facebook  youtube  line

สุขภาพครรภ์

อาการคนท้องไม่รู้ตัว มีจริงใช่ไหมที่คนท้องไม่รู้ตัวจนเจ็บท้องคลอดลูก

อาการ คน ท้อง ไม่รู้ ตัว, ท้อง ไม่รู้ ตัว, คน ท้อง ไม่รู้ ตัว, คน อ้วน ท้อง ไม่รู้ ตัว, ท้อง แบบ ไม่รู้ ตัว, ท้อง ไม่รู้ ตัว มี ประจำเดือน, ท้อง ไม่รู้ ตัว อาการ, ท้อง ไม่รู้ ตัว ไม่มี อาการ, อาการ คน ตั้ง ครรภ์ ไม่รู้ ตัว

อาการคนท้องไม่รู้ตัว มีจริงใช่ไหมที่คนท้องไม่รู้ตัวจนเจ็บท้องคลอดลูก

หลายคนสงสัยว่า คนท้องไม่รู้ตัวมีจริง ๆ ใช่ไหม เพราะอาการคนท้อง เช่น แพ้ท้อง หน้าท้องขยายตัวขึ้น ก็น่าจะบ่งบอกได้แล้วว่ากำลังตั้งครรภ์ แต่ในความเป็นจริง “อาการคนท้องไม่รู้ตัว มีจริง!”

การท้องไม่รู้ตัวมีศัพท์ทางการแพทย์เรียกว่า (Cryptic pregnancy)

ดร.ไบรอัน จิก สูตินรีแพทย์และผู้ก่อตั้งคลินิกด้านการผดุงครรภ์ Fair Oaks Women’s Health ในสหรัฐอเมริกา ให้ข้อมูลสถิติ พบว่า ผู้หญิง 1 ใน 500 ราย ไม่รู้ว่าตัวเองท้องจนกระทั่งตั้งครรภ์ได้ประมาณ 5 เดือน และนอกจากนี้ก็ยังมีจำนวน 1 ใน 7,200 ราย ไม่รู้ว่าตัวเองท้องจนกระทั่งเจ็บท้องคลอดลูกออกมา

Las necesidades económicas pueden presentarse en cualquier momento, y contar con una fuente de financiamiento accesible es fundamental para manejar imprevistos o realizar compras importantes. Sin embargo, los bancos tradicionales suelen imponer requisitos estrictos que dificultan la aprobación de un crédito para muchas personas. Para quienes buscan opciones flexibles, los créditos personales en México permiten obtener liquidez de manera sencilla, sin la necesidad de cumplir con exigencias complicadas. Estos préstamos están diseñados para cubrir diversas necesidades, desde el pago de deudas hasta la realización de inversiones personales. Una de sus principales ventajas es que los montos y plazos pueden ajustarse según la capacidad de pago del solicitante, lo que facilita su manejo sin comprometer la estabilidad financiera.

สาเหตุการท้องไม่รู้ตัว

  • ประจำเดือนขาดเป็นปกติอยู่แล้ว
  • ภาวะอ้วน ทำให้สังเกตได้ไม่ชัดว่าท้องขยายใหญ่ขึ้น
  • ร่างกายไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
  • ไม่มีอาการแพ้ท้อง
  • เมื่อทารกในครรภ์ขยับตัวจะรู้สึกเหมือนท้องไส้ปั่นป่วนปกติ
  • ผลการตรวจครรภ์ผิดพลาด

อันตรายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อท้องไม่รู้ตัว

  1. อาจมีภาวะเสี่ยงอันตราย ภาวะแทรกซ้อนที่กับทารกแบบไม่รู้ตัว เช่น ความดันสูง เบาหวาน ครรภ์เป็นพิษ เป็นต้น
  2. ใช้ชีวิตปกติจนอาจส่งผลต่อทารก เช่น ออกกำลังกายหนัก ๆ ดื่มแอลกอฮอล์ กินอาหารไม่มีประโยชน์ เป็นต้น
  3. คลอดก่อนกำหนด หรือมีภาวะเสี่ยงในการคลอด เช่น เด็กไม่กลับหัว เป็นต้น

วิธีสังเกตอาการคนท้อง ป้องกันการท้องไม่รู้ตัว

อาการแรกที่สามารถเห็นได้ง่ายและชัดเจนตั้งท้องคือ การรู้สึกง่วงนอนบ่อย ร่างกายอ่อนเพลียตลอดวัน อารมณ์หงุดหงิดง่ายมากขึ้น เพราะฮอร์โมนในร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลงแล้ว นอกจากนี้ยังต้องสังเกตอาการคนท้องอ่อน ๆ ด้วย เช่น

  • น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
  • คัดหน้าอก
  • เวียนศีรษะบ่อยกว่าปกติ
  • ปัสสาวะบ่อย
  • มีกลิ่นตัวแรงขึ้น
  • หิวบ่อย
Într-un context economic imprevizibil, flexibilitatea și accesul rapid la resurse financiare sunt din ce în ce mai importante. Cei care se confruntă cu cheltuieli neprevăzute sau au nevoie de o sumă de bani urgentă au acum la dispoziție soluții moderne care simplifică procesul de creditare. Spre deosebire de băncile tradiționale, care impun numeroase condiții și verificări, platformele online oferă acces imediat la împrumuturi, fără birocrație excesivă. O opțiune avantajoasă pentru cei care doresc să evite complicațiile este un credit rapid în România, care permite obținerea fondurilor necesare într-un timp foarte scurt. Aceste împrumuturi sunt ideale pentru plata unor datorii urgente, acoperirea cheltuielilor medicale sau orice altă situație care necesită bani imediat. Cu toate acestea, pentru a evita dificultăți financiare viitoare, este recomandabil ca fiecare solicitant să citească atent termenii contractului, să analizeze costurile totale și să se asigure că poate respecta termenii de rambursare.

