
Dysfunctional Family คืออะไร เรากำลังเป็นพ่อแม่ที่ทำให้ครอบครัวพร่องหน้าที่หรือเปล่า
Dysfunctional Family ครอบครัวบกพร่องหน้าที่ เป็นเรื่องที่พ่อแม่คนไทยไม่ค่อยคุ้นหูค่ะ แต่ถ้าเป็นเรื่องการของเลี้ยงลูกแบบ Dysfunctional Family เราทำและมีกันมานานแล้ว แค่ยังไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง
เลี้ยงลูกแบบควบคุมทุกอย่าง เลี้ยงลูกแบบปล่อยปละ หรือ เลี้ยงลูกแบบตำหนิทุกอย่าง โดยให้เหตุผลว่า เพราะรักลูกถึงได้เลี้ยงแบบนี้ ทั้งที่ลูกอาจจะไม่ได้รู้สึกถึงความรัก แต่กลายเป็นความกดดันซึ่งส่งผลต่อทั้งร่างกาย จิตใจ วิธีคิด และพฤติกรรมของลูกค่ะ
อาจารย์ธาม เชื้อสถาปนศิริ อาจารย์ประจำสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ให้ข้อมูลเรื่อง Dysfunctional Family ครอบครัวบกพร่องหน้าที่ ไว้น่าสนใจ ซึ่งจะช่วยเป็นแนวทางให้คุณพ่อคุณแม่ลองตรวจสอบตัวเองด้วยค่ะ
Dysfunctional Family ครอบครัวบกพร่องหน้าที่ คือ สภาวะที่พ่อแม่ไม่ทำหน้าที่ในการเลี้ยงดูลูกอย่างถูกต้อง ตามความต้องการทางร่างกาย จิตใจ และพฤกติกรรมของเด็กแต่ละคน
โดยสอดคล้องกับ รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเด็กและวัยรุ่น ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม ที่กล่าวว่า “เด็กคือผ้าหลากสี” เขาเกิดมาโดยมีสีพื้นที่ต่างกัน ซึ่งสังเกตง่าย ๆ เช่น เด็กบางคนเลี้ยงง่ายมาก เด็กบางคนร้องงอแงตลอด เด็กบางคนเลี้ยงง่ายบ้างยากบ้างสลับกันไปในแต่ละวัน จึงเป็นที่มาว่า พ่อแม่จำเป็นต้องรู้พื้นฐานของลูก แล้วเลี้ยงดู ส่งเสริม สนับสนุน และนำทางไปได้อย่างถูกต้อง โดยไม่ยึดตัวพ่อแม่เป็นศูนย์กลางเพียงอย่างเดียว

Dysfunctional Family ครอบครัวบกพร่องหน้าที่ มีด้วยกัน 8 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้
1. ครอบครัวแบบควบคุม
หมายถึง พ่อแม่คอยควบคุมอย่างรอบด้านทั้งการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน ความรู็สึก คำพูด การแสดงออก เพราะต้องการให้ลูกทำตัวให้ได้ดั่งใจ ไม่ทำสิ่งที่น่าอับอายต่อหน้าคนอื่น
2. ครอบครัวแบบสมบูรณ์แบบนิยม
หมายถึง พ่อแม่ที่ตั้งกฏและมีการวัดมาตรฐานของทุกสิ่งเพื่อให้ผลออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด เช่น ลูกต้องทำสอบได้ที่ 1 เท่านั้น ห้องนอนต้องเป็นระเบียบที่สุด เป็นต้น เพราะต้องการให้ครอบครัวเป็นที่ยอมรับของสังคม
3. ครอบครัวแบบตำหนิ
