ต่อคำถามที่ว่าเราควรให้ลูกมีมือถือของตนเองเมื่อไร หรือเราควรให้มือถือแก่ลูกเมื่อไร ควรใช้หลักการลูกดูแลตนเองและพื้นที่สาธารณะได้เมื่อไร ทบทวนหลักการดูแลตนเอง ให้สอนและประเมินความสามารถในการดูแลตนเอง 4 พื้นที่จากร่างกายของตนเองเป็นศูนย์กลางขยายออกไปรอบตัว
พื้นที่ที่ 1 ดูแลร่างกายของตนเองได้ เรื่องพื้นฐานได้แก่ กินข้าวด้วยตนเอง อาบน้ำและแปรงฟันด้วยตนเอง
พื้นที่ที่ 2 ดูแลพื้นที่รอบตนเองได้ ได้แก่สมบัติของตนเอง เช่น เก็บของเล่น เก็บที่นอน เก็บจานไปล้าง
พื้นที่ที่ 3 ดูแลพื้นที่ที่ขยายออกไปอีก นั่นคือทำงานบ้าน เช่น กวาดบ้านถูบ้าน ล้างจานเก็บจาน ซักผ้าตากผ้า และรวบขยะทั้งบ้านไปเทหน้าบ้าน
พื้นที่ที่ 4 ดูแลหน้าบ้าน นอกบ้าน และที่สาธารณะ ได้แก่ดูแลขยะหน้าบ้านให้เรียบร้อย หน้าบ้านสะอาด รอบบ้านสะอาด ไปนอกบ้านรู้จักเข้าคิว ข้ามถนนบนทางม้าลาย ไม่ทิ้งขยะลงบนถนน ไม่ส่งเสียงดังในที่สาธารณะ เป็นต้น
จะเห็นว่ากว่าที่เราจะสอนและฝึกลูกให้ทำงานบนพื้นที่ทั้งสี่จากในไปนอกนี้ได้สำเร็จเด็กๆจะพัฒนา Executive Function(EF) สำเร็จด้วย เพราะงานทั้งหมดที่เล่ามาไม่สนุกและยากลำบากอีกทั้งเสียเวลาเล่น เด็กๆ ไม่สามารถทำได้หากไม่มีความสามารถหลัก 3 ประการของ EF คือ
ควบคุมตนเองซึ่งประกอบด้วยความตั้งใจมั่น ไม่ว่อกแว่ก และอดเปรี้ยวไว้กินหวาน
บริหารความจำใช้งาน
คิดยืดหยุ่น
อาจจะเขียนใหม่ได้ว่าเด็กควรมี 3 วิชาพื้นฐานแล้วเรียบร้อยนั่นคือ ลำบากก่อนสบายทีหลัง ถอนตัวจากความสนุก และอดทนทำงานที่ไม่ชอบได้จนสำเร็จ เพราะการทำงานต้องใช้ความสามารถ 3 ประการนี้แน่
การมีมือถือของตนเองแล้วเด็กสามารถรับผิดชอบเครื่องมือชิ้นนี้ได้ ใช้มันเพื่อการเรียนรู้และเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของตนเอง มิใช่ถูกมันใช้ หรือถูกมันกลืนกิน หรือถูกมันดึงดูดเข้าหาโดยไม่ลืมหูลืมตา
ไปจนถึงสามารถใช้มันตามกติกาสังคม เช่น ไม่เปิดมือถือในที่ห้ามเปิด ไม่คุยโทรศัพท์ในที่ห้ามคุย ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากจนเป็นอันตรายต่อตนเองไปจนถึงเคารพความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น เช่น ไม่แอบถ่ายรูปคนอื่น ไม่ใช้รูปภาพหรือบทความของผู้อื่นโดยไม่บอกกล่าวหรือไม่ขออนุญาตหรือบอกที่มาที่ไปไปจนถึงไม่กลั่นแกล้งผู้อื่นด้วยกลไกของโซเชียลเน็ตเวิร์ค
อย่าลืมว่าการฝึกทำงานทำได้ด้วยหลักการพื้นฐาน 4 ข้อคือทำให้ดู จับมือทำ ทำด้วยกัน และปล่อยเขาทำ เราคอยให้กำลังใจและชมเชยเมื่อเขาทำได้
ก่อนให้มือถือแก่เขาเราควรมีกติกาที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้าจำนวนหนึ่งด้วย กติกาเหล่านี้มีอะไรบ้างขึ้นอยู่กับบริบทของแต่ละบ้าน ข้อสำคัญคือให้ตกลงกันไว้ล่วงหน้าซึ่งเด็กๆ มักจะทำตามโดยง่าย อย่าประมาทที่จะปล่อยปละละเลยให้เกิดเหตุแล้วค่อยมาตกลงกติกาทีหลัง เพราะมักจะสายเกินแก้
นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
จิตแพทย์และนักเขียน ขวัญใจพ่อแม่ชาวโซเชียล