facebook  youtube  line

10 วิธีช่วยลูกทารกนอนหลับสนิท ทารกหลับยาวตลอดคืนจนแม่สบายใจ

ทารกหลับไม่สนิท, ทารก นอน หลับ ไม่ สนิท, ลูก 1 เดือน หลับ ไม่ สนิท, ลูก 2 ขวบ นอน หลับ ไม่ สนิท ตอน กลางคืน, ทำไมทารกหลับไม่สนิท, ทำไมทารก หลับ ๆ ตื่น ๆ, ทำไมทารกไม่หลับยาวทั้งคืน, วิธีทำให้ลูกทารกหลับสนิท, วิธีทำให้ลูกทารกหลับยาวตลอดคืน, วิธี ทารก หลับง่าย

ลูกทารกมักหลับไม่สนิททำให้แม่กังวลว่าลูกจะนอนไม่พอ แม่เองก็เพลียใช่ไหมคะ นี่คือ 10 วิธีทำให้ลูกทารกหลับสนิทตลอดคืนที่ใช้ได้ผลแน่นอน

10 วิธีช่วยลูกนอนทารกหลับสนิท ทารกหลับยาวตลอดคืนจนแม่สบายใจ

  1. อาบน้ำ ทาแป้งหอม พาเบบี้อาบน้ำอุ่นๆ ใส่เสื้อผ้าที่มีเนื้อนุ่ม ไม่หนาหรือบางจนเกินไป จะช่วยให้สบายตัว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เมื่อรู้สึกสบายตัว อารมณ์ดีก็ช่วยให้ลูกนอนหลับได้ง่ายขึ้น
  1. นวดตัวลูกเบาๆ หรือนวดไปพร้อมๆ กับการทาโลชั่นบริเวณแขนและขา จะช่วยสร้างความผ่อนคลายทำให้ลูกหลับง่ายขึ้น
  1. ดูดนมก่อนนอน เด็กแรกเกิด – 6 เดือน โดยธรรมชาติจะมีวงจรการนอนหลับ (Sleep cycle) 10 รอบ/คืน โดยทุกๆ 1-2 ชั่วโมงจะตื่น บางคนตื่นมาไม่เจอใครก็จะร้องไห้งอแง การดูดนม จึงเหมือนเป็นการปลอบ ทำให้รู้สึกสบาย หลับต่อได้อย่างมีความสุข แต่ไม่ควรทำบ่อยเพราะมีผลทำให้เลิกดูดนมยากค่ะ
  1. ไกวเปลลูกนอนหลับง่ายขึ้น เมื่อเห็นว่าลูกมีทีท่าจะง่วงนอนแล้ว ให้พาไปนอนในเปล และแกว่งไปมาเบาๆ พร้อมกับร้องเพลงกล่อมตามไปด้วย ลูกจะเคลิบเคลิ้มหลับง่ายมาก
  1. จับ ถือ ลูบ เพลินๆ หาสิ่งของที่ลูกติด เช่น ตุ๊กตา หมอนนุ่ม ผ้าห่ม เพื่อให้จับ ถือหรือลูบก่อนนอน จะทำให้มีอารมณ์เพลิดเพลิน ช่วยให้ลูกนอนหลับได้ง่ายขึ้น
  1. ตบก้น ลูบหลัง ขณะที่ลูกกำลังจะหลับ คุณพ่อคุณแม่อาจตบก้นเบาๆ หรือ ลูบหลัง ซึ่งการสัมผัสเบาๆ จะทำให้ลูกรู้สึกอุ่นใจที่พ่อแม่อยู่ใกล้ๆ ไม่รู้สึกกลัว นอนหลับอย่างสบายใจ
  1. เปิดเพลงบรรเลง เบาๆ ฟังสบายๆ ช่วยให้มีอารมณ์ดี ลูกนอนหลับได้ง่าย และยังเป็นการช่วยพัฒนาสมอง จัดระบบการเรียนรู้และความจำที่ดีอีกด้วย
  1. อุณหภูมิห้องพอเหมาะ ถ้าอากาศภายในห้องนอนมีความร้อนหรืออับชื้น จะทำให้ลูกอึดอัด ไม่สบายตัว อารมณ์หงุดหงิดง่าย จึงควรปรับอุณหภูมิห้องให้เหมาะสม ไม่หนาวหรือร้อนจนเกินไป และใช้ผ้าห่มนุ่มๆ ห่มทับบริเวณหน้าอก เพื่อให้รู้สึกอบอุ่นขึ้น
  2. อย่าส่งเสียงดัง ห้องนอน หรือสิ่งแวดล้อมรอบๆ ควรมีความเงียบสงบ ไม่มีเสียงดังอึกทึกจนเกินไป เช่น ไม่ควรมีเสียงโทรทัศน์ หรือพ่อแม่คุยกันเสียงดัง เพราะอาจกระตุ้นให้ลูกตื่นเต้นจนนอนไม่หลับได้
  1. แสงไฟสลัวภายในห้องนอน เพราะลักษณะแสงไฟแบบนี้จะช่วยให้ลูกสบายตา และยังสามารถเห็นคุณพ่อคุณแม่อยู่ใกล้ๆ ทำให้ลูกนอนหลับอย่างอุ่นใจมากขึ้น

แต่ถ้าเด็กทารกคนไหนที่ทำยังไง ก็ยังไม่หลับ พ่อแม่ไม่ต้องกังวลจนเกินเหตุ เพราะธรรมชาติของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน ลองปรับสภาพแวดล้อมและการดูแล กำจัดสิ่งที่เป็นตัวกระตุ้นให้นอนไม่หลับก็จะช่วยได้ แต่ถ้าไม่สบายใจจริงๆ กลัวว่าจะมีสิ่งผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อความสบายใจนะคะ

สาเหตุที่ทำให้ลูกนอนไม่หลับ นอนหลับไม่สนิท

ลูกทารกนอนหลับไม่สนิท นอนไม่พอจะส่งผลต่อพัฒนาการและการเจริญเติบโตของเขา ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุดังนี้

  • เกิดจากสิ่งแวดล้อมมีเสียงดัง หรือพลุกพล่าน กระตุ้นให้มีความตื่นเต้น จนไม่ยอมนอน

  • ปัจจุบันพ่อแม่ทำงานกลับบ้านดึก ส่งผลให้ลูกรอหรือพอกลับมาก็มาเล่นกับลูกอีกจนเลยเวลานอนไปแล้ว จึงทำให้ลูกนอนดึกและกลายเป็นเด็กหลับยากได้

  • เกิดจากความกลัว เพราะวัย 6 เดือนขึ้นไป เริ่มมีการจำและติดพ่อแม่ กลัวต้องแยกจากพ่อแม่ ทำให้นอนยาก และตื่นบ่อย

  • เกิดจากโรคภัยไข้เจ็บ เช่น เป็นหวัด ท้องอืด ทำให้ไม่สบายตัว ดังนั้น ต้องสังเกตอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น มีไข้ มีน้ำมูก หรือท้องอืดหรือไม่ ยิ่งในเด็กแรกเกิด เวลาดูดนมอาจดูดไม่ถูกวิธี ทำให้เกิดลมในท้อง ถ้าไม่มีการเรออย่างถูกวิธีลมจะตีขึ้น รู้สึกปวดท้อง ร้องไห้งอแงไม่ยอมนอนได้

พ่อแม่ต้องรีบจัดการปัญหาเหล่านี้ออกไป แล้วลูกจะหลับง่ายขึ้น อย่าลืมว่าการนอนหลับที่เพียงพอจะช่วยให้ทารกมีพัฒนาการและความจำที่ดีค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

พญ.อัมพร สันติงามกุล
กุมารแพทย์ด้านพัฒนาการและพฤติกรรม
โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์

4 เทคนิคช่วยลูกทารกหลับสบาย นอนยาวตลอดคืน

 ลูกทารกนอนยาก, ลูกทารกไม่ยอมนอน, ลูกทารกหลับยาก, วิธีทำให้ลูกหลับง่าย, วิธีทำให้ลูกหลับยาว, การนอนของเด็ก, การนอนของทารก, ทารกนอนวันละกี่ชั่วโมง, แป้งแด็ก, แป้งไม่มีทัลคัม, แป้งเด็กยี่ห้อไหนดี, ทาแป้งเด็กยังไง, แป้งไร้ซแคร์, reiscare

จบปัญหาลูกทารกนอนยาก ลูกทารกไม่ยอมนอน ตื่นตอนกลางดึก ร้องไห้งอแง ด้วย 4 เทคนิคช่วยลูกหลับสบายตลอดทั้งคืน มาดูกันค่ะ

4 เทคนิคช่วยลูกทารกหลับสบาย นอนยาวตลอดคืน

1. ป้องกันความเปียกชื้น ให้หนูน้อยสบายตัว

ปัญหาที่มักจะพบบ่อยสำหรับเด็กแรกเกิด ทันทีที่รู้สึกไม่สบายตัวเพราะความเปียกชื้นจากปัสสาวะ หรือความอับชื้นจากอากาศ ลูกจะตื่นมาร้องงอแงเสมอ เพราะฉะนั้นช่วงกลางคืนที่ลูกใส่ผ้าอ้อมนอน การทาแป้งเด็กที่ป้องกันความเปียกชื้น และเคลือบผิวลูกจากความอับชื้น ช่วยให้ผิวแห้งสบาย และทำให้ลูกหลับได้ยาวขึ้น แต่ก็ต้องเลือกที่ปลอดภัย มาดูเคล็ดลับการเลือกแป้งเด็กอย่างไรให้ปลอดภัยกับลูกกันค่ะ

เคล็ดลับเลือกแป้งเด็ก

  1. ผลิตจากธรรมชาติ เช่น แป้งข้าวเจ้า แทนส่วนผสมของทัลคัม เพื่อความปลอดภัยและสามารถย่อยสลายได้ด้วยจุลินทรีย์ในธรรมชาติ ไม่ตกค้างในร่างกายไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม
  2. ป้องกันความเปียกชื้นได้ เพื่อความแห้งสบายตัวของลูก
  3. สะอาด ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
  4. ผ่านการทดสอบว่าไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ (Hypoallergenic)

วิธีทาแป้งสำหรับเด็ก เพียงคุณแม่เทแป้งเด็กลงบนฝ่ามือเล็กน้อย แล้วค่อย ๆ ทาลงบนผิวลูก และไม่ควรใช้แป้งโรยสะดือเด็กแรกเกิด หรือบริเวณจุดซ่อนเร้น เช่น อวัยวะเพศโดยตรง ระมัดระวังอย่าให้แป้งเข้าจมูกและปากของลูก หรือเทคนิคง่าย ๆ โดยใช้พัฟฟ์นิ่ม ๆ แทนการเทแป้ง เพียงซับพัฟฟ์ลงบนแป้งแล้วค่อย ๆ ลูบบริเวณผิวลูกน้อย วิธีนี้จะช่วยลดการฟุ้งกระจายของแป้งได้มากทีเดียวค่ะ