หมายถึง พ่อแม่ช่างตำหนิ ซึ่งเป็นผลพวงมาจากครอบครัวแบบควบคุม เมื่อหลายอย่างไม่เป็นไปตามการควบคุม จะเริ่มโทษคนอื่น โทษลูกทันที เพราะต้องการหาที่มาของความผิดพลาดที่ทำไม่ได้ดั่งใจ
4. ครอบครัวแบบปฏิเสธ
หมายถึง พ่อแม่ที่ Say no ตลอดเวลา ซึ่งเป็นผลพวงมาจากครอบครัวแบบสมบูรณ์แบบนิยม ที่ “ห้าม/ไม่” ทำสิ่งที่จะทำให้ความเรียบร้อยสมบูรณ์แบบนั้นผิดไปจากแผนที่ตั้งไว้ ดังนั้นจะมีกฏข้อห้ามเยอะมาก จนลูกแทบทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากสิ่งที่พ่อแม่บอก
5. ครอบครัวแบบมีกฏห้ามพูด
หมายถึง พ่อแม่มีกฎ 'ห้ามพูดคุย' ห้ามแสดงความรู้สึก แสดงความคิดเห็น ความต้องการ ทุกคนต้องการซ่อนความรู้สึก ความต้องการไว้ในใจ หรือความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง จนในที่สุดครอบครัวก็ไม่มีความใกล้ชิด คุยกันไม่ได้ทุกเรื่อง
6. ครอบครัวแบบสร้างมายา
หมายถึง พ่อแม่ที่คิดว่าทุกเรื่องไม่ใช่ปัญหา มองความจริงที่ปรากฏตรงหน้าเป็นเรื่องไร้สาระ มองหาแต่เรื่องดีมาใส่ครอบครัว ทำให้ปัญหาสะสม ลูกก็เลยรู้สึกไปด้วยว่าปัญหา ความผิดพลาดเป็นเรื่องที่ไม่ต้องใส่ใจ
7. ครอบครัวแบบไม่แก้ปัญหา
หมายถึง พ่อแม่ที่เจอปัญหาแล้วอารมณ์รุนแรง หัวเสีย หาที่มาของปัญหาไม่ได้จนเกิดความสับสนไปหมด แล้วก็ไม่หาทางแก้ปัญหา ไม่ว่าตอนอารมณ์ยังร้อนหรือเย็นลงแล้วก็ตาม
8. ครอบครัวแบบเชื่อถืออะไรไม่ได้
หมายถึง พ่อแม่มักจะบอกว่าอย่าเชื่อใคร อย่าเชื่อใจใคร รวมถึงตัวพ่อแม่เองก็ทำสิ่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ตัวอย่างง่าย ๆ เช่น เมื่อลูกมีปัญหา พ่อแม่เป็นที่พึ่งให้ลูกได้เลยทั้งการปฏิสัมพันธ์ คำพูด หรือการอยู่เคียงข้าง
ลองสังเกตครอบครัวเรานะคะว่า ตอนนี้เข้าข่ายครอบครัวพร่องหน้าที่อยู่หรือเปล่า เพราะไม่ว่าเข้าข่ายแบบไหนก็ตามก็ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการ และการบวนการพัฒนาสมองของลูกเราแน่นอน หากรู้ก่อน ยอมรับก่อน ก็แก้ไขได้ก่อนลูกจะเสียคนนะคะ

ธงแดงเข้ม พ่อแม่จอมบงการ ชอบบังคับ เผด็จการ สัญญาณสู่ Dysfunctional Family
พ่อแม่ที่ชอบบังคับบงการลูก เป็นรูปแบบหนึ่งของการเลี้ยงลูกแบบ Dysfunctional Family เป็นครอบครัวแบบควบคุมที่พ่อแม่คอยควบคุมอย่างรอบด้านทั้งการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน ความรู้สึก คำพูด การแสดงออก เพราะต้องการให้ลูกทำตัวให้ได้ดั่งใจ ไม่ทำสิ่งที่น่าอับอายต่อหน้าคนอื่น
นานวันเข้าลูกมีโอกาสกลายเป็นคนเก็บกด ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ก้าวร้าว เมื่อรู้สึกโกรธก็จะไม่รู้จักควบคุมความโกรธ ไม่สนใจใคร ไม่รู้จักกาลเทศะ
