การนอนหลับเป็นสิ่งสำคัญต่อเด็กทารกเป็นอย่างยิ่ง เด็กแรกเกิด – 3 เดือน ควรนอนวันละ 14-17 ชั่วโมงเด็กทารก อายุ 4-11เดือนควรนอน 12-15 ชั่วโมงต่อวัน ขณะที่เด็กวัย 1-2 ปี ควรนอน 11-14 ชั่วโมงต่อวัน
ทั้งนี้การนอนหลับที่เพียงพอ จะช่วยสร้างฮอร์โมนการเจริญเติบโต หรือ Growth Hormones เพื่อกระตุ้นการทำงานของสมอง ช่วยในเรื่องการเรียนรู้ และจดจำ มีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นรากฐานของพัฒนาการของสมองที่ดี
1. ความเปียกชื้น ปัญหาที่มักจะพบบ่อยสำหรับเด็กแรกเกิด ทันทีที่รู้สึกไม่สบายตัวเพราะความเปียกชื้นจากปัสสาวะ หรือความอับชื้นจากอากาศ ลูกจะตื่นมาร้องงอแงเสมอ เพราะฉะนั้นช่วงกลางคืนที่ลูกใส่ผ้าอ้อมนอน การทาแป้งเด็กที่ป้องกันความเปียกชื้น และเคลือบผิวลูกจากความอับชื้น ช่วยให้ผิวแห้งสบาย และทำให้ลูกหลับได้ยาวขึ้น แต่ก็ต้องเลือกที่ปลอดภัย
2. เสียงรบกวน แค่เสียงดังเล็กน้อยก็ทำให้ลูกตื่นได้แล้ว ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรปรับสภาพแวดล้อมภายในห้องไม่ให้มีเสียงรบกวน หรือมีเสียงรบกวนน้อยที่สุด
3. อากาศไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะร้อนเกินไป หนาวเกินไป ทำให้ลูกรู้สึกไม่สบายตัว ตื่นขึ้นมากลางดึกได้
4. ความหิว เป็นอีกสาเหตุที่ปลุกให้ลูกตื่นขึ้นมากลางดึก สังเกตได้จากท่าทางที่ลูกตื่นขึ้นมาแล้วพยายามไขว่คว้าเอาหน้ามาซุกอก หรือที่หมอน และเมื่อให้กินนมจนอิ่มลูกก็จะนอนหลับอีกครั้ง
5. ฝันร้ายหรือลูกผวา เป็นอาการตกใจที่อาจเกิดจากการเล่นสนุกมากเกินไปก่อนนอน ทำให้ลูกสะดุ้งตื่นขึ้นมาร้องไห้ได้ วิธีแก้คือให้คุณพ่อคุณแม่อุ้มลูกขึ้นมากล่อม อุ้มไปเรื่อยๆ จนกว่าลูกหลับ
6. ลูกตื่นแล้ว เนื่องจากลูกนอนเต็มที่แล้วในช่วงกลางวันเมื่อถึงเวลานอนในตอนกลางคืนเขาจึงตื่นขึ้นมาตาใส พร้อมเล่นอยู่ตลอดเวลา วิธีแก้ไขเพียงคุณพ่อคุณแม่ชวนลูกเล่นหรืออุ้มเดินรอบๆ บ้าน ก็ช่วยกล่อมให้ลูกนอนหลับต่อได้
7. ลูกไม่ได้ถูกฝึกให้นอนเป็นเวลา การพาลูกเข้านอนและตื่นตอนเช้าไม่ตรงเวลาทำให้ลูกสับสน รวมถึงถ้าที่นอนไม่คุ้น ลูกหลับยากเช่นกัน วิธีแก้คือ ควรพาลูกเข้านอนตรงเวลา ทำบ่อยๆ ให้ลูกคุ้นเคย อาจใช้ตุ๊กตา ผ้าห่มนิ่มๆ หรือหมอนใบโปรดของลูกมามาเป็นตัวช่วยสร้างบรรยากาศการนอนให้ลูกก็ได้ค่ะ
8. ความเจ็บป่วยทำลูกนอนไม่หลับ เวลาลูกไม่สบาย มีไข้ เป็นหวัด ปวดท้อง ฟันขึ้น เหล่านี้เป็นอาการป่วยที่คอยกวนใจทำให้ลูกร้องงอแงตลอดทั้งคืน วิธีแก้คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปหาคุณหมอเพื่อรักษาตามอาการ และขอคำแนะนำในการดูแลลูกอย่างถูกต้อง
ปลุกลูกให้กินนมก่อนที่แม่จะไปนอน
เพิ่มนมหรืออาหารในช่วงกลางวันให้มากขึ้น เพื่อให้ลูกอิ่มและอยู่ท้องไปจนถึงกลางคืน
สร้างบรรยากาศการนอนให้เหมาะสม ไม่มีมีเสียงรบกวน ไม่ร้อน ไม่หนาวเกินไป หรืออาจเปิดเพลงกล่อมเบาๆ
ให้ลูกเล่นให้เต็มที่ในช่วงกลางวัน เพราะเมื่อถึงเวลานอนตอนกลางคืน ลูกจะหมดแรงหลับได้เร็ว และยาวนานขึ้น
ทาแป้งให้ลูกก่อนนอนเพื่อให้ผิวแห้งสบาย และลดการระคายเคืองจากเหงื่อและความเปียกชื้น ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรเลือกใช้แป้งที่ผลิตจากธรรมชาติ เช่น แป้งข้าวธรรมชาติ ปราศจากทัลคัม ที่ปลอดภัย ไม่สะสมในร่างกาย รวมถึงมีคุณสมบัติป้องกันความเปียกชื้นได้ด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก www.reiscare.com
ตรวจสอบข้อมูลโดย พญ. รัตนา เพ็ญศรีชล
กุมารแพทย์โรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน โรงพยาบาลเวชธานี
(พื้นที่โฆษณาและประชาสัมพันธ์)