เรกจิโอ เอมิเลีย (Reggio Emilia) เป็นแนวการเรียนการสอนที่มีการนำมาใช้ในระบบการศึกษาของประเทศไทยบ้างแล้วในบางโรงเรียน โดยเฉพาะใน ระดับอนุบาล และปฐมวัย แนวการสอนแบบเรกจิโอ เอมิเลีย เป็นอย่างไร เด็กได้อะไรจากแนวการสอนแบบเรกจิโอ เอมิเลียบ้าง ลองไปศึกษากันก่อนในเบื้องต้นค่ะ
![โรงเรียนแนวการสอนแบบเรกจิโอ เอมิเลีย, Reggio Emilia, เรกจิโอ เอมิเลีย เรกจิโอ อามีเลีย, ศิลปะ, โรงเรียนเรกจิโอ เอมิเลีย, หาโรงเรียน, เลือกโรงเรียน, โรงเรียนอนุบาล, โรงเรียนประถม, แนะนำโรงเรียน, ข้อมูลโรงเรียน, ประเภทโรงเรียน, หลักสูตรการเรียน, หลักสูตรการศึกษา, school zone, โรงเรียนใกล้บ้าน, โรงเรียนดี, โรงเรียนเด็กเก่ง, สอบเข้าเรียน, สมัครเข้าเรียน, นักเรียน, วัยเรียน, เด็กอนุบาล, การศึกษา, การเรียน, โรงเรียนมณีรัตน์ โรงเรียนแนวการสอนแบบเรกจิโอ เอมิเลีย, Reggio Emilia, เรกจิโอ เอมิเลีย เรกจิโอ อามีเลีย, ศิลปะ, โรงเรียนเรกจิโอ เอมิเลีย, หาโรงเรียน, เลือกโรงเรียน, โรงเรียนอนุบาล, โรงเรียนประถม, แนะนำโรงเรียน, ข้อมูลโรงเรียน, ประเภทโรงเรียน, หลักสูตรการเรียน, หลักสูตรการศึกษา, school zone, โรงเรียนใกล้บ้าน, โรงเรียนดี, โรงเรียนเด็กเก่ง, สอบเข้าเรียน, สมัครเข้าเรียน, นักเรียน, วัยเรียน, เด็กอนุบาล, การศึกษา, การเรียน, โรงเรียนมณีรัตน์](/images/file_manager/mmpd/3_6_article/527_1.jpg)
ที่มาของแนวการสอนแบบเรกจิโอ เอมิเลีย
แนวการสอนแบบเรกจิโอ เอมิเลีย เกิดขึ้นที่เมือง เรกจิโอ เอมิเลีย (Reggio Emelia) ในประเทศอิตาลีหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง เมื่อผลของสงครามทำให้อาคารบ้านเรือนของเมืองเสียหายเกือบทั้งหมด แม่บ้านกลุ่มหนึ่งต้องการให้ลูกหลานของตัวเองได้เรียนหนังสือ จึงช่วยกันสร้างโรงเรียนและชักชวนให้ ลอริส มาลากุซซี (Loris Malaguzzi) ครูระดับมัธยม และนักการศึกษามาร่วมสอนเด็กเล็กที่โรงเรียน
การเรียนการสอนในช่วงเวลานั้นอาศัยความร่วมมือของทุกส่วน คือ โรงเรียน เด็ก ครู ผู้ปกครอง ที่ช่วยกันทดลอง ปรับปรุง พัฒนาการเรียนการสอนให้กับเด็กๆ ความร่วมมือของชุมชนเพื่อการเรียนรู้ของเด็กจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับโรงเรียนแห่งนี้ และเกิดเป็นธรรมเนียมว่าการประชุมของโรงเรียนทุกครั้งทุกวาระจะจัดขึ้นตอนเย็นเท่านั้น เพื่อที่ผู้ปกครองของเด็กเลิกงานแล้วจะได้มาร่วมประชุม วางแผน และประเมินผลต่างๆ ได้
