
ฝุ่น PM 2.5 คือฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน ที่มีมีขนาดเล็กกว่า 1 ใน 25 ส่วนของเส้นผ่านศูนย์กลางเส้นผมมนุษย์
เกิดจากการเผาไหม้ทั้งจากยานพาหนะ การเผาวัสดุการเกษตร ไฟป่า และกระบวนการอุตสาหกรรม สามารถเข้าไปถึงถุงลมในปอดได้ เป็นผลทําให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ และโรคปอดต่างๆ หากได้รับในปริมาณมากหรือเป็นเวลานานจะสะสมในเนื้อเยื่อปอด ทําให้การทํางานของปอดเสื่อมประสิทธิภาพลง ทําให้หลอดลมอักเสบ มีอาการหอบหืด
เมื่อรู้แล้วว่าฝุ่น PM 2.5 ส่งผลร้ายต่อร่างกายทั้งในระยะสั้นและระยะยาวแค่ไหน ก็ถึงเวลาที่เรา ต้องหันมาดูแลตัวเองและคนในครอบครัว ให้หลีกเลี่ยงฝุ่นอย่างจริงจัง มาดู 5 วิธีง่าย ๆ ที่ช่วยป้องกันฝุ่นร้ายกันดีกว่า
5 เรื่องต้องรู้ รับมือกับสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5
1. ติดตามข่าวสารฝุ่น PM 2.5 อย่างใกล้ชิด
ในช่วงวิกฤตฝุ่นแบบนี้ ควรติดตามข่าวสารเป็นประจำ ไม่ว่าจะตามโทรทัศน์ วิทยุ และเว็บไซต์ข่าวต่างๆ หรือในยุค Thailand 4.0 แบบนี้แนะนำให้โหลดแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน เพื่อเช็คมลพิษทางอากาศ ณ จุดที่อาศัยอยู่ได้เลย
2. สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น PM 2.5
ซึ่งจะต้องเป็น หน้ากากมาตรฐาน N95 เท่านั้น เพราะ หน้ากาก N95 จะมีเส้นใยพิเศษที่ช่วยกรองฝุ่นละออง หรือเชื้อโรคที่มีขนาดใหญ่กว่า 0.3 ไมครอน ทำให้ป้องกันฝุ่นขนาด PM 2.5 ไมครอนได้
ดังนั้นสำหรับวิธีรับมือกับปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก 2.5 ไมครอน สามารถทำได้โดยการ ‘สวมหน้ากาก’ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อกรองโมเลกุลของฝุ่นขนาดเล็กโดยเฉพาะ อย่าง 3M Nexcare Pollution & Haze Respirator หน้ากากรุ่น KN95 สามารถกรองอนุภาคของฝุ่น ฟูมโลหะ และละอองขนาดเล็กได้ ผ่านการรับรองตามมาตรฐาน GB2626-2006 ประสิทธิภาพในการกรองอนุภาคที่ไม่ใช่น้ำมัน ที่มีขนาด 0.3 ไมครอน ได้ 95%

3. นอนหลับให้เพียงพอ
จะช่วยให้ร่างกายไม่อ่อนแอ เพราะถ้าพักผ่อนน้อยจะทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำและป่วยได้ง่าย
4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
อาหารเพื่อบำรุงสุขภาพ เช่น วิตามินซี ที่ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันร่างกายลดปัญหาจากภูมิแพ้ต่อระบบต่างๆ โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจ หรือโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นสารต้านการอักเสบ ช่วยป้องกันความเสื่อมของร่างกายจากการได้รับฝุ่น PM 2.5 นอกจากนี้ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายในที่ร่ม เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
5. หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง
