม่อย่าลืมห่มผ้าหรือห่อตัวให้ ลูกจะได้รู้สึกอบอุ่นและหลับสบาย

3. ปรับบริเวณห้องนอน ไม่ให้มีเสียงรบกวนลูก

ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่แค่เสียงดังแค่เล็กน้อยก็ทำให้ตื่นได้แล้ว ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรปรับสภาพแวดล้อมภายในห้องไม่ให้มีเสียงรบกวน หรือมีเสียงรบกวนน้อยที่สุด เพื่อไม่ให้รบกวนเวลานอนของลูกได้ค่ะ

4. กิจกรรมเบา ๆ ก่อนนอน

ก่อนนอนคุณพ่อคุณแม่สามารถทำกิจกรรมเบา ๆ กับลูกน้อย เช่น ร้องเพลงกล่อม เล่านิทาน หรือเปิดดนตรีเพลงทำนองสบาย ๆ เสียงสีขาว หรือภาษาอังกฤษว่า White Noise ลองใช้มือลูบบริเวณท้อง หลัง และลำตัวลูก เพราะการสัมผัสอย่างอ่อนโยนจะสามารถช่วยให้ลูกน้อยหลับสบาย ผ่อนคลาย อีกทั้งยังช่วยสานสัมพันธ์พ่อแม่ลูก

ประโยชน์ของการนอนที่ดีและมีคุณภาพ

1. ช่วยเรื่องการเจริญเติบโตของลูก ฮอร์โมนการเจริญเติบโต (Growth Hormone) จะหลั่งมากในเวลากลางคืน หลังจากที่หลับไปแล้ว 1-2 ชั่วโมง ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็ก โดยเฉพาะเรื่องความสูง
2. ช่วยเรื่องการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย จะสังเกตได้ว่าถ้าช่วงไหนที่เราไม่สบาย ร่างกายจะส่งสัญญาณให้เรามีความต้องการนอนมากกว่าปกติด้วยนั่นเอง
3. ช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ทุกครั้งที่ลูกนอนหลับร่างกายจะหลั่งสารไซโตไคน์ (Cytokine) ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ทำหน้าที่ในการต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ
4. ช่วยให้หัวใจแข็งแรง เด็กที่ได้นอนหลับอย่างเพียงพอ จะไม่มีความเสี่ยงจากภาวะหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
5. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ โดยเด็กที่นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอทำให้สมองทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีพัฒนาการทางสติปัญญา อารมณ์ สังคมที่ดีขึ้น

การนอนหลับของทารกยังส่งผลให้ตอนเขาตื่น การเรียนรู้ก็ยังคงต่อเนื่องและต่อยอดไปถึงอนาคต นี่จึงเป็นที่มาว่าทำไมการนอนถึงสำคัญกับเด็ก ๆ ค่ะ มาดูช่วงเวลาการนอนที่เหมาะสมของเด็กวัยแรกเกิด - 6 ปีกัน

ช่วงเวลานอนที่เหมาะสมในลูกวัยแรกเกิด – 6 ปี

• แรกเกิด – 3 เดือน นอนกลางวัน 8 – 9 ชั่วโมง + นอนกลางคืน 8 – 10 ชั่วโมง = 16 – 18 ชั่วโมงต่อวัน
• 3 – 6 เดือน นอนกลางวัน 5 – 6 ชั่วโมง + นอนกลางคืน 9 – 10 ชั่วโมง = 14 - 16 ชั่วโมงต่อวัน
• 6 – 12 เดือน นอนกลางวัน 3 – 4 ชั่วโมง + นอนกลางคืน 8 – 10 ชั่วโมง = 12 - 14 ชั่วโมงต่อวัน
• 1 – 2 ปี นอนกลางวัน 1 – 2 ชั่วโมง + นอนกลางคืน 11 – 12 ชั่วโมง = 13 – 14 ชั่วโมงต่อวัน
• 2 – 3 ปี นอนกลางวัน 1 – 2 ชั่วโมง + นอนกลางคืน 11 ชั่วโมง = 12 – 14 ชั่วโมงต่อวัน
• 3 – 6 ปี นอนกลางวัน 0 – 2 ชั่วโมง + นอนกลางคืน 10 – 11 ชั่วโมง = 11 – 13 ชั่วโมงต่อวัน

ชวนคุณพ่อคุณแม่มาสร้างช่วงเวลาการนอนที่มีคุณภาพให้ลูกกันค่ะ การฝึกให้ลูกนอนหลับยาวในช่วงเวลากลางคืน ถือเป็นภารกิจสำคัญอีกอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ จะดีแค่ไหนถ้าลูกน้อยสามารถนอนยาวนานขึ้น ไม่ตื่นมางอแงในช่วงเวลากลางคืนบ่อย ๆ โดยมีเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่หายเหนื่อย แถมช่วยสร้างพัฒนาการที่ดีของลูกได้อีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก www.reiscare.com

ตรวจสอบข้อมูลโดย นพ.ชาญสิริ เสกสรรค์วิริยะ

โสต ศอ นาสิกแพทย์ อนุสาขาเวชศาสตร์การนอนหลับ

โรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี

(พื้นที่โฆษณาและประชาสัมพันธ์)

ผลิตภัณฑ์ ReisCare Baby Powder ร่วมแสดงความยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่คนสำคัญในครอบครัวด้วยผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยสำหรับลูกน้อย ผ่านการส่งมอบ แป้งทาตัวเด็ก ReisCare ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติจากแป้งข้าวเจ้าที่ปราศจากทัลคัม ปลอดภัยต่อทารก ให้แก่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเพื่อใชในแผนกเนอสเซอรี่ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 และขยายไปสู่ 71 โรงพยาบาลชั้นนำครอบคลุมทั่วประเทศตลอดปี 2563 นี้

อากาศร้อนมักทำให้ลูกทารกเป็นผดร้อน ผื่นร้อนขึ้นเสมอเพราะผิวยังระบายเหงื่อได้ไม่ดี เมื่อเกิดผื่นร้อน ผดร้อน ต้องดูแลอย่างไร เรามีคำแนะนำค่ะ

ผื่นร้อน ผดร้อน ดูแลผิวลูกทารกอย่างไรในหน้าร้อนไม่ให้เป็นผดผื่น

หน้าร้อนแล้ว เด็กหลายคนมีปัญหาผิวที่อาจจะมี ผื่น หรือ ตุ่ม ขึ้นตามตัว ลำคอ หน้าผาก หรือจุดอับต่างๆ เนื่องจากผิวของเด็กเล็กยังบอบบางมาก และมีต่อมเหงื่อที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ เวลาสัมผัสกับอากาศร้อนจึงมีโอกาสเกิด ผดผื่นคัน ได้ง่าย ดังนั้นพ่อแม่จึงต้องใส่ใจดูแลเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้ลูกสบายตัวอยู่เสมอหลับสบาย ตื่นมาไม่งอแง สมองแจ่มใส มีพัฒนาการดีพร้อมเรียนรู้    

5 ปัญหาผิวที่ลูกทารกต้องเจอทุกหน้าร้อน

1. ผื่นอากาศร้อน เกิดจากการอุดตันของท่อเหงื่อด้านใน มีลักษณะเป็นผดแดง ผดใส หรือผดตุ่มหนอง มักเกิดบริเวณหน้าผาก คอ ข้อพับ และผิวใต้ผ้าอ้อม
   
   
2. ผื่นผ้าอ้อม มีสาเหตุมาจากความชื้นและเชื้อโรคที่แฝงตัวอยู่ในผ้าอ้อม เมื่อเสียดสีกับผิวหนังบางๆ ก็จะระคายเคืองจนเป็นรอยแดงและมีตุ่มสีแดงเล็กๆ หรือตุ่มใสเป็นหย่อมๆ มักเกิดขึ้นที่ใต้ร่มผ้า ต้นขา และหน้าท้องส่วนล่าง
   
   
3. ผื่นภูมิแพ้ เวลามีเหงื่อมากระตุ้น เด็กที่เป็นภูมิแพ้อาจมีตุ่มคันสีแดงเล็กๆ ที่บริเวณแก้ม ใบหน้า แขน ขา ข้อพับ ซอกคอ หรือบางคนอาจจะเป็นตุ่มใส ที่เวลาแตกก็จะยิ่งคัน
   
   
4. ผิวหนังอักเสบ ถ้าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาด ลูกอาจเสี่ยงติดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้ผิวหนังอักเสบ เป็นตุ่มหนองขึ้น และถ้าปล่อยให้ลูกเกาผิวหนังจนถลอก โอกาสติดเชื้อก็จะยิ่งสูงขึ้นค่ะ
   
   
5. ผื่นแพ้คราบไขมันหนังศีรษะ เป็นผื่นที่หนังศีรษะมีคราบไขมันคล้ายรังแคติดอยู่ ส่วนใหญ่พบบ่อยในเด็กแรกเกิด ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ถ้าหากเป็นมากหน่อย ก็อาจจะมีผื่นแดงที่ใบหน้า ซอกคอ และรักแร้ได้   

7 วิธีดูแลผิวลูกทารกในหน้าร้อน ห่างไกลผื่นร้อน ผดร้อน

1. อาบน้ำสระผมให้ลูกอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวลูก เสร็จแล้วเช็ดตัวให้แห้ง กรณีที่ลูกเป็นผื่นแพ้ไขมันให้ใช้น้ำมันมะกอกหรือเบบี้ออยล์ทาเบาๆ บนคราบไขมันแล้วทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที แล้วสระผม เพียงแค่นี้คราบไขมันและผื่นก็จะค่อย ๆ ลดน้อยลง
   
   
2. หลีกเลี่ยงการพาลูกออกไปเจอฝุ่น ควัน แดด เพราะจะทำให้ลูกเกิดการแพ้ ระคายเคือง หรือผิวแห้งแสบได้
   
   
3. เช็ดตัวบ่อยขึ้น เพื่อไม่ให้ผิวเกิดการอับชื้น โดยเฉพาะบริเวณซอกแขน ขา คอ ก้น
   
   
4. ให้ลูกสวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เช่น ชุดผ้าฝ้าย เป็นต้น
   
   
5. หมั่นเปลี่ยนผ้าอ้อมลูกบ่อยๆ ระวังอย่าให้ผ้ารัดแน่นเกินไป เพราะจะทำให้อากาศไม่ถ่ายเท และมีรอยกดทับบนผิวลูก ทำให้เกิดการระคายเคืองได้
   
   
6. ใช้แป้งเด็กทาตัวลูก ช่วยให้ผิวแห้งสบาย ลดการระคายเคืองจากเหงื่อและความเปียกชื้น และควรเลือกแป้งที่ผลิตจากธรรมชาติ เช่นแป้งข้าวธรรมชาติ ที่ปราศจากทัลคัม
   
   
7. ให้ลูกดื่มน้ำอย่างเพียงพอ เพื่อรักษาอุณหภูมิของร่างกาย ถ้าลูกอายุไม่เกิน 6 เดือน ควรให้กินแต่นมแม่อย่างเดียว  

นอกจากการดูแลผิวลูกแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรจัดสภาพแวดล้อมในบ้านให้โปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวก มีลมพัดผ่านตลอด เพื่อช่วยให้อากาศในบ้านเย็นสบาย ที่สำคัญทาแป้งให้ลูกก่อนนอนทั้งกลางวันกลางคืน ช่วยให้ลูกสบายตัวนอนหลับยาวขึ้น ตื่นมาสดชื่นแจ่มใส ไม่งอแงหงุดหงิดง่ายด้วยค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก www.reiscare.com


 

ตรวจสอบข้อมูลโดย พญ. รัตนา เพ็ญศรีชล

กุมารแพทย์โรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน โรงพยาบาลเวชธานี

 

 (พื้นที่โฆษณาและประชาสัมพันธ์)

คุณแม่ต้องคัดสรรสิ่งที่ดีอ่อนโยนต่อผิวลูกน้อยมากที่สุดค่ะ Babi Mild Ultra Mild White Sakura baby powder ตอบโจทย์ความต้องการของคุณแม่ได้เป็นอย่างดี

รีวิว Babi Mild Ultra Mild White Sakura baby powder แป้งที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย

ผิวอันแสนบอบบางของทารก คุณแม่ต้องคัดสรรสิ่งที่ดีอ่อนโยนต่อผิวลูกของเรามากที่สุดค่ะ อะไรดีต้องจัดมาให้ลูกก่อนนะจ้ะแม่จ๋า Babi Mild Ultra Mild White Sakura baby powder ตอบโจทย์ความต้องการของคุณแม่ จากคุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ นานา มีอะไรกันบ้าง ไปดูเลยจ้าาาา

ขอเริ่มจากด้านหน้าขวดก่อนเลยนะคะ เราจะสังเกตเห็นข้อความ Hypoallergenic tested แปลว่าอะไรน้าาา ดีต่อลูกของเราหรือเปล่าน้าา? ประโยคนี้บอกให้รู้ว่าผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนังนะจ๊ะ ปลอดภัยต่อผิวของลูกเราแน่นอนค่ะ แถมไม่พอแอบไปรู้มาอีกว่ามีส่วนผสมของวิตามิน E ช่วยเรื่องความชุ่มชื่นของผิวด้วยจ้า แม่บ้านไหนผิวลูกแห้งต้องใช้ตัวนี้!