การเรียนการสอนนี้ได้รับการพัฒนามาเรื่อยๆ และต้องฝ่าฟันอย่างมากเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของรัฐบาล จนในที่สุดการปกครองท้องถิ่นในระดับเทศบาลยอมรับ การจัดการศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัย เป็นสวัสดิการจากการปกครองท้องถิ่น เป็นบริการทางสังคมที่เทศบาลจัดสรรให้แก่ประชาชน ผู้ปกครองต้องการโรงเรียนปฐมวัย รูปแบบใหม่ที่มีคุณภาพดีขึ้นนอก เหนือจากการทำหน้าที่เป็นเพียงผู้ดูแลเด็กเท่านั้น
แนวคิดของเรกจิโอ เอมิเลีย
การศึกษาแบบเรกจิโอ เอมิเลีย มีหลักคิดสำคัญคือ การเรียนรู้เกิดจากปฏิสัมพันธ์และบริบทที่เด็กอยู่เป็นตัวกำหนด ซึ่งหมายความว่าชุมชน สภาพแวดล้อมที่อยู่โดยรอบจะเป็นตัวกำหนดและมีผลต่อการเรียนรู้ของเด็ก เช่น อาคารสถานที่ วิถีชีวิต วัฒนธรรม พ่อแม่ เพื่อน หรือแม้แต่สัตว์ ก็เป็นสภาพแวดล้อมที่สำคัญต่อการเรียนรู้ของเด็ก
นอกจากนี้การศึกษาแบบเรกจิโอ เอมิเลีย ยังมองว่าเด็กแต่ละคนมีลักษณะที่เป็นตัวของตัวเอง มีศักยภาพและความสามารถในตนเองมาตั้งแต่เกิด ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำให้เด็กแสดงความสามารถนั้นออกมาให้มากที่สุดผ่านความคิดและการลงมือทำสิ่งต่างๆ โดยมีครู พ่อแม่ เป็นเพียงผู้กระตุ้นให้เด็กแสดงความสามารถออกมา และต้องเรียนรู้ แก้ปัญหาไปพร้อมๆ กัน การเรียนรู้จึงที่มีคุณค่าสำหรับเด็กมากกว่าการสอนจากครูโดยการบอกเล่า แต่สิ่งที่ดีกว่าคือ การจัดสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้มากกว่า
![โรงเรียนแนวการสอนแบบเรกจิโอ เอมิเลีย, Reggio Emilia, เรกจิโอ เอมิเลีย เรกจิโอ อามีเลีย, ศิลปะ, โรงเรียนเรกจิโอ เอมิเลีย, หาโรงเรียน, เลือกโรงเรียน, โรงเรียนอนุบาล, โรงเรียนประถม, แนะนำโรงเรียน, ข้อมูลโรงเรียน, ประเภทโรงเรียน, หลักสูตรการเรียน, หลักสูตรการศึกษา, school zone, โรงเรียนใกล้บ้าน, โรงเรียนดี, โรงเรียนเด็กเก่ง, สอบเข้าเรียน, สมัครเข้าเรียน, นักเรียน, วัยเรียน, เด็กอนุบาล, การศึกษา, การเรียน, โรงเรียนมณีรัตน์ โรงเรียนแนวการสอนแบบเรกจิโอ เอมิเลีย, Reggio Emilia, เรกจิโอ เอมิเลีย เรกจิโอ อามีเลีย, ศิลปะ, โรงเรียนเรกจิโอ เอมิเลีย, หาโรงเรียน, เลือกโรงเรียน, โรงเรียนอนุบาล, โรงเรียนประถม, แนะนำโรงเรียน, ข้อมูลโรงเรียน, ประเภทโรงเรียน, หลักสูตรการเรียน, หลักสูตรการศึกษา, school zone, โรงเรียนใกล้บ้าน, โรงเรียนดี, โรงเรียนเด็กเก่ง, สอบเข้าเรียน, สมัครเข้าเรียน, นักเรียน, วัยเรียน, เด็กอนุบาล, การศึกษา, การเรียน, โรงเรียนมณีรัตน์](/images/file_manager/mmpd/3_6_article/527_3.jpg)
การเรียนการสอนแบบเรกจิโอ เอมิเลียเป็นอย่างไร