การอยู่ในอาคารเป็นการป้องกันไม่ให้ร่างกายสัมผัสกับฝุ่นภายนอกได้ และบางอาคารยังมีเครื่องฟอกอากาศ ที่ทำให้เราสามารถหายใจได้อย่างสะดวกมากขึ้น แต่ถ้าจำเป็นต้องออกนอกอาคารจริงๆ ควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่นทุกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ฝุ่นละออง PM 2.5 เป็นฝุ่นละอองแบบละเอียด มีขนาดเล็กมากแม้เราจะมองไม่เห็นแต่การสูดหายใจเข้าไปมากๆก็ทำอันตรายแก่ร่างกายได้ ซึ่งหลายคนได้รับผลกระทบต่างๆ ทำให้เกิดอาการเบื้องต้นคือ หายใจลำบาก ไอ จาม มีน้ำมูก คัดจมูก แสบจมูก เจ็บคอ ดังนั้นการดูแลรักษาตัวเองหลังจากที่สูดควันต่างเข้าๆไปในแต่ละวันก็จะช่วยลดอาการดังกล่าวได้
การล้างจมูก เป็นการชะล้างเอาสิ่งสกปรกในจมูกให้หลุดออกไป โดยการใช้น้ำเกลืออุ่นๆ กับจุกล้างจมูก เพื่อบรรเทาอาการคัดจมูก แสบจมูก น้ำมูกไหล โดยควรใช้น้ำเกลือความเข้มข้น 0.9% เพราะมีคุณสมบัติช่วยลดความเหนียวของน้ำมูกและทำให้เชื้อโรคไม่เจริญเติบโต สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป
ดังนั้น คุณแม่เองก็ต้องดูแลตัวเองและครอบครัวให้เคร่งครัดด้วยนะคะ หากพบว่ามลพิษเกินมาตรฐาน พยายามอยู่ในอาคารเพื่อหลีกเลี่ยงฝุ่น และหากจำเป็นต้องออกนอกบ้าน แนะนำให้สวมหน้ากากกันฝุ่น รุ่นที่สามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้ มีทั้งขนาดผู้ใหญและสำหรับเด็กเลยค่ะ ป้องกันไว้อีกทาง ก็จะช่วยลดโอกาสการสัมผัสกับสารพิษที่จะส่งผลร้ายต่อสุขภาพของคุณแม่และลูกได้ค่ะ
ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียดทุกด้าน รับมือ แก้ไข ด้วยการเป็นพ่อแม่ที่มีอยู่จริง
เมื่อลูกเครียดพ่อแม่ต้องรู้ เพื่อรับมือและคลี่คลายความเครียดเป็นพิษ Toxic Stress ก่อนเกิดสถานการณ์ความเครียดที่ไม่คาดคิด
ฟังวิธีการจาก The Expert ผศ. ดร.ปนัดดา ธนเศรษฐกร
อาจารย์ประจำสถาบันแห่งชาติ เพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล
Apple Podcast: https://apple.co/3m15ytB
Spotify: https://spoti.fi/3cvAVcX
Youtube: https://bit.ly/3cxn31u

รีวิวเครื่องดูดฝุ่น Dyson Fluffy ไร้สาย หัวแปรงดูดเพียบ พลังดูดแรงเวอร์
สวัสดีค่าาาา มาแกะกล่องเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson ไดสันกันเถอะ เกาะกล่องมานี่กลิ่นใหม่ตีหน้าขึ้นมาเลย โดยส่วนตัวแล้วน้าบก.เคยใช้พัดลมไร้ใบของ Dyson อยู่ก่อนแล้วด้วย พอมีของใหม่ออกมาก็เลยต้องลองอีก เพราะจากประสบการณ์ที่ใช้บรรดาเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบไร้สายมักจะมีพลังน้อย เมื่อเทียบกับแบบมีสายปกติ เดี๋ยวเราจะมาทดสอบกันค่ะว่าแรงจริงตามที่เคลมไว้ทั้งในเอกสารประกอบ และในคลิปโฆษณาหรือเปล่า เริ่ม!!!
เรามารีวิวด้วยภาพกันก่อนค่ะ ประเด็นคือจะแกะกล่องให้ดูนั่นแหละว่าเป็นยังไง มีอะไรอยู่ในกล่องบ้าง จากประสบการณ์การใช้เครื่องดูดฝุ่นมาอย่างช่ำชอง บอกเลยว่าเครื่องดูดฝุ่นทั่วไปจะมีส่วนประกอบแค่ไม่กี่ชิ้น แต่พอเปิดกล่องไดสัน ฟลัฟฟี่ออกมาก็อย่างที่เห็นค่ะ... จะเยอะไปไหนคะ
แล้วจะใช้ยังไง ต้องใช้ให้หมดทุกหัวไหม ถ้าใช้ไม่ถูกมันจะยังดูดฝุ่นได้ไหม คืองง!!! 
