เพื่อให้ลูกเรา ครอบครัวเราปลอดภัยที่สุด สารเคมีน้อยที่สุด เราเองอาจต้องเริ่มนิสัยรักษ์โลกเอาไว้เลย ปลูกผักไม่มีสารพิษกินเอง แยกขยะโชว์ลูก ใช้ผลิตภัณฑ์ทุกสิ่งในบ้านให้ออร์แกนิกและไม่มีสารเคมีให้มากที่สุด ถ้าเราเริ่มสร้างนิสัยเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ตัวเราได้ ยังไงลูกก็ต้องซึมซับแน่นอน คำอธิบายเล็กๆ ไปเรื่อยๆ “ดูก่อนนะลูกมีสารเคมีมั้ย” หรือ “อย่าเพิ่งทิ้งลูก ไปทำเป็นปุ๋ยได้” ลูกเรานี่ล่ะจะติดเป็นนิสัยไปจนโตเลย แล้วสุขภาพเขาจะดี เขาจะได้ปลอดภัย ปลอดโรคที่สุด เรารักลูก ก็ต้องของปกป้องลูกให้เริ่ดที่สุดเลยนะ
เลยอยากแนะนำแม่ๆ ให้มาที่ Ecotopia ชั้น 3 สยามดิสคัฟเวอรี่ ขอบคุณเลยที่มีพื้นที่แบบนี้ ที่นี่เป็นเมืองของคนรักษ์โลกจริงๆ คือมีแต่งของดีๆ ออร์แกนิค มีของปลอดสารพิษเยอะมาก ทั้งของกิน ของใช้ นี่มานี่เพิ่งรู้เลยว่า เราไม่ควรใช้น้ำยาล้างพื้นปกติ เพราะมีสารเคมี ลูกเราไปนั่งเล่น น้องหมาไปเลีย อันตรายและสะสมได้ แต่ถ้าเปลี่ยนมาใช้น้ำยาล้างพื้นออร์แกนิค ทำมาจากพืช ปลอดภัยชัวร์!! แล้วที่นี่เขาแบ่งออกเป็นโซนๆ ให้น่าเดินสุดๆ ที่แม่ๆ ต้องเลี้ยวเลยค่ะ บอกเลยว่าเพลินมาก
1.โซน Hygienic เป็นโซนที่รวบรวมของที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน สบู่ แชมพู ยาสีฟัน แปรงฟัน ผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ ย่อยสลายได้ด้วยตัวเอง น้ำยาล้างพื้น ล้างห้องน้ำ ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ สระผมเด็ก เรียกว่าของใช้ในบ้านมีครบมาก ที่นี่ที่เดียวเลย แนะนำเลยว่าอย่าพลาด!!!..........
ผงถ่านชาร์โคลสำหรับล้างผักและผลไม้เลยค่ะ ตัวนี้จะช่วยดูดซับสารตกค้างต่างๆ ในผักและผลไม้ ช่วยให้ผักผลไม้ของเรายังคงสดและไม่เสียคุณค่าจากการล้างด้วยค่ะ ปลอดภัยกับลูกและครอบครัวเราแน่นอน เพราะผ่านการทดสอบ จากศูนย์วิจัย และพัฒนาทางอุตสาหกรรมอาหาร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารและกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาแล้ว
น้องปลาแมกนีเซียมสำหรับซักผ้า เป็นนวัตกรรมที่คิดค้นโดยคนไทย ความดีงามของน้องเขาก็คือ เราสามารถใช้ซักผ้าแทนผงซักฟอกได้เลยโดยที่น้ำจากการซักล้างไม่ส่งผลเสียต่อธรรมชาติเลย แค่หย่อนน้องลงในเครื่องซักผ้า ซักตามขั้นตอนปกติ แม็กนีเซียมก็จะดึงสิ่งสกปรกออกจากเส้นใยผ้า ช่วยให้ผ้าขาวสะอาดแล้วค่ะ แม้ว่าราคาน้องอาจจะดูแรงไปสักนิด แต่น้องสามารถซักผ้าได้ถึง 360 ครั้งเลยนะคะ เราลองคำนวณคร่าวๆ แล้วเฉลี่ยครั้งละ 4 บาทเอง ถือว่าคุ้มค่า และรักษาสิ่งแวดล้อมไปในตัวด้วย