คุณแม่หายห่วงเรื่องสิ่งสกปกติที่จะมาปนเปื้อนได้เลยนะคะ  มีสติ๊กเกอร์ซีลปิดส่วนบนฝาหมุนเปิด-ปิด เพื่อความสะอาด ปลอดภัยต่อผิวอันแสนบอบบางของเจ้าตัวน้อย

ความรู้สึกครั้งแรกที่เปิดใช้ โอ้ยยย สัมผัสแรก ภาพนี้ลอยมาขึ้นบนหัวเลยค่ะ คุณแม่ลองนึกภาพฤดูใบไม้ผลิของประเทศญี่ปุ่นกำลังจะมาเยือนแล้ว สิ่งที่อยู่คู่ฤดูกาลนี้ก็คือ ดอกซากุระขาวที่บานสะพรั่ง กลิ่นเหมือนได้ไปทุ่งซากุระที่ญี่ปุ่นเลยล่ะค่ะ ดีมากจริง ๆ เหมือนได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นฟรี ๆ  ห๊อม หอมกลิ่นอ่อน ๆ ของดอกซากุระขาว เหมาะกับคุณแม่หวาน ๆ ที่ชอบความหอมมาก ๆ แบบแอดมินเลยค่ะ เพราะแอดเป็นผู้หญิงหวานหอมจ้า

มาดูเนื้อแป้งสีขาวละเอียดนุ่มๆ บรรยายไม่ถูกเลยนะคะ เพราะฟินจริง ๆ นิ๊ม นิ่ม ละมุนละไม ลองเกลี่ยลงบนผิว เนียนลื่นไปกับผิวไม่บาดหรือระคายต่อผิวลูกแน่นอนค่ะ

ส่วนข้อดีช่วยให้ลูกน้อยสบายตัว ลดการเสียดสีจากผ้าอ้อม ลดการแพ้ผดผื่น สูตรอ่อนละมุน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรืออาการแพ้ เหมาะสำหรับสมาชิกทุกคนในครอบครัวนะคะ 

ดีขนาดนี้ ต้องมีไว้ในครอบครองนะจ๊ะแม่จ๋า สามารถหาซื้อกันได้ที่ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าชั่นนำทั่วประเทศ  แอบบอกแอดมินไปเช็กราคามาเรียบร้อยที่ไหนถูกสุด สรุป LAZADA จ้า เอาลิ้งค์แนบไว้ด้านล่างให้เลย สะดวกไปอีกกก คุณแม่คนไหนที่ชอบความหอมของดอกซากุระห้ามพลาดเด็ดขาด ช่วงนี้เป็นไรไม่รู้ แพ้อะไรหอม ๆ ตลอดเลย แอดมินว่าจะไปเหมามาไว้ใช้เพราะหลงรักกลิ่นหอม และการดูแลผิว ของ Babi Mild Ultra Mild White Sakura baby powder ตัวนี้มาก เลิฟเลย

สำหรับคุณแม่บ้านไหนที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ผลิตภัณฑ์ Babi Mild ตอนนี้เบบี้มายด์เปิด Official Shop ใน Lazada พร้อมส่วนลดเยอะมากกกกกก ที่อยากให้ลองไปส่อง ไปกดซื้อกันค่ะ นอกจากส่วนลดแล้ว ยังมีเซ็ตโปรโมชั่นดี ๆ สำหรับลูกเล็กและทุกคนในบ้านด้วยน้าาา (กดที่ภาพแล้วไปส่องโปรฯ เด็ดจาก Babi Mild กันเลย)

สอบถามและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่...

เว็บไซต์: www.babimild.com

ซื้อสินค้า:  www.lazada.co.th

Facebook: Babi Mild Thailand

Line@ : @babimildthailand

Tips  :  สิ่งสำคัญอีกอย่างคือการใช้แป้งกับลูก ไม่ควรทาแป้งลงบนตัวลูกโดยตรง เพราะอาจทำให้แป้งฟุ้งกระจาย ควรค่อย ๆ เทแป้งบนฝ่ามือเล็กน้อยแล้วค่อย ๆ ทาลงบนผิวของลูก ระวังอย่าทาบริเวณจุดซ่อนเร้น หรือใกล้จมูก ใกล้ปากลูก

 

รีวิว Bare Babi (แบร์ เบบี้) ของใช้เด็ก ออร์แกนิค จากอเมริกาที่ต้องลอง!

การดูแลผิวของเด็กทารกเป็นเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะว่าผิวของเด็กแรกเกิดมีลักษณะทั้งบอบบาง และแห้งจึงเกิดการระคายเคืองต่อสิ่งที่สัมผัสได้ง่าย ทำให้เกิดเป็นผื่นคัน จนลูกเกา บางครั้งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนังตามมาได้  การดูแลผิวของลูกน้อยได้อย่างถูกต้องเหมาะสมจะช่วยลดการเกิดผื่นคันเด็กเบื้องต้นได้ ทำให้ลูกน้อยสบายตัวอารมณ์ดีมีสุขภาพผิวที่สมบูรณ์แข็งแรง  และช่วยป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี วิธีการดูแลผิวของลูกน้อยเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก และต้องการการดูแลอย่างทะนุถนอมเป็นพิเศษ 

ดังนั้นคุณแม่จึงควรใส่ใจ และให้ความสำคัญต่อการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะสำหรับเด็กแรกเกิดซึ่งผิวของเค้ายังไม่ได้พัฒนาอย่างเต็มที่ คุณแม่จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะที่ปราศจากสารเคมีที่ก่อให้เกิดการ ระคายเคือง ผ่านการทดสอบการระคายเคืองต่อผิว ได้รับการรับรองจากแพทย์ หรือสถาบันผิวหนังเท่านั้นว่าปลอดภัย และเน้นเรื่องความชุ่มชื้นต่อผิวเป็นพิเศษ

วันนี้รักลูกอยากจะแนะนำผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค “Bare Babi (แบร์ เบบี้)” ที่แม่ ๆ ที่ใช้ทุกคนต่างติดใจ ความพิเศษอยู่ที่แบร์ เบบี้ ใช้เทคโนโลยีจดสิทธิบัตรจากอเมริกา โดยนำข้าวโพดออร์แกนิคมาเป็นส่วนผสมหลักแทนสารเคมีให้ความชุ่มชื้นทั่วไป จึงทำให้สามารถให้ความชุ่มชื้นได้มากขึ้น และลดการระคายเคืองของผิวได้ดีขึ้น ทั้งยังสกัดจากพืชธรรมชาติอื่น ๆ กว่า 8 ชนิด ปราศจากสารเคมีอันตรายกว่า 25 ชนิด ผ่านการทดสอบการระคายเคืองโดยแพทย์ผิวหนัง อ่อนโยนแม้เด็กทารกแรกเกิด

วันนี้เราจะมาแนะนำ 3 ผลิตภัณฑ์ในการทำความสะอาดผิวลูกน้อย และการปกป้องเพื่อไม่ให้ผิวลูกน้อยเกิดการระคายเคือง พร้อมทั้งเติมความสุขเพิ่มความผูกพันแบบง่าย ๆ ให้ช่วงเวลาที่คุณแม่ทำความสะอาดให้ลูกอย่างอบอุ่น และสัมผัสรักถึงกันและกันได้มากขึ้นในทุกวันไปดูกันเลยค่ะ

1. Bare Babi Organic Nourishing Shower Gel                               

ปิดแอร์ก่อนอาบน้ำ 15 นาที และเตรียมอุปกรณ์ต่างๆในการอาบน้ำให้พร้อม เริ่มจากการสระผมให้เบบี๋ก่อนนะคะ แล้วเช็ดผมให้แห้ง แล้วจึงนำเบบี๋ไปอาบน้ำในอ่าง Bare Babi Organic Shower Gel นี้เนื้อสัมผัสบางเบามาก ใช้สำหรับอาบน้ำและสระผมได้เลย ปราศจากสารทำฟองทั้ง SLS และ SLES ไม่ทำให้ผิวและหนังศีรษะแห้ง ล้างออกง่าย ไม่ลื่น และไม่ทิ้งสารตกค้าง อีกทั้งยังสกัดจากออร์แกนิคโรสฮิปออย และ เชียร์ บัตเตอร์ ทำให้ผิวลูกหลังอาบชุ่มชื้น ไม่แห้ง ผมยังนุ่มอีกด้วยค่ะ

Tips สำหรับเด็กเล็กมาก แนะนำให้ไม่ใช้ฟองน้ำถูผิวลูกเพื่อลดการระคายเคืองนะคะ

2. Bare Babi Organic Nourishing Lotion (Face and Body)

หลังจากเช็ดตัวเจ้าตัวน้อยให้แห้ง ควรรีบทาโลชั่นให้ลูกในขณะที่ผิวยังหมาดอยู่เพราะจะทำให้การซึมของเนื้อโลชั่นดีขึ้นค่ะ Bare Babi Organic Lotion พิเศษตรงที่เนื้อโลชั่นเกลี่ยง่ายมาก ไม่เหนียวเหนอะหนะ ในขณะที่ยังให้ความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้น ช่วยลดผื่นคัน ผื่นจากน้ำลาย ทาได้ทั้งใบหน้าและลำตัว สกัดจากพืชธรรมชาติถึง 9 ชนิด เช่น ออร์แกนิคโรสฮิปออย ออร์แกนิคคาร์โมมาย เชียบัตเตอร์ น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันเมล็ดทานตะวัน ว่านหางจระเข้ วิตามินอี และอาลันโทอิน แถมยังมีกลิ่นหอมเบาๆให้คุณแม่ฟัดเบบี๋ได้อย่างชื่นใจอีก โดยระหว่างที่ทาโลชั่นบนผิวลูกคุณแม่ควรนวดเบาๆ เพื่อเป็นผ่อนคลายความกล้ามเนื้อช่วยกระตุ้นพัฒนาการ ทำให้ลูกน้อยอารมณ์ดีหลับสบาย และยังเป็นการถ่ายทอดความรักจากคุณแม่ไปสู่ลูกด้วยค่ะ