พอแกะกล่องเอาแต่ละชิ้นวางเรียงแล้วก็อย่างที่เห็นค่ะ "นี่กำลังจะดุดฝุ่นหรือประกอบหุ่นยนต์" เดี๋ยวจะสาธยายให้อ่านกันแบบชิ้นต่อชิ่้นตามที่เอกสารแนบเขาแนะนำมาเลยแล้วกันนะคะ เพราะเดี๋ยวบอกผิดบอกถูก Dyson Fluffy เขาจะเสียหาย ฮ่าาาาาาา
เริ่มต้นด้วยด้ามจับของเครื่องดูดฝุ่น Dyson Fluffy สีน้ำเงินสดใสจนนึกว่าคฑาดรัมเมเยอร์กันเลยทีเดียว ด้ามจับกลวงตลอดท่อนะคะ เพราะจะเป็นช่องทางของเศษฝุ่นเพื่อไปยังกล่องเก็บเศษฝุ่นอีกทีนะ
มาต่อกันที่ตัวมอเตอร์และกล่องเก็บฝุ่นค่ะ ดีไซน์เก๋ไก๋มาก ในเอกสารเคลมบิ๊กเบิ้มมาก ๆ ว่าเป็นไดสันดิจิตอลมอเตอร์รุ่น V6 ที่มีความเร็วในการหมุนสูงสุดถึง 110,000 ครั้งต่อนาที... จ้ะ!!! เดี๋ยวได้เห็นดีกัน
ที่เห็นอยู่นี่ไม่ใช่แปรงทาสีบ้านนะคะ แต่คือหนึ่งในหัวแปรงดูดทำความสะอาดค่ะ ชื่อภาษาอังกฤษคือ Soft roller cleaner head ถ้าแปลกันตรง ๆ แบบไม่ถนอมน้ำใจเลยนะ "หัวทำความสะอาดแบบลูกกลิ้งนุ๊มมมมนุ่ม" ลักษณะและการใช้งานก็เหมือนลูกกลิ้งจริง ๆ ค่ะ ขนแปรงสีแดงและน้ำเงินอมม่วงก็นุ่มจริง ๆ เดี๋ยวการใช้งานจะรีวิวกันให้ดูในคลิปนะคะ... ไปต่อค่ะ
หัวแปรงทั้ง 5 ก็ตามภาพค่ะ เดี๋ยวจะไล่ชื่อพร้อมคุณสมบัติให้เข้าใจกันง่ายๆ GO!!!
- หัวที่ 1 (บนซ้าย) คือ Up top tool เธอคนนี้มีหน้าที่ดูดฝุ่นซอกหลืบสูง ๆ อย่างราวผ้าม่านด้านบน บ้านที่มีขอบคานด้านบน
- หัวที่ 2 (บนขวา) คือ Mattress tool เธอคนนี้เจนจัดเรื่องการดูดฝุ่นบนพรมเป็นหลัก บ้านไหนมีพรม ต้องเรียกหาเธอคนนี้ค่ะ
- หัวที่ 3 (ล่างซ้าย) คือ Flexi crevice tool เธอคนนี้เป็นเลิศเรื่องการไต่ตัวไปตามซอกตู้ ใต้โซฟา ใครซ่อนเงินไว้แถวนั้น เธอดูดเรียบ
- หัวที่ 4 (ล่างกลาง) คือ Combination tool เธอคนนี้จะเล็กกว่าหัวที่ 3 เพื่อดูดฝุ่นตามซอกเล็กมาก ๆ อย่างซอกระหว่างกำแพงกับโซฟา
- หัวที่ 5 (ล่างขวา) คือ Soft dusting brush เธอคนนี้ไปแบบเนิบ ๆ สวย ๆ ตามพื้นบ้าน แต่ดูดได้เรียบกริ๊บบบบบบ
ส่วนตัวนี้เรียกว่า Crevice tool จะแสดงแสนยานุภาพในพื้นที่แคบบบบบบบ ถึงแคบมากเป็นพิเศษค่ะ
ส่วนตัวนี้เรียกว่า Mini motorized tool เหมาะสำหรับดูดเส้นผม เส้นขน และฝุ่นในโซฟา บ้านไหนผมร่วงบ่อย เลี้ยงหมาแมวให้สุขสบายบนโซฟาราคาแพง ต้องพึ่งพาเจ้าตัวนี้เลย
เอาล่ะมาถึงอุปกรณ์ชิ้นสุดท้าย ด้วยความเป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สายอะนะ Dyson Fluffy ก็ต้องชาร์จแบตได้ซิจ๊ะ ที่เห็นในรูปคือ ฐานสำหรับแขวนตัวมอเตอร์เครื่องดูดฝุ่น ซึ่งต้องขันนอตติดผนังให้แน่น แล้วก็ต่อสายชาร์จเข้าเครื่อง
เห็นภาพนิ่ง ๆ กันมาเยอะ มาดูคลิปสาธิตการใช้งานเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Fluffy กันค่ะ ต้องบอกก่อนนะคะว่าน้าบก. ไม่ได้ทดสอบทุกหัวแปรงดูดทำความสะอาด เพราะเยอะมากจริง ๆ แต่จะสาธิตที่ตัวไฮไลท์คือ Soft roller cleaner head เพราะหลายคนอาจจะสงสัยว่า หัวลูกกลิ้งแบบนี้ดูดฝุ่นและเศษขยะตามพื้นบ้านได้จริงไหม... ลุย!!!
