เพราะการเตรียมตัวมีลูกเป็นจุดเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และลูกที่สมบูรณ์แข็งแรง ซึ่งสามีภรรยาที่อยากมีลูกต้องเตรียมตัวดังต่อไปนี้
ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
งดการสูบบุหรี่และดื่มเหล้า
หลีกเลี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
แนะนำคุณผู้หญิงให้กินยา folic acid วันละ 1 เม็ดก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 3 เดือน เพื่อป้องกันภาวะความพิการทางสมองของเด็ก
พบแพทย์เพื่อตรวจดูว่าพ่อแม่มีความเสี่ยงต่อการมีลูกยากหรือไม่ เนื่องจากประวัติบางอย่างที่สำคัญ เช่น ปวดประจำเดือน ประจำเดือนมาผิดปกติ โรคประจำตัวที่เป็น เช่น เบาหวาน ถ้าคุมน้ำตาลไม่ดีก็จะมีความเสี่ยงเด็กพิการได้
ตรวจภายใน อัลตราซาวน์ดูมดลูกและรังไข่ ดูความผิดปกติ
ตรวจเลือดเบื้องต้นซึ่งโรงพยาบาลหลายแห่งมีโปรแกรมการตรวจดังต่อไปนี้
ตรวจความผิดปกติของเม็ดเลือดและปริมาณฮีโมโกลบิน (CBC /Hb typing) ที่ได้ยินบ่อยๆ คือโรคทาลัสซีเมีย (Thalassemia) สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมไปให้ลูกได้ ถ้ารุนแรง ส่งผลให้เด็กมีภาวะซีด ตับโต ต้องให้เลือดบ่อยๆ หรือบางรายเสียชีวิตระหว่างตั้งครรภ์ได้
หมู่เลือดและชนิดหมู่เลือด (Blood group ABO and Rh) ในกรณีที่เป็นหมู่เลือดหายากและมีความจำเป็นต้องใช้เลือดในระหว่างคลอดจะได้มีการเตรียมเลือดได้ทันท่วงที
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น การติดเชื้อ HIV ซิฟิลิส เป็นต้น
การตรวจหาโรคและภูมิต้านทานต่อไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B) ถ้าแม่ติดเชื้อ ก็จะมีความเสี่ยงติดไปยังลูกได้ โดยถ้าเด็กได้รับเชื้อนี้ ก็จะส่งผลต่อการเกิดภาวะตับอักเสบและตับแข็งในอนาคต ในกรณีที่ยังไม่มีภูมิต้านทาน แพทย์จะแนะนำให้ฉีดวัคซีนรวม 3 เข็มก่อนการตั้งครรภ์
การตรวจหาภูมิต้านทานต่อหัดเยอรมัน (Rubella) ถ้าติดเชื้อในระหว่างตั้งครรภ์โอกาสเด็กพิการสูงมาก ถ้าไม่มีภูมิต้านทาน แนะนำให้ฉีดวัคซีน 1 เข็มและหลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์อย่างน้อย 1 เดือนหลังฉีดเนื่องจากเป็นวัคซีนชนิดเชื้อเป็น (live attenuated vaccine)
สำหรับคู่สมรสที่ปล่อยมีบุตรมาแล้วเกิน 1 ปี ถือว่าอยู่ในภาวะมีบุตรยาก หมอแนะนำให้เพิ่มการตรวจน้ำเชื้ออสุจิฝ่ายชายร่วมด้วย เนื่องจากพบเป็นสาเหตุได้ถึงร้อยละ 40 เลยครับ
รักลูก Community of The Experts
นพ.กฤตยะ กฤตย์ประชา
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินรีเวช และการรักษาผู้มีบุตรยาก