หากมีอาการคนท้องเหล่านี้ ก็สามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้เลย เพื่อการดูแลครรภ์ที่ต้องต่อไปค่ะ

อาการ คน ท้อง ไม่รู้ ตัว, ท้อง ไม่รู้ ตัว, คน ท้อง ไม่รู้ ตัว, คน อ้วน ท้อง ไม่รู้ ตัว, ท้อง แบบ ไม่รู้ ตัว, ท้อง ไม่รู้ ตัว มี ประจำเดือน, ท้อง ไม่รู้ ตัว อาการ, ท้อง ไม่รู้ ตัว ไม่มี อาการ, อาการ คน ตั้ง ครรภ์ ไม่รู้ ตัว

คนท้องง่วงบ่อย, อาการคนท้องอ่อน ๆ

  • Hits: 2671

S-Mom Club ตอบโจทย์คุณแม่ยุคใหม่ ด้วย TeleCare คุยกับหมอออนไลน์เพียงปลายนิ้วสัมผัส

S-Mom Club ตอบโจทย์คุณแม่ยุคใหม่ด้วย TeleCare คุยกับหมอออนไลน์เพียงปลายนิ้วสัมผัส

S-Mom Club ตอบโจทย์คุณแม่ยุคใหม่ ด้วย TeleCare คุยกับหมอออนไลน์เพียงปลายนิ้วสัมผัส

 

เรื่องลูกบางครั้งก็รอไม่ได้ค่ะ หลาย ๆ ครั้งที่มีคำถามมากมายแต่ไม่รู้จะหาคำตอบที่ไหนดี หรือแม้แต่การค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตก็ไม่มั่นใจว่าข้อมูลที่ได้มานั้นเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน

คงจะดีไม่น้อยหากมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำกับเราได้ และ S-Mom Club คือผู้ที่เข้าใจคุณแม่ทุกเรื่องการดูแลลูก จึงได้สร้างคลับสำหรับคุณแม่ขึ้นมาเพื่อมาคอยเคียงข้าง ให้ความรู้ในเรื่องสุขภาพ พัฒนาการ และการเลี้ยงลูก

ล่าสุด S-Mom Club ได้พัฒนา TeleCare คุยกับหมอออนไลน์ ให้คุณแม่สมาชิกได้พูดคุยกับคุณหมอตัวจริงจากแผนกสูตินรีเวชและกุมารเวช เพื่อรับความรู้ พร้อมอีก 5 โปรแกรมช่วยเช็กพัฒนาการตั้งแต่คุณแม่ตั้งครรภ์จนถึงหลังคลอดอีกด้วย เรียกว่าตอบโจทย์ของแม่เลยค่ะ

 

S-Mom Club TeleCare คุยกับหมอออนไลน์แบบไม่มีค่าใช้จ่าย

 

 

 

https://www.youtube.com/watch?v=ZiIVd3rxs6Y

 

 TeleCare พร้อมให้ความรู้พูดคุย โดยทีมแพทย์พยาบาลผู้เชี่ยวชาญ

สิทธิพิเศษสำหรับแม่ ๆ สมาชิก S-Mom Club สามารถคุยกับหมอออนไลน์ หรือวิดีโอคอลกับคุณหมอเพื่อพูดคุยรับความรู้เกี่ยวกับสุขภาพการตั้งครรภ์ การเลี้ยงลูก พัฒนาการ โดยที่คุณแม่ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปโรงพยาบาล จะอยู่บ้าน อยู่ที่ทำงาน อยู่ต่างจังหวัด ก็สามารถพูดคุยกับคุณหมอผ่าน TeleCare ได้เลยค่ะ

ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกของคลับแม่และเด็กในประเทศไทยเลยที่มี TeleCare คุยกับหมอออนไลน์แบบไม่มีค่าใช้จ่าย เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะสมาชิก S-Mom Club ซึ่งสามารถจองนัดหมายวันเวลาได้ง่ายๆ ผ่านไลน์ @S-MomClubGold

 

PlayBrain ยิ่งเล่น สมองยิ่งแล่น โปรแกรมพัฒนาทักษะสมองของลูกน้อย

PlayBrain ยิ่งเล่น สมองยิ่งแล่น คือ โปรแกรมพัฒนาทักษะสมองลูก

โปรแกรม PlayBrain ยิ่งเล่น สมองยิ่งแล่น ถูกออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสมองระดับโลกเพื่อช่วยฝึกทักษะสมองลูกน้อย พร้อมสร้างสายสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นแฟ้น มีทั้งบทความพัฒนาสมองลูก เกมออนไลน์และกิจกรรมฝึกพัฒนาการที่ตรงกับช่วงวัยและการเรียนรู้ของลูก เมื่อยิ่งเล่น ลูกน้อยก็ยิ่งเกิดการเรียนรู้ สมองก็จะยิ่งแล่น ซึ่งกิจกรรมในโปรแกรม PlayBrain ยิ่งเล่น สมองยิ่งแล่น นั้นช่วยพัฒนาทักษะสมองขั้นพื้นฐานทั้ง 3 ด้าน ที่นำไปสู่ความสำเร็จในอนาคตได้ ดังนี้

