
ในยุคที่พ่อแม่ต้องตัดสินใจเลือกรูปแบบระบบการศึกษาให้เหมาะกับลูกท่ามกลางตัวเลือกที่หลากหลาย ระหว่างโรงเรียนระบบไทยหรือระบบอินเตอร์ ความแตกต่างระหว่างสองระบบเป็นอย่างไร ข้อดี ข้อเสียคืออะไร การวางแผนระบบการเงินเพื่อส่งลูกให้เรียนถึงฝั่งฝันจะทำได้ไหม เหล่านี้เป็นคำถามยอดฮิตของผู้ปกครอง
ปัจจุบันด้วยความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ คุณพ่อ คุณแม่ ส่วนใหญ่ อยากให้ลูกก้าวทันการเปลี่ยนแปลง มีทักษะที่ดีในการใช้ชีวิต ซึ่งโรงเรียนในระบบอินเตอร์ดูเหมือนจะเป็นคำตอบให้กับผู้ปกครองส่วนใหญ่
วันนี้ทางรักลูกมีโอกาสมาเยี่ยมโรงเรียนเก่าแก่โรงหนึ่งในกรุงเทพซึ่งเปิดมา 54 ปีแล้ว และได้พูดคุยกับ ครูนุช ดร.อัญจลา จารุมิลินท ผู้อำนวยการโรงเรียนทับทอง ซึ่งเป็นทั้งศิษย์เก่าและทายาทรุ่นที่สองที่บริหารโรงเรียน นอกจากนี้ครูนุชยังเป็นอุปนายกสมาคมอนุบาลศึกษาแห่งประเทศไทยฯ และ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัยอีกด้วย
(อาจารย์นุช ดร.อัญจลา จารุมิลินท ผู้อำนวยการโรงเรียนทับทอง)
(สนามเด็กเล่น พื้นยางสังเคราะห์ ปลอดภัยเวลาวิ่งเล่น)
โรงเรียนทับทอง ถึงแม้จะเป็นโรงเรียนไทย แต่ก็มีอิสระในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของเด็ก โดยมีการบูรณาการหลากหลายวิชาเข้ามาเป็นหนึ่งเดียวโดยเน้นให้นักเรียนฝึกใช้ทั้งภาษาไทยและภาษาสากลอย่างเป็นธรรมชาติ โดยจัดการเรียนการสอนแบบ Active learning เพื่อให้เด็ก ๆ เกิดความสนใจใคร่เรียนรู้ มีทั้งความท้าทาย ความยากง่ายที่แตกต่างกันไป ซึ่ง Active Learning ที่โรงเรียนทับทองไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วโมงเรียนอย่างเดียว แต่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกขณะที่เด็กใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียน
(น้องชั้นอนุบาลกำลังพรีเซ็นต์การเรียนรู้เรื่องสีจากดอกไม้)
เด็กโรงเรียนทับทองจะเรียนรู้ที่จะใช้ภาษาอย่างมีประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นภาษาไทยหรืออังกฤษ เพื่อต่อยอดความรู้ การคิดวิเคราะห์ เชิงวิทยาศาสตร์ และการคำนวณ และที่สำคัญทางโรงเรียนจะเน้นพัฒนาทักษะการเรียนให้แก่เด็ก (Learning to Learn) เพื่อให้เขามีความสุขกับการเรียนและเป็น life long learner ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอยู่เสมอนี้
(กิจกรรม Morning Talk 30 นาทีก่อนเข้าเรียน)

(พี่ ๆ ชั้นประถมฯ ปลายกำลังทำขนมชั้น เรียนรู้ระบวนการชั่ง ตวง วัด จับเวลา บูรณาการหลายวิชาเข้าด้วยกัน) (เรียนรู้กระบวนการชั่ง)
ครูนุชได้อธิบายการเป็นพลเมืองโลกในรูปแบบของโรงเรียนทับทองไว้ดังนี้
