จากที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์หลังเลี้ยงแมวแล้วเกิดอาการผื่นแดงทั่วใบหน้าและลำตัวนั้น นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่าแมวอาจนำโรคบางอย่างมาสู่คนได้ และโรคที่พบบ่อยคือเชื้อราแมว ซึ่งจะทำให้มีผื่นคันบริเวณผิวหนัง ถ้าไม่ได้รับการรักษาอาจลามกระจายทั้งตัว และเมื่อผื่นหายอาจทิ้งรอยดำ ใช้เวลานานกว่าจะกลับสู่สภาพผิวปกติ นอกจากแมวแล้วสัตว์อื่นๆ เช่น สุนัข กระต่าย หนูแฮมสเตอร์และสัตว์ขนยาว ก็สามารถติดเชื้อนี้เช่นกัน
เชื้อราแมวมีหลายชนิด แต่ชนิดที่พบบ่อยคือ Microsporum canis ทำให้มีผื่นแห้งๆ สีเทาบริเวณผิวของแมว ถ้าหากติดเชื้อในคนจะมีลักษณะเป็นผื่นกลม มีขุย สีแดง ขอบเขตชัด และมีอาการคัน เกิดขึ้นได้ในบริเวณต่างๆ ของร่างกาย ตั้งแต่บริเวณใบหน้า มือ เท้า หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายที่สัมผัสกับแมว
เชื้อราแมวสามารถติดต่อได้โดยการสัมผัสกับผิวหรือขนของแมว หรือแม้แต่บริเวณบ้านที่แมวอยู่มักจะมีเชื้อราอยู่ โดยสปอร์ของเชื้อราจะหลุดร่วงมาจากผิวหรือขนของแมวและสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานเป็นเดือนหรือเป็นปี การทำลายสปอร์ควรใช้สารฟอกขาว ละลายในน้ำในอัตราส่วน 1 ต่อ 10 เพื่อทำลายสปอร์ในอุปกรณ์ของสัตว์เลี้ยง และสิ่งแวดล้อม
ส่วนกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสติดเชื้อราแมว ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้เลี้ยงสัตว์หลายชนิด ผู้ที่คลุกคลีใกล้ชิดกับแมว
ควรรีบไปพบแพทย์ ซึ่งจะได้รับทั้งยากินและยาทาฆ่าเชื้อ และควรพาแมวไปพบสัตวแพทย์เพื่อรักษาเชื้อราด้วย นอกจากนี้ระหว่างการรักษาควรแยกแมวไว้อีกห้องและทำความสะอาดบริเวณบ้านเพื่อกำจัดเชื้อ
อ้างอิง สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์