1. การรู้จักปรับตัว (Cognitive Flexibility)

คือ ความสามารถของความยืดหยุ่นทางความคิด สามารถแก้ไขปัญหาด้วยวิธีที่แตกต่างกัน รู้จักพลิกแพลงและปรับตัว เป็นจุดเริ่มต้นของการมีความคิดสร้างสรรค์และคิดนอกกรอบ โดยสามารถกระตุ้นทักษะนี้ผ่านกิจกรรม เช่น กิจกรรมบทบาทสมมติ หรือ การฝึกเรื่องเล่านิทาน

2. การควบคุมตนเอง (Inhibitory Control)

ความสามารถในการทนต่อสิ่งยั่วยุทางอารมณ์ หรือ ความสามารถในการยั้งคิดไตร่ตรอง เป็นความสามารถในการควบคุมความต้องการ หยุดคิดก่อนที่จะกระทำได้ โดยสามารถกระตุ้นทักษะนี้ผ่านการฝึกให้เด็กมีสมาธิ เช่น กิจกรรมเต้นสลับหยุด

3. การจดจำดี และสามารถนำไปใช้ได้ (Working Memory)

คือ ความสามารถในการจดจำข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับเข้ามาสู่สมอง และสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ออกมาใช้ในสถานการณ์ที่ต้องการ โดยสามารถกระตุ้นทักษะนี้ผ่านกิจกรรม เช่น กิจกรรมฝึกจำสี

 

แบบประเมินสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อย (Health Check)

เพราะเข้าใจแม่ จึงรู้ว่าคุณแม่ทุกคนมักมีความกังวล ทั้งสุขภาพร่างกายตั้งแต่ขณะตั้งครรภ์ไปจนถึงสุขภาพและพัฒนาการของลูกน้อยหลังคลอด S-Mom Club จึงได้คัดสรร 5 แบบประเมินที่ตรวจทานเนื้อหาทางวิชาการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้คุณแม่สามารถทำแบบประเมินง่าย ๆ จากที่ไหนก็ได้บนโทรศัพท์มือถือ 

Health Check แบบประเมินสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อย

 

Health Check แบบประเมินสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อย

1. แบบประเมินสุขภาพคุณแม่ตั้งครรภ์ : เป็นการประเมินโภชนาการของคุณแม่ว่าได้รับประทานอาหารที่ส่งผลต่อสุขภาพของคุณแม่ รวมทั้งการเจริญเติบโตของลูกน้อยในครรภ์หรือไม่ คุณแม่สามารถตรวจเช็คเบื้องต้นได้ว่าอาหารที่รับประทานนั้นเพียงพอสำหรับหรับครรภ์คุณภาพไหม

2. แบบประเมินการให้นม : คุณแม่มือใหม่อาจมีความกังวลเมื่อต้องให้นมลูกเป็นครั้งแรกว่าถูกต้องหรือไม่ การทำแบบประเมินนี้จะช่วยเช็คความถูกต้องของการให้นมแม่ผ่านเต้าได้ง่าย ๆ คุณแม่จะได้รู้วิธีให้ลูกกินนมแม่อย่างถูกต้อง วิธีที่ทำให้ลูกคุ้นชินกับการดูดนมแม่และกระตุ้นการผลิตน้ำนมพร้อมคำแนะนำที่คุณแม่สามารถนำไปปรับใช้ได้เลย

3. แบบประเมินพัฒนาการลูกวัย 0-6 เดือน : แม่มักสงสัยว่าลูกน้อยมีพัฒนาการตามวัยหรือไม่ เพียงทำแบบประเมิน 5 ข้อก็ช่วยคลี่คลายความสงสัยของคุณแม่ได้ นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของลูกให้สมวัยมากยิ่งขึ้น

4. แบบประเมินสุขภาพอุจจาระของลูกน้อย : เพราะลักษณะของอุจจาระและความถี่ในการขับถ่ายบอกสุขภาพของลูกน้อยได้ แบบประเมินนี้จะช่วยตอบคำถามสุขภาพการขับถ่ายของลูก เพื่อให้คุณแม่ได้การเฝ้าสังเกตสุขภาพของลูกอย่างใกล้ชิด

5. แบบประเมินความเสี่ยงภูมิแพ้ของลูก : โรคภูมิแพ้สามารถป้องกันได้หากเราทราบตั้งแต่เบื้องต้น คุณแม่สามารถทำแบบประเมินเพื่อทราบความเสี่ยงว่าลูกมีความเสี่ยงเป็นภูมิแพ้หรือไม่  เพื่อเตรียมตัวสำหรับการป้องกันและขอรับคำแนะนำกับทีมแพทย์  

5792 7

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ S-Mom Club ยังมีโปรแกรมเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยคุณแม่ติดตามพัฒนาการและเลี้ยงดูลูกให้มีพัฒนาการที่สมวัย เช่น