Tips ในการเติมโลชั่นให้ลูกระหว่างวัน ให้เอาผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำ บิดให้หมาด วางลงบนบริเวณที่อยากทาโลชั่นเพิ่ม แล้วมาโลชั่นบนผิวหมาดได้เลยค่ะ

3. Bare Babi Organic Nourishing Powder 

สำหรับคุณแม่ที่ชอบใช้แป้งบริเวณข้อพับเพื่อเค้ารู้สึกแห้งสบายตัว และป้องกันการระคา ยเคือง ขอแนะนำ Bare Babi Organic Nourishing Powder เพราะอ่อนโยน เนื้อแป้งนุ่มละเอียด เกลี่ยง่าย ให้ความชุ่มชื้นพิเศษจากออร์แกนิคโรสฮิปออยเชียบัตเตอร์ และกรดไขมัน OMEGA-6  ช่วยลดการเกิดผื่นผ้าอ้อม พร้อมช่วยดูดซับความเปียกชื้น พร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆเพื่อทำให้เจ้าตัวน้อยรู้สึกผ่อนคลายหลังใช้

Tips เพื่อไม่ให้แป้งฟุ้งกระจาย คุณแม่ควรเพียงเทแป้งลงบนฝ่ามือ แล้วค่อยๆทาบนผิวของลูกไม่ควรเทลงบนตัวเด็กโดยตรง

เห็นไหมคะว่าเพียงแค่การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ปราศจากสารเคมีอันตรายและไม่ทำให้ผิวของลูกน้อยเกิดการระคายเคือง ก็ช่วยให้คุณแม่ทุกคนสามารถดูแลผิวลูกน้อยให้สวย ชุ่มชื้น ไร้ผดผื่นได้แล้วค่ะ ฉะนั้นคุณแม่อย่าลืมใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กโดยเฉพาะอย่างผลิตภัณฑ์เด็กออร์แก นิค “แบร์ เบบี้” เพื่อบำรุงผิวที่บอบบางและปกป้องการระคายเคืองให้กับผิวของลูกรักตัวน้อย กันนะคะ   

สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :

Website : https://www.barebabi.com/

Facebook : https://www.facebook.com/barebabithailand/

Inbox : http://bit.ly/2IUr7vi

Line : barebabi.com/?line

ช่วงนี้คุณแม่หลายคนอาจจะกำลังมองหาแป้งให้กับลูก ๆ อาจจะต้องเลือกกันอย่างพิถีพิถันหน่อย สำหรับวันนี้เรามี ดีนี่เพียว แป้งเด็กเนื้อโลชั่น มารีวิวกันค่ะ

รีวิวแป้งดีนี่เนื้อโลชั่น สัมผัสใหม่ของแป้งเด็ก D-nee Pure Lotion Powder ไม่ฟุ้ง แห้งสบาย

ใครที่กำลังสงสัยว่าแป้งเด็กเนื้อโลชั่น มันเป็นอย่างไร แตกต่างจากแป้งธรรมดาแค่ไหน มีดีที่อะไร เราจะมาดูไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

ดีนี่เพียว แป้งเด็กเนื้อโลชั่น เป็นแป้งเนื้อโลชั่นตัวแรก ๆ เลยที่เปิดตัวสู่ตลาด ครั้งแรกที่ได้ยินก็ยังแอบบงงเหมือนกันค่ะ แต่เมื่อได้ลองใช้แล้วบอกได้เลยค่ะว่าติดใจ

ก่อนที่จะไปลองสัมผัสดีนี่เพียว แป้งเด็กเนื้อโลชั่น มาดูที่ขวดภายนอกกันค่ะ ขวดแป้งมีขนาดประมาณ 200 มล. ขนาดกำลังพอดีมือ มีส่วนเว้าเข้าไปเล็ก ๆ ที่ช่วงกลางขวดเพื่อให้จับได้ถนัด กระชับมือ ฝาเปิดปิดด้านบนเปิดขึ้นได้ง่ายด้วยมือเดียว ไม่ต้องหมุน ๆ เหมือนแป้งกระป๋องทั่ว ๆ ไป

มาดูที่ส่วนผสมสำคัญของดีนี่เพียว แป้งเด็กเนื้อโลชั่นกันค่ะ ส่วนผสมที่เป็นไฮไลต์คือโปรตีนน้ำนม และ สารสกัดสวีทอัลมอนด์ ซึ่งดีนี่ได้บอกว่าเป็นส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว ทำให้ผิวเนียนนุ่มเมื่อได้ใช้เป็นประจำ และสำหรับส่วนประกอบอื่น ๆ ของแป้งสามารถดูได้ที่ด้านหลังขวด ซึ่งดีนี่ได้ระบุไว้ที่ฉลากอย่างชัดเจนครบถ้วนค่ะ

หลังจากสำรวจขวดภายนอกแล้ว ก็ลองมาสัมผัสเนื้อข้างในกันเลยค่ะ อยากรู้มานานแล้วว่าสัมผัสจะเป็นยังไง  ลองบีบออกมาดู  สัมผัสแรกคือ “กลิ่น” ค่ะ กลิ่นหอมแบบแป้งเด็กลอยออกมาสัมผัสจมูกก่อนเลย ทำให้ในใจคิดว่านี่มันแป้งเด็กนี่นา แต่เมื่อเนื้อโลชั่นสีขาวสะอาดหยดลงที่มือ หลายคนอาจจะคิดว่านี่ก็คือโลชั่นชัด ๆ ไม่เห็นจะเป็นแป้งตรงไหน

ขอให้อดใจรอนึดนึงค่ะ เมื่อลูบไล้เนื้อโลชั่นบนผิวตอนแรกจะได้รับความชุ่มชื่นซึมเข้าผิวอย่างรวดเร็ว แล้วหลังจากนั้นความรู้สึกที่ผิวจะเปลี่ยนไป กลายเป็นความแห้งสบาย ลื่นไม่เหนียวเหนอะหนะ ความรู้สึกเหมือนกำลังทาแป้งอยู่จริง ๆ ค่ะ แต่ที่สำคัญคือไม่มีฝุ่นแป้งเลอะเทอะ ฟุ้งกระจายเลยแม้แต่นิดเดียว และมีกลิ่นหอมติดผิวดีค่ะ ใครลองใช้ครั้งแรกรับรองว่าต้องประทับใจแน่นอน

เรื่องความปลอดภัยนั้น ดีนี่เพียว แป้งเด็กเนื้อโลชั่น เป็นผลิตภัณฑ์ที่ ผ่านการทดสอบทางการแพทย์ว่าอ่อนโยน ปลอดภัยกับผิวเด็ก หรือการทดสอบ Hypo-Allergenic Tested มาแล้วว่าไม่ทำให้แพ้ และระคายเคือง ตามมาตรฐานของประเทศฝรั่งเศสเชียวค่ะ มั่นใจได้นะคะคุณแม่ว่าใช้กับลูก ๆ เราได้อย่างปลอดภัย

สำหรับคุณแม่ที่ยังไม่ได้ลองใช้กัน แนะนำเลยค่ะว่าแทนที่จะต้องบำรุงผิวให้ลูกด้วยโลชั่น และทาแป้งให้ฟุ้งเต็มบ้านแล้ว ใช้แค่ดีนี่เพียว แป้งเด็กเนื้อโลชั่น ขวดเดียวจบ ไม่มีคราบแป้งเลอะเทอะ ไม่มีฝุ่นฟุ้งกระจาย ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุของโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โรคปอด หรือภูมิแพ้ของลูกด้วยค่ะ ผิวก็ได้รับการดูแลให้ชุ่มชื่น แต่ได้ความรู้สึกแห้งสบายเหมือนใช้แป้งอีกด้วย ไม่เฉพาะใช้กับเด็กค่ะ ผู้ใหญ่หลายคนก็น่าจะชอบเพราะทุกวันนี้เราอาจจะอยากใช้แป้งเด็กเพื่อความสบายผิว แต่ก็กลัวจะเลอะเสื้อผ้า เลอะชุด เลยเลี่ยงที่จะใช้แป้ง แต่ดีนี่เพียว แป้งเด็กเนื้อโลชั่น ออกมาทำให้ชีวิตเราดีขึ้นจริง ๆ ค่ะ

อยากลองบ้างไหมล่าาาาาา น้าบก. แนะนำให้ไปตามบรรดาโปรโมชั่นของดีนี่ได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้ทั้งหมดค่ะ บอกเลยว่าปล่อยโปรโมชั่นทุกอาทิตย์ให้ตามซื้อกันแทบไม่ทัน หรือถ้าใครไปเดินตามงานแฟร์เด็ก ๆ ก็ไปหาซื้อกันได้ค่ะ ทั้งลดราคา ทั้งของขวัญเพียบบบ

สอบถามและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่...

D-nee Website: www.dnee.co.th
D-nee Facebook: www.facebook.com/DneeThailand
D-nee Line@: @dneethailand

รีวิวแป้งไร้ซแคร์ แป้งสำหรับทุกคนในครอบครัว

เวลาพูดถึงแป้งเด็กที่ผลิตจากทัลคัมใครหลายคนอาจรู้สึกว่าดูน่ากลัว ใช้แล้วเสี่ยงมะเร็ง เสี่ยงโรคปอด แต่ความจริงแล้วการมีแป้งเด็กหรือแป้งฝุ่นติดบ้านไว้ก็เป็นสิ่งที่ดีค่ะ เพราะนอกจากเอามาทาตัวลดความอับชื้นแล้ว แป้งเด็กยังมีประโยชน์อีกหลายอย่างเลย

ไร้ซแคร์ แป้งข้าวปราศจากทัลคัม

ถ้าจะเลือกแป้งเด็กติดบ้านไว้สักกระป๋องคุณสมบัติแรกที่แม่แอดมินเลือกคือต้องเป็นแป้งข้าวที่ปราศจากทัลคัม เพราะว่าสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติไม่สะสมในปอดหรือร่างกาย อย่างแป้งไร้ซแคร์ (ReisCare) นี่ใช้หมดไปหลายกระป๋องเลยค่ะ เพราะนอกจากปลอดภัยแล้วอีกหนึ่งคุณสมบัติที่ดีของแป้งไร้ซแคร์คือเป็นแป้งข้าวเจ้าเลยทำให้มีการฟุ้งกระจายต่ำ ไม่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้นั่นเอง

แป้งไร้ซแคร์ 1 กระป๋อง สารพัดประโยชน์

1. ทาตัวปกป้องผิวจากความเปียกชื้น โดยส่วนตัวแล้วแม่แอดมินจะทาแป้งหลังอาบน้ำเสร็จแล้ว ยิ่งเป็นคนขี้ร้อนเหงื่อออกง่าย พอทาแป้งแล้วช่วยให้ผิวแห้งสบาย ไม่อับชื้นด้วยค่ะ อันนี้ใช้ได้ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุเลยนะคะ

2. ใช้แต่งหน้า แป้งเด็กไร้ซแคร์เป็นแป้งคุมมันในตำนานเลยค่ะ สาวๆ หลายคนใช้แต่งหน้าเป็นประจำ แค่ปัดนิดหน่อยก็ช่วยให้ผิวหน้าเนียนไม่มันเยิ้มแล้วค่ะ ใช้ทาหลังครีมรองพื้นหรือครีมกันแดดเซ็ตตัวรับรองว่าเนียน

3. เพิ่มความเด้งให้ขนตา เพียงแค่ปัดมาสคาร่าแล้วโรยแป้งไร้ซแคร์ลงบนขนตาเล็กน้อย ก็ช่วยให้ขนตาดูโดดเด้งขึ้นแล้วค่ะ

