เพราะการระเบิดอารมณ์ใส่ลูกเป็นความรุนแรงอย่างหนึ่งที่กระทบต่อจิตใจ ถ้าพ่อแม่ใช้อารมณ์ ลูกจะจำแต่อารมณ์ ไม่ใช่เหตุผล ไม่อยากให้ลูกเลียนแบบพฤติกรรมของพ่อแม่ ใช้อารมณ์นำเหตุผลเมื่อโตขึ้น เราสามารถหยุดยั้งความรุนแรงนั้นได้ค่ะ อาจจะทำยากสักหน่อย แต่ค่อย ๆ ปรับกันไปนะคะ
อย่าเพิ่งปรี๊ดอย่าเพิ่งวีนลูก เพราะทุกสถานการณ์ มีเหตุและผลรองรับเสมอ ให้ตั้งสติยอมรับกับตัวเองก่อนว่าเรากำลังโกรธอยู่ ถ้ายังไม่พร้อมให้พูดน้อยลง จัดการอารมณ์ให้สงบลงก่อน อาจใช้วิธี นั่งนิ่ง ๆ สูดหายใจลึก ๆ ช้า ๆ ล้างหน้าให้สดชื่น เป็นต้น
เช่น ดุด้วยอารมณ์ ลูกจะจำแต่อารมณ์ ไม่ใช่เหตุผล หรือ สิ่งที่เราพูดตอนโมโหคือสิ่งที่ลูกจะจำไปตลอดชีวิต
ถ้ารู้ตัวว่ากำลังโกรธหรือโมโหสุดขีดให้รีบตั้งสติแล้วบอกกับลูกว่าแม่ขอไปจัดการอารมณ์ตัวเองหรือขออยู่คนเดียวเงียบ ๆ ก่อน จากนั้นค่อย ๆ หายใจเข้าออกลึก ๆ เพื่อผ่อนคลายอารมณ์ ค่อย ๆ คิดตรึกตรองสถานการณ์ที่เกิดขึ้น คิดอย่างมีเหตุและผล
เมื่อได้อยู่กับตัวเอง ให้ทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น มองถึงปัญหา วิธีแก้ไข และวิธีป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบเดิมเกิดขึ้น
ไม่มีใครสมบูรณ์แบบค่ะ เราทุกคนสามารถทำผิดพลาดได้ เมื่อผิดพลาดก็ต้องยอมรับและแก้ไข
พ่อแม่คือต้นแบบของลูก ไม่ว่าเราจะแสดงพฤติกรรมอะไรออกไปมักส่งผลต่อลูกโดยตรง พ่อแม่ที่อารมณ์ร้อน โกรธ โมโหแล้วระบายออกมาด้วยอารมณ์รุนแรง จะทำให้ลูกซึมซับพฤติกรรมรุนแรงนั้น
10 วิธี เป็นคุณแม่สายฮา ทำให้ลูกมีพัฒนาการทางสมองและอารมณ์ที่ดี
สกัดอารมณ์ร้าย ๆ ของลูก ด้วย 5 วิธีง่าย ๆ
อ้างอิง
https://www.thaichildrights.org/articles/infographic-parental-emotional-balance/