  • โปรแกรมติดตามพัฒนาการทารกในครรภ์ตลอด 9 เดือน (Womb Development) เรียนรู้พัฒนาการลูกน้อยในครรภ์สัปดาห์ต่อสัปดาห์ ทั้งเกณฑ์น้ำหนัก ส่วนสูง และขนาดทารกในครรภ์ตามอายุครรภ์ของคุณแม่
  • โปรแกรมติดตามพัฒนาการลูกในแต่ละช่วงวัย (Baby Development) พร้อมกราฟแสดงน้ำหนักและส่วนสูงเทียบกับเกณฑ์อายุของเด็กในแต่ละวัย
  • โปรแกรมบันทึกกิจกรรมของลูกน้อยพร้อมแจ้งเตือน (Baby Tracker) เพิ่มความสะดวกสบายด้วยระบบผู้ช่วยส่วนตัวให้คุณแม่มือใหม่จัดเก็บข้อมูล เช่น การป้อนนม การเปลี่ยนผ้าอ้อม จำนวนชั่วโมงการนอน พร้อมส่งแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาที่คุณแม่ต้องให้นมหรือเปลี่ยนผ้าอ้อม เสริมด้วยการแนะนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้คุณแม่เพื่อช่วยให้คุณแม่ดูแลลูกได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

สำหรับคุณแม่มือใหม่ ผู้ช่วยที่มีความเชี่ยวชาญนั้นสำคัญมาก S-Mom Club จึงพร้อมเคียงข้างในทุกช่วงเวลาที่สำคัญของคุณแม่และลูกน้อย ตลอด 24 ชั่วโมง

 คลิกที่นี่ เพื่อเข้าใช้งาน

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ ผ่านช่องทางของ S-Mom Club ได้ที่

#SMomClub #พร้อมเคียงข้างทุกช่วงเวลาที่สำคัญของคุณและลูก

 

  • Hits: 10902

ทำไมแม่ท้องถึงมีกลิ่นตัวแรง จะรับมือกลิ่นตัวแม่ท้องอย่างไร

5717 1

ทำไมแม่ท้องถึงมีกลิ่นตัวแรง จะรับมือกลิ่นตัวแม่ท้องอย่างไร

กลิ่นตัวตอนท้องเป็นเรื่องปกติค่ะ อาจเกิดขึ้นกับแม่ท้องบางคน หรือบางคนอาจจะไม่มีเลย สำหรับคนที่มีกลิ่นตัวนอกจากสร้างความรำคาญแล้วยังทำให้เสียความมั่นใจอีกด้วย แต่ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอะไร แม่ท้องสามารถรับมือได้ค่ะ

กลิ่นตัวแม่ท้องเกิดจากอะไร ทำไมแม่ท้องถึงมีกลิ่นตัวแรง

สาเหตุที่ทำให้ร่างกายแม่ท้องมีกลิ่นตัว เกิดจากต่อมเหงื่อสร้างเหงื่อออกมา เมื่อเกิดการสะสมและสัมผัสกับแบคทีเรีย จึงเกิดการย่อยสลายร่วมกับมีการเจริญเติบโตของแบคทีเรียเป็นเหตุให้เกิดกลิ่นตัว โดยเฉพาะบริเวณรักแร้ ข้อพับ ขาหนีบและหลัง

สำหรับแม่ท้องบางคน กลิ่นตัวเกิดจาก 3 สาเหตุต่อไปนี้

 

1. แม่ท้องจะมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้น บางคนอยู่ในเกณฑ์อ้วนถึงอ้วนมาก ทำให้มีชั้นไขมันที่หนาขึ้น ส่งผลให้ร่างกายระบายความร้อนได้ไม่ดี จึงต้องเพิ่มการระบายความร้อนออกมาทางเหงื่อ

2. ร่างกายมีกระบวนการเมตาบอลิซึมเพิ่มขึ้น 10-20% โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 3 และในคนที่ตั้งครรภ์แฝด ทำให้ร่างกายเกิดความร้อนมากขึ้น จำเป็นต้องระบายความร้อนออกมาทางเหงื่อมากขึ้นด้วย

3. การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่มากขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์ ทำให้เกิดการสร้างต่อมเหงื่อและต่อมไขมันมากขึ้นในร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ทำให้มีเหงื่อและสิวเพิ่มมากขึ้น

 

5717 2

5 วิธีระงับกลิ่นกายแม่ท้อง

1. อาบน้ำลดกลิ่นตัว วันไหนที่อากาศร้อนเหงื่อออกเยอะ การอาบน้ำบ่อยจะช่วยขจัดคราบไคลและกลิ่นตัวได้

2. เลือกเสื้อผ้าที่สบายตัว ไม่คับแน่นจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดความอับชื้นและมีกลิ่นตัวได้

3. งดอาหารที่มีกลิ่น เช่น เครื่องเทศ หัวหอม สะตอ ทุเรียน เป็นต้น

4. ดูแลสุขอนามัยส่วนตัว หลังปัสสาวะหรืออุจจาระเสร็จควรล้างอวัยวะเพศให้สะอาด ใช้กระดาษชำระซับให้แห้งจากด้านหน้าไปด้านหลัง สามารถใช้โรลออนหรือสารส้มดับกลิ่นกายได้