จากแนวคิดที่ว่าเด็กทุกคนมีศักยภาพในตัวเอง และจะต้องเรียนรู้จากการปฏิสัมพันธ์จากสิ่งรอบตัว ซึ่งจะเห็นแนวการเรียนการสอนได้อย่างชัดเจนในดังนี้
-
-
- เด็กที่เรียนการเรียนการสอนแบบเรกจิโอ เอมิเลียจะได้เรียนรู้ผ่านการทำโครงการต่างๆ (Project Approach) ซึ่งจะมีครูเป็นผู้แนะนำหรือทำรายการของหัวข้อโครงการที่น่าสนใจไว้ให้เด็กได้เลือกตามความสนใจของตัว หรือจะเสนอหัวข้อที่ตัวเองสนใจนอกเหนือจากที่ครูเสนอแนะก็ได้ ซึ่งหัวข้อของโครงการจะมีครูเป็นผู้ลองตั้งคำถามหรือโยนโจทย์ให้ เพื่อให้เด็กไปค้นคว้าข้อมูล ทำการทดลอง ลงมือปฏิบัติ บันทึกผล และประเมินผลว่าสิ่งที่ได้จากการทำโครงการนั้นคืออะไร เด็กสามารถทำได้เองคนเดียวหรือทำเป็นกลุ่ม โดยมีครูเป็นผู้สังเกตการณ์ ตั้งคำถาม และจัดเตรียมอุปกรณ์ให้เอื้อกับการทำโครงการของเด็ก
- เด็กที่เรียนการเรียนการสอนแบบเรกจิโอ เอมิเลียจะได้ออกไปค้นคว้าหาความรู้อยากสิ่งแวดล้อมและประสบการณ์จริง เช่น พิพิธภัณฑ์ สวนสัตว์ หอแสดงงานศิลปะ แปลงปลูกผัก เป็นต้น ซึ่งอาจจะไปกับครูและกลุ่มเพื่อน หรือมีผู้ปกครองไปด้วย หรือสถานที่ที่ไปจะมีผู้ดูแลสถานที่ที่คอยให้ความรู้ ตอบคำถาม และตั้งข้อซักถามความคิดเห็นของเด็กๆ อยู่ตลอดเวลา จากนั้นเด็กจะได้คิดต่อยอดถึงสิ่งที่จะทำต่อการไปสถานที่ต่างๆ และการได้รับข้อมูลจากผู้รู้และสิ่งที่อยุ่รอบๆ ตัวในสังคมที่ตัวเองอยู่
- เด็กที่เรียนการเรียนการสอนแบบเรกจิโอ เอมิเลียจะใช้ศิลปะ เป็นหนึ่งเครื่องมือในการสื่อสารสิ่งที่ตัวเองคิด และกระบวนการเรียนรู้ของตัวเอง เช่น วาดรูป ระบายสี ปั้นดิน การประดิษฐ์ หรือแม้แต่การเขียนข้อความ การแต่งกลอน เป็นต้น โดยครูจะตั้งหัวข้อให้เด็กเลือกเพื่อแสดงออกทางความคิดของตัวเองผ่านศิลปะที่เด็กชอบ จากนั้นจะมีการแสดงผลงานของเด็กแต่ละคนโดยไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์ แต่ต้องเปิดโอกาสให้เด็กได้อธิบายผลงานตัวเองว่าสื่อถึงอะไรบ้าง มากจากแนวคิดอะไรบ้าง ซึ่งนอกจากจะเป็นการเปิดจินตนาการของเด็กแล้ว ยังฝึกการสื่อสารกับผู้อื่นอย่างเป็นระบบ
- โรงเรียนเป็นสถานที่สำหรับบูรณาการความรู้ที่เกิดจากการเรียนรู้ให้กับเด็ก โดยโรงเรียนเป็นเหมือนสถานที่ระกว่างกลางของเด็ก ผู้ใหญ่ และสังคม ที่จะมามีปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน นั่นหมายความว่าครู ผู้ปกครองจะมีส่วนร่วมในการส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็ก มีส่วนช่วยในการออกแบบการเรียนรู้ ร่วมรับรู้สิ่งที่เด็กกำลังเรียนรู้ เช่น การเข้าร่วมประชุมต่างๆ การเข้าร่วมการทำโครงการของเด็กๆ รวมถึงชุมชนที่จะต้องมีส่วนร่วมกับโรงเรียน เช่น การอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้นอกสถานที่ของเด็ก การให้ข้อมูลสำหรับเด็กเพื่อการค้นคว้า รวมถึงการจัดสภาพแวดล้อมในโรงเรียนและในชุมชนที่เหมาะสมกับการเรียนรู้