4. ขจัดกลิ่นตัว โดยเฉพาะผู้สูงวัยที่มีกลิ่นเฉพาะตัวหรือที่หลายคนชอบเรียกว่ากลิ่นคนแก่ แป้งเด็กจะดูดซับความเปียกชื้น แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ จึงช่วยระงับกลิ่นกายผู้สูงวัยได้เป็นอย่างดีค่ะ

5. ลดความมันบนเส้นผม เพียงโรยแป้งบาง ๆ บนฝ่ามือแล้วแล้วทาบนเส้นผม จากนั้นใช้มือยีให้ทั่วศีรษะ เสร็จแล้วหวีผมให้เรียบร้อย ก็ช่วยแก้ปัญหาผมมันแบบเร่งด่วนได้แล้วค่ะ

6. ลดอาการคันหลังโกนหนวด หลังโกนหนวดคุณพ่ออาจรู้สึกคันระคายเคืองใบหน้าบริเวณที่โกนหนวด การทาแป้งเด็กหลังโกนหนวดจะช่วยลดอาการคันระคายเคืองได้ค่ะ

7. กำจัดกลิ่นของเฟอร์นิเจอร์ไม้ โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ใช้ไปนาน ๆ แล้วมักจะมีกลิ่น ให้ใช้แป้งเด็กโรยไปที่เฟอร์นิเจอร์ชิ้นชิ้นนั้นแล้วทิ้งไว้สักพัก จากนั้นใช้ผ้าเช็ดแป้งออกกลิ่นเหม็นของไม้ก็จะจางหายไปค่ะ

8. ดับกลิ่นเท้า และกลิ่นรองเท้า ใครที่มีกลิ่นเท้ารุนแรงให้โรยแป้งเด็กแล้วทาให้ทั่วเท้าก่อนใส่ถุงเท้า จะช่วยลดกลิ่นอับบริเวณเท้าได้ค่ะ นอกจากนี้ถ้ารองเท้ามีกลิ่นให้โรยแป้งเด็กใส่รองเท้า ทาให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 1 คืน จากนั้นเคาะแป้งออก ก็ช่วยลดกลิ่นอับของรองเท้าได้เช่นกันค่ะ

9. โรยหลังซักรองเท้าผ้าใบ ป้องกันรองเท้าเหลือง เวลาซักรองเท้าผ้าใบสีขาว หลังรองเท้าแห้งแล้วจะมีคราบเหลือง ๆ เกาะอยู่ วิธีแก้คราบเหลืองแบบอยู่หมัดคือตอนนำรองเท้าไปตากให้โรยแป้งเด็กให้ทั่วรองเท้าผ้าใบ จากนั้นใช้กระดาษชำระห่อหุ้มให้ทั่ว เมื่อรองเท้าแห้งจะไม่มีคราบเหลืองเลยค่ะ แถมรองเท้ายังดูขาวเหมือนใหม่

10. ไล่มด ตรงไหนที่มีมดเดินผ่าน หรือมีรอยแยกที่มดชอบไต่ออกมาให้โรยแป้งไว้บริเวณนั้น หรือโรยแป้งตามแนวประตูหน้าต่าง ก็จะช่วยป้องกันมดเข้ามาในบ้านได้

เห็นมั้ยคะว่าแป้งกระป๋องเดียวมีประโยชน์ตั้งมากมาย แม่ ๆ คนไหนที่สนใจแป้งเด็กไร้ซแคร์สามารถหาซื้อได้ที่

7-11 ใกล้บ้าน (เฉพาะสีชมพูกลิ่น Floral sweet ขนาดเล็ก) หรือช่องทางออนไลน์อื่น ๆ ได้เลยค่ะ

FB : ReisCareBabyPowder

Shopee :  https://shp.ee/yyqfrw5

Lazada : https://s.lazada.co.th/l.YpvX

สนับสนุนสุขภาพเด็ก ๆ โดย แป้งเด็กไร้ซแคร์

แป้งที่ปราศจาก “ทัลคัม” ได้รับการพูดถึงกันมาก ในบรรดากลุ่มแม่ ๆ โซเชี่ยล วันนี้ได้โอกาสเราเลยหยิบแป้งที่แม่ ๆ สนใจตัวนี้มารีวิวให้ดูกันชัด ๆ ไปเลยค่ะ

รีวิวแป้งไร้ซแคร์แป้งเด็กที่ไม่มีทัลคัม 100% แป้งเด็ก ReisCare

ทุกวันนี้แม่ ๆ จะซื้อของกินของใช้ให้ลูกแต่ละทีต้องเลือกให้ดีที่สุด หรือมั่นใจว่าปลอดภัยและดีกับสุขภาพของลูก ๆ อย่างแท้จริง ล่าสุดคือเรื่อง “ทัลคัม” ในแป้งที่มีข่าวว่าอาจจะเป็นสารก่ออันตรายให้กับร่างกายในระยะยาวได้ ทำให้แป้งที่ปราศจาก “ทัลคัม” ได้รับการพูดถึงกันมาก ในบรรดากลุ่มแม่ ๆ โซเชี่ยล วันนี้ได้โอกาสเราเลยหยิบแป้งที่แม่ ๆ สนใจตัวนี้มารีวิวให้ดูกันชัด ๆ ไปเลยค่ะ

แม่ ๆ ที่กำลังมองหาแป้งเด็กไร้ซแคร์อยู่ ถ้าไปที่วางขายจะเห็นว่ามีด้วยกัน 2 กลิ่น คือสีฟ้ากลิ่น Extra Mild และสีชมพูกลิ่น Floral Sweet สำหรับ 2 กลิ่นนี้เราลองพิสูจน์กลิ่นให้แล้วค่ะแน่นอนว่าคนละกลิ่นกันเลย สำหรับกลิ่น Extra Mild จะเป็นกลิ่นที่คุ้นเคยกันหน่อยค่ะเป็นกลิ่นแบบแป้งเด็กหอมอ่อน ๆ กลิ่นนี้ทาไปจะได้ความรู้สึกของกลิ่นเด็กเบบี๋ค่ะ สำหรับแม่ ๆ ที่ชอบให้ลูกมีกลิ่นแบบเด็ก ๆ ตัวนุ่ม ๆ หอม ๆ ต้องจัดกลิ่น Extra Mild ค่ะ

สำหรับสีชมพูกลิ่น Floral Sweet เดาได้ไม่ยากค่ะว่าต้องเป็นกลิ่นดอกไม้ แต่จริง ๆ กลิ่นจะออกหอมหวานเหมือนขนมเลยค่ะ กลิ่นจะเป็นเด็กผู้หญิงหน่อย อันนี้ลองดมแล้วชอบเป็นการส่วนตัวเลยค่ะ ติดใจ ชอบ ๆ กลิ่นนี้

แป้งจะมี 2 ขนาดคือขนาดเล็ก ปริมาณ 50 กรัมและขนาดใหญ่ 150 กรัม ดีไซน์มีความเว้าตรงกลางขวดเป็นเอกลักษณ์ดูต่างจากแป้งอื่น ๆ ชัดเจนเลยค่ะ และสำหรับรูบนฝากระป๋องแป้ง ลองเทียบเมื่อโรยแป้งแล้วจะออกมาในปริมาณน้อยหน่อยไม่พรวดออกมาทีเดียวเยอะ ๆ เหมาะกับการใช้กับเด็กเล็กที่ไม่จำเป็นต้องใช้มาก และไม่เลอะเทอะอีกด้วยค่ะประหยัดสุด ๆ

คราวนี้มาดูเรื่องสำคัญคือส่วนประกอบของแป้ง แป้งไร้ซแคร์เป็นแป้งที่บอกชัดเจน และมีเพียงไม่กี่ยี่ห้อในไทยที่เป็นแป้งเด็กที่ปราศจากทัลคัม 100% 

แป้งไร้ซแคร์เป็นแป้งเด็กที่ผลิตจากแป้งข้าวเจ้า ซึ่งเป็นสารอินทรีย์ที่ย่อยสลายได้ด้วยจุลินทรีย์ในธรรมชาติ ทำให้มั่นใจว่ามาจากธรรมชาติจริง ๆ ปลอดภัยไม่สะสมในร่างกาย เพราะที่กังวลกันก็คือสารในแป้งที่ไม่ย่อยสลายและใช้ไปนาน ๆ จะสะสมจนเกิดโรคนี่แหละค่ะ ซึ่งสำหรับแป้งไร้ซแคร์หายห่วงค่ะ

สำหรับตัวเนื้อแป้งจะเป็นสีขาวทั้งสองกลิ่น ถ้าดูเทียบกันก็มีเนื้อแป้งแทบไม่แตกต่างจากแป้งชนิดอื่น ๆ เลย มีความฟุ้งกระจายเหมือนแป้งทั่วไป แต่ถ้าสัมผัสเนื้อแป้งดี ๆ จะพบว่าแป้งจะให้ความรู้สึกฝืด ๆ นิดหน่อยไม่เรียบลื่นมากเหมือนแป้งอื่น ๆ เพราะเป็นแป้งที่เนื้อละเอียดมาก ๆ และไม่ใส่สารช่วยให้ลื่น ดังนั้นคุณแม่ไม่ควรเทเยอะจะทำให้แป้งติดผิวบริเวณเดียวเยอะไปแต่เมื่อลูบไล้ตามผิวก็ให้ความเนียนกลืนไปกับผิวดีค่ะ และยังดูดซับความมันได้ดีอีก อันนี้แม่ ๆ แอบเอาของลูก ๆ ไปใช้ได้เลยนะคะมันดีจริง ๆ

ตามนั้นเลยค่ะ บนฉลากของแป้งไร้ซแคร์ ก็มีคำแนะนำเพิ่มเติมว่าควรใช้ปริมาณน้อย และลูบไล้เป็นบริเวณกว้าง ไม่ควรโรยที่สะดือเด็กแรกเกิด เพราะสะดือเด็กทารกแรกเกิดยังไม่แห้งดีจึงไม่ควรใช้สิ่งใดหรือทาอะไรบริเวณสะดือเด็กทั้งสิ้นค่ะ เวลาใช้ก็ควรโรยบนมือคุณแม่ก่อนแล้วค่อยใช้ทาบนตัวลูกบริเวณลำตัว ก้น แขนขา หรือขาหนีบ แต่ไม่ควรทาเข้าในอวัยวะเพศ หรือโรยโดยตรงไปที่ตัวเด็กเพื่อลดการฟุ้งกระจายค่ะ

คุณพ่อคุณแม่ที่ลูก ๆ แพ้ระคายเคืองง่าย แป้งไร้ซแคร์ผ่านการทดสอบมาแล้วว่าไม่ระคายเคืองและไม่ก่อให้เกิดการแพ้จากสถาบัน Dermscan Asia ค่ะ ดังนั้นมั่นใจได้ค่ะว่าใช้กับลูก ๆ ได้อย่างปลอดภัยแน่นอน

หลังจากที่ได้ลองใช้มาแล้ว บอกได้เลยค่ะว่าถ้าจะเลือกแป้ง หรือผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตามให้ลูก เราต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่มั่นใจว่าส่วนประกอบต่าง ๆ มีความปลอดภัย และเชื่อถือได้ว่าจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับลูกของเรา

แป้งเด็กไม่มีทัลคัมดีขนาดนี้ (น้าบก. ก็ใช้นะบอกเลย) ต้องไปตำ!!! ไปลองหาซื้อกันได้ที่เว็บของแป้งเด็ก ReisCare เลยค่ะ เพราะจะมีโปรโมชั่นด้วยน้าาาา หรือถ้ายังติดสินใจอยู่ก็ติดต่อ Facebook ของแป้งไร้ซ์แคร์ไว้ก่อน จะได้ตามซื้อกันได้ทันค่ะ

สอบถามและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่...

