จากกรณีที่ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค แถลงผลการสุ่มทดสอบการปนเปื้อนสารตะกั่วและแคดเมียมในช็อกโกแลต ยี่ห้อดัง 19 ตัวอย่างในไทย พบว่า มีช็อกโกแลตที่พบการปนเปื้อนของสารตะกั่วและแคดเมียม 8 ตัวอย่าง และพบการปนเปื้อนของแคดเมียม 10 ตัวอย่าง และแม้จะพบว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐานทุกตัวอย่าง แต่ก็ยังมีความกังวลของคุณพ่อคุณแม่ที่ได้รับรู้ข่าวนี้ เพราะช็อกโกแลตกับเด็ก ๆ เป็นของคู่กัน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ รศ. ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ ยืนยันว่า ช็อกโกแลตที่ขายในไทย ไม่ได้มีสารตะกั่ว-แคดเมียม เกินมาตรฐาน และการที่ขนมดังกล่าวมีสารชนิดนี้ก็ถือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
สาเหตุที่ ช็อกโกแลต มีสารตะกั่ว-แคดเมียม เพราะสารเหล่านี้ปะปนอยู่ในดินและสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ในบริเวณที่ปลูกต้นโกโก้ ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ทำช็อกโกแลต ดังนั้น ยิ่งเป็นดาร์กช็อกโกแลต ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์โกโก้สูง ก็ยิ่งมีโอกาสเจอมากกว่า ไม่ต่างอะไรกับอาหารอีกหลายชนิดที่มีการปนเปื้อนสารมาตั้งแต่ต้นกำเนิด ขณะที่ทางเหล่าบริษัทผู้ผลิต ก็ยืนยันว่า สารเหล่านี้ไม่ได้มาจากกระบวนการผลิต หรือจากหีบห่อ แต่อย่างใด
ทั้งนี้แม้สารโลหะหนักอย่างตะกั่วและแคดเมียม จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะหากบริโภคเข้าไปเป็นเวลานานก็จะไปทำลายไตและระดับสติปัญญาได้ ดังนั้นจึงได้มีการออกมาตรฐานกำหนดไว้ว่า ไม่ควรรับประทานเข้าไปเกินจำนวนเท่าใด แต่เรื่องนี้สร้างความตกใจเพราะมักมีการนำช็อกโกแลตไปตรวจในมาตรฐานแคลิฟอร์เนีย หรือยุโรป ทำให้อาจจะมีตัวเลขที่สูงกว่าปกติ เพราะในพื้นที่ดังกล่าวมีมาตรฐานที่เข้มงวดกว่า แต่ในความจริงคือไม่ใช่เรื่องที่ต้องวิตกกังวลใด ๆ
หมดกังวลเรื่องสารตะกั่วและแคดเมียมในช็อกโกแลตแล้วนะคะ เด็ก ๆ กินได้ปกติ แต่คุณพ่อคุณแม่ต้องกำหนดปริมาณการกินช็อกโกแลตของลูกนะคะ เนื่องจากช็อคโกแลต โกโก้ นอกจากมีน้ำตาลแล้ว ยังมีคาเฟอีนซึ่งเป็นอันตรายต่อสมองและหัวใจของเด็ก เป็นสาเหตุของ โรคอ้วน โรคเบาหวาน ไขมันสะสมในตับ และ เส้นเลือดแข็งตีบอุดตัน เมื่อเด็กกินบ่อย ๆ จะเสพติดรสชาติ และ หงุดหงิดเวลาที่ไม่ได้กิน ดังนั้นเพื่อสุขภาพของลูกอย่าทานเยอะค่ะ