facebook  youtube  line

Mom's Issue EP 17 : Tiktok Brain เลี้ยงลูกด้วยคลิปสั้น ทำลายสมอง

 

Tiktok Brain ผลกระทบจากการดูคลิปสั้น ส่งผลกระทบกับสมองและการเรียนรู้ของเด็กอย่างไรบ้าง แม่ดอยและป้าปอยชวน อจ.ธาม เชื้อสถาปนศิริ มาพูดคุยถึงผลกระทบ พร้อม How To การเลือกคลิป ที่ดูแล้วเป็นมิตรกับการเรียนรู้และสมอง

 

Apple Podcast:https://apple.co/3m15ytB

Spotify:https://spoti.fi/3cvAVcX

Youtube:https://bit.ly/3cxn31u

 

#รักลูกPodcast#รักลูกTheExpertTalk#Moms_Issues

Mom's Issue EP 22 (Rerun) : เลี้ยงลูกด้วยคลิปสั้น กระทบความจำ ทำลายการเรียนรู้

 

Tiktok Brain ผลกระทบจากการดูคลิปสั้น ส่งผลกระทบกับสมองและการเรียนรู้ของเด็กอย่างไรบ้าง

แม่ดอยและป้าปอยชวนอจ.ธาม เชื้อสถาปนศิริ มาพูดคุยถึงผลกระทบ พร้อม How To การเลือกคลิป ที่ดูแล้วเป็นมิตรกับการเรียนรู้และสมอง

 

Apple Podcast: https://apple.co/3m15ytB

Spotify: https://spoti.fi/3cvAVcX

Youtube: https://bit.ly/3cxn31u

 

#รักลูกPodcast

#รักลูกTheExpertTalk

#Moms_Issues

จบปัญหาลูกติดจอ ติดเกมด้วยเทคนิค 8 ว. แบบไม่เถียง ไม่ทะเลาะ

ลูกติดจอ เด็กติดเกม, ลูกติดเกม เด็กติดเกม, วิธีแก้ปัญหาลูกติดจอ ติดเกม,  เทคนิคเลี้ยงลูกไม่ใช้จอ, ช่วยลูกเลิกจอ, ไม่ให้ลูกเล่นจอ, สื่อร้อน สื่อเย็น

จบปัญหาลูกติดจอ ติดเกมด้วยเทคนิค 8 ว. แบบไม่เถียง ไม่ทะเลาะ

บ้านไหนลูกติดจอ กำลังจะติดจอ กำลังจะให้ลูกเริ่มใช้จอ เอาเทคนิค 8 ว. นี้ไปใช้นะคะ จะช่วยแก้ปัญหาลูกติดจอ เด็กติดจอได้แบบไม่ต้องงอนกัน

  1. วัย – ใช้หลักพัฒนาการเด็ก ความสมวัยมากำกับ
    • เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ห้ามใช้จอในทุกกรณี
    • เด็กวัย 2- 5 ดูจอได้วันละไม่เกิน 1 ชั่วโมง และต้องมีพ่อแม่ดูอยู่ด้วยกัน
    • เด็กวัย 6 ปีขึ้นไป ดูจอได้ไม่เกินวันละ 2 ชั่วโมง และต้องมีพ่อแม่ดูอยู่ด้วยกัน
    • เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ยังไม่ควรมีมือถือ แท็บเล็ตเป็นของตัวเอง 

  2. วัตถุประสงค์ในการใช้จอ 
    ใช้เพื่อการศึกษาหรือความสนุก หรือเพื่อทดแทนช่วงเวลาว่าง

  3. วิธีการใช้จอ
    • วิธีการใช้งานที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ
    • ไม่เสี่ยง ไม่ประมาท ไม่คุกคาม
    • ไม่เปิดเผยความเป็นส่วนตัว ความลับ

  4. วางอุปกรณ์ไว้ในห้องนั่ง
    • ไม่วางในห้องนอน
    • วางของเล่น นิทาน ตัวต่อไว้รอบบ้าน
    • ไม่วางมือถือให้ลูกหยิบเองได้