 ลูกทารกนอนยาก, ลูกทารกไม่ยอมนอน, ลูกทารกหลับยาก, วิธีทำให้ลูกหลับง่าย, วิธีทำให้ลูกหลับยาว, การนอนของเด็ก, การนอนของทารก, ทารกนอนวันละกี่ชั่วโมง, แป้งแด็ก, แป้งไม่มีทัลคัม, แป้งเด็กยี่ห้อไหนดี, ทาแป้งเด็กยังไง, แป้งไร้ซแคร์, reiscare

 

2. ฝึกลูกน้อยให้นอนเป็นเวลา

การพาลูกเข้านอนและตื่นตอนเช้าไม่ตรงเวลาทำให้ลูกสับสนได้ค่ะ วิธีแก้คือ ควรพาลูกเข้านอนตรงเวลา ทำบ่อย ๆ ให้ลูกคุ้นเคย อาจใช้ตุ๊กตา ผ้าห่มนิ่ม ๆ หรือหมอนใบโปรดของลูก มาเป็นตัวช่วยสร้างบรรยากาศการนอน ตอนที่ลูกหลับคุณแม่อย่าลืมห่มผ้าหรือห่อตัวให้ ลูกจะได้รู้สึกอบอุ่นและหลับสบาย

3. ปรับบริเวณห้องนอน ไม่ให้มีเสียงรบกวนลูก

ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่แค่เสียงดังแค่เล็กน้อยก็ทำให้ตื่นได้แล้ว ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรปรับสภาพแวดล้อมภายในห้องไม่ให้มีเสียงรบกวน หรือมีเสียงรบกวนน้อยที่สุด เพื่อไม่ให้รบกวนเวลานอนของลูกได้ค่ะ

4. กิจกรรมเบา ๆ ก่อนนอน

ก่อนนอนคุณพ่อคุณแม่สามารถทำกิจกรรมเบา ๆ กับลูกน้อย เช่น ร้องเพลงกล่อม เล่านิทาน หรือเปิดดนตรีเพลงทำนองสบาย ๆ เสียงสีขาว หรือภาษาอังกฤษว่า White Noise ลองใช้มือลูบบริเวณท้อง หลัง และลำตัวลูก เพราะการสัมผัสอย่างอ่อนโยนจะสามารถช่วยให้ลูกน้อยหลับสบาย ผ่อนคลาย อีกทั้งยังช่วยสานสัมพันธ์พ่อแม่ลูก

 ลูกทารกนอนยาก, ลูกทารกไม่ยอมนอน, ลูกทารกหลับยาก, วิธีทำให้ลูกหลับง่าย, วิธีทำให้ลูกหลับยาว, การนอนของเด็ก, การนอนของทารก, ทารกนอนวันละกี่ชั่วโมง, แป้งแด็ก, แป้งไม่มีทัลคัม, แป้งเด็กยี่ห้อไหนดี, ทาแป้งเด็กยังไง, แป้งไร้ซแคร์, reiscare

ประโยชน์ของการนอนที่ดีและมีคุณภาพ

  1. ช่วยเรื่องการเจริญเติบโตของลูก ฮอร์โมนการเจริญเติบโต (Growth Hormone) จะหลั่งมากในเวลากลางคืน หลังจากที่หลับไปแล้ว 1-2 ชั่วโมง ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็ก โดยเฉพาะเรื่องความสูง
  2. ช่วยเรื่องการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย จะสังเกตได้ว่าถ้าช่วงไหนที่เราไม่สบาย ร่างกายจะส่งสัญญาณให้เรามีความต้องการนอนมากกว่าปกติด้วยนั่นเอง
  3. ช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ทุกครั้งที่ลูกนอนหลับร่างกายจะหลั่งสารไซโตไคน์ (Cytokine) ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ทำหน้าที่ในการต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ
  4. ช่วยให้หัวใจแข็งแรง เด็กที่ได้นอนหลับอย่างเพียงพอ จะไม่มีความเสี่ยงจากภาวะหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
  5. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ โดยเด็กที่นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอทำให้สมองทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีพัฒนาการทางสติปัญญา อารมณ์ สังคมที่ดีขึ้น

การนอนหลับของทารกยังส่งผลให้ตอนเขาตื่น การเรียนรู้ก็ยังคงต่อเนื่องและต่อยอดไปถึงอนาคต นี่จึงเป็นที่มาว่าทำไมการนอนถึงสำคัญกับเด็ก ๆ ค่ะ มาดูช่วงเวลาการนอนที่เหมาะสมของเด็กวัยแรกเกิด - 6 ปีกัน

 ลูกทารกนอนยาก, ลูกทารกไม่ยอมนอน, ลูกทารกหลับยาก, วิธีทำให้ลูกหลับง่าย, วิธีทำให้ลูกหลับยาว, การนอนของเด็ก, การนอนของทารก, ทารกนอนวันละกี่ชั่วโมง, แป้งแด็ก, แป้งไม่มีทัลคัม, แป้งเด็กยี่ห้อไหนดี, ทาแป้งเด็กยังไง, แป้งไร้ซแคร์, reiscare

ช่วงเวลานอนที่เหมาะสมในลูกวัยแรกเกิด – 6 ปี

• แรกเกิด – 3 เดือน นอนกลางวัน 8 – 9 ชั่วโมง + นอนกลางคืน 8 – 10 ชั่วโมง = 16 – 18 ชั่วโมงต่อวัน
• 3 – 6 เดือน นอนกลางวัน 5 – 6 ชั่วโมง + นอนกลางคืน 9 – 10 ชั่วโมง = 14 - 16 ชั่วโมงต่อวัน
• 6 – 12 เดือน นอนกลางวัน 3 – 4 ชั่วโมง + นอนกลางคืน 8 – 10 ชั่วโมง = 12 - 14 ชั่วโมงต่อวัน
• 1 – 2 ปี นอนกลางวัน 1 – 2 ชั่วโมง + นอนกลางคืน 11 – 12 ชั่วโมง = 13 – 14 ชั่วโมงต่อวัน
• 2 – 3 ปี นอนกลางวัน 1 – 2 ชั่วโมง + นอนกลางคืน 11 ชั่วโมง = 12 – 14 ชั่วโมงต่อวัน
• 3 – 6 ปี นอนกลางวัน 0 – 2 ชั่วโมง + นอนกลางคืน 10 – 11 ชั่วโมง = 11 – 13 ชั่วโมงต่อวัน

 

ชวนคุณพ่อคุณแม่มาสร้างช่วงเวลาการนอนที่มีคุณภาพให้ลูกกันค่ะ การฝึกให้ลูกนอนหลับยาวในช่วงเวลากลางคืน ถือเป็นภารกิจสำคัญอีกอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ จะดีแค่ไหนถ้าลูกน้อยสามารถนอนยาวนานขึ้น ไม่ตื่นมางอแงในช่วงเวลากลางคืนบ่อย ๆ โดยมีเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่หายเหนื่อย แถมช่วยสร้างพัฒนาการที่ดีของลูกได้อีกด้วย

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก www.reiscare.com

 

 ลูกทารกนอนยาก, ลูกทารกไม่ยอมนอน, ลูกทารกหลับยาก, วิธีทำให้ลูกหลับง่าย, วิธีทำให้ลูกหลับยาว, การนอนของเด็ก, การนอนของทารก, ทารกนอนวันละกี่ชั่วโมง, แป้งแด็ก, แป้งไม่มีทัลคัม, แป้งเด็กยี่ห้อไหนดี, ทาแป้งเด็กยังไง, แป้งไร้ซแคร์, reiscare

 

ตรวจสอบข้อมูลโดย นพ.ชาญสิริ เสกสรรค์วิริยะ

โสต ศอ นาสิกแพทย์ อนุสาขาเวชศาสตร์การนอนหลับ

โรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี

(พื้นที่โฆษณาและประชาสัมพันธ์)

 

7 สาเหตุที่ลูกทารกมักตื่นมาตอนกลางดึก ร้องไห้โยเย

ลูก 6 เดือน ตื่น บ่อย ตอน กลางคืน, ทารก ตื่นกลางคืน, ทารก ตื่นกลางดึก, ทารก ตื่นกลางคืน ร้องไห้ไม่หยุด, ทำไม ทารก ตื่นกลางคืน, สาเหตุ ทารก ตื่นกลางคืน, วิธีทำให้ทารก นอนหลับยาว, วิธีทำให้ทารกไม่ตื่นกลางคืน, วิธีทำให้ทารกหลับตลอดคืน, ลูกทารก ตื่นกลางคืนบ่อย, วิธีทำให้ลูกทารกหลับยาว 

ทำไมทารกแรกเกิดถึงตื่นนอนตอนดึกขึ้นมาร้องไห้โยเย ทารกที่ตื่นกลางดึกมีสาเหตุจากอะไร มาเช็กกันตรงนี้พร้อมวิธีทำให้ลูกทารกหลับยาวตลอดคืนค่ะ 

7 สาเหตุที่ลูกทารกมักตื่นมาตอนกลางดึก ร้องไห้โยเย

  1. ทารกตื่นกลางคืนเพราะความเปียกชื้น 
    ปัญหาที่มักจะพบบ่อย ๆ สำหรับเด็กแรกเกิด ทันทีที่ลูกน้อยรู้สึกไม่สบายตัว เพราะความเปียกชื้นของผ้าอ้อมที่ใส่ ลูกจึงตื่นมาร้องงอแงตอนกลางคืน ดังนั้นก่อนที่จะพาลูกน้อยเข้านอนคุณแม่ควรเลือกผ้าอ้อมที่มีคุณสมบัติป้องกันความเปียกชื้นหรือผ้าอ้อมสำหรับตอนกลางคืนค่ะ

  2. ทารกตื่นกลางคืนเพราะเสียงรบกวน
    เสียงกวนใจลูกน้อย เพียงแค่เสียงดังเล็กน้อยก็ทำให้เจ้าตัวเล็กตื่นขึ้นมาได้ตอนกลางคืน ดังนั้นคุณแม่ควรปรับสภาพแวดล้อมภายในห้องไม่ให้มีเสียงรบกวนหรือมีเสียงรบกวนน้อยที่สุด นอกจากนี้คุณแม่ยังสามารถเลือกใช้ดนตรีกล่อมนอนเป็นประจำทุกคืน ลูกน้อยจะคุ้นเคยกับเสียงดนตรีและหลับตานอนเองค่ะ
  3. ทารกตื่นกลางคืนเพราะอากาศ
    อากาศเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ลูกมักจะตื่นมาตอนกลางคืน เพราะร่างกายของเด็กกับของผู้ใหญ่ไม่เหมือนกัน และเด็กยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ดังนั้นเมื่อลูกรู้สึกว่าร้อนเกินไปหรือว่าหนาวเกินไปก็มักจะร้องไห้เป็นการบอกคุณแม่ค่ะ

