อาการนี้เด็กเป็นกันเยอะนะคะ
ลิ้นติด (Ankyloglossia หรือ Tongue-tie) เป็นภาวะที่การเคลื่อนไหวอย่างปกติของลิ้นที่เคยเคลื่อนโดยอิสระ ถูกจำกัดจากการที่ lingual frenulum ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่ยึดเกาะระหว่างใต้ลิ้นกับพื้นล่างของช่องปาก เกิดความผิดปกติ ซึ่ง frenulum อาจสั้นไปและยึดติดกับลิ้นแน่นไป หรืออาจเกาะออกไปตามพื้นล่างของลิ้นยาวเกินไป หากยื่นไปถึงปลายลิ้น อาจทำให้เห็นปลายลิ้นเป็นรูปตัว V หรือเป็นรูปหัวใจ ภาวะนี้มักเป็นกรรมพันธุ์และไม่สามารถป้องกันได้
ภาวะลิ้นติดมาก ๆ อาจทำให้แลบลิ้นยื่นออกมาและกระดกลิ้นไม่ได้ ทำให้เชื่อว่าอาจไปขัดขวางการเคลื่อนไหวตามปกติของลิ้นที่เป็นลูกคลื่นเวลาที่ลูกดูดนมแม่ ส่งผลให้หัวนมแม่มีการช้ำ และเกิดปัญหาการได้น้ำนมแม่อย่างพอเพียง และการเพิ่มน้ำหนักตัวของลูก
ผลของลิ้นติด หรือ พังผืดใต้ลิ้น
ผลของลิ้นติดต่อทารก ปกติภาวะลิ้นติดจะค่อย ๆ หายไปเมื่อเด็กอายุ 2-3 ปี แต่ในเด็กเล็กอาจเกิดปัญหาในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เช่น ดูดนมไม่ได้ดี อมหัวนมแล้วมักหลุด น้ำหนักตัวไม่ค่อยขึ้นจากการได้น้ำนมไม่พอ แม่เจ็บหัวนมหรือหัวนมเป็นแผล แม่สร้างน้ำนมน้อยลง ๆ ซึ่งเด็กกลุ่มนี้อาจจะต้องได้รับการแก้ไขโดยการผ่าตัด ที่เรียกได้หลายอย่างเช่น frenulectomy, frenulotomy, frenectomy, หรือ frenotomy
ข้อบ่งชี้ว่าเด็กมีลิ้นติด มีพังผืดใต้ลิ้น ที่ควรได้รับการแก้ไข
- เจ็บหัวนมหรือมีร่องรอยฟกช้ำหรือเป็นแผล
- หัวนมผิดรูปไปหลังจากให้นมลูกแล้ว
- มีรอยกดหรือรอยเป็นริ้ว ๆ บนหัวนมหลังลูกดูดนมแล้ว
- ลูกมักดูดไม่ได้ หรือดูดแล้วหลุด เลยทำให้ดูดได้แต่ลม
- ได้ยินเสียงคล้ายกระเดาะลิ้นจากปากลูกขณะดูดนมแม่
- น้ำหนักตัวลูกไม่ขึ้นหรือขึ้นช้า
อาการแสดง เมื่อลูกมีอาการลิ้นติด มีพังผืดใต้ลิ้น
- ลูกแลบลิ้นได้ไม่พ้นริมฝีปากหรือเหงือกบน
- ไม่สามารถกระดกปลายลิ้นขึ้นไปสัมผัสเพดานปากได้
- ไม่สามารถเคลื่อนไหวลิ้นไปด้านข้างได้
- เมื่อแลบลิ้น ปลายลิ้นจะแบนไม่มน หรือเป็นเหลี่ยม ไม่แหลมมนอย่างทั่ว ๆ ไป
- ปลายลิ้นอาจเป็นร่องหยักเข้ามา หรือเป็นรูปหัวใจ
การรักษา เมื่อลูกมีอาการลิ้นติด
การรักษานั้นขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ ควรปรึกษากุมารแพทย์ และทันตแพทย์ เพื่อรับการประเมินภาวะลิ้นติด หากเป็นในระดับที่มาก แพทย์อาจพิจารณา ให้ขลิบพังผืด เพื่อให้เด็กสามารถรับน้ำนมจากแม่ได้ตามปกติ
ขอบคุณข้อมูลจาก : นายแพทย์วีระพงษ์ ฉัตรานนท์, www.breastfeedingthai.com , wikipedia