ReisCare Website: www.reiscare.com

ReisCare Facebook: www.facebook.com/ReisCareBabyPowder

ลูกเป็นภูมิแพ้ใช้แป้งเด็กได้ไหม อยากใช้แต่ไม่กล้าเสี่ยง มาหาคำตอบกันค่ะ 

ลูกเป็นภูมิแพ้ สามารถใช้แป้งได้หรือไม่ แล้วควรใช้แป้งแบบไหนถึงดีกับลูกที่สุด

ปัจจุบันพบว่าเด็ก ๆ เป็นโรคภูมิแพ้กันเยอะขึ้น แม้จะไม่ใช่โรคร้ายแรงแต่ก็เป็นโรคเรื้อรังที่ต้องระวัง เพราะร่างกายมีความไวต่อสารกระตุ้นบางอย่าง เมื่อลูกได้รับหรือสัมผัสเข้าไป สารระคายเคืองเหล่านั้นจะทำให้เกิดอาการผิดปกติต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งหากแพ้มาก ๆ ก็อาจเสียชีวิตได้เช่นกัน

โรคภูมิแพ้ในเด็กต้องระวัง

โรคภูมิแพ้ในเด็กมีสาเหตุมาจาก 2 สาเหตุใหญ่ ๆ คือ

1. กรรมพันธุ์

ภูมิแพ้สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงยาก หากคุณพ่อหรือคุณแม่เป็นโรคภูมิแพ้ ลูกก็จะมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้เช่นกัน

2. สิ่งแวดล้อม

ทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเด็กสามารถเป็นสารก่อภูมิแพ้ได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ เช่น ไรฝุ่น แมลงสาบ ขนสัตว์ ละอองเกสร แมลงต่าง ๆ อาหารบางอย่างเช่น นมวัว ไข่ ถัวต่าง ๆ แป้งสาลี อาหารทะเล หรือมลภาวะต่าง ๆ เช่น ควันบุหรี่ ควันธูป ก็เป็นตัวกระตุ้นให้ลูกป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ได้เช่นกัน

ลูกเป็นภูมิแพ้ สามารถใช้แป้งได้หรือไม่

เมื่อลูกเป็นภูมิแพ้พ่อแม่หลายคนคงอยากทราบว่าลูกจะใช้แป้งเด็กได้ไหม คำตอบคือ ได้ค่ะ ในต่างประเทศมีกุมารแพทย์ออกมาให้คำแนะนำว่าพ่อแม่สามารถใช้แป้งฝุ่นทาตัวเด็กเล็กได้ หากใช้ถูกวิธี ไม่ได้โรยตัวจนแป้งฟุ้งกระจายหรือไม่ได้เทแป้งลงบนในหน้าลูกโดยตรง ก็สามารถใช้ได้ และอาจต้องเลือกแป้งข้าวที่มาจากธรรมชาติ เพราะเป็นสารอินทรีย์ย่อยสลายได้ปลอดภัยกว่าแป้งที่มีส่วนผสมของทัลคัมที่เป็นสารอนินทรีย์ไม่ย่อยสลาย

แป้งสำหรับเด็กที่เป็นภูมิแพ้ เลือกและใช้อย่างไรให้ถูกวิธี

เนื่องจากสภาพอากาศของเมืองไทยเป็นเมืองร้อนชื้น การทาแป้งให้ลูกอาจช่วยให้รู้สึกสบายตัว การเลือกแป้งที่เหมาะกับลูก รวมถึงการใช้แป้งให้ถูกวิธี จะช่วยลดโอกาสเกิดภูมิแพ้ในเด็กได้

หลักการเลือกแป้งสำหรับเด็ก

1. อ่านฉลากทุกครั้งก่อนซื้อ ควรเลือกแป้งที่ทำมาจากพืชธรรมชาติ เช่น แป้งข้าวเจ้า เพราะพืชเป็นสารอินทรีย์ที่ย่อยสลายได้ด้วยจุลินทรีย์ในธรรมชาติ ไม่สะสมอยู่ในปอด หรือร่างกาย
2. เลือกซื้อแป้งที่มีสัญลักษณ์ว่า 100% Talc Free แสดงว่าแป้งยี่ห้อนี้ไม่มีส่วนผสมของผงทัลคัม
3. แป้งเด็กต้องไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม ที่ก่อการระคายเคืองต่อผิวเด็ก
4. ไม่มีส่วนผสมของพาราเบน (Paraben Free)
5. ผ่านการทดสอบ Hypoallergenic Tested ไม่ก่อการระคายเคืองต่อผิวลูก

การทาแป้งฝุ่นถูกวิธี ห่างไกลภูมิแพ้

• ไม่โรยแป้งฝุ่นลงบนตัวโดยตรง แต่ให้ค่อย ๆ โรยแป้งบนมือก่อน แล้วค่อยทาบนตัวลูก เพื่อป้องกันฝุ่นแป้งฟุงกระจายแล้วลูกสูดดมเข้าไป
• ใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากเกินไปจนฟุ้งกระจาย หรือหนาจนเป็นก้อนแป้ง
• ไม่ใช้แป้งโรยสะดือเด็กแรกเกิด หรือบริเวณจุดซ่อนเร้น เช่น อวัยวะเพศโดยตรง
• ไม่โรยแป้งบนใบหน้าลูกเพื่อป้องกันผงแป้งเข้าตา จมูก ปาก
• ระวังอย่าให้ลูกถือกระป๋องแป้งหรือเขย่าเล่น เพราะอาจทำให้แป้งหกหรือเผลอสูดดมเข้าไปจนสำลัก เนื่องจากแป้งเข้าปอด อาจทำให้ปอดอักเสบได้

อันที่จริงแล้วแป้งเด็กไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด แม่ ๆ สามารถใช้แป้งกับลูก หากตระหนักถึงวิธีการใช้และเลือกแป้งที่ปลอดภัยกับลูกค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก www.reiscare.com

ตรวจสอบข้อมูลโดย นพ.ชาญสิริ เสกสรรค์วิริยะ

โสต ศอ นาสิกแพทย์ อนุสาขาเวชศาสตร์การนอนหลับ โรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี

(พื้นที่โฆษณาและประชาสัมพันธ์)

แป้งเด็กป้องกันผื่นผ้าอ้อมที่ดีและปลอดภัยกับผิวลูกแรกเกิดที่ไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ไม่ระคายเคือง ป้องกันผื่นผ้าอ้อมต้องสังเกตจากอะไร เรามีเคล็ดลับการเลือกแป้งเด็กมาฝากค่ะ

วิธีเลือกแป้งเด็กสำหรับเด็กใส่ผ้าอ้อมตลอดคืน ป้องกันผื่นผ้าอ้อม ผื่นแพ้ผ้าอ้อม

คุณแม่หลายคนกังวลใจเรื่องการเลือกแป้งเด็กเพื่อใช้กับผิวลูกแรกเกิด เพราะลูกยังบอบบางทั้งสุขภาพร่างกายและสุขภาพผิว จึงกลัวเรื่องความฟุ้งกระจายของฝุ่นแป้งที่อาจทำให้ภูมิแพ้ กลัวแป้งจะระคายเคืองผิว หรือแม้แต่กลัวว่าการทาแป้งบ่อยๆ จะทำให้ผิวลูกแห้งและเสียความชุ่มชื่น โดยเฉพาะลูกเล็กที่ต้องใส่ผ้าอ้อมนอนตลอดทั้งคืนจนอาจเกิดความอับชื้น การเสียดสีจนผิวเกิดผื่นผ้าอ้อมได้ง่าย วันนี้เรามีเคล็ดลับเลือกแป้งเด็กคุณภาพดีที่เหมาะสำหรับลูกตั้งแต่แรกเกิดมาฝากกันค่ะ

• แป้งเด็กป้องกันผื่นผ้าอ้อม ควรมีส่วนผสมที่ปลอดภัยและดีต่อผิว เช่น สารสกัดจากธรรมชาติ100% และผ่านการทดสอบแล้วว่าปลอดภัยต่อผิวเด็กตั้งแต่แรกเกิด ที่ช่วยทำให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื่น ป้องกันการสูญเสียน้ำ ซึ่งจะช่วยลดและบรรเทาอาการระคายเคืองผิวได้ รวมถึงสามารถปกป้องผิวจากความชื้นและการเสียดสีของผ้าอ้อมเมื่อลูกใส่นานๆ อย่างการใส่ผ้าอ้อมนอนตลอดคืน สารสกัดที่นำมาใช้ในผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก ส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น Defensil (ดีเฟนซิล) จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นสารสกัดจากพืช 3 ชนิด ช่วยปกป้องผิวบอบบางของลูก และช่วยฟื้นฟูให้ผิวลูกแข็งแรงขึ้นได้ด้วยค่ะ

• แป้งเด็กป้องกันผื่นผ้าอ้อม ไม่ควรฟุ้งกระจายมาก เพื่อป้องกันการกระตุ้นและการก่อโรคภูมิแพ้ในเด็ก โดยสามารถสังเกตได้ง่ายๆ ว่า แป้งเด็กที่ไม่ฟุ้งกระจายและไม่เป็นอันตรายจะมีส่วนผสมของซิงค์ออกไซด์ (Zinc Oxide) นอกจากนี้ คุณแม่ยังลดการฟุ้งกระจายของแป้งได้ด้วยเทคนิคง่ายๆ คือ โรยแป้งลงบนมือก่อนลูบไล้ให้ทั่วบริเวณที่ต้องการ วิธีนี้จะช่วยควบคุมการฟุ้งกระจายของแป้งได้ดีกว่าการโรยลงบนผิวลูกตรงๆ ค่ะ

• แป้งเด็กป้องกันผื่นผ้าอ้อม ต้องช่วยปกป้องและสบายผิวลูกทั้งกลางวันและกลางคืน สำหรับช่วงกลางวันที่คุณแม่เปลี่ยนผ้าอ้อมและทำความสะอาดผิวลูกตลอดทั้งวัน แป้งเด็กควรทาแล้วช่วยให้สบายตัวตลอดทั้งวันเพราะลูกจะนอน ขยับตัวเล่น แป้งเด็กจึงต้องไม่ระคายเคืองผิวและช่วยลดการเสียดสี และสำหรับกลางคืนที่ลูกใส่ผ้าอ้อมนอนยาวตลอดทั้งคืน ไม่มีการเปลี่ยนผ้าอ้อมจึงอาจเกิดความอับชื้นได้

• แป้งเด็กป้องกันผื่นผ้าอ้อม ควรช่วยป้องกันผิวจากความชื้น ลดการเกิดผื่นผ้าอ้อมหรือผื่นแพ้ต่างๆ ได้ดี หรืออาจเป็นแป้งเด็กสูตรพิเศษสำหรับปกป้องผิวลูกในช่วงกลางคืนค่ะ แป้งเด็กควรปกป้องผิวลูกบริเวณข้อพับต่างๆ ได้ดีเป็นพิเศษ เช่น ข้อพับแขน ขา คอ ฯลฯ เพราะเป็นจุดที่เหงื่อออกง่ายและอับชื้น หากมีการเสียดสีก็จะเกิดการระคายเคืองที่รุนแรง ดังนั้นคุณแม่ลองสังเกตว่า หากเลือกแป้งเด็กมาใช้ทาผิวลูกบริเวณข้อพับต่างๆ แล้วไม่ทำให้เกิดผื่นแดง ผื่นคัน หรืออาการระคายเคือง ก็มั่นใจได้เช่นกันว่าแป้งเหมาะสำหรับลูกค่ะ