  5. เวลาในการใช้จอ
    • กำหนดเวลาที่ชัดเจนทั้งต่อวัน และต่อครั้ง ไม่มีการต่อเวลา
    • กำหนดกิจกรรมที่จะทำก่อนและหลังใช้จอ
    • ไม่เอาเอาช่วงเวลาใช้จอมาใส่ในตารางกิจกรรมประจำวันร่วมกันของทุกคน

       6. เว้นการใช้งานหน้าจอในช่วเวลาต่าง ๆ 

      • เว้นการใช้งานระหว่างกินอาหารและนั่งรถ
      • เว้นการใช้งานหน้าจอขณะทำกิจกรรมของครอบครัว
      • เว้นการใช้จอขณะเรียนและทำกิจกรรมนอกบ้าน

        7. วิจารณญาณในการตัดสินใจให้ใช้จอ

      • ใช้ความคิดในการไตร่ตรองความเหมาะสม ถูกผิด
      • ใช้การควบคุมตัวเอง ฝึกฝนใส่ใจผู้อื่น
      • ใช้ความรู้เชิงวิเคราะห์ ตั้งคำถาม

        8. วัตร ความสม่ำเสมอในการใช้และไม่ใช้จอ

      • กิจวัตรประจำวันต้องคงเดิม เท่าเทียม
      • การใช้หน้าจอไม่ใช่รางวัลหรือสิ่งต่อรอง

คุณพ่อคุณแม่อาจจะยังทำไม่ได้ทุกข้อค่ะ เลือกทำข้อที่ทำได้และสำคัญก่อน เช่น การกำหนดเวลาใช้จอ ไม่ยื่นหน้าจอให้ลูกเมื่อรู้สึกว่าลูกเบื่อ อาละวาด เพราะจริง ๆ การปล่อยให้ลูกเบื่อ ไม่เล่นจอ เขาจะเริ่มมีความคิดจะสร้างสรรค์กิจกรรม หรือหาวิธีเล่นได้ด้วยตัวเองค่ะ 

 

 

รักลูก The Expert Talk EP.102 (Rerun) : ชวนพ่อแม่ “รู้” และ “เท่าทัน” สื่อ

 

รักลูก The Expert Talk Ep.102 : ชวนพ่อแม่ "รู้" และ "เท่าทัน" สื่อ

 

รับมือเมื่อลูกเข้าสู่โลกดิจิตอล พ่อแม่ต้องรู้เท่าทันอย่างไร

 

ฟัง The Expert อาจารย์ธาม เชื้อสถาปนศิริ

นักวิชาการด้านสื่อ สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล

 

เพื่อให้เรารู้เทคนิค วิธีการที่จะรับมือกับทั้งสื่อ จอ และ Content หลากหลายรูปแบบ เพื่อให้ใช้สื่ออย่างรู้เท่าทัน

  

Apple Podcast: https://apple.co/3m15ytB

Spotify: https://spoti.fi/3cvAVcX

Youtube: https://bit.ly/3cxn31u

รักลูก The Expert Talk EP.124 : “พ่อแม่ขาดทักษะการใช้สื่อ กระทบสมองลูก”

 

รักลูก The Expert Talk Ep.124 : Family Out จอ Gen กับอาจารย์ธาม เชื้อสถาปนศิริ ตอนที่ 5 พ่อแม่ขาดทักษะการใช้สื่อกระทบสมองลูก

 

งานวิจัยพบว่าเด็กที่ใช้สื่อเย็นเซลล์สมองจะเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ได้มากกว่า

ขณะที่สื่อร้อนการเชื่อมต่อของเซลล์ที่ชั้นเปลือกสมองจะทําได้น้อย กระทบกับพัฒนาการของสมอง โดยเฉพาะทักษะสมอง EF

 

ไม่อยากให้ลูกติดจอ พ่อแม่ทำได้

ฟัง อาจารย์ธาม เชื้อสถาปนศิริบอกแนวทางการฝึกทักษะให้พ่อแม่มี Digital Literacy เพื่อรับมือและรู้เท่าทันก่อนสื่อหน้าจอจะทำลายสมองลูก

 

ติดตามรักลูก Podcast ได้ที่https://linktr.ee/rakluke 

รักลูก The Expert Talk EP.129 : แก้ปัญหาเด็กติดจอเริ่มที่พ่อแม่

 