เอาล่ะ มาสรุปความเห็นส่วนตัวหลังจากลองหยิบจับและใช้งานกันหน่อยค่ะ ความรู้สึกแรกที่เห็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Fluffy คือ ช็อคเพราะไม่คิดว่าอุปกรณ์จะเยอะขนาดนี้ค่ะ แล้วก็คิดว่าน่าจะประกอบยาก แต่ที่ไหนได้ "ง่ายกว่าที่คิด" ทั้งการถอดทำความสะอาด และการเก็บค่ะ
ส่วนเรื่องแรงดูดก็ไม่มีปัญญาจะไปนับรอบว่าได้ถึง 110,000 รอบต่อนาทีจริงไหม แต่สังเกตจากแรงดูดและฝุ่นที่หายไปจากพื้นอย่างรวดเร็วก็คิดว่าแรงจริงแรงจังค่ะ แอบเสียดายนิดหน่อยตรงที่สามารถใช้งานได้ประมาณ 20 นาทีเท่านั้น แล้วต้องชาร์จแบตเติมพลังกันใหม่ค่ะ แต่แรงดูดขนาดนี้น่าจะทำความสะอาดได้ไวและใช้เวลาไม่ถึง 20 นาทีก็น่าจะดูดฝุ่นกันได้หมดล่ะค่ะ
น้ำหนักของเครื่องก็ไม่ได้หนักอะไรมากมายถ้าเทียบกับเครื่องดูดฝุ่นแบบที่เราต้องลากถังล้อเลื่อนตามเราไปด้วย ก็ใช้แรงแขนพอ ๆ กันค่ะ แล้วที่เด่นมากอีกเรื่องนึงคือ แต่ละหัวแปรงที่ใช้ดูดฝุ่นไม่ทำให้พื้นผิวเป็นรอย เลยคิดว่าน่าจะเหมาะกับพื้นปาเก้ ผิวกระจกบนโต๊ะ อะไรทำนองนั้นนะ
ความเห็นส่วนตัวของน้าบก. กับการใช้งานเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Fluffy ก็ประมาณนี้ค่ะ ส่วนเรื่องราคา... หึหึหึ เป็นไปตามคุณภาพและคุณสมบัติล่ะค่ะ พูดแค่นี้เนอะ ^^
Dyson ไดสันไม่ได้มีแค่พัดลมไร้ใบ และเครื่องดูดฝุ่นไร้สายนะคะ แต่ยังมีนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอีกเพียบมาก ลองไปส่อง ๆ ดูกันได้ที่เว็บไซต์หรือ Facebook ของ Dyson ได้เลยค่ะ แต่เท่าที่ใช้จริงมาจะบอกว่า คุณภาพ ความทนทาน ดีไซน์ สมราคาค่ะ

เช็กลูกด่วน! 3 อาการอันตรายช่วงค่าฝุ่นสูง ต้องรีบพาไปหาหมอ
ต้อนรับเปิดเทอมด้วยค่าฝุ่น PM2.5 สูง คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมให้เด็ก ๆ ใส่หน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นกันด้วยนะคะ แล้วอย่าลืมเช็กอาการของลูก ว่ามี 3 อาการอันตรายต่อไปนี้หรือไม่ ถ้าใช่..รีบพาไปหาคุณหมอด่วนค่ะ
เมื่อเด็กได้รับฝุ่นละอองในปริมาณเกินมาตรฐานมาก หรือเป็นเวลานานจะสะสมในเนื้อเยื่อปอด ประกอบกับสภาพอากาศแปรปรวนในช่วงนี้ ทำให้การทำงานของปอดเสื่อมประสิทธิภาพลง ทำให้หลอดลมอักเสบ มีอาการหอบหืด เยื่อบุหลอดลมร่วมกับภาวะผิดปกติที่หลอดลมไวต่อสิ่งกระตุ้นต่าง ๆ
3 อาการสัญญาณอันตราย
1.หายใจมีเสียงหวีด
2.หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
3.มีอาการไอผิดปกติ ไอเพิ่มขึ้นเป็นเวลานาน
หากพบว่ามีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบพาลูกไปโรงพยาบาล เพื่อได้รับการตรวจวินิจฉัยโรคและรักษาได้อย่างถูกต้องค่ะ