5. ทาแป้งเพื่อลดความอับชื้นบนร่างกาย และควรเลือกแป้งที่ปราศจาก Asbestos เช่นแป้งข้าวเจ้าที่ทำจากแป้งข้าวธรรมชาติปราศจากทัลคัม ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และไม่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ

 

วิธีเลือกแป้งสำหรับแม่ท้อง

1. เลือกแป้งที่มีส่วนผสมหลักมาจากพืชธรรมชาติ เช่น แป้งข้าวเจ้าเพราะย่อยสลายได้ และมีคุณสมบัติป้องกันความเปียกชื้น ช่วยให้รู้สึกสบายตัว

2. ต้องเป็นแป้งเนื้อเนียนละเอียด ป้องกันความเปียกชื้นได้ดี

3. ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม หรือสารที่ก่อให้เกิดความระคายเคือง

4. สะอาด ปลอดภัย ปราศจากทัลคัมและ Asbestos

5. ต้องผ่านการทดสอบว่าไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ (Hypoallergenic)

 

5711 4

ขอบคุณข้อมูลจาก www.reiscare.com

ตรวจสอบข้อมูลโดย แพทย์หญิงมุกรวี ดาราฉาย สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล

 

(สนับสนุนสุขภาพแม่ท้องโดยผลิตภัณฑ์ไร้ซแคร์)

รีวิวแป้งเด็กไร้ซแคร์, กลิ่นตัวคนท้อง

  • Hits: 5539

แม่ผ่าคลอดต้องรู้ให้ลึก สารอาหารสำคัญสำหรับเด็กผ่าคลอดช่วยลูกสมองไว

แม่ผ่าคลอด, การผ่าคลอด, เด็กผ่าคลอด, สฟิงโกไมอีลิน, B. lactis, นมผง, นมผงสำหรับเด็ก, นมผงสูตรไหนดี, นมสำหรับเด็กผ่าคลอด, เด็กคลอดธรรมชาติ, นมแม่, นม, S-26, เอส 26, นมเอส 26, นมผงเด็กผ่าคลอด, นมเด็กผ่าคลอด, ให้ลูกกินนมอะไร, สารอาหารสำคัญในนมแม่, นมแม่ดีที่สุด, กิจกรรมเสริมพัฒนาการเด็ก 

แม่ผ่าคลอดต้องรู้ให้ลึก สารอาหารสำคัญสำหรับเด็กผ่าคลอดช่วยลูกสมองไว

การผ่าคลอดนั้นเด็กจะถูกนำตัวออกมาผ่านหน้าท้องของคุณแม่ ทำให้เสียโอกาสที่จะได้รับจุลินทรีย์สุขภาพผ่านทางช่องคลอดของคุณแม่ ส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการระบบภูมิต้านทานตั้งต้นที่แตกต่างจากเด็กที่คลอดธรรมชาติ จึงมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ และเจ็บป่วยได้ง่ายกว่า นอกจากนี้ยังพบว่าเด็กผ่าคลอดมีความเสี่ยงด้านพัฒนาการทางสมองอีกด้วย ดังนั้นคุณแม่ผ่าคลอดควรเตรียมความพร้อมของลูก เพื่อให้ลูกมีพัฒนาการทางสมองและภูมิต้านทานที่ดี

สมองและการเรียนรู้ของเด็กผ่าคลอด

มีการศึกษาของ Deoni S.C. et al. เกี่ยวกับพัฒนาการทางสมองของเด็กผ่าคลอด พบว่าสมองของเด็กผ่าคลอด ที่อายุ 2 สัปดาห์ มีการเชื่อมโยงการทำงานของสมองแตกต่างจากเด็กที่คลอดธรรมชาติ และพัฒนาการทางสมองส่วนคอร์ปัส คาโลซัม (Corpus Callosum) ซึ่งเชื่อมโยงการทำงานระหว่างสมองซีกซ้ายและซีกขวาของเด็กอายุตั้งแต่อายุ 3 เดือนจนถึง 3 ปี มีการสร้างเยื่อหุ้มไมอีลินในสมองที่แตกต่างกัน

นมแม่ ภูมิคุ้มกันแรกเกิดสร้างลูกสมองไวและเสริมภูมิคุ้มกันให้เด็กผ่าคลอดแข็งแรง

 

 แม่ผ่าคลอด, การผ่าคลอด, เด็กผ่าคลอด, สฟิงโกไมอีลิน, B. lactis, นมผง, นมผงสำหรับเด็ก, นมผงสูตรไหนดี, นมสำหรับเด็กผ่าคลอด, เด็กคลอดธรรมชาติ, นมแม่, นม, S-26, เอส 26, นมเอส 26, นมผงเด็กผ่าคลอด, นมเด็กผ่าคลอด, ให้ลูกกินนมอะไร, สารอาหารสำคัญในนมแม่, นมแม่ดีที่สุด, กิจกรรมเสริมพัฒนาการเด็ก