เด็กหลายคนมีปัญหาในการเข้าสังคม กลัวการมีปฏิสัมพันธ์ แยกตัวโดดเดี่ยว ดื้อเงียบ ต่อต้าน กลายเป็นคนเครียดง่าย จิตตก ขี้กังวล ที่สำคัญเด็กจะกลายเป็นคนที่ไม่รู้ว่าตกลงตอนนี้ตัวเองรู้สึกอย่างไรกันแน่ เพราะอารมณ์จะแปรผันไปตามคนรอบข้าง ไม่รู้จักตัวเอง ไม่รู้จักความรู้สึกที่แท้จริง
สิ่งที่พ่อแม่ควรทำ

1. รู้จักยอมรับ
ให้เกียรติสมาชิกในครอบครัว รวมถึงยอมรับในตัวตนลูก ต้องไม่ควบคุมความรู้สึก พฤติกรรม และความสัมพันธ์ต่าง ๆ ของลูก
2. สมบูรณ์ไม่ต้องแบบ
สมาชิกทุกคนในครอบครัวทำผิดบ้างก็ได้ เพราะไม่มีใครสมบูรณ์แบบ 100%
3. ตำหนิได้
เราสามารถปล่อยจอยกับบางเรื่องได้ ไม่เป็นไรบ้างก็ได้ในบางเรื่อง เพราะบางครั้งปัญหาช่วยสร้างทักษะชีวิต ให้เรียนรู้วิธีแก้ปัญหา ไม่ต้องไปหาสาเหตุว่าใครเป็นคนผิดหรือผิดที่ใคร
4. มีเสรีภาพ 5 ข้อ
คือในครอบครัว โดยเด็กสามารถรู้สึกอย่างที่อยากจะรู้สึก คิดตามที่ได้คิด แสดงความคิดเห็นในสิ่งที่อยากพูด ได้ในสิ่งที่ต้องการ และจินตนาการในสิ่งที่ฝันได้
5. สามารถพูดคุยได้
ด้วยความบริสุทธิ์ใจ และจริงใจต่อกัน
6. มองเห็นความเป็นจริง
เมื่อมองเห็นปัญหา อย่าโกหกหรือสร้างภาพว่าไม่ใช่ปัญหา
7. ลุล่วงผ่านพ้น
มันโอเคที่จะแก้ไขความแตกต่างระหว่างกัน และยอมรับมันให้ผ่านพ้นไป
8. ไว้วางใจกันและกัน
เรียนรู้ที่จะไว้วางใจตนเองและใครสักคนที่วางใจได้
ไม่อยากให้ลูกเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่พร่องหน้าที่ต้องเริ่มปรับที่พ่อแม่ตั้งแต่วันนี้เลยค่ะ ก่อนจะสายเกินไป
เลี้ยงลูกให้ได้ดี ลูกต้องมี “SELF” เพราะตัวตนที่แข็งแกร่ง จะทำให้ลูกเติบโตและอยู่ในสังคมได้อย่างปลอดภัย มั่นคงและอยู่รอด
ชวนสร้าง SELF กับครูหม่อม ผศ. ดร.ปนัดดา ธนเศรษฐกร
อาจารย์ประจำสถาบันแห่งชาติ เพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล
ติดตามรักลูก Podcast ได้ที่
Apple Podcast: https://apple.co/3m15ytB
Spotify: https://spoti.fi/3cvAVcX
Youtube: https://bit.ly/3cxn31u
เลี้ยงลูกแบบไหนให้รอด? พ่อแม่ต้องทำอย่างไร
“Dysfunctional Family” ครอบครัวบกพร่องหน้าที่ เลี้ยงลูกแบบขาดๆ เกินๆ
Dysfunctional Family คืออะไร ? เลี้ยงลูกแบบไหนเลี้ยงแบบขาดๆ เกินๆ ?
ชวนฟัง รักลูก Podcast กับอาจารย์ธาม เชื้อสถาปนศิริ
ติดตามรักลูก Podcast ได้ที่https://linktr.ee/rakluke
เลี้ยงลูกแบบใด ได้ลูกแบบนั้น
ฟังอาจารย์ธามพูดถึงเด็ก 6 แบบที่เกิดจากบ้านที่ Dysfunctional Family ลูกจะมีบุคลิคลักษณะแบบใดบ้าง?