  4. ทารกตื่นกลางคืนเพราะหิว 
    โดยปกติแล้วลูกน้อยที่ตื่นมานั้นก็มีสาเหตุมาจากการหิวนม เมื่อลูกไก้กินนมจนอื่มแล้วก็จะเริ่มหลับอีกครั้ง หากคุณแม่ไม่แน่ใจว่าลูกหิว ให้คุณแม่สังเกตอาการของลูกน้อยค่ะ ลูกจะตื่นมาร้องไห้แล้วจะพยายามแสดงอาการไขว่คว้าและเอ้าหน้ามาซุกที่หน้าอก หรือที่หมอน อาการแบบนี้แสดงว่าลูกกำลังหิวอยู่ค่ะ

  5. ทารกตื่นกลางคืนเพราะลูกผวา
    อาการผวาเกิดขึ้นจากการตกใจหรืออาจจะเกิดจากการเล่นและสนุกสนานมากเกินไป โดยเฉพาะก่อนที่ลูกจะนอน ทำให้ลูกสะดุ้งตื่นขึ้นมาร้องไห้ได้  วิธีแก้ไขนั้นง่ายเพียงนิดเดียว แค่คุณแม่อุ้มลูกน้อยขึ้นมา อุ้มไปเรื่อย ๆ จนกว่าลูกหลับหรือคุณแม่อาจจะร้องเพลงช่วยกล่อมด้วยก็ได้นะค

  6. ทารกตื่นกลางคืนเพราะไม่อยากนอนอีกแล้ว
    ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะการนอนกลางวันของลูกน้อยเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ลูกตื่นมาตอนกลางคืน ลูกนอนจนเต็มอิ่มและมักจะตื่นมาตอนกลางคืน โดยมีวิธีการแก้ไขเพียงแค่คุณแม่พยายามชวนลูกเล่นหรือพาออกไปเดินเล่นข้างนอก จะช่วยให้ลูกนอนหลับตอนกลางคืนได้ค่ะ

  7. ทารกตื่นกลางคืนเพราะที่นอนไม่สบายตัว
    ความคุ้นชินของที่นอนก็สามารถทำให้ลูกตื่นมาตอนกลางคืนหรือไม่นอนตอนกลางคืนได้ค่ะ ยิ่งตอนไปนอกสถานที่ยิ่งไม่หลับกันเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นคุณแม่ควรแก้ด้วยการพาลูกเข้านอนให้ตรงเวลา ทำบ่อย ๆ จะทำให้ลูกชินกับเวลาในการนอน หรือการใช้สิ่งของที่อยู่ติดตัวลูกตอนนอน ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตา หมอนที่ใช้นอนปกติ ก็จะสามารถทำให้ลูกนอนต่างที่และไม่ตื่นมาตอนดึกได้ค่ะ

สาเหตุที่ทำให้ลูกตื่นมาร้องไห้กลางคืนนั้น มีหลากหลายสาเหตุ ดังนั้นคุณแม่ควรดูดี ๆ ว่าเพราะอะไรที่ทำให้ลูกน้อยตื่นมาตอนกลางคืน คุณแม่จะได้แก้ไขปัญหาได้ตรงจุดค่ะ

7 เหตุผลที่เด็กทารกต้องนอนหลับอย่างเพียงพอ

การนอนหลับของทารก, ทารกนอนหลับ, ทารก หลับไม่สนิท, ทารก ไม่ยอมนอน, ทารก ไม่ยอมนอนกลางคืน, ทารก นอน ข้อดี, ทำไม ทารก ต้องนอนหลับสนิท, ทารก นอน ดียังไง, ทารก นอน การเจริญเติบโต, ทารก นอน growth hormone, วิธีทำให้ทารกนอนหลับยาว, วิธีทำให้ทารก นอนหลับสนิท, ทารก นอนหลับ สมอง

การนอนหลับของเด็กทารกช่วยให้สมองมีการประมวลความจำ เมื่อเขาตื่นการเรียนรู้ก็ยังคงต่อเนื่องและต่อยอดไปถึงอนาคตได้

7 เหตุผลที่เด็กต้องนอนหลับอย่างเพียงพอ

การนอนของทารกเชื่อมโยงกับการทำงานของสมองเด็ก เด็กทารกที่มีตารางการนอนชัดเจน การนอนหลับเพียงพอ จะสามารถเรียนรู้ได้ทั้งกลางวัน และกลางคืน เพราะเซลล์สมองมีการเจริญเติบโต เชื่อมโยงเส้นใยประสาท ประมวลประสบการณ์บันทึกไว้เป็นความจำในเวลานอน

  1. การนอนหลับของทารกช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต เพราะช่วงที่เด็กนอนหลับสนิทเป็นช่วงที่ฮอร์โมนการเจริญเติบโตหรือโกรทฮอร์โมนทำงานได้ดี

  2. การนอนหลับของทารกช่วยให้หัวใจแข็งแรง เด็กที่ได้นอนหลับอย่างเพียงพอจะไม่มีความเสี่ยงจากภาวะหลอดเลือดหัวใจอุดตัน

  3. การนอนหลับของทารกส่งผลต่อน้ำหนักตัว เด็กที่นอนไม่พอมีความเสี่ยงจะเป็นโรคอ้วน

  4. การนอนหลับของทารกช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ทุกครั้งที่ลูกนอนหลับร่างกายจะหลั่งสารไซโตไคน์ ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ทำหน้าที่ในการต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ

  5. การนอนหลับของทารกช่วยลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บ เด็กมักจะอยู่ไม่นิ่ง จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ การนอนหลับจะช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอได้

  6. การนอนหลับของทารกช่วยลดอาการสมาธิสั้น มีการศึกษาพบว่าเด็กอายุ 3 ขวบที่นอนน้อยกว่าวันละ 10 ชั่วโมงมีโอกาส ซน สมาธิสั้น อารมณ์รุนแรง วู่วาม

  7. การนอนหลับของทารกช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ของเด็กๆ โดยเด็กที่นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอทำให้สมองทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีพัฒนาการทางสติปัญญา อารมณ์ สังคม ที่ดีขึ้น

การนอนหลับของทารกยังส่งให้เมื่อเขาตื่น การเรียนรู้ก็ยังคงต่อเนื่องและต่อยอดไปถึงอนาคต นี่จึงเป็นที่มาว่าทำไมการนอนถึงสำคัญกับเด็ก ๆ 

REM Sleep ปัญหาการนอนของเด็ก หลับไม่สนิท ส่งผลต่อพัฒนาการเด็ก

REM (Rapid Eye Movement) คืออะไร, NON-REM (Non Rapid Eye Movement) คืออะไร, สาเหตุ REM, สาเหตุ  NON-REM, ทำไม เด็ก หลับ ๆ ตื่น ๆ , ทำไมเด็กนอนไม่หลับ, ทำไมเด็กหลับยาก, ทำไมเด็กนอน ตื่นบ่อย, ทำไมเด็ก ไม่นอนยาวตลอดคืน, ทำไมเด็ก นอนหลับไม่สนิท, เด็กนอนฝัน, การนอนของเด็กทารก, การนอน Growth Hormone, การนอนของเด็ก พัฒนาการเด็ก

เด็กที่นอนหลับไม่เพียงพอ หลับไม่สนิทในภาวะ REM Sleep อาจส่งผลถึงฮอร์โมนการเจริญเติบโต และพัฒนาการ การเรียนรู้ในอนาคตได้ค่ะ 

REM Sleep ปัญหาการนอนของเด็ก หลับไม่สนิท ส่งผลต่อพัฒนาการเด็ก

'การนอน' มีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการเจริญเติบโตของเด็ก พบว่าฮอร์โมนการเจริญเติบโต (Growth Hormone) จะหลั่งมากในเวลากลางคืน หลังจากที่หลับไปแล้ว 1-2 ชั่วโมง ซึ่งทำหน้าที่สำคัญในการเจริญเติบโตของร่างกาย ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้เติบโตสมวัย ถ้าร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็จะส่งผลให้การหลั่งของฮอร์โมนการเจริญเติบโตไม่เต็มที่ ส่งผลเสียพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูกได้

REM (Rapid Eye Movement) คืออะไร 

การนอนหลับในช่วงหลับฝันหรือการนอนที่มีการเคลื่อนไหวตาไปอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าจะหลับไปแล้วแต่สมองก็ยังทำงานอยู่เหมือนตื่น จะเป็นช่วงการนอนที่ส่งผลต่อความจำ ความฝัน การเรียนรู้และการสร้างจินตนาการ

เกิดขึ้นประมาณ​ 90 นาทีหลังจากที่เรานอนหลับ โดยแบ่งเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงแรกจะใช้เวลาประมาณ 10 นาที ช่วงที่สองจะใช้เวลานานขึ้น ช่วงที่สามจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงหรือมากกว่า โดยเด็กจะใช้เวลา 50% ที่อยู่ในโหมด REM Sleep

REM (Rapid Eye Movement) เป็นอย่างไร

  • หลับไม่สนิท
  • มีการกลอกตา
  • นิ่วหน้านิ่วตา
  • หายใจแรง
  • ดิ้นหรือขยับตัว

ทางการแพทย์มีความเชื่อว่า การนอนหลับในช่วง REM มีผลและมีความจำเป็นต่อการพัฒนาการของเด็กทารก เมื่อเด็กโตขึ้นช่วงการนอนในระดับ REM จะลดลงเรื่อยๆ เมื่อลูกอายุครบ 3 ปีอาจจะเหลือเพียง 30% ของชั่วโมงการนอนทั้งหมดของลูก และจะลดลงเรื่อยๆ อีกเหลือเพียงประมาณ 20% เมื่อลูกก้าวเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น

NON-REM (Non Rapid Eye Movement) คืออะไร

NON-REM sleep คือ การนอนหลับที่ดวงตาของคุณจะไม่ขยับ คลื่นสมองของคุณจะช้าลงมาก รักษาระดับกล้ามเนื้อไว้ได้ดี

  • นอนนิ่ง
  • หลับลึก
  • ร่างกายหลั่ง Growth Hormone ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้เติบโตสมวัย

ขณะที่ลูกเริ่มนอนหลับ หากเป็นเด็กทารกแรกเกิด - 6 เดือน จะเริ่มหลับในช่วง REM ก่อน และจะค่อยๆ เข้าสู่การหลับลึกหรือ Non REM และก็จะสลับกลับไปเป็นช่วง REM แบบนี้ทุกๆ 20 นาทีพอลูกอายุครบ 3 เดือน การเปลี่ยนจาก REM ไปเป็น Non REM จะขยายเวลาเป็น 60 นาที และเมื่อโตมากขึ้นเป็นผู้ใหญ่ ก็จะเปลี่ยนเป็น 90 นาทีต่อรอบ