• แป้งเด็กป้องกันผื่นผ้าอ้อม ควรมีคุณสมบัติที่ช่วยให้หายจากผดผื่น และลดโอกาสการเกิดผดผื่นซ้ำขึ้นอีกโดยคุณแม่สังเกตได้ง่ายๆ ว่าเมื่อผิวลูกน้อยหายจากผดผื่นแล้ว ผิวของลูกจะแข็งแรงขึ้น และไม่เกิดผดผื่นซ้ำในบริเวณเดิม

ผิวเด็กๆ บอบบางและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ดังนั้นคุณแม่จึงควรเลือกแป้งเด็กที่มีคุณสมบัติปกป้องผิวจากการระคายเคืองและอาการแพ้ต่างๆ รวมทั้งควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นหลัก เพื่อมั่นใจได้ว่าลูกจะได้รับการปกป้องจากทั้งแม่และสิ่งที่ดีที่สุดจากธรรมชาติค่ะ

การเลือกแป้งเด็กที่ทำจากพืชธรรมชาติและไม่มีทัลคัม เป็นอีกหนึ่งวิธีในการเลือกแป้งเด็กที่ปลอดภัยสำหรับลูก แป้งเด็กที่ปลอดภัยต้องมีคุณสมบัติอะไรอีก เราคำแนะนำค่ะ

เคล็ดลับเลือกแป้งเด็กอย่างไร ให้ลูกห่างไกลภูมิแพ้

โรคภูมิแพ้ คือโรคที่ร่างกายมีความไวต่อสารกระตุ้น ที่เรียกว่า ‘สารก่อภูมิแพ้’ มากกว่าปกตินั่นเอง ซึ่งโรคภูมิแพ้ในเด็กที่พบบ่อยคือ โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ และโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบ สาเหตุหนึ่งก็มาจาก ‘แป้ง’ ที่ใช้ทาผิวลูกที่มีส่วนผสมของทัลคัม หรือสารเคมีต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดการแพ้ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่อย่างเราต้องเรียนรู้อันตรายจากแป้งฝุ่นผสมทัลคัม และวิธีการเลือกแป้งเด็กที่ถูกต้อง เพื่อปกป้องลูกจากโรคภูมิแพ้

อันตรายจากแป้งฝุ่นผสมทัลคัม

1. ทัลคัมไม่สามารถย่อยสลายในธรรมชาติได้ อาจสะสมในร่างกาย

2. ทัลคัมอาจทำให้เกิดอาการปอดอักเสบ อาการภูมิแพ้

3. ทัลคัมอาจสะสมในร่างกายจนมีความเสี่ยงก่อโรคมะเร็งในส่วนต่างๆ ของร่างกายเช่น มะเร็งรังไข่ มะเร็งปอด เป็นต้น

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นห่วงความปลอดภัยจากการใช้แป้งที่มีส่วนผสมของทัลคัม (Talcum) หรือการปนเปื้อนจากสารเคมี ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์แป้งเด็กที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น แป้งข้าวเจ้า ซึ่งเป็นสารอินทรีย์สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ไม่เกิดการสะสมในปอด หรือ ในใต้ร่มผ้า คุณพ่อคุณแม่สามารถมั่นใจได้เลยว่าปลอดภัยต่อลูกแน่นอน โดยปัจจุบันประเทศเรามีแป้งชนิดนี้ที่ผลิตเองในประเทศไทยอีกด้วย

เคล็ดลับเลือกแป้งเด็กอย่างไร ให้ลูกห่างไกลภูมิแพ้

ก่อนเลือกซื้อแป้งคุณพ่อคุณแม่ต้องอ่านฉลากผลิตภัณฑ์ เพื่อดูส่วนผสมต่าง ๆ และคุณสมบัติที่แป้งเด็กที่ดีต้องมี ดังนี้

1. ผลิตจากธรรมชาติ เช่น แป้งข้าวเจ้า แทนส่วนผสมของทัลคัม เพื่อความปลอดภัยและสามารถย่อยสลายได้ด้วยจุลินทรีย์ในธรรมชาติ ไม่ตกค้างในร่างกาย
   
   
2. ไม่ควรมีส่วนผสมของน้ำหอม
   
   
3. ป้องกันความเปียกชื้นได้ เพื่อความแห้งสบายตัวของลูก
   
   
4. สะอาด ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
   
   
5. ผ่านการทดสอบว่าไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ (Hypoallergenic)

ลูกห่างไกล ภูมิแพ้ และสบายตัวพร้อมเรียนรู้ สามารถเสริมสร้างทักษะ EF ในเด็กได้

ทักษะ EF หรือ Executive functions คือกระบวนการทางความคิด ที่พัฒนาจากสมองส่วนหน้าในช่วงวัยเด็ก ทำหน้าที่เกี่ยวกับความคิด ความรู้สึก และการวางแผนอย่างเป็นระบบ

เพื่อพัฒนาการที่ดีของลูก การเลือกแป้งก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะฉะนั้นช่วงกลางคืนที่ลูกใส่ผ้าอ้อมนอน การทาแป้งเด็กที่ป้องกันความเปียกชื้น ส่งผลให้ลูกรู้สึกผ่อนคลาย สบายตัว ทำให้ลูกหลับได้ยาวขึ้น เมื่อลูกได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอแล้ว เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการสร้างฮอร์โมนที่ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย (Growth Hormone) ส่งผลดีต่อสุขภาพลูก ตอนเช้าตื่นมาอารมณ์ดี สดใส พร้อมเรียนรู้ และพร้อมเรียนรู้โลกกว้าง พัฒนาการดีและช่วงพัฒนาทักษะ EF ได้

อยากให้ลูกมีพัฒนาการดี ห่างไกลจากภูมิแพ้ แป้งเด็กที่ดีช่วยได้ โดยคุณพ่อคุณแม่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย เรื่องส่วนผสมที่เน้นผลิตจากธรรมชาติเท่านั้น เช่น แป้งข้าวเจ้า ที่ปราศจากทัลคัม ซึ่งคุณพ่อคุณแม่เทแป้งบนฝ่ามือเล็กน้อยแล้วค่อย ๆ ทาลงบนผิวของลูก ไม่ควรทาแป้งลงบนตัวลูกโดยตรง เพราะอาจทำให้แป้งฟุ้งกระจาย และระมัดระวังอย่าให้แป้งเข้าจมูก และปากของลูก

เพียงเท่านี้คุณพ่อคุณแม่ก็มั่นใจได้แล้วว่า ลูกจะได้รับการดูแลและปกป้องจากโรคภูมิแพ้ ช่วยให้ผิวลูกแห้งสบาย ปราศจากความอับชื้น ทำให้นอนหลับยาวนานยิ่งขึ้น ยิ่งหลับสนิท ยิ่งกระตุ้น EF พร้อมเสริมพัฒนาการที่ดีของลูกในทุก ๆ ด้าน

ขอบคุณข้อมูลจาก www.reiscare.com

ตรวจสอบข้อมูลโดย นพ.ชาญสิริ เสกสรรค์วิริยะ โสต ศอ นาสิกแพทย์ โรงพยาบาลนครธน

(พื้นที่โฆษณาและประชาสัมพันธ์)

ฝนมาความเปียกชื้นก็มา ทำให้ลูกเป็นผดผื่นได้ง่าย การดูแลผิวลูกในหน้าฝนเป็นเรื่องไม่ยากค่ะ คุณแม่สามารถรับมือได้ 

เทคนิคปกป้องผิวลูกให้แข็งแรง สู้ความเปียกชื้นในหน้าฝน

เข้าหน้าฝนทีไรใจแม่ตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ทุกที เพราะนอกจากต้องเฝ้าระวังโรคหน้าฝน อย่าง มือเท้าปาก RSV ปอดบวม ไข้หวัดใหญ่แล้ว โรคที่มากับเชื้อราและแบคทีเรียที่เป็นตัวการของผดผื่นคันก็ต้องระวังเช่นกันค่ะ

ความเปียกชื้นในหน้าฝนส่งผลต่อสุขภาพผิวของลูก

หน้าฝนเป็นช่วงที่ลูกมีโอกาสเกิดผดผื่นได้ง่าย เพราะสภาพอากาศทีมีความชื้นสูงทำให้เชื้อราและแบคทีเรียต่าง ๆ เจริญเติบโตได้ดี ถ้าสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ตัวลูก รวมถึงเสื้อผ้าที่ใส่มีความอับชื้น ก็อาจทำให้ลูกไม่สบายตัว มีผดผื่น เกิดเชื้อราบนผิวหนัง เป็นผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ผื่นผ้าอ้อม ฯลฯ ได้ง่าย ช่วงนี้คุณแม่จึงต้องใส่ใจดูแลผิวของลูกเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะเป็นการปกป้องให้ผิวลูกสุขภาพดีแล้ว การเล่นและพัฒนาการต่าง ๆ ของเขาก็ไม่สะดุดด้วยค่ะ

5 วิธีปกป้องผิวลูกให้แข็งแรงในหน้าฝน

1. ดูแลผิวลูกให้แห้งและสะอาดอยู่เสมอ

ช่วงหน้าฝนคุณแม่สามารถอาบน้ำให้ลูกได้ตามปกติเลยค่ะ เพียงแต่เมื่ออาบน้ำเสร็จดูแลส่วนที่เป็นข้อพับ รักแร้ ซอกคอ ขาหนีบ บริเวณจุดซ่อนเร้นต่าง ๆ ของลูกให้แห้งอยู่เสมอค่ะ อย่าให้เปียกหรืออับชื้น

2. ผ้าอ้อมลูกอย่าให้หมักหมม

เช็กผ้าอ้อมลูกสม่ำเสมอ ไม่ควรให้ลูกใส่เป็นระยะเวลานาน ๆ เพราะผ้าอ้อมที่หมักหมมจะเป็นตัวก่อโรคผื่นผ้าอ้อม หลังลูกอาบน้ำหรือทำความสะอาดหลังขับถ่ายเสร็จ ควรปล่อยให้ผิวลูกได้สัมผัสอากาศบ้าง

3. เลือกเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี

เสื้อผ้าที่ลูกสวมใส่ไม่ควรหนาหรือบางจนเกินไป โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่หนาเกินไปมักไม่ระบายอากาศ ถ้าลูกมีเหงื่อออกมากหรือผ้าเปียกจะแห้งยากทำให้เกิดการอับชื้นได้ง่ายจนเป็นแหล่งเพาะเชื้อรา ดังนั้นแม่ควรเลือกผ้าเส้นใยธรรมชาติจะดีที่สุดค่ะ ผ้าที่เป็นเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน ผ้าใยไผ่ เป็นต้น

4. ทาแป้งเด็กให้ลูกหลังอาบน้ำ

หลังจากอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายให้ลูกแล้ว เมื่อเช็ดตัวลูกให้แห้งแล้วควรปกป้องผิวลูกจากความเปียกชื้นด้วยแป้งเด็กด้วยค่ะ การทาแป้งเด็กที่ถูกวิธีคือค่อย ๆ เทแป้งใส่ฝ่ามือ ลูบไล้แป้งเบา ๆ แล้วทาลงบนผิวลูก อย่าโรยบนตัวลูกโดยตรง ควรลดระดับมือให้อยู่ต่ำกว่าใบหน้าลูก เพื่อป้องกันฝุ่นฟุ้งกระจายเข้าสู่ระบบหายใจของลูก ที่สำคัญควรเลือกแป้งที่ผลิตจากธรรมชาติ เช่น แป้งข้าวเจ้า นอกจากจะย่อยสลายง่าย ยังปลอดภัยจากทัลคัมด้วยค่ะ