สิ่งที่เด็กจะได้รับจากการเรียนการแนวเรกจิโอ เอมิเลีย
-
-
- เด็กจะได้เรียนรู้และพัฒนาความสามารถของตัวเองที่นอกเหนือไปจากในตำราเรียน
- เด็กจะมีความกระตือรือร้นในการเรียน เพราะจะเป็นผู้เลือกหัวข้อการเรียนที่ตัวเองสนใจ
- เด็กจะมีความภูมิใจในผลงานตัวเอง ทั้งงานโครงการและงานศิลปะ รวมทั้งได้สื่อสารให้คนอื่นได้เข้าใจสิ่งที่ตัวเองคิด กล้าแสดงออก กล้าตัดสินใจ สร้างความเชื่อมั่นใจตัวเอง
- เด็กจะได้ทักษะด้านความสัมพันธ์กับผู้อื่น เช่น การพูดคุยและช่วยเหลือกันของเพื่อนที่ทำงานโครงการร่วมกัน การได้พูดคุยกับครู ผู้ปกครอง หรือคนในชุมชนที่จะให้ความรู้ในการทำโครงการของตัวเอง
- เด็กจะได้ใช้เวลาในการทบทวนความคิด สิ่งที่ตัวเองทำได้มากขึ้น โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลามาบังคับว่าต้องเสร็จเมื่อไหร่ ดังนั้นเด็กจะมีอิสระในการแก้ไขผลงานตัวเองเพื่อให้ออกมาดีที่สุดตามความคิดของตัวเอง รวมถึงมีเวลาที่จะได้ดูผลงานของเพื่อน ได้ติชมงานเพื่อน รวมถึงให้เพื่อนได้ติชมงานตัวเองเพื่อนำมาแก้ไข
![โรงเรียนแนวการสอนแบบเรกจิโอ เอมิเลีย, Reggio Emilia, เรกจิโอ เอมิเลีย เรกจิโอ อามีเลีย, ศิลปะ, โรงเรียนเรกจิโอ เอมิเลีย, หาโรงเรียน, เลือกโรงเรียน, โรงเรียนอนุบาล, โรงเรียนประถม, แนะนำโรงเรียน, ข้อมูลโรงเรียน, ประเภทโรงเรียน, หลักสูตรการเรียน, หลักสูตรการศึกษา, school zone, โรงเรียนใกล้บ้าน, โรงเรียนดี, โรงเรียนเด็กเก่ง, สอบเข้าเรียน, สมัครเข้าเรียน, นักเรียน, วัยเรียน, เด็กอนุบาล, การศึกษา, การเรียน, โรงเรียนมณีรัตน์ โรงเรียนแนวการสอนแบบเรกจิโอ เอมิเลีย, Reggio Emilia, เรกจิโอ เอมิเลีย เรกจิโอ อามีเลีย, ศิลปะ, โรงเรียนเรกจิโอ เอมิเลีย, หาโรงเรียน, เลือกโรงเรียน, โรงเรียนอนุบาล, โรงเรียนประถม, แนะนำโรงเรียน, ข้อมูลโรงเรียน, ประเภทโรงเรียน, หลักสูตรการเรียน, หลักสูตรการศึกษา, school zone, โรงเรียนใกล้บ้าน, โรงเรียนดี, โรงเรียนเด็กเก่ง, สอบเข้าเรียน, สมัครเข้าเรียน, นักเรียน, วัยเรียน, เด็กอนุบาล, การศึกษา, การเรียน, โรงเรียนมณีรัตน์](/images/file_manager/mmpd/3_6_article/527_4.jpg)
สภาพแวดล้อมในโรงเรียนแนวเรกจิโอ เอมิเลีย