รักลูก The Expert Talk Ep.129 : โพรไบโอติกและพรีไบโอติก เลือกอย่างไรเหมาะกับเด็ก

ติดจอแล้วลด ละ เลิกอย่างไร

  • กำหนดเวลาในการดูจอ
  • เลือกเนื้อหาที่มีประโยชน์
  • ปิดท้ายด้วยสื่อเย็น

ฟังแนวทางการลดละเลิกจอ และเลือกเนื้อหาที่ดีต่อพัฒนาการ จาก The Expert อาจารย์ธาม เชื้อสถาปนศิริ

ติดตามรักลูก Podcast ได้ที่ https://linktr.ee/rakluke

สื่อร้อน สื่อเย็น คืออะไร ทำความเข้าใจและใช้ให้เป็น

สื่อร้อน สื่อเย็น คืออะไร ทำความเข้าใจและใช้ให้เป็น-สื่อร้อน สื่อเย็น-สื่อสำหรับเด็ก 

สื่อมีหลายรูปแบบ ถ้ารู้จักเลือกให้ลูก พ่อแม่จะมีสื่อที่ดีในการส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ของลูกเลยค่ะ 

สื่อร้อน สื่อเย็น ใช้เป็น ลูกอุ่นใจ

ถ้านิยามคำว่าสื่อหลายคนอาจนึกถึงสื่อหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ หรือโซเชี่ยลมีเดียทั้งหลาย

อ. ธาม เชื้อสถาปนศิริ สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายเอาไว้ใน รักลูก Podcast รายการ รักลูก The Expert Talk EP.15: ชวนพ่อแม่ “รู้” และ “เท่าทัน” สื่อ อธิบายความหมายของสื่อสำหรับเด็กได้น่าสนใจมากค่ะ

สื่อคือการสื่อสารความหมาย

อาจารย์ธามให้นิยามความหมายของคำว่าสื่อสำหรับเด็กปฐมวัย (0-6 ปี) ไว้ว่า สื่อคืออะไรก็ตามที่สื่อสารความหมายข้อความได้ แม้กระทั่งบุคคลก็เป็นสื่อได้ เช่นเด็กทารกในครรภ์ ถ้าแม่ฟังเพลงอะไรก็ตามเปิดเพลงที่ทำให้บรรยากาศดี นี่ก็เป็นสื่อ เด็ก ๆ ก็ได้ยิน หรือคุณแม่พูดผ่านสายรกลูบคลำ ก็สื่อประเภทหนึ่ง คุณแม่อารมณ์ดีพูดคุยกับคุณพ่อ คุณพ่อดูแลดีอารมณ์ดี กินอาหารดีก็เป็นสื่อเช่นกัน

สื่อไม่ได้จำกัดแค่เป็นโทรศัพท์มือถือ โทรทัศน์ หรือการ์ตูนสำหรับเด็กเท่านั้น แต่สมุดภาพ นิทาน น้ำตก บ่อทราย ชายหาด กิ่งไม้ ก้อนหิน การเล่นปีนป่าย เสียงผึ้ง แสงแดด ฯลฯ ก็สามารถเป็นสื่อได้ ยกตัวอย่างเช่นเวลาที่พ่อแม่พาลูกออกไปสนามสีเขียว เสียงนกร้อง สายลม แสงแดดก็เป็นสื่อได้

 

สื่อร้อนสื่อเย็นคืออะไร 

สื่อร้อน คือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และสื่อดิจิตอล สื่อเหล่านี้ อาจทำให้พัฒนาการของเด็กเชื่องช้า เกิดพฤติกรรมก้าวร้าว หากมีการเสพสื่อ หรือติดสื่อ ที่เยอะเกินไป ก็อาจทำให้เด็กๆ ไม่สนใจต่อสิ่งเเวดล้อมต่างๆ ทีเกิดขึ้นรอบตัว เนื่องจากเป็นสื่อที่เกิดจากกระบวนการ Production คือ มีโปรดิวเซอร์ มีแอนนิเมเตอร์วาดการ์ตูน มีคนใส่เสียง มีคนตัดต่อ มีคนทำกราฟฟิก โดยเกิดความสลับซับซ้อน มีจังหวะการเล่าเรื่อง มียอดโฆษณา มีดราม่า มีเจตนาแฝง เมื่อเปิดปุ๊บก็จะติดปั๊บ ตัวมันร้อนได้เอง เมื่อกดเพลย์ เสียบปลั๊กปุ๊บก็จะไหลไป 5 นาที 10 นาที 20 นาที 2 ชั่วโมง พ่อแม่จึงต้องระวัง