5. ระวังแมลงต่าง ๆ ที่อาจทำอันตรายต่อผิวลูก

หน้าฝนแมลงเยอะแถมยังเป็นพาหะนำโรคได้ด้วย ที่ต้องระวังคือยุงและแมลงก้นกระดก เพราะไม่เพียงทำอันตรายต่อผิวลูกแต่แมลงทั้ง 2 ชนิดนี้ยังทำให้ลูกป่วยไข้ได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นคุณแม่ควรทำความสะอาดบริเวณบ้านอย่าให้มีหญ้าขึ้นหรือมีน้ำขัง กำจัดเศษใบไม้ใบหญ้าให้เรียบร้อย เพราะเหล่านี้อาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์แมลงพาหะหากไม่ทำความสะอาดให้ดี

วิธีใช้แป้งสำหรับเด็กอย่างปลอดภัยและช่วยให้ผิวลูกแห้งสบายตัว

1. เลือกแป้งเด็กที่มีส่วนผสมหลักมาจากพืชธรรมชาติ เช่น แป้งข้าวเจ้าเพราะย่อยสลายได้ ไม่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจของลูก

2. เป็นแป้งเด็กเนื้อเนียนละเอียด มีคุณสมบัติป้องกันความเปียกชื้นได้ดี ช่วยให้ลูกรู้สึกผิวแห้งสบายตัวตลอดเวลา

3. ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม หรือสารที่ก่อให้เกิดความระคายเคือง

4. สะอาด ปลอดภัย ที่สำคัญต้องปราศจากทัลคัม

5. ต้องผ่านการทดสอบว่าไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ (Hypoallergenic)

6. พยายามเลี่ยงการเทแป้ง อาจใช้พัฟท์ทดแทนเพื่อลดการฟุ้งกระจายจากการเทแป้ง

หน้าฝนก่อเกิดโรคต่าง ๆ เยอะมาก นอกจากใส่ใจดูแลผิวให้สุขภาพดีแล้ว อย่าลืมดูแลสุขภาพกายของลูกด้วยอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะนมแม่ เด็กทารกควรดื่มนมแม่ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 เดือน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย รวมถึงควรให้ลูกนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอด้วยค่ะ เพื่อสร้างการเจริญเติบโตและความแข็งแรงให้กับร่างกาย

ขอบคุณข้อมูลจาก www.reiscare.com

ตรวจสอบข้อมูลโดย นพ.ชาญสิริ เสกสรรค์วิริยะ โสต ศอ นาสิกแพทย์ อนุสาขาเวชศาสตร์การนอนหลับ โรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี

(พื้นที่โฆษณาและประชาสัมพันธ์)

คุณพ่อคุณแม่คะ รู้ได้อย่างไรว่าแป้งที่เราใช้อยู่ดีที่สุดสำหรับลูก ไม่ใช่แค่ราคาถูก กลิ่นหอมเท่านั้นนะคะ คุณสมบัติอื่น ๆ ก็สำคัญเช่นกัน อย่างเช่น การป้องกันการเปียกชื้น, ส่วนผสม, ความละเอียด เป็นต้น เรามาดูกันค่ะว่าคุณสมบัติของแป้งทั้ง 3 ชนิดนี้ แบบไหนที่ดีและเป็นตัวจริงเรื่องแป้งเด็กสำหรับลูกเราที่สุด

เทียบแป้งเด็ก 3 ชนิด แบบไหนที่ใช่และดีที่สุด

1. แป้งทัลคัม

แป้งทัลคัมเป็นแป้งที่มีส่วนผสมของแร่ทัลคัม (Talcum) หรือทัลก์ (Talc) คือแร่หินสบู่ที่มีความอ่อนมาก เป็นสารอนินทรีย์ที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ด้วยจุลินทรีย์ในธรรมชาติ นิยมใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเครื่องสำอางอย่าง แป้ง เพราะมีคุณสมบัติช่วยทำให้ผิวเนียนลื่น ดูดซับความชื้น ซึ่งหากใช้ไม่ระวังและสูดดมเข้าไปจำนวนเยอะ ๆ เป็นเวลานาน อาจจะเกิดการสะสม และทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ โรคมะเร็ง หรือโรคอันตรายร้ายแรงอื่น ๆ ได้ค่ะ

วิธีสังเกตว่าแป้งที่เราซื้อให้ลูกใช้ว่ามีทัลคัมหรือไม่ สามารถดูได้ที่ส่วนผสมด้านหลังขวดค่ะ จะมีภาษาอังกฤษว่า Talcum หรือ Talc นั่นเอง

แป้งทัลคัมจะมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เนื้อแป้งสีขาวนวล เมื่อทาแป้งทัลคัมลงบนผิวพบว่า เนื้อแป้งกลืนไปกับผิวได้ดี เปลี่ยนสีผิวให้ขาว สว่างขึ้นค่ะ

เมื่อทดสอบเนื้อแป้งกับน้ำ พบว่าแป้งได้ตกลงไปข้างล่างผสมกับน้ำอย่างรวดเร็ว แสดงว่าไม่มีคุณสมบัติป้องกันความเปียกชื้น ซึ่งเป็นสาเหตุของผื่นต่าง ๆ ได้ค่ะ

สรุป

ข้อดี : ผิวเนียน มีกลิ่นหอม

ข้อเสีย : ไม่ป้องกันการเปียกชื้น

2. แป้งข้าวโพด

แป้งชนิดที่ 2 แป้งข้าวโพดจะมีกลิ่นหอมของข้าวโพดอ่อน ๆ ค่ะ เนื้อแป้งเนียนละเอียดสีขาวนวลมีความลื่นผิว

แป้งข้าวโพดเมื่อลองทาลงไปกับผิวพบว่า เนื้อแป้งกระจายตัวไปรอบ ๆ บริเวณที่ทา ไม่เนียนไปกับผิวค่ะ

เมื่อทดสอบแป้งข้าวโพดกับน้ำพบว่า แป้งตกลงไปข้างล่างผสมกับน้ำทันที แสดงให้เห็นว่าไม่ป้องกันความเปียกชื้นค่ะ

สรุป

ข้อดี : กลิ่นหอม

ข้อเสีย : ไม่ป้องกันการเปียกชื้น เนื้อแป้งกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ

3. แป้งข้าวเจ้า

แป้งชนิดที่ 3 ทำมาจากแป้งข้าวเจ้า ซึ่งเป็นสารอินทรีย์ที่ย่อยสลายได้ด้วยจุลินทรีย์ในธรรมชาติ ทำให้มั่นใจว่ามาจากธรรมชาติจริง ๆ ปลอดภัยไม่สะสมในร่างกายค่ะ

แป้งข้าวเจ้ามีเนื้อแป้งแทบไม่แตกต่างจากแป้งชนิดอื่น แต่ถ้าสัมผัสเนื้อแป้งดี ๆ จะพบว่ารู้สึกฝืดนิดหน่อยไม่ลื่นมาก เพราะเนื้อแป้งละเอียดมาก ๆ ละเอียดกว่าแป้งทั่วไป ซึ่งแป้งที่ละเอียดกว่า จะทำให้ใช้แป้งในปริมาณที่น้อยแต่คลอบคลุมพื้นที่ผิวได้มากกว่าค่ะ เมื่อทาผิวแล้วมีความเนียนกลืนไปกับผิวดีค่ะ

แป้งข้าวเจ้าเมื่อทดสอบกับน้ำพบว่า แป้งไม่ตกลงไปข้างล่างเหมือนแป้งทั่วไป แสดงว่าช่วยป้องกันความเปียกชื้นได้จริงแท้แน่นอน คุณพ่อคุณแม่หายกังวลเรื่องปัญหาผื่นต่าง ๆ ของผิวลูกไปได้เลยค่ะ

สรุป

ข้อดี : กลิ่นหอม เนื้อแป้งเนียนละเอียด ป้องกันการเปียกชื้นได้จริง

ข้อเสีย : -

คุณพ่อคุณแม่อย่างเรา ถ้าต้องเลือกอะไรให้ลูกต้องดีที่สุดค่ะ แป้งเด็กก็เช่นกัน เราขอแนะนำ แป้งไร้ซแคร์ เป็นแป้งเด็กที่ผลิตจากแป้งข้าวเจ้า ซึ่งเป็นสารอินทรีย์ที่ย่อยสลายได้ด้วยจุลินทรีย์ในธรรมชาติ ไม่สะสมในร่างกาย และที่สำคัญไม่มีส่วนผสมของทัลคัม เนื้อแป้งละเอียดถึง 3 เท่า แถมป้องกันความเปียกชื้นที่เป็นสาเหตุของผื่นและปัญหาสุขภาพผิวต่าง ๆ ของลูกได้ค่ะ 

เคล็ดลับการใช้แป้งทาตัวอย่างถูกวิธี

เพียงคุณแม่เทแป้งเด็กลงบนฝ่ามือเล็กน้อย แล้วค่อย ๆ ทาลงบนผิวลูก และไม่ควรใช้แป้งโรยสะดือเด็กแรกเกิด หรือบริเวณจุดซ่อนเร้น เช่น อวัยวะเพศโดยตรง ระมัดระวังอย่าให้แป้งเข้าจมูกและปากของลูก

เมื่อทราบคุณสมบัติของแป้งเด็กทั้ง 3 ชนิดแล้ว ก็อย่าลืมนำไปใช้กันนะคะ จะเลือกแป้งให้ลูกทั้งทีต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุด เน้นแป้งที่มีส่วนผสมจากพืชธรรมชาติ 100% ไม่มีทัลคัม ป้องกันความเปียกชื้นได้จริง และต้องผ่านการทดสอบว่าไม่ก่อให้เกิดการแพ้ค่ะ เพียงเท่านี้คุณพ่อคุณแม่ก็มั่นใจได้แล้ว ว่าปลอดภัยและดีกับผิวของลูกจริง ๆ

สนใจสั่งซื้อแป้งไร้ซแคร์ได้ที่

Facebook: https://www.facebook.com/ReisCareBabyPowder/

Shopee: https://shopee.prf.hn/l/KNkOpAy

Lazada: https://www.lazada.co.th/shop/reiscare/

และรายชื่อร้านค้าชั้นนำที่จัดจำหน่ายแป้งไร้ซแคร์ทั่วไทย: https://bit.ly/2nQQh4U

ขอบคุณข้อมูลจาก www.reiscare.com

 (พื้นที่โฆษณาและประชาสัมพันธ์)

แป้งเด็กมีหลายประเภท เลือกให้เป็น ใช้ให้ถูก ช่วยให้ลูกปลอดภัยจากฝุ่นแป้งและโรคทางเดินหายใจได้

แป้งเด็ก พ่อแม่ต้องเลือกให้เป็น ทาให้ถูก

แป้งถือเป็นของใช้อย่างหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ บ้านเลือกใช้ เพราะคุณสมบัติของแป้งที่ช่วยปกป้องผิวลูกน้อยจากความเปียกชื้นและผดผื่นต่าง ๆ ช่วยลดการเสียดสีจากผ้าอ้อม หรือเสื้อผ้าของลูก ช่วยให้ลูกรู้สึกแห้ง สบายตัว สบายผิว ส่งผลให้ลูกเป็นเด็กอารมณ์ดี ร่าเริง พัฒนาการดี เรียนรู้ไว แต่ว่าในท้องตลาดบ้านเรามีแป้งเด็กอยู่หลายประเภท มีอะไรบ้าง และแบบไหนเหมาะกับเราที่สุด มาดูกันค่ะ