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ในช่วง 6 เดือนแรกที่การนอนของลูกในระดับ Non REM ยังไม่สมบูรณ์ ลูกของคุณจึงตื่นได้ง่าย หรือดูเหมือนว่า ลูกจะนอนเพียงครั้งละ 20 นาทีก็รู้สึกตัวแล้ว ขอให้คุณพ่อคุณแม่อดทนและเข้าใจลูกด้วย เมื่อลูกอายุมากขึ้น จะสามารถนอนหลับได้นานขึ้น และตื่นยากขึ้น

สาเหตุที่ทำให้เด็กยัง NON-REM sleep ได้ไม่ดี

  1. ใส่เสื้อผ้าไม่สบายตัว
  2. ผ้าอ้อมที่เปียกชื้น
  3. ฝันร้าย
  4. รู้สึกหวาดกลัวกับสภาพแวดล้อม
  5. คลื่นสมองมีการตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
  6. เล่นกับเด็กมากเกินไปในช่วงเย็นหรือหัวค่ำ

วิธีทำให้ลูกนอนหลับสนิท นอนหลับยาวตลอดคืน

  1. สวมใส่เสื้อผ้าผ่อนคลาย และสบายตัว 
  2. เช็กดูผ้าอ้อม เปลี่ยนผ้าอ้อมก่อนนอนทุกครั้ง
  3. ใช้ผ้าห่อลูกให้เขารู้สึกปลอดภัย
  4. ไม่ปลุกหรือเขย่าตัวให้ตื่น
  5. อยู่ในห้องนอนที่ไม่มีเสียงและแสงรบกวน
  6. อาจเปิดเพลงกล่อมเด็กเบา ๆ ช่วยให้ลูกผ่อนคลาย

การนอนหลับอย่างมีคุณภาพจะส่งผลดีต่อการเรียนรู้ สมาธิ ความจำ และการตัดสินใจ มีผลต่อพัฒนาการทางอารมณ์ ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้สมบูรณ์ สังเกตได้จากโรคภูมิแพ้จะกำเริบมากขึ้นหากนอนน้อย นอกจากนี้ โกรทฮอร์โมน (Growth hormone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนช่วยเร่งความสูงของเด็กๆ จะหลั่งได้ดีในช่วงกลางดึกที่เด็กหลับสนิทระยะหนึ่ง หากเด็กนอนน้อยจะกระทบต่อการหลั่งโกรทฮอร์โมน และอาจมีผลต่อศักยภาพในด้านความสูงของเด็กได้


ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข, พญ.ศุภรัตนา คุณานุสนธิ์ กุมารแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล 
 

ท่านอนทารกแรกเกิด ท่านอนที่ทำให้ลูกหลับสบายและปลอดภัยสำหรับแม่มือใหม่

 ท่านอนทารก-ท่านอนทารกแรกเกิด-ท่านอนลูก-ท่านอนลูกแรกเกิด-ลูกนอนตะแคง-ทารก นอนท่าไหน-ท่านอนคว่ำทารก-ท่านอน เด็กอ่อน-ท่านอน ทารก ปลอดภัย-ท่านอนให้นม-การนอน ทารก-ท่านอนที่ถูกต้อง ทารก-ท่านอนทารก ไม่ใหลตาย-โรค SIDs-ลูกชอบนอนคว่ำ-ท่านอนที่เหมาะกับลูก

ท่านอนทารกแรกเกิด ควรนอนหงาย นอนคว่ำ หรือนอนตะแคงถึงจะถูกต้องตามพัฒนาการและปลอดภัยสำหรับลูกเล็ก เรามีท่านอนของทารกแรกเกิด - 6 เดือนมาแนะนำค่ะ

ท่านอนทารกแรกเกิด ท่านอนที่ทำให้ลูกหลับสบายและปลอดภัยสำหรับแม่มือใหม่

ท่านอนลูกแรกเกิดถึง 3 เดือน

นอนตะแคงหรือนอนหงาย เป็นท่าที่เหมาะกับพัฒนาการของกล้ามเนื้อคอที่ยังไม่ค่อยแข็งแรงนัก ทำได้เพียงหันซ้ายและขวา สามารถมองเห็นสิ่งแวดล้อมรอบตัวและฝึกการมองได้ ขณะที่การนอนคว่ำเสี่ยงกับโรค SIDs หรือ ไหลตาย

ท่านอนลูกทารก 4-6 เดือน

เหมาะกับการนอนคว่ำ ด้วยกล้ามเนื้อคอที่แข็งแรงมากขึ้น ทำให้ลูกสามารถชันคอและยกศีรษะได้ แต่ควรมีที่นอนและหมอนที่ไม่นุ่มนิ่มจนเกินไป เพื่อไม่ให้ปิดกั้นทางเดินหายใจ

ท่านอนลูกทารก 6 เดือนขึ้นไป

กล้ามเนื้อคอและหลังแข็งแรงแล้ว แถมยังสามารถพลิกตัวได้ด้วยค่ะ เหมาะกับท่านอนหลายแบบ อาจจะเป็นการนอนตะแคง นอนหงาย กึ่งนั่งกึ่งนอน หรือนอนคว่ำก็ได้

 


ท่านอนทารก-ท่านอนทารกแรกเกิด-ท่านอนลูก-ท่านอนลูกแรกเกิด-ลูกนอนตะแคง-ทารก นอนท่าไหน-ท่านอนคว่ำทารก-ท่านอน เด็กอ่อน-ท่านอน ทารก ปลอดภัย-ท่านอนให้นม-การนอน ทารก-ท่านอนที่ถูกต้อง ทารก-ท่านอนทารก ไม่ใหลตาย-โรค SIDs-ลูกชอบนอนคว่ำ-ท่านอนที่เหมาะกับลูก

 

ท่านอนสัมพันธ์กับพัฒนาการของลูกอย่างที่ไม่ควรมองข้ามแบบนี้ จึงควรจัดท่าให้เหมาะกับวัยลูกนะคะ ที่สำคัญ ควรเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาดสะอ้าน อากาศถ่ายเทสะดวก และปลอดภัยกับลูกค่ะ

 

ทารกนอนบนอกแม่อันตรายไหม ทำไมลูกทารกถึงชอบนอนทับอกพ่อแม่

ลูกทารก นอน บน อก, ลูกชอบนอนทับอก, ทารก นอน บ นอก แม่ อันตราย ไหม, ลูก นอน บ นอก อันตราย ไหม, ทารก นอน บ นอก แม่, ทำไม ทารก นอน บนอก แม่, ให้ ลูก นอน บนอก, ลูก ชอบ นอน บนอก แม่

ลูกทารกชอบนอนบนอกพ่อแม่เพราะติดกลิ่น รู้สึกอบอุ่น หรือเพราะอะไรกันแน่ เรามีคำตอบพร้อมวิธีกล่อมลูกทารกนอนหลับยาวมาฝากค่ะ

ทารกนอนบนอกแม่อันตรายไหม ทำไมลูกทารกถึงชอบนอนทับอกพ่อแม่

ลูกร้องไห้โยเยเพราะอยากนอนทับอกใช่ไหม

การที่ลูกทารกร้องไห้โยเยไม่ได้หมายความว่าลูกต้องการนอนแต่บนอกของคุณพ่อคุณแม่เท่านั้นนะคะ บางครั้งลูกอาจรู้สึกไม่สบายตัว ไม่เรอหลังกินนม ผ้าอ้อมเปียกชื้นมากเกินไป หิวนม หรือปวดท้องโคลิก สิ่งเหล่านี้บ่งบอกอาการร้องไห้โยเยของลูกได้เช่นกัน

ทำไมลูกทารกชอบนอนบนอกพ่อแม่

  • ต้องการความอบอุ่น ต้องการไออุ่น
  • รู้สึกปลอดภัยเหมือนตอนที่อยู่ในท้องของคุณแม่
  • ได้ยินเสียงหัวใจแม่เต้น ทำให้หลับง่ายเหมือนตอนอยู่ในท้องแม่
  • ได้กลิ่นพ่อแม่แล้วรู้สึกสบายใจ คุ้นเคย หลับง่าย

ทารกนอนบนอกแม่ อันตรายไหม

ลูกทารกชอบนอนบนอกพ่อแม่ ไม่อันตรายค่ะ สามารถให้ลูกทารกนอนหลับได้สบาย ๆ แต่ควรให้ลูกนอนบนอกตอนร้องงอแงมากเพื่อทำให้รู้สึกปลอดภัยหลับสบาย แต่หากลูกหลับบนที่นอนได้เอง ไม่ร้องไห้งอแงก็ไม่ควรกล่อมลูกนอนหลับบนอกพ่อแม่ทุกครั้งค่ะ เพราะเขาจะติดจนรู้สึกว่าการนอนบนที่นอนไม่ปลอดภัย นอนไม่หลับ หลับยาก 

วิธีกล่อมลูกทารกให้หลับง่าย หลับยาว

  1. ใช้ผ้าห่มผืนน้อยช่วยให้ลูกหลับได้ เด็กทารกจะรู้สึกปลอดภัยที่สุดเมื่อได้รับความอบอุ่นอยู่เสมอ การที่ลูกน้อยออกมาสู่โลกกว้างอาจทำให้ไม่คุ้นชินได้ เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ อย่างการเอาผ้าห่มมาปิดที่บริเวณหน้าอกของลูกน้อยก็สามารถช่วยให้ลูกรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยได้ค่ะ

  2. จัดห้องนอน ที่นอนให้อยู่ในมุมที่แสงไม่กวน เสียงไม่ดัง แสงและเสียงจะไม่รบกวนให้ลูกตื่น ลูกทารกจะนอนหลับได้ง่ายและนอนยาวขึ้น

  3. เปิดเพลงกล่อมเด็กเบา ๆ หรือ เพลงกล่อมเด็กนอนประเภท White Noise ช่วยให้ลูกทารกรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ หลับง่าย

  4. ถ้าลูกทารกติดกลิ่นพ่อแม่ ลองวางเสื้อคุณพ่อคุณแม่ไว้ใกล้ ๆ ลูกหน่อยก็ได้ค่ะ เพื่อให้เขายังได้กลิ่นที่คุ้นเคย

เชื่อว่าเมื่อลูกมานอนใกล้ ๆ หรืออ้อนขอนอนบนอก คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่ต้องชอบทั้งนั้น แต่การให้ลูกนอนแบบนี้ไปจนโตอาจทำให้เกิดผลเสียได้ ทั้งสุขภาพของคุณพ่อคุณแม่เอง และอาจทำให้ลูกมีสภาวะนอนหลับไม่สนิทซึ่งมีผลกับพัฒนาการของลูกได้ ดังนั้นค่อยๆ ปรับให้ลูกนอนที่นอนของตนเองเมื่อถึงวัยอันควรค่ะ