ชวนฟัง รักลูก Podcast กับอาจารย์ธาม เชื้อสถาปนศิริ
ติดตามรักลูก Podcast ได้ที่https://linktr.ee/rakluke

เช็กเลย เรากำลังเป็น Dysfunctional Family ที่ทำร้ายและทำลายลูกหรือเปล่า
Dysfunctional Family ครอบครัวบกพร่องหน้าที่ เป็นเรื่องที่พบได้ทุกวันและเกิดได้ทุกครอบครัว โดยที่พ่อแม่ส่วนใหญ่จะไม่รู้ว่ากำลังก่อปัญหาที่ทำร้ายและทำลายลูกโดยไม่รู้ตัว
สัญญาณเตือนว่าเรากำลังเป็น “ครอบครัวบกพร่องหน้าที่”
1. คนในครอบครัวมีพฤติกรรมเสพติดอะไรบางอย่าง (Addiction) : เช่น ติดเหล้า บุหรี่ ยาเสพติด ติดงาน ชอปปิง ติดเกม เสพสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ
2. เลี้ยงลูกแบบผิด ๆ และเพิกเฉย (Abuse & Neglect) : ปล่อยปละละเลยลูก ไม่ให้ความรักความอบอุ่น พ่อแม่สนใจแต่เรื่องตัวเอง ไม่มี Family Attachment (สายสัมพันธ์ในครอบครัว)
3. พ่อแม่มีปัญหาบุคลิกภาพ (Personality Disorders) : พ่อแม่ต่อต้านสังคม เก็บตัว ย้ำคิดย้ำทำ หวาดระแวง หลงตัวเอง หูเบา ชอบพูดเกินจริง เรียกร้องความสนใจ อารมณ์รุนแรง ใช้ความรุนแรง กลัวถูกทิ้ง
4. พ่อแม่เลี้ยงลูกให้เป็นเพื่อน เป็นที่ปรึกษา (Emotional Incest หรือ Convert Incest) : พูดคุยกับลูกในเรื่องที่ไม่เหมาะสม ไม่ให้ความสำคัญกับขอบเขตลูก ไม่ให้ความสำคัญกับขอบเขตของครอบครัวที่ควรจะเป็นที่พึ่ง แต่กลับให้ลูกเป็นที่พึ่ง
5. พ่อแม่เลี้ยงลูกเป็นพิษ (Toxic Parents) : พ่อแม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูก เกลียดกัน พาลเกลียดพ่อหรือเกลียดแม่แล้วมาลงที่ลูก
6. สภาพแวดล้อมที่บ้านมีความขัดแย้งสูง (Hight-Conflict Home Environments) : พ่อแม่มีความต่างกันมาก ทั้งด้านอายุ การเงิน ทัศนคติ วิถีชีวิต ค่านิยม ความเชื่อ การศึกษา เครือญาติไม่ถูกกัน
7. การชักใย (ชักจูง) เชิงอารมณ์ (Emotional Manipulation) : การทำให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่ รู้สึกผิด รู้สึกกลัว กลั่นแกล้ง ทำให้อับอาย

Dysfunctional Family ครอบครัวบกพร่องหน้าที่ มีด้วยกัน 8 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้
1. ครอบครัวแบบควบคุม
หมายถึง พ่อแม่คอยควบคุมอย่างรอบด้านทั้งการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน ความรู็สึก คำพูด การแสดงออก เพราะต้องการให้ลูกทำตัวให้ได้ดั่งใจ ไม่ทำสิ่งที่น่าอับอายต่อหน้าคนอื่น
2. ครอบครัวแบบสมบูรณ์แบบนิยม
หมายถึง พ่อแม่ที่ตั้งกฏและมีการวัดมาตรฐานของทุกสิ่งเพื่อให้ผลออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด เช่น ลูกต้องทำสอบได้ที่ 1 เท่านั้น ห้องนอนต้องเป็นระเบียบที่สุด เป็นต้น เพราะต้องการให้ครอบครัวเป็นที่ยอมรับของสังคม
3. ครอบครัวแบบตำหนิ
หมายถึง พ่อแม่ช่างตำหนิ ซึ่งเป็นผลพวงมาจากครอบครัวแบบควบคุม เมื่อหลายอย่างไม่เป็นไปตามการควบคุม จะเริ่มโทษคนอื่น โทษลูกทันที เพราะต้องการหาที่มาของความผิดพลาดที่ทำไม่ได้ดั่งใจ
4. ครอบครัวแบบปฏิเสธ
หมายถึง พ่อแม่ที่ Say no ตลอดเวลา ซึ่งเป็นผลพวงมาจากครอบครัวแบบสมบูรณ์แบบนิยม ที่ “ห้าม/ไม่” ทำสิ่งที่จะทำให้ความเรียบร้อยสมบูรณ์แบบนั้นผิดไปจากแผนที่ตั้งไว้ ดังนั้นจะมีกฏข้อห้ามเยอะมาก จนลูกแทบทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากสิ่งที่พ่อแม่บอก