จานกาบหมากจากชุมชนท่าดีหมี จังหวัดเลย ผลิตภัณฑ์ ECO ที่ตอบโจทย์การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทั้งยังสร้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างยิ่งยืนด้วย ใครที่ชอบใช้จานพลาสติกที่ใช้แล้วทิ้ง หันมาใช้จากกาบหมากจากธรรมชาติกันเถอะค่ะ ย่อยสลายง่าย ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และใช้ได้นานเลย
มาที่นี่รักษ์โลกแล้ว เขายังทันสมัยมากๆ ด้วย แค่แสกนคิวอาร์โค้ดข้อมูลสินค้าก็มาพร้อม เหมาะกับครอบครัว ECO อย่างพวกเรา
แปรงสีฟันแบบ ECO ที่พอขนแปรงหมดอายุการใช้งาน ก็ถอดหัวแปรงทิ้ง ลดขยะพลาสติกได้อีก 1 ชิ้น
ออร์แกนิคทั้งเชลฟ์เลยจ้ะแม่จ๋า
2. โซน Zero Waste แม่ๆ สามารถนำขวด ปั๊มหรือบรรจุภัณฑ์ที่บ้านมาซื้อผลิตภัณ์ Refill ได้นะคะ คิดราคาตามน้ำหนักเลยค่ะ เปรี้ยวมาก ต้องลองเลยโซนนี้ ราคาไม่แรงและไม่เป็นการรียูสขวดเหลือใช้ที่บ้านด้วยค่ะ
ใครลืมพกขวดมาจากบ้าน ที่นี่ก็มีจำหน่ายนะคะ ขวดน่ารักมาก
3. โซน Green จะเรียกว่าสวนในห้างก็ไม่ผิดค่ะ เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งรวมต้นไม้ฟอกอากาศแล้วที่นี่ยังมีต้นไม้ ดิน ปุ๋ย และเมล็ดพันธุ์จำหน่ายอีกด้วย ไฮไลท์คือผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า Bio Trash ของแบรนด์ UncleRee เป็นถังขยะที่ใส่ขยะเปียกเหลือๆ ทิ้งในแต่ละวันของเรานี่ล่ะ ใส่หมักลงไปเลย แล้วผ่านไปเดือนสองเดือน ขยะเหล่านั้นจะถูกจุลินทรีย์ย่อยออกมาเป็นปุ๋ย คือเราก็ไม่ต้องทิ้งขยะอีกต่อไป และได้ปุ๋ยที่ดีงามกับพืชผักของเราที่สุดด้วย
ต้นไม้ต้นเล็กๆ เหมาะสำหรับสร้างพื้นที่สีเขียวในบ้าน
นี่ไม่ใช่ถังขยะทั่วไป แต่นี่คือถังขยะ Bio Trash ของ UncleRee ที่จะเปลี่ยนเศษอาหารเหลือทิ้งเป็นปุ๋ยหมักอย่างดี ให้เรานำไปปลูกผัก ผสมดิน ปลูกต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในบริเวณบ้านต่อไป
ช้อปของรักษ์โลกเพลินๆ แล้ว ที่ Ecotopia ยังมีเวิร์คช้อปดีๆ เยอะเลย อย่างปลูกผักง่ายๆ แบบนี้
4.โซน Healthy บ้านไหนสายสุขภาพต้องไม่พลาดโซนนี้ วัตถุดิบออร์แกนิคจากธรรมชาติคัดมาแล้วอย่างดี มีทั้งของกิน ของใช้ ชัวร์ได้เลยว่าห่างไกลสารพิษจริงๆ