เนื่องจากการเรียนการสอนแนวเรกจิโอ เอมิเลีย ที่จะเน้นให้เด็กได้แสดงความคิด ได้ลงมือทำโครงการ งานศิลปะ การเรียนรู้จากสิ่งรอบตัว ดังนั้นสภาพแวดล้อมในโรงเรียนต้องเอื้ออำนวยต่อความคิดสร้างสรรค์และการเรียนรู้ค่อยข้างมาก รวมถึงอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ต้องพร้อม เพื่อให้เด็กได้นำมาใช้ได้อย่างเต็มที่ เช่น อุปกรณ์สำหรับงานศิลปะ สีประเภทต่างๆ เครื่องมือตัดเย็บ เทปกาว กระดาษต่างๆ กระดาษสี เป็นต้น รวมถึงต้องมีพื้นที่สำหรับให้เด็กได้สร้างผลงานได้แบบไม่จำกัด เช่น โต๊ะขนาดใหญ่ ห้องทดลอง สนามหญ้า เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีที่สำหรับแสดงผลงานของเด็กได้อย่างหลากหลายมุม เช่น มุมศิลปะ มุมงานประดิษฐ์ มุมแผนผัง มุมโมเดลโครงการเป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องเป็นหน้าที่ของครู และผู้ปกครองที่จะต้องช่วยกันสร้างสภาพแวดล้อมดังกล่าว รวมถึงชุมชนภายนอกด้วยที่จะต้องพร้อมเป็นแหล่งเรียนรู้ ปลอดภัยให้กับเด็กๆ
ข้อพิจารณาก่อนตัดสินใจให้ลูกเรียนแนวเรกจิโอ เอมิเลีย
-
-
- เนื่องจากการเรียนแนวเรกจิโอ เอมิเลียจะเน้นให้เด็กได้ลงมือทำโครงการอย่างจริงจัง ดังนั้นในแต่ละโครงการจึงจะใช้เวลาค่อยข้างมาก และได้ผลงานเพียงไม่กี่ชิ้น การประเมินผลจึงวัดจากผลงานและการสื่อสารของเด็กเป็นหลัก พ่อแม่สนใจแนวการเรียนนี้จะต้องทำความเข้าใจด้วยว่าลูกอาจจะเรียนแบบค่อยไปค่อยไปผ่านผลงานของตัวเอง ไม่ใช่การเรียนตามตำราที่วัดผลจากแบบฝึกหัดหรือการบ้านแบบวันต่อวันเหมือนโรงเรียนปกติแต่จะเน้นที่กระบวนการทางความคิดของลูกที่เชื่อมโยงกับสิ่งรอบตัวเป็นหลัก เพื่อให้เขาพัฒนาความสามารถของตัวเองอย่างแท้จริง
- พ่อแม่ต้องเข้าใจว่าเรียนแนวเรกจิโอ เอมิเลีย พ่อแม่ต้องมีส่วนในการเรียนรู้ของเด็กค่อนข้างมาก และจะต้องมีส่วนร่วมกับโรงเรียน เช่น การประชุมผู้ปกครอง การร่วมชมงานแสดงโครงการของลูก การแสดงงานศิลปะ การร่วมนำเสนอหัวข้อที่น่าสนใจสำหรับลูกที่จะเลือกทำโครงการ รวมถึงเมื่ออยู่บ้าน พ่อแม่จะต้องมีส่วนร่วมในการเรียนรู้อย่างเต็มที่ เช่น การพาไปพิพิธภัณฑ์ งานแสดงศิลปะ นิทรรศการต่างๆ รวมถึงคอยตั้งคำถาม หรือให้หัวข้อเพื่อให้ลูกได้ลองทำโครงการเล็กๆ น้อยๆ ที่บ้าน
ตัวอย่างโรงเรียนแนวการเรียนการสอนแบบเรกจิโอ เอมิเลีย
ขอขอบคุณข้อมูล :
*** บทความนี้เรียบเรียงข้อมูลจากเว็บไซต์การศึกษาและเว็บไซต์โรงเรียน ชื่อโรงเรียนที่ปรากฎจึงเป็นเพียงการยกตัวอย่างให้สอดคล้องกับแนวการศึกษาเท่านั้น ไม่ใช่การจัดอันดับหรือชี้แนะว่าเป็นโรงเรียนที่ดีที่สุด การนำเนื้อหาไปใช้ประกอบการพิจารณาเลือกโรงเรียนจึงอยู่ที่ดุลยพินิจและวิจารณญาณของแต่ละบุคคล