 

ทำไมลูกทารกชอบยิ้มตอนหลับ ทารกยิ้มตอนหลับได้อย่างไร

 ทารก หลับ ยิ้ม, ทำไม ทารก ยิ้มได้ตอนหลับ, ทารก หลับแล้วยิ้ม, ทารก ยิ้ม หลับสนิท, ทารก ยิ้ม หลับ, ทารก หลับ ไป ยิ้มไป, ทารก หลับยิ้มได้, เด็กทารก หลับ ยิ้ม, ทำไม ทารก หลับ ยิ้ม


ทำไมเด็กทารกนอนหลับแล้วยังส่งยิ้มได้ ข้อนี้เกี่ยวข้องกับพัฒนาการทารกไหม เรามีคำตอบค่ะ 

ทำไมลูกทารกชอบยิ้มตอนหลับ ทารกยิ้มตอนหลับได้อย่างไร

  • เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อใบหน้า การยิ้มระหว่างหลับของทารกในช่วง 0 - 1 เดือนแรกหลังคลอด ไม่ได้มาจากการฝันนะคะ แต่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อใบหน้า เพราะทารกยังไม่สามารถแยกแยะอารมณ์ความรู้สึกได้

  • ลูกกำลังฝัน ช่วง 6 เดือนขึ้นไป ทารกจะเริ่มฝันแล้ว เนื่องจากทารกวัยนี้มองเห็นได้อย่างเต็มที่ จึงเกิดการเก็บไปฝัน ซึ่งการฝันของทารกวัย 6 เดือน จะยังไม่เป็นเรื่องเป็นราวเหมือนผู้ใหญ่ แต่จะเป็นภาพสไลด์แบบไม่ต่อเนื่อง และทารกจะยังไม่เข้าใจว่านี่คือความฝัน

  • พัฒนาการกล้ามเนื้อใบหน้า ในช่วง 2 - 5 เดือน ขณะหลับทารกจะมีอาการทางสีหน้าหลายอย่าง เช่น สีหน้าบึ้งตึง ขมวดคิ้ว ทำปากขมุบขมิบ และยิ้ม อาการเหล่านี้ไม่ได้บ่งบอกว่าทารกกำลังฝันหรือกำลังเล่นกับแม่ซื้ออยู่ แต่คือพัฒนาการกล้ามเนื้อใบหน้าของทารกเท่านั้น

ลูกชอบยิ้มตอนหลับไม่ใช่เพราะลูกกำลังเล่นกับแม่ซื้อตามความเชื่อที่เราเคยได้ยินนะคะ แต่เกิดจากพัฒนาการกล้ามเนื้อใบหน้าตามที่กล่าวไปข้างต้นนั่นเอง คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ พัฒนาการต่างๆ จะส่งผลให้ลูกเป็นเด็กฉลาดในอนาคตแน่นอนค่ะ

รักลูก The Expert Talk EP.101 : รู้จักโกรทฮอร์โมน….ต้นเหตุทำเด็กเติบโตช้า

 

รักลูก The Expert Talk Ep.101 : Growth Hormone ฮอร์โมนสำคัญของเด็ก 

 

“โกรทฮอร์โมน” ฮอร์โมนสำคัญมากกว่าแค่ลูกโตไว โตช้า โตไม่สมวัย แต่เป็นต้นทางของการทำงานในร่างกายทุกส่วน จะทำอย่างไรให้โกรทฮอร์โมนสมดุล

 ฟัง The Expert พญ.นวลผ่อง เหรียญมณี

กุมารเวชศาสตร์ โรคต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิซึม โรงพยาบาลพญาไท 2

รู้จัก Growth Hormone

Growth Hormone คือฮอร์โมนการเจริญเติบโตเป็นฮอร์โมนแห่งการสร้าง ช่วยสร้างเซลล์ ทําให้เซลล์กระดูกเติบโตเด็กสูง ทําให้เซลล์กล้ามเนื้อแข็งแรงเด็กมีกําลัง ทําให้เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงการทํางานของหัวใจดี นอกจากนี้โกรทฮอร์โมนยังช่วย สร้างน้ำตาลด้วยทําให้ตับสร้างน้ำตาล ปล่อยน้ำตาลออกมาในกระแสเลือดทําให้เซลล์ต่างๆ ได้พลังงานจากน้ำตาลเซลล์ก็ทํางานดี ช่วยทำให้เกิดการสร้างพลังงานจากการสลายไขมัน

การที่ Growth Hormone จะทำงานได้ดีต้องมี 3 เรื่องสำคัญได้แก่

1. อาหารต้องครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะกลุ่มโปรตีน ซึ่งจะไปกระตุ้นการสร้าง Growth Hormone แต่ทุกอย่างต้องพอดีไม่มากเกินไป Growth Hormone ก็จะออกได้น้อย เพราะฉะนั้นทุกอย่างต้องกินแบบพอเหมาะตามวัย

2. ออกกําลังกายอย่างเพียงพอ ครั้งละ 30-60 นาที แนวของแอโรบิก ประมาณ 5-7 วันต่ออาทิตย์

3. การนอน Growth Hormone จะออกมาช่วงที่เราหลับสนิท ซึ่งแต่ละวัยก็ควรจะนอนให้เหมาะสมกับวัยด้วยค่ะ อายุ 3-6 ปี นอนประมาณ 9-10 ชั่วโมงต่อวัน อายุ 6-10 ปี นอนประมาณ 8-9 ชั่วโมงต่อวัน ช่วงมัธยม-ผู้ใหญ่นอนประมาณ 6-7 ชั่วโมงต่อวัน

Growth Hormone ไม่สมดุลกระทบกับสุขภาพ

คําว่าไม่สมดุลเราแบ่งเป็น ถ้ามันเยอะเกินกับน้อยเกิน สำหรับเด็กจะเจอแบบที่น้อยเกินไปมากกว่า ทำให้เด็กโตช้ากว่าเพื่อน กล้ามเนื้อต่างๆ พัฒนาไม่ค่อยดี โดยเฉพาะกล้ามเนื้อมัดใหญ่อาจจะไม่แข็งแรงเท่าเพื่อน โครงสร้างกระดูกพัฒนาช้าลักษณะภายนอกที่เห็นได้คือหน้าจะกลมๆ เล็กๆ ถ้าพูดกันตามวิชาการเด็กกลุ่มนี้จะหน้าเหมือนตุ๊กตา พอโตขึ้นไปแล้วยังไม่มี Growth Hormone จะมีผลกับคอลลาเจนและผิวเหี่ยวเร็ว นอกจากนี้ Growth Hormone ยังเกี่ยวกับการสร้างน้ำตาล อาการที่เกิดขึ้นได้จั้งแต่แรกเกิด คือเด็กอายุ 1 เดือนมีอาการชัก น้ำตาลต่ำ พอตรวจก็เจอภาวะ Growth Hormone ต่ำ ซึ่งส่งผลกับสมองใช้พลังงานไม่ได้ทำให้ IQ ต่ำ รวมถึงเด็กกลุ่มนี้ก็จะค่อนข้างแบบอ้วนหน่อยๆ เพราะอย่างที่บอกว่า Growth Hormone ช่วยสลายไขมัน ถ้าสลายไขมันได้ไม่ดีก็จะทำให้ดูอ้วน กลม เตี้ย เนื้อนิ่มๆ

รักษา Growth Hormone 

การรักษาต้องเป็นแบบฉีดเข้าชั้นใต้ผิวหนังฉีดทุกวัน แต่ตอนนี้กําลังพัฒนาชนิดที่ฉีดสัปดาห์ละหนึ่งครั้งแต่ยังไม่เข้ามาในประเทศไทย ส่วนที่โฆษณาว่าเป็น Growth Hormoneชนิดกิน ต้องบอกว่าเป็นลักษณะพวกโปรตีน เพราะอาหารกลุ่มโปรตีนจะไปกระตุ้นให้ร่างกาย สร้างโกรทฮอร์โมนต่อ ถามว่าพูดผิดไหมก็ไม่ผิดแต่เป็นการก้าวข้ามบางประโยคไปว่าเป็นสารอาหารที่ไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้าง Growth Hormone ได้เพียงพอมากกว่า แต่ก็อาจจะเป็นช็อตสั้น ๆ ว่าเป็น Growth Hormone ชนิดรับประทาน แต่ไม่ได้พูดคําว่ามันเพียงพอ หรือมันจะมีผลอะไรแต่ว่ามันเป็นในรูปแบบของโปรตีนมากกว่า หากถามว่าเด็กสามารถกินได้ไหม สำหรับเด็กที่กินอาหารได้ดีแล้วการเสริมเข้ามาอาจจะไม่ได้ช่วย มันก็เป็นสิ่งที่เกินจําเป็น แต่ถ้าเด็กคนไหนที่กินยากจริงๆ แล้วจะเสริมด้วยโปรตีนเสริมก็ไม่มีผลกระทบ แต่ต้องดูว่ามีอย.และเด็กสามารถใช้ได้ไหม และควรปรึกษาคุณหมอของลูกด้วยก็ได้

เพราะการที่ได้รับฮอร์โมนเยอะเกินไปด้วยความที่เป็นฮอร์โมนแห่งการสร้างการเติบโตของเซลล์ถ้ามันเยอะเกินไป อาจจะทำให้เกิดเซลล์เติบโตมากผิดปกติ แล้วเป็นเนื้องอก หรือถ้าหากกินเราก็อาจจะต้องตรวจวัดระดับฮอร์โมนในเลือดว่าพอดีเปล่าเพราะถ้าให้มากไปก็ล้นเป็นข้อเสีย แล้วก็มีอีกหนึ่งวิธีสังเกตตั้งแต่แรกเกิดเลยคือ พ่อแม่สังเกตว่าทําไมลูกชายอวัยวะเพศเล็กหรือสั้นจัง ซึ่งคุณหมอก็จะเช็กระดับโกรทฮอร์โมน ว่ามันมาจากโกรทฮอร์โมนต่ําหรือว่ามันเป็นภาวะที่มันเกิดขึ้นตามวัยของเด็กหรือมีภาวะอื่นด้วย

ถ้าหาก Growth Hormoneสูง เด็กจะโตเร็วโครงสร้างของกระดูกใหญ่ ตัวสูง มือจะดูหนาๆใหญ่ๆ แต่ก็อาจจะไม่ได้มีแสดงออกของเรื่องฮอร์โมนเพศ เรื่องสิว เต้านม นอกจากจะโดนเพื่อนล้อแล้วอีกประเด็นที่เกี่ยวข้องคือ Growth Hormone ทําให้เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจเติบโต การมีฮอร์โมนเยอะก็ทำให้หัวใจต้องทํางานมากไปทำให้หัวใจโต หัวใจวายได้