7 วิธีดูแลสุขภาพลูก ให้ปลอดภัยจากฝุ่นPM2.5
-
เช็กค่าฝุ่นทุกเช้าก่อนพาลูกไปโรงเรียน ในช่วงวิกฤตฝุ่นแบบนี้ ควรติดตามข่าวสารเป็นประจำ ไม่ว่าจะตามโทรทัศน์ วิทยุ และเว็บไซต์ข่าวต่างๆ หรือในยุค Thailand 4.0 แบบนี้แนะนำให้โหลดแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน เพื่อเช็คมลพิษทางอากาศ ณ จุดที่อาศัยอยู่ได้เลย
-
วางแผนหรือวิธีการเดินทางเพื่อลดระยะเวลาการสัมผัสฝุ่นให้น้อยที่สุด เช่น จากการเดินให้เปลี่ยนมาใช้รถสาธารณะ
-
สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นให้เด็กที่มีขนาดที่เหมาะสมกับใบหน้า หน้ากากมาตรฐาน N95 เท่านั้น เพราะ หน้ากาก N95 จะมีเส้นใยพิเศษที่ช่วยกรองฝุ่นละออง หรือเชื้อโรคที่มีขนาดใหญ่กว่า 0.3 ไมครอน ทำให้ป้องกันฝุ่นขนาด PM 2.5 ไมครอนได้
-
สำหรับเด็กที่มีโรคประจำตัว ควรเตรียมยาให้พร้อมและแจ้งผู้ดูแลหรือครู หากมีอาการผิดปกติ ให้พาไปพบแพทย์
-
นอนหลับให้เพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายไม่อ่อนแอ เพราะถ้าพักผ่อนน้อยจะทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำและป่วยได้ง่าย
-
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อาหารเพื่อบำรุงสุขภาพ เช่น วิตามินซี ที่ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันร่างกายลดปัญหาจากภูมิแพ้ต่อระบบต่างๆ โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจ หรือโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นสารต้านการอักเสบ ช่วยป้องกันความเสื่อมของร่างกายจากการได้รับฝุ่น PM 2.5 นอกจากนี้ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายในที่ร่ม เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
-
หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง การอยู่ในอาคารเป็นการป้องกันไม่ให้ร่างกายสัมผัสกับฝุ่นภายนอกได้ และบางอาคารยังมีเครื่องฟอกอากาศ ที่ทำให้เราสามารถหายใจได้อย่างสะดวกมากขึ้น แต่ถ้าจำเป็นต้องออกนอกอาคารจริงๆ ควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่นทุกครั้ง
ดังนั้น คุณแม่เองก็ต้องดูแลตัวเองและครอบครัวให้เคร่งครัดด้วยนะคะ หากพบว่ามลพิษเกินมาตรฐาน พยายามอยู่ในอาคารเพื่อหลีกเลี่ยงฝุ่น และหากจำเป็นต้องออกนอกบ้าน แนะนำให้สวมหน้ากากกันฝุ่น รุ่นที่สามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้ มีทั้งขนาดผู้ใหญ่และสำหรับเด็กเลยค่ะ ป้องกันไว้อีกทาง ก็จะช่วยลดโอกาสการสัมผัสกับสารพิษที่จะส่งผลร้ายต่อสุขภาพของคุณแม่และลูกได้ค่ะ
ที่มา : กรมอนามัย, สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์