แม้จะใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานของกระทรวงศึกษาฯ แต่โรงเรียนทับทองก็ให้ความสำคัญกับการใช้ภาษาอังกฤษควบคู่ภาษาไทยในชีวิตประจำวันอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เน้นการท่องจำหรือเรียนเฉพาะวิชา แต่เปิดโอกาสให้เด็กได้ใช้ภาษาในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน การนำเสนอผลงาน และการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่โรงเรียนทับทองคุณครูจะต้องสอนภาษาเพื่อให้นักเรียนนำภาษาไปใช้ในการเรียนรู้ไม่ว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประวัติศาสตร์ สังคมศาสตร์ หรือการคำนวณ ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ นี้จะมีทั้งภาษาไทยและอังกฤษ
ครูนุชเชื่อว่าเด็กโรงเรียนทับทองสามารถสื่อสารทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทยได้อย่างมีคุณภาพ ขณะเดียวกัน ยังคงมีความเข้าใจเรื่องอัตลักษณ์ของความเป็นไทย เข้าใจรากเหง้าของวัฒนธรรมไทย เห็นคุณค่าศิลปะวัฒนธรรมประวัติศาสตร์ และวรรณคดีต่าง ๆ ด้วย
สิ่งที่ทำให้โรงเรียนทับทองโดดเด่นอีกด้านคือแนวคิดที่ว่าผู้ปกครองคือส่วนหนึ่งของโรงเรียน เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการพัฒนาเด็กคือความร่วมมือกันระหว่างครูกับผู้ปกครอง เรียนรู้วิธีเลี้ยงลูกอย่างมีความสุขตามแนวคิดเชิงบวก พร้อมกิจกรรมที่ให้ทั้งบ้านและโรงเรียนร่วมกันพัฒนาเด็กไปในทิศทางเดียวกัน
ซึ่งโรงเรียนมักมีกิจกรรมและการอบรมให้ผู้ปกครองเรียนรู้แนวทางการเลี้ยงลูกเชิงบวก และเปิดช่องทางพูดคุยกับครูอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันเมื่อมีปัญหา บ้านและโรงเรียนจะต้องช่วยกันหาทางแก้ปัญหา เพราะมีเป้าหมายเดียวคือให้เด็กเติบโตอย่างแข็งแรงและมีความสุข

เมื่อพูดคุยกันถึงอนาคตของการศึกษาในยุค AI ที่ไม่ว่าจะหันไปทางไหนพ่อแม่หลายคนก็มักจะกังวลถึงการเปลี่ยนแปลงและการเตรียมรับมือกับเทคโนโลยีนี้ แต่สำหรับที่โรงเรียนทับทองได้เตรียมความพร้อมให้เด็ก ๆ เอาไว้แล้ว
โดยครูนุชบอกกับเราว่า “เราต้องไม่ไปแข่งกับ AI แต่เราต้องเป็นผู้ใช้ AI ให้เป็น ไม่ใช่เป็นผู้ที่เชื่อแต่ AI จนเหมือนถูกครอบงำและชักจูงด้วย AI ที่โรงเรียนทับทองเราหวังว่าสิ่งที่เราทำจะทำให้เด็กมีพื้นฐานที่แข็งแรงพอเพื่อต่อยอดไปเป็นผู้สร้าง AI ได้ในอนาคต”
ซึ่งการที่เด็กจะไปถึงจุดนั้นได้เด็กต้องอยากเรียนรู้ พร้อมเจอปัญหา รู้จักแก้ไขปัญหา และพร้อมที่จะเป็นผู้นำในการสร้างนวัตกรรม ขณะเดียวกันก็ต้องเป็นผู้ตามที่ดีได้ด้วย ดังนั้นการเรียนรู้ของโรงเรียนทับทองจึงมุ่งพัฒนาทักษะมนุษย์ที่เทคโนโลยีทดแทนไม่ได้ เช่น การคิดเชิงวิพากษ์ ความคิดสร้างสรรค์ การทำงานร่วมกัน และความเข้าใจผู้อื่น
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาโรงเรียนให้ลูกสามารถเข้ามาพูดคุยปรึกษาหรือว่าเข้ามาเยี่ยมชมได้ว่าโรงเรียนนี้เหมาะกับลูกไหม หรือหากมีคำแนะนำทางโรงเรียนพร้อมรับฟังคุณพ่อคุณแม่เสมอค่ะ
โรงเรียนทับทอง (Tubtong School)
ที่ตั้ง:104 ถนนพหลโยธิน 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม 10900
เปิดสอนระดับ: อนุบาล – ประถมศึกษาปีที่ 6
ค่าเทอมเฉลี่ย: ประมาณ 100,000 บาทต่อปี
โทรศัพท์: 02-561-2004, 061-432-4545
เว็บไซต์: tubtong.ac.th