ซึ่งการรักษาคือเจาะวัดระดับ Growth Hormone ในเลือดหรือMRI เพื่อดูว่ามีเนื้องอกเกิดขึ้นไหมมีขนาดเท่าไหร่ถ้ามีก็อาจจะต้องตัดออก ซึ่งที่โรงพยาบาลพญาไท2 มีโปรแกรมการตรวจวัดระดับ Growth Hormone ก็เป็นจุดสําคัญเบื้องต้นที่ทำให้รู้ว่าขาด Growth Hormone หรือเปล่า ซึ่งตรวจได้ตั้งแต่อายุ 4 ปี

สำหรับการดูแลสุขภาพต้องมีพื้นฐาน 3 ข้อค่ะ ได้แก่เรื่อง 3 อ. ได้แก่ อ. แรกคือ เรื่องอาหาร ออกกำลังกาย และอารมณ์ ก็คือการนอนเร็วก็จะช่วยให้เด็กอารมณ์ดี และก็ทำให้ฮอร์โมนสมดุลด้วย

 

Apple Podcast: https://apple.co/3m15ytB

Spotify: https://spoti.fi/3cvAVcX

Youtube: https://bit.ly/3cxn31u

ลูกทารกนอนผวา ทารกผวาร้องไห้เกิดจากอะไร และต้องดูแลอย่างไร

ลูก ผวา บ่อย, ลูก นอน ผวา, ทารก ผวา บ่อย, ลูก นอน ผวา ร้องไห้, ทำไม ลูก ทารก นอนผวา, สาเหตุ ทารกผวา, อาการ ทารกผวา, วิธีแก้อาการ ทารกผวา, ห่อตัว แก้ ทารก นอนผวา, กอด แก้อาการ ทารกนอนผวา, เสียงดัง ทารก นอนผวา, ทำไม ทารก ผวาบ่อย, ทำยังไง ให้ทารก นอนไม่ผวา, ทานอนในที่เงียบ ไม่ผวา

พ่อแม่มือใหม่อาจกำลังเจอปัญหา ลูกทารกนอนผวา ผวาร้องไห้บ่อย ๆ สาเหตุที่ลูกนอนผวาอาจมีสิ่งรบกวน ซึ่งพ่อแม่ดูแลได้ด้วยวิธีต่อไปนี้ 

ลูกทารกนอนผวา ทารกผวาร้องไห้เกิดจากอะไร และต้องดูแลอย่างไร

เวลาลูกนอนเราอาจจะเห็นลูกๆ โดยเฉพาะในช่วงขวบแรกมีอาการ หรือปฎิกิริยาตอนนอนแบบต่างๆ เคยสงสัยไหมคะว่า เวลานอนของลูก ทารกจะมีอาการผวา สะดุ้งตื่นขึ้นมา บางครั้งก็มีอาการร้องไห้ร่วมด้วย อาการแบบนี้ผิดปกติหรือไม่ และควรแก้ไขอย่างไรดี

ทารกนอนผวา ทารกผวาบ่อยและร้องไห้ เกิดจากอะไร

จะเห็นได้ชัดในช่วง 2-3 เดือนแรก เกิดจากระบบสมองที่ยังทำงานได้ไม่เต็มที่ ระบบประสาทอัตโนมัติจงทำงานโดยเด็กไม่ได้ตั้งใ ฉะนั้นเมื่อมีอะไรมากระทบ เด็กก็อาจเกิดอาการผวาหรือขยับตัวนิดหน่อย และเด็กยังมีอาการผวาอีกช่วงคือ 6 เดือน – 1 ขวบ มีอาการร้องละเมอ เอะอะโวยวาย ตีแขนตีขาทั้งที่ตายังหลับสนิท จนบางทีคุณพ่อคุณแม่ตกใจ แม้จะปลุกก็ทำได้ยาก ซึ่งเป็นเรื่องปกติของช่วงวัยนี้ ไม่น่าเป็นห่วงค่ะ

ในทางการแพทย์แล้ว การนอนผวาไม่ได้เกิดกับเด็กทุกคนและไม่ส่งผลต่อการเรียนรู้หรือพัฒนาการแต่อย่างใด หากไม่อยากให้ลูกนอนผวาก็ไม่ควรมีสิ่งต่างๆ ไปกระทบลูก เช่น ทำเสียงดัง หรือเปิดไฟจนสว่างจ้าเกินไป เป็นต้น

วิธีที่จะช่วยลดอาการทารกนอนผวา นอนผวาบ่อยและร้องไห้

  1. คุณแม่อุ้มลูกน้อยแนบตัวคุณแม่ให้นานที่สุด
    เวลาที่จะวางลูกลงบนที่นอน ให้ค่อยๆ ปล่อยลูกหลังจากที่หลังของลูกน้อยสัมผัสที่นอนแล้วเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกรู้สึกว่ากำลังจะหล่น และทำให้เกิดอาการผวาได้

  2. ห่อตัวลูกน้อย
    จะช่วยให้ลูกรู้สึกปลอดภัย เหมือนกลับไปขดตัวในมดลูกอีกครั้ง นอกจากนี้ยังช่วยให้ลูกนอนหลับนานขึ้นอีกด้วย

  3. นอนกอดลูกเบาๆ
    คุณแม่จะต้องนอนกอดลูกเบาๆ เพื่อให้ลูกรับรู้ถึงอ้อมกอดที่อบอุ่นของคุณแม่ ทั้งนี้อาจลองสังเกตดูว่า ลูกมักจะมีอาการผวาตอนช่วงเวลาไหนบ่อยที่สุด แล้วนอนกอดลูกเมื่อถึงช่วงเวลานั้นเสมอ

การเห็นลูกมีอาการฝันผวาสามารถทำให้คุณกลุ้มใจมาก แต่อาการดังกล่าวไม่เป็นอันตราย และไม่เกิดขึ้นยาวนาน โดยทั่วไปแล้ว อาการฝันผวาไม่ได้เป็นสัญญาณของปัญหาที่ร้ายแรง สุดท้ายแล้วอาการดังกล่าวจะหายไปเอง

วิธีห่อตัวเด็กทารก การห่อตัวทารกแบบต่าง ๆ และเลือกผ้าห่อตัวทารกที่นุ่มน่ากอด


วิธีห่อตัวทารก, ห่อตัวทารก, ห่อตัวเด็กแรกเกิด, ทำไมต้องห่อตัวเด็กทารก, ห่อตัวทารก ยังไง, ผ้า ห่อตัว ทารก แบบ ไหน ดี, วิธี ห่อตัว เด็ก, วิธี ห่อตัว ลูก, การ ห่อตัว ทารก แบบ ต่างๆ, ประโยชน์ ห่อตัวเด็ก ทารก, ห่อตัวทารก หลับง่าย, สอน ห่อตัวเด็ก ทารก, ขั้นตอน ห่อตัว เด็ก ทารก

การห่อตัวเด็กทารกแรกเกิดจะช่วยให้ทารกรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย หลับง่ายขึ้น วิธีห่อตัวทารกมีกี่แบบและควรเลือกใช้ผ้าห่อตัวทารกแบบไหน เรามีคำแนะนำค่ะ 

วิธีห่อตัวเด็กทารก การห่อตัวเด็กทารกแบบต่าง ๆ และเลือกผ้าห่อตัวทารกที่นุ่มน่ากอด

ทำไมต้องห่อตัวทารกแรกเกิด

ทารกแรกเกิดจะคุ้นชินกับการนอนคดคู้ในมดลูกแม่ มีพื้นที่จำกัด มีน้ำคร่ำ รู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย แต่เมื่อคลอดออกมาแล้วถึงเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ทารกจะได้สัมผัสกับแสง เสียง อากาศ และบรรยากาศรอบตัวที่ต่างไปจากเดิมมาก จึงอาจทำให้รู้สึกระแวง ไม่มั่นคงปลอดภัย ส่งผลให้ทารกแรกเกิดส่วนใหญ่จะร้องไห้บ่อย หลับ ๆ ตื่น ๆ ไม่นอนยาว การห่อตัวทารกจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้เขาค่อย ๆ ปรับตัวกับโลกภายนอนได้ดีขึ้นนั่นเองค่ะ 

ประโยชน์ของการห่อตัวทารกแรกเกิด

  1. การห่อตัวทารกช่วยทำให้เด็กรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย เหมือนตอนอยู่ในท้องแม่
  2. การห่อตัวทารกช่วยลดอาการสะดุ้งตกใจจากเสียงดัง  
  3. การห่อตัวทารกช่วยรักษาความอบอุ่นทำให้ทารกไม่รู้สึกหนาว
  4. การห่อตัวทารกช่วยให้นอนหลับได้นานขึ้น

ควรห่อตัวทารกถึงอายุเท่าไหร่

ปกติแล้วจะแนะนำให้ห่อตัวทารกตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุไม่เกิน 3 สัปดาห์ เพราะทารกจะค่อย ๆ เคลื่อนไหวตัวมากขึ้น โดยเฉพาะการพลิกตะแคง พลิกคว่ำ หากห่อตัวในช่วงที่ทารกพลิกคว่ำเองได้ อาจเสี่ยงต่ออาการหลับไหลตาย-Sudden Infant Death Syndrome (SIDS) เนื่องจากหน้าจมลงที่นอน หายใจไม่ออกและยังไม่สามารถพลิกตัวกลับมาในท่านอนหงายได้เอง

ดังนั้น ในระหว่างวันหรือตอนกลางคืนที่ห่อตัวให้ลูกนอน พ่อแม่ต้องคอยสังเกตดูว่าลูกเริ่มขยับพลิกตัวได้บ้างหรือยัง รวมถึงอาจมีบางช่วงที่ลองไม่ห่อตัว หรือห่อหลวม ๆ เพื่อให้เขาได้ขยับตัว สังเกตว่าหลับได้เองดีขึ้นไหม เพื่อเลิกห่อตัวและให้ลูกนอนได้อย่างอิสระมากขึ้นค่ะ 

การห่อตัวเด็กทารกแบบต่าง ๆ 

  1. วิธีห่อตัวทารกแบบเปิดศีรษะอิสระ
  2. วิธีห่อตัวเด็กแบบคลุมทั้งศีรษะ โผล่เห็นหน้าใบหน้า
  3. วิธีห่อตัวเด็กแบบครึ่งตัวช่วงล่าง เปิดอิสระตั้งแต่ศีรษะถึงหน้าอก