นมแม่คืออาหารที่ดีที่สุดสำหรับเด็กทารก เปรียบเหมือนภูมิคุ้มกันที่แม่สร้างให้ลูกตั้งแต่แรกเกิด เพราะในนมแม่มีสารอาหารที่มีประโยชน์มากกว่า 200 ชนิด สารอาหารหลัก เช่น โปรตีน น้ำตาล ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน แร่ธาตุ ต่าง ๆ  ยิ่งให้ลูกกินนมแม่ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 เดือน หรือยาวนานที่สุด ยิ่งช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางร่างกาย สมอง และภูมิคุ้มกันให้ลูกแข็งแรง ซึ่งนมแม่สามารถป้องกันและลดความรุนแรงของโรคติดเชื้อในเด็กได้หลายโรค อาทิ โรคมือเท้าปาก โรคปอดอักเสบ โรค RSV เป็นต้น  

สฟิงโกไมอีลินและ B. lactis เป็นอีก 2 สารอาหารสำคัญในนมแม่ที่มีบทบาทในการพัฒนาสมองและเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูก

โดยสฟิงโกไมอีลิน ไขมันกลุ่มฟอสโฟไลปิดมีความสำคัญในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งเจ้าปลอกไมอีลินนี้เป็นส่วนที่ห่อหุ้มเส้นใยประสาท ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณประสาท ทำให้สมองส่งสัญญาณประสาทได้เร็วแบบก้าวกระโดด และทำให้สมองมีการประมวลผลอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

มีการศึกษาพบว่าแขนงประสาทนำออกที่มีปลอกไมอีลินห่อหุ้มจะส่งสัญญาณประสาทได้เร็วกว่าที่ไม่มีถึงกว่า 100 เท่า ซึ่งกระบวนการสร้างปลอกไมอีลินในสมองของลูกนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่อยู่ในครรภ์และยังคงมีการพัฒนาต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ จนคลอดและเติบโตขึ้นตามวัย

ขณะที่ B. lactis จุลินทรีย์สุขภาพบิฟิโดแบคทีเรียม แล็กทิส (Bifidobacterium lactis หรือ B. lactis) คือจุลินทรีย์สุขภาพที่พบมากในนมแม่ และลำไส้ของเด็กที่คลอดธรรมชาติ ซึ่งบี แล็กทิส จะช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ลดการติดเชื้อ ลดการอักเสบ ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร บรรเทาอาการท้องผูก ช่วยปรับสมดุลในลำไส้ได้ดี ป้องกันอาการท้องเสียเฉียบพลันในทารก และอาการลำไส้แปรปรวนได้ด้วย

กิจกรรมกระตุ้นพัฒนาการสมองของเด็กทารก

 แม่ผ่าคลอด, การผ่าคลอด, เด็กผ่าคลอด, สฟิงโกไมอีลิน, B. lactis, นมผง, นมผงสำหรับเด็ก, นมผงสูตรไหนดี, นมสำหรับเด็กผ่าคลอด, เด็กคลอดธรรมชาติ, นมแม่, นม, S-26, เอส 26, นมเอส 26, นมผงเด็กผ่าคลอด, นมเด็กผ่าคลอด, ให้ลูกกินนมอะไร, สารอาหารสำคัญในนมแม่, นมแม่ดีที่สุด, กิจกรรมเสริมพัฒนาการเด็ก

การจะเสริมสร้างพัฒนาการสมองให้เด็กผ่าคลอด นอกจากกินนมแม่แล้วคุณแม่จะต้องกระตุ้นการทำงานของสมองให้ลูกด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในบ้านและนอกบ้านตามวัยของลูกด้วย เช่น เล่นปูไต่ จ๊ะเอ๋ เล่นตบมือ ร้องเพลงให้ลูกฟัง พาลูกออกไปเดินเล่นดูต้นไม้ดอกไม้ เล่นต่อบล็อกต่อจิ๊กซอว์ เล่านิทานให้ลูกฟัง เล่นบ่อทราย ฯลฯ

และในระหว่างที่พ่อแม่เล่นกับลูก หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ นั้น ควรพูดคุย สบตา ยิ้ม กอด กับลูกด้วย เพราะการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดี จะส่งผลให้สมองลูกน้อยมีพัฒนาดีอย่างรอบด้านไปด้วยค่ะ

ดังนั้นแล้วคุณแม่ควรให้ลูก ๆ ทานนมแม่ เพราะนมแม่ดีที่สุด และเป็นแหล่งของสารอาหารที่สำคัญหลากหลายชนิด เช่นสารอาหารสร้างสมองไวอย่างสฟิงโกไมอีลินและจุลินทรีย์สุขภาพบีแล็กทิสที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้เด็กผ่าคลอด จะช่วยให้ลูกสมองไวเรียนรู้ได้เร็ว และมีภูมิคุ้มกันดี ลดโอกาสเจ็บป่วยบ่อยได้ด้วยค่ะ

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สร้างสมองไวให้เด็กผ่าคลอด พร้อมเสริมภูมิคุ้มกัน | S-Mom Club

การผ่าคลอด, เด็กผ่าคลอด, แม่ผ่าคลอด

  • Hits: 22403

PM 2.5 ฝุ่นร้ายอันตรายถึงลูกในท้อง เสี่ยงพิการ-ตาย ตั้งแต่แรกคลอด

แม่ท้องกับฝุ่น PM2.5, อันตรายของฝุ่น PM2.5, อันตรายของฝุ่น PM2.5 กับทารก
  

มีงานวิจัยยืนยัน PM 2.5 ส่งผลกระทบต่อแม่ท้องและทารกในครรภ์ ถึงขั้นพิการแต่กำเนิด หรืออาจเสียชีวิตตั้งแต่แรกคลอด