5. ครอบครัวแบบมีกฏห้ามพูด
หมายถึง พ่อแม่มีกฎ 'ห้ามพูดคุย' ห้ามแสดงความรู้สึก แสดงความคิดเห็น ความต้องการ ทุกคนต้องการซ่อนความรู้สึก ความต้องการไว้ในใจ หรือความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง จนในที่สุดครอบครัวก็ไม่มีความใกล้ชิด คุยกันไม่ได้ทุกเรื่อง
6. ครอบครัวแบบสร้างมายา
หมายถึง พ่อแม่ที่คิดว่าทุกเรื่องไม่ใช่ปัญหา มองความจริงที่ปรากฏตรงหน้าเป็นเรื่องไร้สาระ มองหาแต่เรื่องดีมาใส่ครอบครัว ทำให้ปัญหาสะสม ลูกก็เลยรู้สึกไปด้วยว่าปัญหา ความผิดพลาดเป็นเรื่องที่ไม่ต้องใส่ใจ
7. ครอบครัวแบบไม่แก้ปัญหา
หมายถึง พ่อแม่ที่เจอปัญหาแล้วอารมณ์รุนแรง หัวเสีย หาที่มาของปัญหาไม่ได้จนเกิดความสับสนไปหมด แล้วก็ไม่หาทางแก้ปัญหา ไม่ว่าตอนอารมณ์ยังร้อนหรือเย็นลงแล้วก็ตาม
8. ครอบครัวแบบเชื่อถืออะไรไม่ได้
หมายถึง พ่อแม่มักจะบอกว่าอย่าเชื่อใคร อย่าเชื่อใจใคร รวมถึงตัวพ่อแม่เองก็ทำสิ่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ตัวอย่างง่าย ๆ เช่น เมื่อลูกมีปัญหา พ่อแม่เป็นที่พึ่งให้ลูกได้เลยทั้งการปฏิสัมพันธ์ คำพูด หรือการอยู่เคียงข้าง
(คลิกอ่านเรื่อง Dysfunctional Family เพิ่มเติม)
Dysfunctional Family แต่ละแบบก็จะมีลักษณะที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับแนวคิดของพ่อแม่ ความเครียด สภาพแวดล้อม แต่ทุกแบบมักจะมีสัญญาณเตือนให้พอรู้ตัวว่า เรากำลังเป็น Dysfunction Family ลองมาเช็กกันหน่อยค่ะว่าครอบครัวเราเข้าข่าย ครอบครัวพร่องหน้าที่หรือไม่
คุณพ่อคุณแม่ลองเช็กดูนะคะว่าตัวเองกำลังทำสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นหรือเปล่า ถ้าใช่… ถึงเวลาที่เราต้องยอมรับและปรับเปลี่ยนตัวเองแบบยกเครื่องใหม่ เพื่อทำให้ครอบครัวเรากลับมา Functional Family ให้ได้

โตไปลำบากแน่ หากพ่อแม่เลี้ยงลูกแบบ Dysfunctional Family
Dysfunctional Family หรือครอบครัวพร่องหน้าที่มีหลายรูปแบบ แต่ละแบบจะมีลักษณะที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับแนวคิดของพ่อแม่ ความเครียด สถานะการเงิน สภาพแวดล้อม แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน Dysfunctional Family ก็ส่งผลกระทบต่อร่างกาย จิตใจ และพฤกติกรรมของเด็ก
ผลกระทบของเด็กที่เติบโตจากครอบครัวที่ไม่ทำหน้าที่
1. เด็กจะสูญเสีย ถูกกัดกร่อนความรู้สึกไว้วางใจ ทั้งในตัวเอง ในคนอื่น และต่อโลกใบนี้
2 เมื่อเติบโตเป็นวัยรุ่น ยากที่จะมีรัก มีคู่ หรือสานสัมพันธ์กับผู้อื่นได้มั่นคง
3. มีโอกาสที่จะเสพติดแอลกอฮอลล์ และใช้สารเสพติด
4. มีความเสี่ยงที่จะมีภาวะโรคที่มีอาการผิดปกติทางจิต ความกังวลใจ ความตื่นตระหนก ความซึมเศร้าท่ามกลางผู้คน
5. มีภาวะความตระหนักในคุณค่าตัวเองต่ำ
6. ยากที่จะทำงานหรือรักษาสภาพการถูกจ้างงานได้ตลอด
7. ต่อสู้ดิ้นรนที่จะสร้างกำแพงขีดกั้นคนอื่น
8. มีประสบการณ์ที่ไม่สบายใจเกี่ยวกับการต้องจัดการอารมณ์
9. มีโอกาสสร้างครอบครัวที่พร่องหน้าที่ต่อไปในอนาคต
ไม่อยากให้ลูกโตไปเป็นปัญหา เช็กตัวเองแล้วแก้ไขกันค่ะ เช็กสัญญาณครอบครัวพร่องหน้าที่ คลิก
Вы долго искали
вавада демо, но он нашел вас сам. Сыграйте...