 คลิปวิธีห่อตัวทารกแบบเปิดศีรษะอิสระ และ แบบคลุมทั้งศีรษะ

YouTube Channel: LoeppkysLife

----------------------------------------------

วิธีห่อตัวเด็กแบบครึ่งตัวช่วงล่าง เปิดอิสระตั้งแต่ศีรษะถึงหน้าอก

วิธีห่อตัวทารก, ห่อตัวทารก, ห่อตัวเด็กแรกเกิด, ทำไมต้องห่อตัวเด็กทารก, ห่อตัวทารก ยังไง, ผ้า ห่อตัว ทารก แบบ ไหน ดี, วิธี ห่อตัว เด็ก, วิธี ห่อตัว ลูก, การ ห่อตัว ทารก แบบ ต่างๆ, ประโยชน์ ห่อตัวเด็ก ทารก, ห่อตัวทารก หลับง่าย, สอน ห่อตัวเด็ก ทารก, ขั้นตอน ห่อตัว เด็ก ทารก

วิธีเลือกผ้าห่อตัวทารกแรกเกิด

  • เลือกผ้าที่เบาสบาย อากาศถ่ายเทงาน
  • ผ้าไม่หนาหรือบางเกินไป ไม่ระคายเคืองผิว
  • เนื้อผ้านุ่ม ไม่มีขนผ้าฟุ้งกระจายหรือหลุดง่าย

ตัวอย่างผ้าที่สามารถใช้ห่อตัวทารกแรกเกิดได้ เช่น ผ้าเช็ดตัวสำหรับเด็ก ผ้าสาลูผืนใหญ่ ผ้าห่อตัวเยื่อไผ่ ผ้าฝ้าย ผ้านาโน เป็นต้น 

 

อุบัติเหตุตอนนอนที่อาจเกิดกับลูกทารก อันตรายถึงขั้นทำให้ลูกเสียชีวิตได้

ทารก นอนตกเตียง, ทารก ตกเตียง, ทารก หายใจไม่ออก ตอนนอน, ทารกไหลตาย หลับตาย, การนอนของทารก, ทารกนอนยังไง, ที่นอนทารก ต้องเป็นยังไง, ท่านอนทารก, ทารก นอนหงาย นอนตะแคง, อุบัติเหตุทารก ตอนนอน, ทารก บาดเจ็บ ตอนนอน, ทารก นอนยังไง ให้ปลอดภัย, ท่านอน ทารก ปลอดภัย

เด็กทารกตกเตียงเป็นอันตรายจากการนอนที่พ่อแม่มักไม่ระวัง เพราะบางครั้งอุบัติเหตุตอนทารกนอนหลับก็อาจทำให้เสียชีวิตได้ เรามีวิธีป้องกันและการดูแลทารกตอนนอนมาแนะนำค่ะ 

อุบัติเหตุตอนนอนที่อาจเกิดกับลูกทารก อันตรายถึงขั้นทำให้ลูกเสียชีวิตได้

พญ.พรรณพิมล วิปุลากร กล่าวว่า เด็กทารกในวัยแรกเกิด – 4 เดือน เป็นวัยบอบบางที่พ่อแม่ต้องดูแลไม่ให้คลาดสายตา เพราะอาจจะเกิดอันตรายต่อเด็กได้ รวมถึงการนอนของเด็กด้วย หากเด็กนอนด้วยท่านอนที่ไม่เหมาะสมและที่นอนที่ไม่ปลอดภัย อาจเป็นสาเหตุให้เด็กเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้เช่นเดียวกัน จึงแนะนำว่า การนอนของเด็กแรกเกิด – 4 เดือน พ่อแม่ควรจัดท่านอนที่เหมาะสม ที่นอนที่ปลอดภัย 

5 คำแนะนำการนอนของเด็กแรกเกิด – 4 เดือน

  1. แยกที่นอนมาอยู่ด้านข้างผู้ใหญ่ ด้วยระยะห่างประมาณเอื้อมมือระหว่างผู้ใหญ่หรือติดชิดกับผู้ใหญ่ เพราะอาจจะเผลอหลับนอนเบียดหรือทับเด็กจนหายใจไม่ออกหรือโดนผ้าห่ม หมอนของพ่อแม่ทับเด็กโดยไม่รู้ตัว

  2. ที่นอนของเด็กควรสูงประมาณ 2 ฟุต หากจำเป็นต้องนอนด้วยเตียงนอนควรมีที่กันตก

  3. ขอบเตียงต้องมีระยะห่างของรั้วน้อยกว่า 15 เซนติเมตร และมีที่นอนพอดีกับเตียงไม่มีช่องห่างระหว่างที่นอนกับขอบเพราะอาจเกิดการติดศรีษะระหว่างช่องห่าง

  4. ต้องระวังผ้าห่ม หมอน มุ้ง เพราะอาจปิดทับจมูกทำให้หายใจไม่สะดวกหรืออุดกั้น

  5. ไม่ควรนั่งอุ้มจนหลับ เพราะผู้ปกครองอาจจะเผลอปล่อยเด็กออกจากมือทำให้ตกลงมาได้

ท่านอนที่เหมาะสำหรับเด็ก นอนด้วยท่านอนหงายไม่ใช่นอนคว่ำ เพราะอาจกลั้นทางเดินหายใจ และลองเปลี่ยนท่าให้นอนเรื่อยๆ เพื่อให้เด็กได้นอนหลับสบายที่สุด

เด็กแรกเกิด – 4 เดือน ควรนอนตะแคงหรือนอนหงายเป็นท่าที่เหมาะกับการพัฒนาการของกล้ามเนื้อที่ยังไม่ค่อยแข็งแรงทำได้เพียงหันซ้ายขวาและสามารถมองเห็นสิ่งแวดล้อมรอบตัวและฝึกการมองได้ วัย 5-6 เดือน แล้วกระดูกคอจะเริ่มแข็งแรง และวัย 7-12 เดือนสามารถนอนได้ทุกท่าเพราะเด็กพลิกตัวด้วยตนเองได้แล้วที่สำคัญผู้ปกครองต้องสังเกตเด็กและสภาพแวดล้อมรอบตัวเด็กจะต้องไม่มีอะไรมาปิดหน้าระหว่างที่เด็กหลับ โดยเฉพาะเด็กที่มีนิสัยชอบคว้าสิ่งของรอบตัว

พญ.นนธนวนัณท์ สุนทรา กล่าวว่า เด็กอายุเกิน 1 ปี ที่เริ่มยืนได้ ควรจัดให้นอนเตียงเด็กอย่างถูกวิธีคือ 

  1. เตียงเด็กต้องมีราวกันตกที่มีซี่ราวแนวตั้งตรง ไม่ใช่แนวนอน และห่างกันไม่เกิน 15 เซนติเมตร

  2. ราวกันตกจะต้องมีตัวยึดแน่น เด็กไม่สามารถเหนี่ยวให้เคลื่อนไหวได้เอง ไม่อ้า ไม่เผยอ จนเกิดช่องห่างจากเตียงจนลำตัวเด็กลอดตกได้

  3. เบาะที่นอนต้องพอดีกับเตียงและไม่มีช่องว่างระหว่างเบาะกับราวกันตก 

  4. มุมเสาทั้ง 4 มุมต้องเรียบ มีส่วนนูนได้ไม่เกิน 1.5 มิลลิเมตร 
  5. ผนังเตียงด้านศีรษะและเท้าต้องไม่มีการตัดตกแต่งให้เกิดร่องและรู 
  6. จากขอบบนของเบาะที่นอนถึงราวกันตกด้านบนต้องมีความสูงไม่ต่ำกว่า 65 เซนติเมตร และ

  7. เด็กที่มีความสูงเกินกว่า 89 เซนติเมตร มีความเสี่ยงต่อการปีนราวกันตกและตกจากที่สูงได้ พ่อแม่ ผู้ปกครอง ต้องระวังหากพบว่าเด็กแน่นิ่ง ตัวซีดหรือเขียวคล้ำให้จับเด็กนอนหงาย พยายามปลุกหรือเรียก

  8. สังเกตการหายใจโดยดูการเคลื่อนไหวของหน้าอก หน้าท้อง ถ้าเรียกไม่รู้ตัวลักษณะเหมือนไม่หายใจ ให้กดทรวงอกบริเวณ สันอกทันที สลับกับการเป่าปากหรือเป่าจมูก-ปากเด็กในเวลาเดียวกันและรีบตามหน่วยฉุกเฉิน 1669 เพื่อนำส่งโรงพยาบาลให้ทันเวลาต่อไป

เทคนิคกล่อมลูกทารกให้หลับสบายตลอดทั้งคืน หลับยาวตลอดคืน

วิธีกล่อมลูกนอน, กล่อม ลูก, ฝึก ลูก นอน ยาว, กล่อม เด็ก นอน, วิธี ฝึก ลูก นอน ยาว, วิธีทำให้ลูกทารกนอนยาว, วิธีเอาลูกเข้านอน, ทำยังไงให้ลูก ทารกนอนหลับ, ทำไมทารก ไม่ยอมนอน, ทำไมทารก งอแง ไม่นอน, ทำไม ทารก ร้อง ไม่ยอมนอน, ทำไม ทารก นอนไม่ยาว, ทำให้ทารกนอนยาว, กล่อมลูกทารก, ลูก สบายตัว นานหลับสนิท, แป้งไรซ์แคร์, แป้ง reiscare, แป้งไม่มีทัลคัม  

พ่อแม่มือใหม่ที่ยังกล่อมลูกหลับยาวตลอดคืนไม่ได้ มารวมกันตรงนี้ค่ะ เรามีเทคนิคกล่อมลูกนอนหลับยาวตลอดคืนมาแนะนำให้ลองไปปรับใช้กันค่ะ 

เทคนิคกล่อมลูกทารกให้หลับสบายตลอดทั้งคืน หลับยาวตลอดคืน

การนอนหลับเป็นสิ่งสำคัญต่อเด็กทารกเป็นอย่างยิ่ง เด็กแรกเกิด – 3 เดือน ควรนอนวันละ 14-17 ชั่วโมงเด็กทารก อายุ 4-11เดือนควรนอน 12-15 ชั่วโมงต่อวัน ขณะที่เด็กวัย 1-2 ปี ควรนอน 11-14 ชั่วโมงต่อวัน

ทั้งนี้การนอนหลับที่เพียงพอ จะช่วยสร้างฮอร์โมนการเจริญเติบโต หรือ Growth Hormones เพื่อกระตุ้นการทำงานของสมอง ช่วยในเรื่องการเรียนรู้ และจดจำ มีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นรากฐานของพัฒนาการของสมองที่ดี หากลูกนอนหลับไม่เพียงพอ นอกจากสมองจะพัฒนาช้าแล้ว ยังส่งผลกระทบกับสุขภาพ ภูมิคุ้มกันในร่างกาย การซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ในร่างกายลูกน้อย รวมถึงเสี่ยงกับโรคภัยต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคไต ความดัน เบาหวาน เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ด้วย
 