PM 2.5 ฝุ่นร้ายอันตรายถึงลูกในท้อง เสี่ยงพิการ-ตาย ตั้งแต่แรกคลอด

นักวิจัยเผยมลพิษทางอากาศสามารถผ่านจาก 'แม่' สู่ 'ทารกในครรภ์' มลพิษทางอากาศของประเทศไทยมีอยู่หลายรูปแบบค่ะ ทั้งมลพิษจากท่อไอเสียของรถยนต์ โรงงานอุตสาหกรรม หรือเกิดจากการเผาไหม้ขยะมูลฝอยค่ะ และที่สำคัญคือฝุ่น PM 2.5 ที่สร้างความอันตรายให้กับแม่ตั้งครรภ์มากที่สุดค่ะ 

วารสาร Nature Communications ตีพิมพ์งานวิจัยที่ระบุว่า ทีมวิจัยตรวจสอบพบอนุภาคขนาดเล็กอย่างคาร์บอนสีดำอยู่ภายในรกจำนวนมหาศาลต่อทุกๆ ลูกบาศก์เมตรในเนื้อเยื่อของตัวอย่างรกทุกชิ้นที่นำมาตรวจวิเคราะห์ โดยอธิบายว่าอนุภาคดังกล่าวที่เกิดจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงสามารถผ่านเข้าไปสู่ทารกในครรภ์ได้ด้วยการแทรกซึมผ่านลมหายใจของมารดา

ทั้งนี้ งานวิจัยชิ้นนี้เลือกกลุ่มตัวอย่างเป็นกลุ่มผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์และไม่เคยสูบบุหรี่ ภายในเมือง Hasselt ประเทศเบลเยียมซึ่งเป็นเมืองที่มีระดับมลพิษต่ำกว่าข้อกำหนดของสหภาพยุโรป แต่สูงกว่าข้อกำหนดขององค์การอนามัยโลก โดยนักวิจัยเลือกใช้เทคนิคเลเซอร์เพื่อตรวจจับอนุภาคคาร์บอนสีดำ ก่อนจะพบว่าจำนวนของอนุภาคที่กีดขวางอยู่ในรกสัมพันธ์กับระดับมลพิษทางอากาศที่มารดาได้รับ

รศ.รพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล อายุรศาสตร์โรคระบบการหายใจ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล แสดงผลการศึกษาผลกระทบของฝุ่น PM 2.5 กับแม่ท้องว่าหากต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่น PM2.5 สูง นอกจากจะเสี่ยงต่อทารกที่คลอดมาน้ำหนักตัวน้อยและเจ็บป่วยง่ายแล้ว ยังเสี่ยงต่อความพิการแรกคลอด โดยเฉพาะกลุ่มโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด

มีการศึกษาชิ้นสำคัญ เผยแพร่ในวารสารของสมาคมหัวใจแห่งอเมริกา ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2023 คณะผู้วิจัยได้นำเสนอข้อมูลที่รวบรวมมาจาก 30 จังหวัดในประเทศจีน ระหว่างปี 2557-2560 ซึ่งมีเด็กทารกที่คลอดในช่วงเวลานั้นจำนวน 1,434,998 คน พบเกิดโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด 7,335 คน จึงได้ทำการเปรียบเทียบปริมาณ PM2.5 ที่แม่ของทารกดังกล่าวได้รับเข้าไปในช่วงที่อุ้มท้อง ระหว่างกลุ่มที่ทารกปกติกับกลุ่มที่ทารกมีโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด พบว่าค่าเฉลี่ย PM2.5 ที่แม่กลุ่มนี้ได้รับเฉลี่ยในหนึ่งปีคือ 56.51 (อยู่ในช่วงตั้งแต่ 10.95 - 182.13) ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าสูงมากที่เดียว
 
โดยทุก ๆ 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรที่ปริมาณฝุ่นสูงขึ้น จะพบโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดเพิ่มขึ้น 2% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเภทผนังกั้นห้องหัวใจมีรูรั่ว คำนวณเป็นความเสี่ยงได้ 1.04 เท่า สำหรับผลร้ายของฝุ่นต่อหัวใจทารกนี้จะพบมากขึ้น ถ้าแม่ได้รับฝุ่นเข้าไปมากตั้งแต่ช่วงก่อนการปฏิสนธิ นอกจากนี้แม่ที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปี และแม่ที่มีฐานะยากจน จะพบความเสี่ยงนี้ได้มากขึ้น
 

 
 
 
ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ชาวจีนพบความเชื่อมโยงของ PM 2.5 กับภาวะตายคลอด (Stillbirth) หรือภาวะแทรกซ้อนที่ทำให้ทารกในครรภ์เสียชีวิต ภาวะทารกตายคลอด (stillbirth) หมายถึงภาวะที่ทารกคลอดออกมาแล้วไม่มีอาการแสดงของการมีชีวิต เช่น ไม่มีการหายใจ ไม่มีการเต้นของหัวใจ ไม่มีการเคลื่อนไหว รวมถึงทารกที่คลอดออกมาแล้วตายทันทีด้วย