5. โซน Beautiful โซนนี้คือดีมากค่ะแม่ๆ เพราะผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องสำอางที่นี่เป็นแบบออร์แกนิคทั้งนั้น แม่ท้องหรือเด็กเล็กก็ใช้ได้ ไม่มีพิษมีภัย เพราะทุกชิ้นทำมาจากสารสกัดจากธรรมชาติ นอกจากไม่มีสารเคมีแล้ว ยังเป็นมิตรกับสัตว์ หรือบางแบรนด์ก็เป็นผลิตภัณฑ์จากชุมชน ที่ทุกกระบวนการ ผลิตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แนะนำให้ลองผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ Patom, Pasutara เป็นเกษตรอินทรีย์ และออร์แกนิกจริงจังเลย
และถ้าตัวท้อปๆ ที่ใช้แล้วผิวดีสุดๆ ก็ต้อง LHAMOUR สินค้าออร์แกนิคแท้ 100% ที่นำเข้าจากมองโกเลีย บัตเตอร์ที่อุดมไปด้วยน้ำมันซีบัคธอร์น ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และกรดไขมันหายาก ช่วยบำรุงผิวอย่างลึกล้ำ ลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย แถมส่วนผสมทั้งหมดยังเป็นฟู้ดเกรด (Food grade) 100% ปลอดภัยสำหรับทุกสภาพผิว และทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะคุณแม่ท้องที่หน้าท้องกำลังขยาย ให้ทาหลังอาบน้ำช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ และนอกจากบัตเตอร์แล้ว บาล์มของแบรนด์นี้ก็ยังสามารถใช้กับเด็กเบบี๋ได้ด้วยนะคะ เพราะเขาผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ ไม่มีการทดลองกับสัตว์ จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
บ้านไหนมีลูกสาวคงจะคุ้นกันดีกับเครื่องสำอางเด็กแบรนด์ Fairiesta เครื่องสำอางสำหรับเด็กที่ผลิตจากแป้งข้าวเจ้าและส่วนผสมธรรมชาติ เช่นสีจากดอกไม้ ผลไม้ ไร้สารเคมีรุนแรง ปลอดภัย อ่อนโยนผ่านการทดสอบการแพ้และการระคายเคือง ปลอดภัยต่อผิวบอบบางของเด็กๆ แน่นอนค่ะ
ลิปสติกสีสวยจนอยากซื้อไปใช้เองเลยค่ะ
สีทาเล็บจากธรรมชาติ แบรนด์ lilHEART ใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ คุณแม่ท้องก็ใช้ได้ เพราะปลอดสารพิษ ล้างออกง่าย ไม่ต้องใช้น้ำยาล้างเล็บ ไม่มีกลิ่นฉุน ไม่มีพาราเบน ไม่มีการทดลองในสัตว์ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติค่ะ
Patom เป็นอีกแบรนด์ที่อยากแนะนำแม่ๆ ให้รู้จัก เพราะนอกจากจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมครัวเรือนแล้ว คือมีตั้งแต่ ยากันยุง ยาหม่อง สบู่ แชมพู ครีมนวด สครับ แล้วยังเป็นแบรนด์ที่สนับสนุนเกษตรกรไทยโดยการนำผลผลิตจากเกษตรกรมาเป็นวัตถุดิบหลัก เป็นการช่วยเหลือชุมชนตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ และที่สำคัญคือทุกกระบวนการผลิต เป็นแบบออร์แกนิค เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมค่ะ
สครับเกลือที่มีส่วนผสมจากกุหลาบมอญ ช่วยขจัดเซลล์ผิว กระชับรูขุมขน ลบเลือนจุดด่างดำ แถมมีน้ำมันหอมระเหยจากกุหลาบมอญ ช่วยให้คลายเครียดด้วยค่ะ