วิธีกล่อมลูกนอน, กล่อม ลูก, ฝึก ลูก นอน ยาว, กล่อม เด็ก นอน, วิธี ฝึก ลูก นอน ยาว, วิธีทำให้ลูกทารกนอนยาว, วิธีเอาลูกเข้านอน, ทำยังไงให้ลูก ทารกนอนหลับ, ทำไมทารก ไม่ยอมนอน, ทำไมทารก งอแง ไม่นอน, ทำไม ทารก ร้อง ไม่ยอมนอน, ทำไม ทารก นอนไม่ยาว, ทำให้ทารกนอนยาว, กล่อมลูกทารก, ลูก สบายตัว นานหลับสนิท, แป้งไรซ์แคร์, แป้ง reiscare, แป้งไม่มีทัลคัม

 8 สาเหตุที่ทำให้ลูกตื่นมากลางดึก

  1. ความเปียกชื้น ปัญหาที่มักจะพบบ่อยสำหรับเด็กแรกเกิด ทันทีที่รู้สึกไม่สบายตัวเพราะความเปียกชื้นจากปัสสาวะ หรือความอับชื้นจากอากาศ ลูกจะตื่นมาร้องงอแงเสมอ เพราะฉะนั้นช่วงกลางคืนที่ลูกใส่ผ้าอ้อมนอน การทาแป้งเด็กที่ป้องกันความเปียกชื้น และเคลือบผิวลูกจากความอับชื้น ช่วยให้ผิวแห้งสบาย และทำให้ลูกหลับได้ยาวขึ้น แต่ก็ต้องเลือกที่ปลอดภัย 

  2. เสียงรบกวน แค่เสียงดังเล็กน้อยก็ทำให้ลูกตื่นได้แล้ว ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรปรับสภาพแวดล้อมภายในห้องไม่ให้มีเสียงรบกวน หรือมีเสียงรบกวนน้อยที่สุด

  3. อากาศไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะร้อนเกินไป หนาวเกินไป ทำให้ลูกรู้สึกไม่สบายตัว ตื่นขึ้นมากลางดึกได้

  4. ความหิว เป็นอีกสาเหตุที่ปลุกให้ลูกตื่นขึ้นมากลางดึก สังเกตได้จากท่าทางที่ลูกตื่นขึ้นมาแล้วพยายามไขว่คว้าเอาหน้ามาซุกอก หรือที่หมอน และเมื่อให้กินนมจนอิ่มลูกก็จะนอนหลับอีกครั้ง

  5. ฝันร้ายหรือลูกผวา เป็นอาการตกใจที่อาจเกิดจากการเล่นสนุกมากเกินไปก่อนนอน ทำให้ลูกสะดุ้งตื่นขึ้นมาร้องไห้ได้ วิธีแก้คือให้คุณพ่อคุณแม่อุ้มลูกขึ้นมากล่อม อุ้มไปเรื่อยๆ จนกว่าลูกหลับ

  6. ลูกตื่นแล้ว เนื่องจากลูกนอนเต็มที่แล้วในช่วงกลางวันเมื่อถึงเวลานอนในตอนกลางคืนเขาจึงตื่นขึ้นมาตาใส พร้อมเล่นอยู่ตลอดเวลา วิธีแก้ไขเพียงคุณพ่อคุณแม่ชวนลูกเล่นหรืออุ้มเดินรอบๆ บ้าน ก็ช่วยกล่อมให้ลูกนอนหลับต่อได้

  7. ลูกไม่ได้ถูกฝึกให้นอนเป็นเวลา การพาลูกเข้านอนและตื่นตอนเช้าไม่ตรงเวลาทำให้ลูกสับสน รวมถึงถ้าที่นอนไม่คุ้น ลูกหลับยากเช่นกัน วิธีแก้คือ ควรพาลูกเข้านอนตรงเวลา ทำบ่อยๆ ให้ลูกคุ้นเคย อาจใช้ตุ๊กตา ผ้าห่มนิ่มๆ หรือหมอนใบโปรดของลูกมามาเป็นตัวช่วยสร้างบรรยากาศการนอนให้ลูกก็ได้ค่ะ

  8. ความเจ็บป่วยทำลูกนอนไม่หลับ เวลาลูกไม่สบาย มีไข้ เป็นหวัด ปวดท้อง ฟันขึ้น เหล่านี้เป็นอาการป่วยที่คอยกวนใจทำให้ลูกร้องงอแงตลอดทั้งคืน วิธีแก้คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปหาคุณหมอเพื่อรักษาตามอาการ และขอคำแนะนำในการดูแลลูกอย่างถูกต้อง

วิธีกล่อมลูกนอน, กล่อม ลูก, ฝึก ลูก นอน ยาว, กล่อม เด็ก นอน, วิธี ฝึก ลูก นอน ยาว, วิธีทำให้ลูกทารกนอนยาว, วิธีเอาลูกเข้านอน, ทำยังไงให้ลูก ทารกนอนหลับ, ทำไมทารก ไม่ยอมนอน, ทำไมทารก งอแง ไม่นอน, ทำไม ทารก ร้อง ไม่ยอมนอน, ทำไม ทารก นอนไม่ยาว, ทำให้ทารกนอนยาว, กล่อมลูกทารก, ลูก สบายตัว นานหลับสนิท, แป้งไรซ์แคร์, แป้ง reiscare, แป้งไม่มีทัลคัม

วิธีกล่อมลูกนอนหลับยาวตลอดคืน

  • ปลุกลูกให้กินนมก่อนที่แม่จะไปนอน

  • เพิ่มนมหรืออาหารในช่วงกลางวันให้มากขึ้น เพื่อให้ลูกอิ่มและอยู่ท้องไปจนถึงกลางคืน

  • สร้างบรรยากาศการนอนให้เหมาะสม ไม่มีมีเสียงรบกวน ไม่ร้อน ไม่หนาวเกินไป หรืออาจเปิดเพลงกล่อมเบาๆ

  • ให้ลูกเล่นให้เต็มที่ในช่วงกลางวัน เพราะเมื่อถึงเวลานอนตอนกลางคืน ลูกจะหมดแรงหลับได้เร็ว และยาวนานขึ้น

  • ทาแป้งให้ลูกก่อนนอนเพื่อให้ผิวแห้งสบาย และลดการระคายเคืองจากเหงื่อและความเปียกชื้น ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรเลือกใช้แป้งที่ผลิตจากธรรมชาติ เช่น แป้งข้าวธรรมชาติ ปราศจากทัลคัม ที่ปลอดภัย ไม่สะสมในร่างกาย รวมถึงมีคุณสมบัติป้องกันความเปียกชื้นได้ด้วย

 

ขอบคุณข้อมูลจาก www.reiscare.com
 

วิธีกล่อมลูกนอน, กล่อม ลูก, ฝึก ลูก นอน ยาว, กล่อม เด็ก นอน, วิธี ฝึก ลูก นอน ยาว, วิธีทำให้ลูกทารกนอนยาว, วิธีเอาลูกเข้านอน, ทำยังไงให้ลูก ทารกนอนหลับ, ทำไมทารก ไม่ยอมนอน, ทำไมทารก งอแง ไม่นอน, ทำไม ทารก ร้อง ไม่ยอมนอน, ทำไม ทารก นอนไม่ยาว, ทำให้ทารกนอนยาว, กล่อมลูกทารก, ลูก สบายตัว นานหลับสนิท, แป้งไรซ์แคร์, แป้ง reiscare, แป้งไม่มีทัลคัม ตรวจสอบข้อมูลโดย พญ. รัตนา เพ็ญศรีชล
กุมารแพทย์โรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน โรงพยาบาลเวชธานี
(พื้นที่โฆษณาและประชาสัมพันธ์)
 
 

เวลานอนของลูกทารกวัยแรกเกิด – 6 ปี และวิธีกล่อมลูกหลับตรงเวลา

 

การ นอน ของ ทารก, การ นอน ของ ทารก 2 เดือน, ทารก แรก เกิด นอน นาน, เวลา นอน ของ ทารก, การ นอน ของ ทารก 1 เดือน, การ นอน ของ ทารก 3 เดือน, ทารก ต้องนอนกี่ชั่วโมง, ตารางนอนทารก, ตารางนอนเด็ก, ลูก 1 ขวบ นอนกี่ชั่วโมง, ล 2 ขวบ นอนกี่ชั่วโมง, ลูก 3 ขวบนอนกี่ชั่วโมง, ลูก 4 ขวบ นอนกี่ชั่วโมง, ลูก 5 ขวบนอนกี่ชั่วโมง, ลูก 6 ขวบนอนกี่ชั่วโมง, วิธีทำให้ลูกนอนตรงเวลา, กล่อมลูกนอน

การนอนของทารก-เด็ก 6 ปี พ่อแม่ต้องรู้จำนวนชั่วโมงการนอน เพื่อให้ลูกได้พักอย่างเต็มที่ การนอนที่ทีคุณภาพช่วยส่งเสริมพัฒนาการได้ค่ะ เด็กแต่ละวัยควรนอนมากน้อยแค่ไหน เช็กกันเลยค่ะ

เวลานอนของลูกทารกวัยแรกเกิด – 6 ปี และวิธีกล่อมลูกหลับตรงเวลา

ทารกแรกเกิด –  อายุ 3 เดือน

  • ทารกแรกเกิดนอนกลางวัน 8 – 9 ชั่วโมง + นอนกลางคืน 8 – 10 ชั่วโมง = 16 – 18 ชั่วโมงต่อวัน  
  • ทารกอายุ 3 – 6 เดือน นอนกลางวัน 5 – 6 ชั่วโมง + นอนกลางคืน 9 – 10 ชั่วโมง = 14 - 16 ชั่วโมงต่อวัน  

ทารกอายุ 6 – 12 เดือน

  • นอนกลางวัน 3 – 4 ชั่วโมง + นอนกลางคืน 8 – 10 ชั่วโมง = 12 - 14 ชั่วโมงต่อวัน  

เด็กอายุ 1 – 2 ปี

  • นอนกลางวัน 1 – 2 ชั่วโมง + นอนกลางคืน 11 – 12 ชั่วโมง = 13 – 14 ชั่วโมงต่อวัน  
  • อายุ 2 – 3 ปี นอนกลางวัน 1 – 2 ชั่วโมง + นอนกลางคืน 11 ชั่วโมง = 12 – 14 ชั่วโมงต่อวัน  

เด็กอายุ 3 – 6 ปี

  • นอนกลางวัน 0 – 2 ชั่วโมง + นอนกลางคืน 10 – 11 ชั่วโมง = 11 – 13 ชั่วโมงต่อวัน

วิธีกล่อมลูกนอน สร้างวินัยการนอนให้เด็ก

  1. ควรให้นมในเวลาที่แน่นอนและสม่ำเสมอ ถ้าลูกตื่นกลางดึก
  2. ไม่ควรให้นมทันที รอก่อนสัก 5 นาที

  3. ควรกล่อมด้วยการกอด ตบก้น หรือไกวเปล เพื่อให้เจ้าตัวเล็กนอนหลับง่ายยิ่งขึ้น