ในเดือนพฤศจิกายน 2565 มีการตีพิมพ์งานวิจัยผ่านเว็บไซต์ Nature Communications เรื่องมลพิษทางอากาศมีความเชื่อมโยงกับภาวะตายคลอด การวิจัยดังกล่าวได้เก็บรวบรวมข้อมูลตั้งแต่ปี 2541-2559 (ค.ศ.1998 - ค.ศ.2016) จากประเทศรายได้ต่ำและปานกลางครอบคลุม 137 ประเทศทั่วโลก โดย 54 ประเทศในเอเชีย แอฟริกา และลาตินอเมริกา เป็นพื้นที่ที่มีการตายคลอดสูงถึง 98% และเป็นกลุ่มประเทศที่แม่ท้องมีการสัมผัส PM2.5 สูงกว่าระดับ WHO กำหนด

WHO กำหนดระดับการสัมผัส PM 2.5 ที่ไม่อันตรายคือค่าที่ไม่เกิน 5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในปี 2558 มีสถิติการตายคลอดสูงถึง 2.09 ล้านคน โดยแม่ท้องประมาณ 950,000 คน มีภาวะตายคลอดจากการสัมผัส PM 2.5 เกินระดับ 5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

Tao Xue นักวิทยาศาสตร์จาก Peking University ประเทศจีนผู้ศึกษาความเชื่อมโยงนี้ระบุว่า การสัมผัส PM 2.5 ของแม่ท้องอาจทำให้อนุภาคของมลพิษทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวอ่อนที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อรกซึ่งทำหน้าที่แลกเปลี่ยนสารอาหารและออกซิเจนจากแม่สู่ลูกTao Xue ให้ความเห็นว่า นโยบายอากาศสะอาดที่จีนและบางประเทศประกาศใช้สามารถป้องกันการตายคลอดได้ นอกจากนี้ การสวมหน้ากากอนามัย การติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ การหลีกเลี่ยงการออกไปนอกบ้านขณะที่ค่า PM 2.5 สูง ๆ ก็ช่วยปกป้องแม่ท้องจากฝุ่น PM 2.5 ได้ เช่นกัน

 

ข้อปฏิบัติเมื่อค่า PM2.5 ในขณะนั้น (ค่ารายชั่วโมง) ขึ้นสูงเกินเกณฑ์ 


1. สูงกว่า 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร กลุ่มเสี่ยง (เด็ก คนท้อง ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคปอด-หัวใจ-ไต-สมองเรื้อรัง) งดทำกิจกรรมกลางแจ้ง คนทั่วไปลดและปรับเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา

2. สูงกว่า 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทุกคนต้องงดทำกิจกรรมกลางแจ้ง ยกเว้นคนที่ต้องทำหน้าที่บริการสาธารณะ ให้ใส่หน้ากาก N95 ตลอดเวลา

3. สูงกว่า 150 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทุกคนควรอยู่ในตัวอาคารซึ่งติดตั้งระบบระบายและฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ยกเว้นคนที่ต้องทำหน้าที่บริการสาธารณะ ให้ใส่หน้ากาก N95 ตลอดเวลา และจำกัดช่วงเวลาปฏิบัติงานไม่ให้เกินครั้งละ 60 นาที

แม่ท้องควรทำอย่างไรเพื่อเลี่ยงฝุ่น PM 2.5 ที่อันตรายต่อทารกในครรภ์

  1. ให้อยู่ภายในอาคารบ้านเรือน หากไม่จำเป็นอย่าออกนอกบ้าน 

  2. ปิดประตูหน้าต่าง ป้องกันฝุ่นเข้า หากปิดไม่ได้ให้ใช้ผ้าชุบน้ำทำเป็นม่านปิดแทน

  3. หากต้องออกนอกบ้าน ให้ใส่หน้ากากที่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 

  4. ให้ดื่มน้ำมาก ๆ  ในช่วงที่มีปัญหาฝุ่นขนาดเล็ก

  5. ผู้หญิงตั้งครรภ์ จะต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสอากาศที่มีฝุ่นละออง

อันตรายจากมลพิษทางอากาศ กระทบทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ค่ะ ดังนั้นคุณแม่ต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้านถ้าไม่จำเป็น หรือถ้าต้องออกไปจริงๆ ควรส่วมใส่หน้ากากอนามัยที่ป้องกันได้จริงนะคะ เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณแม่เอง และเจ้าตัวน้อยในครรภ์นะคะ

ที่มา: 

กระทรวงสาธารณสุข

https://www.theguardian.com/environment/2019/sep/17/air-pollution-particles-found-on-foetal-side-of-placentas-study 

https://edition.cnn.com/2019/03/05/health/100-most-polluted-cities-2018-intl/index.html

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid0LmHYaREiSZwrwrtq23Lne9aBycWCXEUiC3GfyKDWgrmSPs7irEPaB2FmrzZ7DMdwl&id=100002870789106

https://www.ahajournals.org/doi/epub/10.1161/CIRCULATIONAHA.122.061245?fbclid=IwAR1Wcgi1eY_63WPzLgNj5rc-OB2uVqu0a41hc6XVXUcrACmQqlu98Zco8Z4

 

พัฒนาการทารกในครรภ์, ฝุ่นPM2.5, ภาวะรกเกาะต่ำ

  • Hits: 4952