แป้งเด็ก มีกี่ประเภท ข้อดี ข้อเสีย อย่างไร

1.  แป้งเด็กแบบแป้งฝุ่น เป็นแป้งที่ได้รับความนิยมเป็นส่วนใหญ่ในท้องตลาด ผงแป้งมีส่วนประกอบหลักแตกต่างกันไป เช่น แป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวโพด หรือในหลายยี่ห้อก็จะใช้ผงทัลคัม (Talcum) เป็นส่วนผสมอยู่ ข้อดีของแป้งเด็กแบบแป้งฝุ่นคือ หาซื้อง่าย มีให้เลือกหลากหลาย มีขนาดพกพา ราคาย่อมเยา แต่ข้อเสียคือหากใช้ไม่ระวังจะทำให้ผงแป้งฟุ้งกระจาย โดยเฉพาะแป้งที่มีส่วนผสมของทัลคัมอาจส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจของลูกได้ เนื่องจากแป้งทัลคัมเป็นสารอนินทรีย์ที่ไม่สามารถย่อยสลายได้
   
   
2. แป้งเด็กอัดแข็ง เป็นผงแป้งอัดแข็งในตลับ ลักษณะเป็นเนื้อเนียนละเอียด เมื่อจะทาหน้าหรือทาผิวต้องใช้พัฟท์ในการทา ข้อดีคือไม่มีฝุ่นแป้งฟุ้งกระจาย พกพาสะดวก ส่วนข้อเสียคือ ราคาสูง และตัวเลือกค่อนข้างน้อย
   
   
3. แป้งเด็กแบบโลชั่น เป็นแป้งที่มีลักษณะเป็นครีมหรือโลชั่น ขณะทาผิวให้ความรู้สึกเหมือนทาโลชั่น มักมีส่วนผสมของมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวของเด็ก ๆ ด้วย ข้อดีคือไม่ฟุ้งกระจาย หาซื้อง่าย ส่วนข้อเสียคือเพราะเป็นเนื้อโลชั่น อาจทำให้เกิดการอับชื้นได้ และรู้สึกเหนียวเหนอะหนะ เมื่อเหงื่อออก

วิธีเลือกแป้งเด็กที่ดีต่อลูก

1. เลือกแป้งเด็กที่มีส่วนผสมหลักมาจากพืชธรรมชาติ เช่น แป้งข้าวเจ้าเพราะย่อยสลายได้ และมีคุณสมบัติป้องกันความเปียกชื้น ช่วยให้ลูกรู้สึกสบายตัว หลับได้ยาวนานขึ้น
   
   
2. ต้องเป็นแป้งเด็กเนื้อเนียนละเอียด ป้องกันความเปียกชื้นได้ดี
   
   
3. ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม หรือสารที่ก่อให้เกิดความระคายเคือง
   
   
4. สะอาด ปลอดภัย ปราศจากทัลคัม
   
   
5. ต้องผ่านการทดสอบว่าไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ (Hypoallergenic)

ข้อควรระวังในการทาแป้งให้เด็ก

1. ระวังอย่าให้แป้งเข้าจมูก และปาก
2. อย่าให้ลูกสูดดมแป้ง
3. ไม่โรยแป้งลงสะดือเด็กแรกเกิด หรือบริเวณจุดซ่อนเร้น เช่น อวัยวะเพศโดยตรง
4. ไม่โรยแป้งฝุ่นลงบนตัวโดยตรง แต่ให้ค่อย ๆ โรยแป้งบนมือก่อน แล้วค่อยทาบนตัวลูก หรืออาจใช้พัฟท์เพื่อลดการฟุ้งกระจาย
5. เก็บแป้งให้ห่างไกลมือเด็ก เพราะลูกอาจเอาไปเขย่าเล่น ทำให้แป้งหกหรือเผลอสูดดมเข้าไปจนสำลัก เนื่องจากแป้งเข้าปอด อาจทำให้ปอดอักเสบได้

เพราะแป้งเด็กเป็นของใช้ที่หลาย ๆ บ้านขาดไม่ได้ การเลือกแป้งเด็กต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน เพื่อปกป้องลูกจากความเปียกชื้นให้ยาวนานและไม่มีสารระคายเคืองหรือเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจของลูก

ขอบคุณข้อมูลจาก www.reiscare.com

ตรวจสอบข้อมูลโดย นพ.ชาญสิริ เสกสรรค์วิริยะ โสต ศอ นาสิกแพทย์ อนุสาขาเวชศาสตร์การนอนหลับ โรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี

(พื้นที่โฆษณาและประชาสัมพันธ์)

แป้งไร้ซแคร์ แป้งสำหรับครอบครัว ที่เหมาะสำหรับทุก GEN

แป้งทาตัวยังคงเป็นไอเทมที่ต้องมีติดบ้านเอาไว้ เพราะนอกจากจะช่วยลดความอับชื้นสำหรับเด็กและผู้ใหญ่แล้ว การเลือกแป้งที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติไม่ระคายเคืองผิว ยิ่งเมืองไทยอากาศร้อน ๆ การทาแป้งช่วยระงับกลิ่นกายได้ เพิ่มความรู้สึกมั่นใจ และสบายตัวได้เหมือนกันนะคะ

แป้งไร้ซแคร์ แป้งข้าวธรรมชาติ

แม่ ๆ คงจะคุ้นเคยกันดีกับแป้งไร้ซแคร์ แป้งข้าวธรรมชาติที่ปราศจากทัลคัม และแร่ใยหินแอสเบสตอส ผลิตจากข้าวธรรมชาติเป็นสารอินทรีย์ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ไม่สะสมในปอดหรือร่ายกาย เนื้อละเอียดมากใช้น้อยกว่าแป้งทั่วไป 3 เท่า แป้งไร้ซแคร์ทุกตัวมีคุณสมบัติเด่นในการป้องกันความชื้น และดูดซับความมันได้ดีมาก ช่วยให้ผิวแห้งสบายตลอดวัน

แป้งไร้ซแคร์ แป้งสำหรับครอบครัว

ตอนนี้แป้งไร้ซแคร์เขาพัฒนาสูตรออกมาถึง 4 สูตรด้วยกันแล้วนะคะ ซึ่งตอบโจทย์สำหรับทุกคนในครอบครัวเลยค่ะ ส่วนแต่ละสูตรเหมาะกับใครบ้างนั้น มาดูกันเลย

แป้งไร้ซแคร์ เบบี้ พาวเดอร์ เพียว 0+  

ตามชื่อเลยค่ะ เพียว บริสุทธิ์ แป้งตัวนี้เหมาะสำหรับลูกน้อยวัย 0+ และผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย แป้งตัวนี้สามารถใช้ได้ทุกเพศทุกวัย เพราะไม่มีน้ำหอมเป็นส่วนผสม ไม่มีทัลคัม ปราศจากพาราเบน สารกันเสีย และสารระคายเคืองต่าง ๆ  

แป้งเนื้อนุ่มเนียนละเอียด มาพร้อมพัฟที่ช่วยลดการฟุ้งกระจาย แตะพัฟเบา ๆ ที่ก้นลูกก่อนใส่ผ้าอ้อมจะช่วยป้องกันความเปียกชื้นได้ดี ช่วยให้ลูกสบายตัว นอนหลับสบายค่ะ

สำหรับ แป้งไร้ซแคร์ เบบี้ พาวเดอร์ เพียว 0+ มีจำหน่ายเฉพาะช่องทางออนไลน์เท่านั้น ขนาด 130 กรัม ราคากระปุกละ 179 บาท

พิกัด shopee.co.th/ReisCare

https://shope.ee/5fT3Pj4TFZ

แป้งไร้ซแคร์ กลิ่นเอ็กซ์ตร้า ไมลด์

แป้งกระป๋องสีฟ้า มีกลิ่นหอมของแป้งเด็กอ่อน ๆ เนื้อขาวเนียนละเอียด ใช้ได้ทุกเพศทุกวัยค่ะ ผลิตจากแป้งข้าวธรรมชาติ ไม่มีสารก่อภูมิแพ้ ไม่ทำให้ระคายเคือง ใช้ทาตัวหลังอาบน้ำช่วยป้องกันความเปียกชื้นได้ดีเลยค่ะ หรือคุณพ่อจะเอามาทาบริเวณรักแร้หรือขาหนีบก็ช่วยให้ลื่นแห้งสบายตัวดีค่ะ

แป้งไร้ซแคร์ กลิ่นเอ็กซ์ตร้า ไมลด์ มีจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำและช่องทางออนไลน์ มี 2 ขนาด คือ 40 กรัม และ 130 กรัม ราคากระป๋องละ 39 และ 99 บาท

พิกัด shopee.co.th/ReisCare 

https://shope.ee/5V9dDQ56aY

https://s.shopee.co.th/9A2vaFovfH

แป้งไร้ซแคร์ กลิ่นฟลอรัล สวีท

แป้งกระป๋องจะสีชมพู รุ่นนี้ถือเป็นไอเทมดังประจำเว็บบอร์ดห้องแป้งเลยค่ะ ด้วยมีกลิ่นหอมของดอกไม้ เลยเหมาะกับคุณแม่หรือสาว ๆ ใช้ทาตัวเพิ่มกลิ่นหอมกาย กระป๋องเล็กพกพาง่าย ช่วยคุมมันบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี วันไหนรีบ ๆ ไม่มีเวลาสระผมก็ใช้โรยเส้นผมแทนแชมพูแห้งได้นะคะ แม่ บก. ใช้วิธีนี้บ่อยเลย

สำหรับแป้งไร้ซแคร์ กลิ่นฟลอรัล สวีท กระป๋องเล็กมีวางจำหน่ายที่ 7-eleven ด้วยค่ะ หรือใครสะดวกช่องทางออนไลน์สามารถสั่งซื้อได้เลย มี 2 ขนาด คือ 40 กรัม และ 130 กรัม ราคากระป๋องละ 39 และ 99 บาท

พิกัด shopee.co.th/ReisCare 

https://s.shopee.co.th/5KqD175jvX

https://s.shopee.co.th/7zqyC6tN24

แป้งทาตัวไร้ซแคร์ พลัส ฟอร์เอเวอร์ ยัง

แป้งออแกนิกน้องใหม่ขวัญใจผู้สูงวัย (แต่จริง ๆ วัยไหนก็ใช้ได้ค่ะ) แป้งข้าวธรรมชาติอีกตัวที่มีคุณสมบัติช่วยลดกลิ่นเฉพาะวัย Nonenal กลิ่นหอมสดชื่น มีวิตามินบำรุงผิวทั้งวิตามินซีและวิตามินอี พร้อมสารต้านอนุมูลอิสระอย่างชาขาวและคาโมมายช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับผิว ส่วนเนื้อแป้งมีความละเอียด ทาได้ทั่วตัว ใช้น้อยกว่าแป้งทั่วไป 3 เท่า

สำหรับคุณลุงคุณป้า คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย ใช้แล้วจะผิวแห้งสบาย ลดกลิ่นตัว ช่วยให้หลาน ๆ เข้ามากอดมาหอม คลอเคลียกันได้ทุกวันเวลาเลยค่ะ  

แป้งทาตัวไร้ซแคร์ พลัส ฟอร์เอเวอร์ ยัง สั่งซื้อได้เฉพาะช่องทางออนไลน์เท่านั้น ขนาด 60 กรัม ราคากระป๋องละ 69 บาท

พิกัด shopee.co.th/ReisCare 

https://s.shopee.co.th/6V2APG1IYm

https://s.shopee.co.th/8AAOOPsjh7

เพราะบ้านเราอากาศร้อนชื้น แม้อาบน้ำเสร็จแล้วก็ยังมีเหงื่อออกได้ การทาแป้งนอกจากช่วยป้องกันความเปียกชื้นแล้วยังช่วยให้สบายตัว และกลิ่นหอม ๆ ของแป้งข้าวยังเพิ่มความมั่นใจ ลดกลิ่นตัวได้ด้วยค่ะ แป้งไร้ซแคร์ เป็นแป้งสำหรับครอบครัวจริง ๆ