 
 

สื่อเย็น สื่อที่เด็กๆ สามารถจับต้อง เรียนรู้ได้ จากของเล่น หนังสือนิทาน หรือสิ่งเเวดล้อมรอบตัว โดยมีคุณพ่อคุณเเม่เป็นคนผลักดัน เป็นคนสร้างความกระตือรือร้นให้กับเด็ก ๆ ทำให้เกิดสัมพันธภาพในสังคมครอบครัว ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น พัฒนาการที่ดีสำหรับเด็ก ๆ เช่น เด็กต้องตีกลอง ถ้าหยุดตีก็จะไม่มีเสียง ดินน้ำมันวางอยู่เฉย ๆ ถ้าไม่ปั้นมันก็อยู่แบบเดิม สมุดนิทานถ้าไม่เปิดก็อ่านไม่ได้ ฉะนั้นสื่อพวกนี้จะเรียกว่าสื่อเย็น ทีมีฟังก์ชั่นหรือหน้าที่ใดหน้าที่หนึ่งจบในตัวเอง ไม่ได้สลับซับซ้อน

 

สื่อร้อน สื่อเย็น คืออะไร ทำความเข้าใจและใช้ให้เป็น-สื่อร้อน สื่อเย็น-สื่อสำหรับเด็ก

พ่อแม่คือสื่อที่สำคัญที่สุดของลูก

ในยุค โควิด 19 ที่หลาย ๆ บ้านต้องกักตัว ไม่ได้ออกไปไหน หากเกรงว่าจะไม่มีสื่อสำหรับเด็ก อ. ธามกล่าวว่า สื่อที่สำคัญหรือบุคคลที่มีความสำคัญมากที่สุด คือ พ่อแม่ หรือผู้เลี้ยงดู อาจจะเป็นลุง ป้า น้า อา ปู่ ย่า ตา ยาย หรือพี่เลี้ยงที่ที่อยู่กับเด็ก

การดูแลเด็กปฐมวัยไม่จำเป็นต้องใช้ดิจิตอลมีเดีย สื่อที่เป็นวิทยุ ทีวี เลย แต่ถ้าพ่อแม่ชวนลูกร้องเพลง อ่านนิทาน เล่นสิ่งของเล่นต่าง ๆ เล่นตุ๊กตา เล่นดินน้ำมัน วาดรูประบายสี ทุกอย่างสามารถเป็นสื่อได้ ขึ้นอยู่กับเจตนาว่าเราจะใช้สิ่งนั้นเพื่อสื่อสารอะไรกับลูก

แม้กระทั่งการโอบกอดเด็กเล็ก สัมผัส โอบกอดเอาหน้าลูกเข้ามาแนบอกพ่อแม่ ฟังเสียงหัวใจ เสียงหัวใจ โดยเฉพาะในช่วง 1 ขวบถึง 1 ขวบครึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็กทารกคือความไว้วางใจต่อโลกใบนี้ เมื่อเขาเริ่มเตาะแตะ ประมาณขวบครึ่งถึง 3 ขวบ เขาจะรู้สึกอยากทำนั่นอยากทำนี่ได้เอง (Autonomy) เพราะฉะนั้นจาน ชาม ช้อน ส้อม ของใช้ในบ้าน หยิบส้มแล้วโยนลงพื้น หยิบลูกปิงปอง ลูกบอลแล้วก็ขว้างปา สิ่งเหล่านี้เป็นสื่อเพราะเด็ก ๆ กำลังเรียนรู้บางอย่าง

 

อ้างอิง :อาจารย์ธาม เชื้อสถาปนศิริ นักวิชาการด้านสื่อ สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล

รับฟังและรับชมเพิ่มเติมที่ Podcast รายการ รักลูก The Expert Talk ทั้งหมดได้ที่>>>