แชมพูน้องหมี จากแบรนด์ Pasutara ที่น่ารักน่าใช้มากกลิ่นโรสแมรี่ออร์แกนิค ที่ไม่มีซัลเฟต ไม่มีซิลิโคน เหมาะสำหรับคนแพ้ง่าย อ่อนโยนต่อหนังศีรษะ ใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ค่ะ
6.โซน Upcycled ใครที่ชอบผลิตภัณฑ์รีไซเคิลใหม่แบบเก๋ๆ กระเป๋าแปลกๆ ที่ใช้วัสดุรีไซเคิลอย่างถุงปูน ของ SACKITEM มาผลิตเป็นกระเป๋าแบบต่างๆ ทั้งกระเป๋าใส่ของ กระเป๋าสะพาย กระเป๋าเป้ แอบเห็นราคามาแล้วไม่แพงเลยค่ะ แถมการตัดเย็บก็ดีด้วย น่าใช้มากๆ
นอกจากนี้ยังมีรองเท้าของ Tlejourn รองเท้าที่ทำมาจากขยะจากทะเลไทย และของใช้ในบ้านที่ทำมาจากพลาสติกเหลือใช้ ที่รูปทรงแปลกใหม่ ดีไซน์เก๋ๆ จากแบรนด์ Precious Plastic ใครที่ชอบงานออกแบบที่ทันสมัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แนะนำมาหยิบสอยสินค้ากันตรงนโซนนี้ได้เลยค่ะ
7.โซน Stylish รวมแฟชั่นรักษ์โลกที่ทำจากฝ้ายออร์แกนิค เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โซนนี้คือเน้นความเป็นสโลว์แฟชั่น แฟชั่นที่เราไม่ต้องซื้อบ่อยๆ และใส่ได้นานๆ เลยนะ
ผ้าฝ้าย เสื้อคู่แม่ลูกจากแบรนด์ Mini size me ที่ความพิเศษคือ เป็นเส้นใยธรรมชาติ ถักทอด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน ผิวสัมผัสนุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดี สามารถยับยั้งแบคทีเรียได้ เด็กๆ ที่ผิวบอบบางก็ใช้ได้ ไม่ระคายเคืองค่ะ
8.โซน Kind โซนที่รวมงานฝีมือและภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่สร้างสรรค์งานจากวัตถุดิบธรรมชาติ ต้องบอกว่าโซนนี้เป็นสินค้าที่มาจากชาวบ้านจริงๆ มีระบุในใบกำกับสินค้าเลยค่ะว่าใครทำ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบโดยชุมชน ผลิตโดยชุมชนและรายได้ก็กลับเข้าสู่ชุมชนค่ะ ใครเป็นแฟนภูฟ้า ที่นี่มีที่นั่งชิลล์ทานก๋วยเตี๋ยวหลอด หมี่กะทิ สาคูไส้หมู ขนมอร่อยๆ นมเย็นอัญชัน อเมริกาโน่น้ำส้มของภูฟ้าได้สบายใจมากๆ ด้วย และมีของแบรนด์ DoiTung เก๋ๆ ให้ชอปไปฝากใครด้วยนะ
ลองดูนะคะแม่ๆ แค่เราเปลี่ยนอะไรเล็กๆ เดี๋ยวจะใหญ่ขึ้นเอง เหมือนกับความเป็น Ecotopia ที่เขาเน้นย้ำมากๆ ว่า “เราสร้างโลกให้ดีขึ้นได้ด้วยกัน”
คุณพ่อคุณแม่ที่สนใจอยากพาลูกมาเที่ยวชมและชอปสินค้าดีๆ มาได้ที่ สยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเรียม โซน Ecotopia ชั้น 3 ได้ทุกวันเลยค่ะ หรือจะชอปสินค้าผ่าน lineoa : onesiam ก็สะดวกไม่น้อยค่ะ
ติดตามรายละเอียดและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/EcotopiaTH